บทที่ 245
เมื่อออกจากเขตแคว้นจ้าวทั้งสี่ตัดสินใจมุ่งตรงผ่านเข้าสู่แคว้นโจวเพื่อกลับแคว้นหลี่เป็นการด่วน เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในเมืองแคว้นจ้าว ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับการปะทะกันระหว่างเทพสงครามและเทพที่ด้านหน้าเมืองหลวงแคว้นหลี่ แน่นอนว่าเนี่ยฟงรับรู้จากชุนหวูว่าเทพสงครามที่คนที่นี่กล่าวถึงคือเนี่ยเทียนบิดาของตน เนี่ยฟงจึงตัดสินใจมุ่งหน้าตัดผ่านแคว้นโจว ไฟสงครามสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับพื้นที่แบ่งเขตแคว้นโจวไม่น้อย ตลอดเส้นทางแนวเขตมีทหารหลากหลายกองกำลังตั้งค่ายอยู่ทั่วบริเวณทั้งสี่จึงตัดสินใจเดินเท้าลงจากหลังนกยักษ์ ทั้งสี่ปลอมตัวเปลี่ยนชุดสวมเป็นผ้าไหมสีเทาที่ซื้อมาจากในเมืองก่อนหน้า เนี่ยฟงมอบป้ายไม้ของแคว้นจ้าวให้แก่ชุนหวูเก็บรักษา
เมื่อเดินเข้ามาบริเวณที่พวกทหารหลายกองกำลังที่อยู่ในค่ายก็มีเสียงร้องตะโกนเสียงดังลั่นออกมาจากค่ายต่างๆ พร้อมกับมีทหารหลายคนพุ่งออกมาจากค่ายใหญ่ทั้งหมด
“พวกเจ้าทั้งสี่เป็นคนของผู้ใดกัน”
เนี่ยฟงแอบสะบัดมือขวานำแผ่นหินออกมาถือไว้ในมือทั้งสองข้างพร้อมกับโคจรลมปราณเตรียมพร้อม หม่าจวินก้าวเท้าออกมาเอ่ยวาจาเสียงดัง
“พวกข้าเป็นคนจากแคว้นหลี่ ถูกนายจ้างขับไล่ออกมาจากแคว้นจ้าว พวกข้าสี่พี่น้องจึงคิดเดินทางกลับบ้านเกิด”
ทหารหลายคนได้ยินว่าทั้งสี่เป็นคนจากแคว้นหลี่ก็มีหลายคนสะบัดมือขวานำอาวุธคู่ใจออกมาถือ หม่าจวินหันไปมองรอบด้านไม่นานก็หัวเราะออกมา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พวกท่านทำสิ่งใดกัน พวกข้าเป็นเพียงเสี่ยวเอ้อโรงเตี๊ยมเล็กๆ เหตุใดพวกท่านถึงได้นำอาวุธออกมาถือ”
สิ้นเสียงกล่าวก็ได้ยินเสียงเอ่ยวาจาดังออกมาทางด้านหลัง
“สังหารพวกมันซะ ไม่แน่พวกมันอาจสายลับของแคว้นหลี่ก็เป็นได้”
หม่าจวินหันหลังกลับไปมองก็พบเห็นเป็นชายชราผู้หนึ่งสวมชุดเกราะเต็มยศก้าวเดินออกมา มีอักษรจ้าวสลักอยู่บนหน้าอกของชุดเกราะ แน่นอนว่าตัวเขาจดจำได้ดีว่าชายชราผู้นี้เป็นแม่ทัพมีชื่อในแคว้นจ้าว
“ไม่คิดว่าแม่ทัพเช่นท่านจะเป็นคนที่ไร้ยางอายสังหารคนธรรมดาเช่นข้า”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คิดว่าข้าจ้าวเมิ่งจดจำพวกเจ้าทั้งสามไม่ได้เล่นนั้นรึ หม่าจวิน ชุนหวู ไช่กวน”
แน่นอนว่าทั้งสามได้ยินเสียงกล่าวก็ตื่นตกใจไม่น้อยเช่นกัน มีเพียงเนี่ยฟงเท่านั้นหาได้สนใจแสยะยิ้มก้าวเดินออกมาด้านหน้า
“ท่านแม่ทัพจ้าวเมิ่ง จ้าวซื่อหลี่เป็นอันใดกับท่านกัน”
“เจ้าเป็นใครเด็กน้อยเจ้ารู้จักหลานชายข้ารึ”
“แน่นอนข้าและจ้าวซื่อหลี่เป็นเพื่อนรักกันไม่เชื่อท่านก็ดูที่”
เนี่ยฟงหันไปมองชุนหวู ชุนหวูเองก็พอเข้าใจรีบสะบัดมือขวานำแผ่นป้ายไม้ออกมาแสดง จ้าวเมิ่งถึงกับขมวดคิ้วเมื่อเห็นแผ่นป้ายไม้
“เป็นจ้าวซื่อหลี่มอบให้ข้ามาเพื่อนำมาที่นี่เพื่อที่ท่านจะเปิดทางให้พวกข้ากลับแคว้นหลี่”
แน่นอนว่าแผ่นป้านไม้ในมือชุนหวูเป็นของจริง จ้าวเมิ่งจึงมีความลังเลเช่นกัน ชุนหวูเมื่อเห็นเช่นนั้นก็โยนแผ่นป้ายไม้ให้แก่จ้าวเมิ่ง
“ท่านแม่ทัพท่านนำแผ่นป้ายไม้บัดซบนั้นกลับไปเถอะ พวกมันหาได้มีค่าของมันไม่ มีแต่คำกล่าวอวดอ้างว่ายิ่งใหญ่สามารถสั่งการทหารทั่วทั้งแคว้นจ้าว หรือแม้กระทั่งแม่ทัพใหญ่ แต่จากที่ข้าดูตัวท่านหาได้มีความเชื่อมั่นมันไม่ เช่นนั้นพวกข้าขอคืนมันให้แก่ท่าน อีกอย่างเมื่อท่านกลับไปที่เมืองหลวง จงหาคำกล่าวอ้างต่อหลานชายของท่านเถอะ”
สิ้นเสียงกล่าวของชุนหวูทั้งสามก็สะบัดมือขวานำอาวุธออกมาถือ ทันใดนั้นก็มีแรงกดดันจากพลังปราณเข้ากดทับจ้าวเมิ่งยืนตัวสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว จ้องมองแผ่นไม้อยู่นานหลังจากนั้นก็เอ่ยวาจาออกมา
“ทั้งหมดเปิดทางให้คนทั้งสี่”
ทหารที่อยู่ในสังกัดเปิดทางเป็นช่องให้แก่คนทั้งสี่เดินออกไปจากบริเวณค่าย แน่นอนว่าการกระทำของจ้าวเมิ่งสร้างความไม่พอใจแก่ใครบางกลุ่ม กลุ่มคนที่มีความแค้นต่อหม่าจวิน ชุนหวูและไช่กวน หลังจากที่คนทั้งสี่เดินออกไปได้ไม่นานก็มีกลุ่มกองกำลังหนึ่งเกือบห้าสิบคนออกเดินทางติดตามคนทั้งสี่ แน่นอนว่าจ้าวเมิ่งยืนจ้องมองอยู่ห่างๆหาได้ทำสิ่งใด มีทหารนายหนึ่งเอ่ยวาจาสอบถามด้วยความสงสัย
“ท่านแม่ทัพไม่คิดที่จะส่งทหารของเราออกติดตามช่วยเหลือคนทั้งสี่หรือขอรับ”
“เจ้าคิดว่าคนทั้งห้าสิบคนนั้นจะทำสิ่งใดต่อคนทั้งสี่ได้กันรึ หากเจ้าไม่เชื่อเจ้าก็แอบติดตามออกไปสิ”
ทหารผู้นั้นยืนนิ่งหลังจากนั้นก็ก้มคารวะจ้าวเมิ่งพุ่งทะยานติดตามคนทั้งห้าสิบออกไปอย่างรวดเร็ว ทางด้านเนี่ยฟงเองก็รับรู้ว่ามีผู้ติดตามมา
“ข้าอยากทดสอบอะไรหน่อยได้หรือไม่พี่ชายชุนหวู”
ชุนหวูที่เดินติดตามมาถึงกับขมวดคิ้ว
“ทดสอบสิ่งใดขอรับคุณชาย”
“ข้าอยากรู้ว่าพลังใหม่ที่ข้าได้รับมามันมีความสามารถเช่นไรกัน อีกอย่างข้ารู้สึกแปลกๆเมื่อมาถึงที่นี่ อีกอย่างข้ามีบางอย่างให้พวกท่านได้ดูว่าหากผู้มีระดับลมปราณที่สูงและใช้อักขระศักดิ์สิทธิ์เข้าต่อสู้ด้วยจะเป็นอย่างไร”
“คุณชายจะทำเช่นไรขอรับ”
“เอาเป็นว่าคนที่แอบติดตามมาทั้งหมดข้าจะเป็นคนจัดการเองขอรับ”
ทั้งสามได้ยินถึงกับขมวดคิ้ว เป็นไช่กวนที่เอ่ยถาม
“แอบติดตามมา มากันกี่คนขอรับ”
เนี่ยฟงหยุดยืนนิ่งหาได้กล่าวสิ่งใด ไม่ถึงสี่ลมหายใจก็กล่าววาจาตอบ
“จากที่ข้ารับรู้มีทั้งหมดสองกลุ่ม กลุ่มแรกประมาณห้าสิบคนส่วนอีกกลุ่มมีเพียงผู้เดียว อีกไม่กี่ลี้คนกลุ่มแรกก็จะติดตามมาแล้วพวกท่านติดตามข้ามาเถอะ”
เนี่ยฟงถีบเท้าพุ่งทะยานออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วไม่ถึงหนึ่งเค่อก็พบทุ่งหญ้าขนาดใหญ่กว้างสุดลูกหูลูกตา หญ้าในทุ่งสูงเพียงข้อเท้า เนี่ยฟงแสยะยิ้ม เกราะสายฟ้าปรากฏออกมาเป็นขั้นบันไดบนอากาศ เขาถีบเท้าเหยียบเกราะสายฟ้าพุ่งทะยานขึ้นบนอากาศหลังจากนั้นก็หมุนรอบตัวซัดแผ่นหินออกไปหลายสิบแผ่นรอบกาย แน่นอนว่าคนทั้งสามรู้สึกแปลกใจเช่นกัน ทั้งสี่ยืนรอคอยอยู่เกือบสองเค่อก็เผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่ติดตามมาทั้งห้าสิบ
ไร้ซึ่งคำกล่าวใดๆเนี่ยฟงพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับสะบัดมือขวากระบี่ยี่สิบเล่มพุ่งออกมาจากแหวนหมุนวนรอบกายมือขวากำชับดาบหักสีดำแน่น กลุ่มคนด้านหน้าร้องคำรามสะบัดมือขวากำชับอาวุธในมือแน่นเช่นกันพร้อมกับพุ่งเข้าปะทะ ปราณดาบปราณกระบี่พุ่งเข้าหาชายหนุ่มด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณไปที่เท้าขวาพร้อมกับมีวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นที่พื้น เมื่อปราณทั้งหมดพุ่งเข้ามาใกล้ก็กระทืบเท้าขวาลงพื้น ม่านพลังสีฟ้าปรากฏออกมาต้านรับ เปรี้ยง เสียงระเบิดดังสนั่น ปราณดาบสีฟ้าขนาดใหญ่พุ่งออกจากด้านหลังม่านพลังพร้อมกับกระบี่ทั้งยี่สิบเล่ม เขาแสยะยิ้มถีบเท้าถอยออกมาทันทีที่เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น
เนี่ยฟงพุ่งกลับมาที่จุดที่ทั้งสามยืนอยู่ คนที่เหลือรอดต่างพุ่งทะยานติดตามมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับปราณดาบและกระบี่ที่ฟาดฟันออกมา เกราะสายฟ้าปรากฏออกมาต้านรับปราณดาบและปราณกระบี่ เปรี้ยง ดาบสีดำถูกเก็บในแหวนเนี่ยฟงเร่งโคจรลมปราณไปที่มือขวาอย่างเต็มกำลังมีประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากมือ เปรี้ยง ฝ่ามือขวาถูกซัดลงพื้น ประกายสายฟ้าพุ่งออกไปที่แผ่นหินที่ซัดออกไปก่อนหน้า มีดสั้นสีดำปรากฏขึ้นที่มือขวาพร้อมกับซัดออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็โบกสะบัดมือขวาไปมา โดยที่มือซ้ายกัดกินผลไม้บางอย่างในมือ เถาวัลย์สีฟ้าพุ่งเข้ารัดตัวของคนทั้งหมด มีดสั้นสีดำที่ถูกซัดออกไปพุ่งเข้าเสียบลำคอทะลุออกไปสังหารคนทั้งหมดอย่างรวดเร็วไร้ซึ่งเสียงร้องโหยหวนใด
เป็นการสังหารที่รวดเร็วและแม่นยำทำให้คนทั้งสามถึงกับยืนอ้าปากค้าง เช่นเดียวกับทหารหนุ่มผู้หนึ่งที่แอบจ้องมองอยู่ เนี่ยฟงสะบัดมืออีกครั้งหลังจากสังหารคนทั้งหมดแผ่นหินและมีดสั้นที่ย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสดก็พุ่งกลับมาหาผู้เป็นนาย แน่นอนว่าเนี่ยฟงไม่ลืมที่จะพุ่งทะยานเข้าหาซากศพทั้งหมดเพื่อปลดแหวน ระหว่างนั้นทั้งสามคนก็พุ่งติดตามมาช่วยด้วยเช่นกัน หลังจากได้แหวนมาจนครบทั้งสี่ก็หันหลังพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้ทหารหนุ่มยืนจ้องมองแผ่นหลังของทั้งสี่ไกลออกไปอย่างรวดเร็ว บนเขาสูงใกล้ทุ่งหญ้ามีชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งสวมชุดผ้าไหมสีดำในมือขวาถือดาบเล่มใหญ่พาดเอาไว้บนไหล่จ้องมองชายหนุ่มสวมชุดสีเทาพุ่งออกไป
“น่าสนใจไอ้หนูนั่นนัก ข้าอยากสังหารลิงตัวเล็กนั้นเสียแล้วเจ้าว่าอย่างไร”
ไร้ซึ่งเสียงใดๆกล่าวตอบเพียงแต่ดาบเล่มใหญ่สั่นสะท้านไปชั่วครู่
“แน่นอนสหายข้า เจ้าจะได้ดื่มเลือดลิงตัวนั้นเป็นแน่”
ไม่ถึงสองลมหายใจชายฉกรรจ์ก็พุ่งติดตามกลุ่มของเนี่ยฟงไปอย่างรวดเร็ว