บทที่ 118 ซูเพล็กซ์ดีที่สุดในโลก (อ่านฟรี)
คำว่า 'แย่แล้ว' ถูกเขียนบนใบหน้าของแองโกร่าทันทีที่เขาเห็นรถม้า
ถึงอย่างนั้นเขาก็ก้าวขาได้เพียงก้าวเดียว และไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้
หญิงสาวที่อยู่ในรถม้าเห็นว่าไม่มีใครสนใจเปิดประตูให้เธอ ทั้งฮอร์รัน•เฟาสต์ดยุกอินทรีเงิน และคนรับใช้ของเขา ถูกดึงดูดความสนใจไปยังกล้ามอกที่กระตุกเป็นจังหวะของโจ พวกเขาต่างคนต่างก็ยืนนิ่งอึ้งไม่ตอบสนองเป็นเวลานาน นั่นเพราะในฐานนะขุนนางผู้สูงศักดิ์ พวกเขาไม่เคยได้เห็นพฤติกรรมที่บ้าบอของผู้เล่นงี่เง่าเหล่านี้มาก่อน
แทนที่จะเอาแต่นั่งลำบากใจอยู่ด้านในรถม้า หญิงสาวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอเปิดประตูด้วยตัวเอง ก่อนจะยกกระโปรงขึ้นและก้าวออกมา
“สวัสดีค่ะท่านลุงฮอร์รัน” หญิงสาวกล่าวทักทายดยุกอินทรีเงินทำให้เขาได้สติในที่สุด ก่อนที่เธอจะหันไปกล่าวทักทายแองโกร่าอย่างจริงใจ “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ แองโกร่า”
“ไม่ได้เจอกันนาน เลดี้คินลีย์” แองโกร่าตอบด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
“สวัสดี เลดี้จากตระกูลไอนซ์วอเตอร์” ฮอร์รันยิ้มอย่างมีความสุขเหมือนลุงแก่ ๆ “ข้าประหลาดใจจริง ๆ ที่ได้รู้ว่าเจ้ากลายเป็นลูกศิษย์ของนักเล่นแร่แปรธาตุผู้ยิ่งใหญ่ แม้แต่ปู่ของเจ้าก็ยังภาคภูมิใจในตัวเจ้า”
“เป็นเพราะความเมตตากรุณาที่อาจารย์มีต่อข้าต่างหากค่ะ” หญิงสาวตอบอย่างเหมาะสม
ในตอนนั้นเอง หนุ่มหล่อผมยกโศกสีบลอนด์ก็เดินออกมาจากปราสาทอย่างช้า ๆ ก่อนที่เขาจะยื่นมือออกไปเพื่อจะรับมือของเลดี้มาจุมพิศอย่างสุภาพ “คินลีย์ เจ้าสวยขึ้นกว่าครั้งที่แล้วที่เราได้พบกัน”
ตามมารยาทหญิงสาวควรจะยื่นมือออกไปให้เขาจุมพิศ แต่เธอทำเมินไม่เห็นคำทักทายของเซซิล และยิ้มตอบเขาดั่งดอกไม้แทน “ขอบคุณสำหรับคำชม มิสเตอร์เฟาสต์”
“เรียกข้าว่าเซซิลก็พอแล้ว” พี่ชายคนโตของแองโกร่ามองไปทางแองโกร่าอย่างสุขุม ก่อนจะเม้มริมฝีปากของเขาแล้วคลี่รอยยิ้มสดใสที่อาจทำให้สาว ๆ ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหลายพันคนในทุนย่าหลงใหล
“ไม่ดีกว่าค่ะ การรักษามารยาทถือเป็นสิ่งสำคัญของขุนนาง” หญิงสาวยิ้ม และปฏิเสธความพยายามของเซซิลที่จะเข้าใกล้เธอ
“พรูดดด…”
โจที่ยังกระตุกหน้าอกอยู่หลุดหัวเราะออกมา
เซซิลหันไปมองโจด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไป แต่แววตาของเขากลับแสดงความดูถูกและรังเกียจออกมาอย่างโจ่งแจ้ง
"เจ้าเป็นใคร?" เขาถามโจด้วยท่าทางของผู้ที่เหนือกว่า
“แค่ผู้ติดตามครับท่าน” โจตอบอย่างร่าเริง
“แล้วก่อนหน้านั้นเจ้าเป็นอะไร”
“ชาวบ้านธรรมดาครับท่าน” โจตอบอย่างร่าเริงอีกครั้ง
“น้องสาม ข้าขอแนะนำให้เจ้าเลือกผู้ติดตามที่ดีกว่านี้ เพราะเจ้าก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเฟาสต์” เซซิลพูดกับแองโกร่าอย่างเหนือกว่า “อย่าเลือกคนสุ่ม ๆ ที่เจ้าพบข้างทาง ไม่เช่นนั้นเจ้าจะทำให้เราทุกคนต้องอับอาย”
“โอ้ เข้าใจล่ะ” แองโกร่าตอบ
คำตอบนั้นทำให้เซซิลรู้สึกอึดอัด ราวกับว่าเขาถูกบังคับให้กินอุจาระ
หากแองโกร่าโต้แย้งคำพูดของเขาสักคำ เขาอาจใช้อำนาจของเขาในฐานะทายาดของตระกูลเฟาสต์วิจารณ์แองโกร่าได้ และหากแองโกร่าปกป้องคนของเขา เซซิลก็จะลากบทสนทนานี้ต่อไปเพื่อล้อเลียนแองโกร่า และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่เหมาะสมของเขาในสายตาคินลีย์
แต่แองโกร่ากลับไม่สนใจและเฉยเมยมาก แม้ว่าเซซิลจะอยากตำหนิเขา แต่แองโกร่าก็เห็นด้วยกับคำแนะนำของเขาแล้ว และแม้ว่าเซซิลจะอยากล้อเลียนแองโกร่า ตอนนี้มันก็ไร้ความหมาย นอกจากจะทำให้เขาสิ้นเปลืองพละกำลังไปเปล่า ๆ และทำให้เขาดูโง่
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่ด่าโจที่ยังกระตุกหน้าอกไม่หยุด
“เจ้าหยุดกระตุกได้แล้ว! นี่คือยุคแห่งศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์และเวทมนตร์ ไม่ใช่กล้ามเนื้อ!” เขาเยาะเย้ยโจทางสายตา “ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหน เจ้าก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายรูปปั้นข้างน้ำพุได้อยู่ดี”
โจหยุดกระตุกหน้าอกแล้วมองไปยังทิศทางที่เซซิลชี้ไป ที่นั่นมีรูปปั้นหินของสัตว์วิเศษ 4 ตัววางอยู่รอบ ๆ น้ำพุ และตัวที่เซซิลชี้ก็คือสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘เชอร์รี่บาบูน’ แม้ว่ามันจะมีชื่อที่น่ารัก แต่สัตว์ประหลาดตัวนี้กลับแข็งแกร่งมาก มันสามารถยกมังกรขึ้นเหนือหัวได้อย่างง่ายดาย มันจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกบูชาโดยนักรบจำนวนมาก
“โอ้ เข้าใจล่ะ”
โจตอบเลียนแบบแองโกร่า
เขาไม่มองเซซิลเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับมุ่งตรงไปที่รูปปั้นราวกับจะไปขยับมันจริง ๆ
เซซิลโกรธมาก แต่มุมปากของเขาก็โค้งเป็นรอยยิ้มเหยียดหยาม ชาวนาที่ไม่รู้มารยาทคนนี้ไม่มีทางทำสำเร็จ จากนั้นเขาก็จะใช้เรื่องนี้ทำให้แองโกร่าต้องอับอายตามไปด้วย!
รูปปั้นทั้ง 4 ถูกแกะสลักจากวัสดุที่แตกต่างกัน โดยเชอร์รี่บาบูนถูกสร้างขึ้นด้วยหินที่หนักเป็นพิเศษ แม้ว่ามันจะดูไม่ใหญ่นัก แต่น้ำหนักของมันก็มากถึง 8 ตัน ซึ่งหนักกว่าน้ำหนักของรูปปั้นทั้ง 3 ตัวที่เหลือรวมกัน! ด้วยพลังของมนุษย์ธรรมดา ไม่เพียงพอที่จะเคลื่อนย้ายมันได้ เว้นแต่จะเป็นผู้ศรัทธาของเทพแห่งสงครามที่ปลุกพลังปราณต่อสู้ หรือได้รับพรศักดิ์สิทธิ์ประเภทพละกำลัง!
เดิมคินลีย์ต้องการจะหยุดโจ แต่เธอก็หยุดความกังวลของเธอและรออย่างเงียบ ๆ เมื่อเธอเห็นว่าแองโกร่าไม่ตอบสนองต่อการยั่วยุครั้งนี้ และดูเหมือนว่าเขากำลังคาดหวังอะไรบางอย่างอยู่
ดังนั้นทุกคนจึงจับตาดูโจที่วิ่งไปที่ด้านข้างของรูปปั้น และยกมันขึ้นมาอย่างง่าย ๆ…
ส่วนหัวของรูปปั้น 8 ตันถูกทุบลงบนพื้นหินอ่อนอย่างแรง โดยครึ่งล่างของมันลอยขึ้นจากพื้นในแนวทแยงมุมเหมือนหัวแครอท
เงียบกริบ
“ปะ เป็นไปได้ยังไง…” เซซิลอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
ดวงตาของคินลีย์เป็นประกาย แต่เธอไม่ได้มองโจ เธอมองไปยังแองโกร่าที่กำลังทำหน้าประมาณว่า 'เป็นไปตามแผน'
ในขณะเดียวกันผู้เล่นที่ซ่อนตัวอยู่ในรถม้า ก็อดไม่ได้ที่จะโผล่หัวออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
มันง่ายที่จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นจากมุมมองของผู้เล่น มีตัวอักษรสีเหลืองขนาดใหญ่อยู่เหนือรูปปั้นที่อ่านได้ว่า 'โกเลมผู้พิทษ์โบราณ' พร้อมกับแถบ HP ขนาดใหญ่
และเนื่องจากชื่อของสัตว์ประหลาดไม่ได้มีระดับชั้นหรือความต้านทานใด ๆ โจที่สามารถยกปลาวาฬสีน้ำเงินที่หนักเกือบ 100 ตันได้ด้วยท่าซูแพล็กซ์ แค่ช้างแอฟริกาหนัก 8 ตันนั้นถือว่าเบามาก!
ถ้าไม่ใช่เพราะแองโกร่าได้ย้ำให้ผู้เล่นสงบสติอารมณ์อยู่ในฟอรัม พวกเขาคงจะวิ่งออกไปรุมทุบตีรูปปั้นทั้ง 4 นั่นให้ตายไปแล้ว
“เอาล่ะ มันไม่ดีที่จะอยู่ข้างนอกนาน ๆ ในวันหิมะตก เราเข้าไปคุยกันด้านในปราสาทเถอะ” ฮอร์รันรีบสลายบรรยากาศตึงเครียด เมื่อเห็นลูกชายคนโตของเขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวด “วันนี้ข้าเตรียมไวน์น้ำผึ้งที่ดีที่สุดของทางเหนือไว้แล้ว แล้วก็แองโกร่า ให้ผู้ติดตามของเจ้าไปพักอยู่ในอาคารข้าง ๆ ก่อนก็แล้วกัน”
ดังนั้นการพบกันครั้งแรกของผู้เล่นกับราชาแห่งแดนเหนือ ดยุกอินทรีเงิน ก็จบลงด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างจะน่าอึดอัด
------------------------------------
เพจ FC-Translate