บทที่ 243
เมื่อทั้งสี่เกิดผ่านกำแพงเมืองเนี่ยฟงถึงกับจ้องมองสภาพบ้านเรือนอย่างตื่นตกใจ บ้านเรือนผู้คนถูกสร้างมาจากดินปั้นเป็นก้อนต่อซ้อนกันอย่างสวยงามตลอดสองข้างทางแม้กระทั่งทางเดินภายในเมืองล้วนแล้วปูด้วยดินปั้นทั้งหมด อีกทั้งยังมีต้นไม้ใหญ่เรียงรายไปตามสองข้างทางผลิดอกออกมาบานสะพรั่งสวยงามมีทั้งสีขาว สีชมพู ผู้คนเริ่มที่จะออกมาจากบ้านเรือนเพื่อจับจ่ายใช้สอยเสียงไก่ขันรับต่อกันเป็นทอดๆ ไม่นานทั้งสี่ก็ยื่นอยู่หน้าโรงเตี๊ยมหลังหนึ่ง ด้านข้างของอีกฝั่งติดกับแม่น้ำสายใหญ่ด้านหน้ามีเสี่ยวเอ้อสองคนรีบเดินเข้ามาต้อนรับ
“เชิญพวกท่านด้านในขอรับ”
เสี่ยวเอ้อพาทั้งสี่เดินเข้าไปด้านในโรงเตี๊ยมมีทั้งหมดสองชั้นสำหรับทานอาหารส่วนที่พักมีแยกออกไปทางชั้นสองมีทางเดินต่อออกไปด้านหลัง เมื่อมองตรวจสอบภายในพบว่ายังคงผู้คนนั่งโต๊ะทานอาหารกันบ้างแล้ว เสี่ยวเอ้อพาทั้งสี่ขึ้นไปนั่งตรงชั้นสอง เนี่ยฟงก็เลือกที่จะนั่งบริเวณติดหน้าต่างเพื่อชื่นชมความสวยงามในเมือง หลังจากนั้นก็เป็นชุนหวูสั่งอาหารสามสี่อย่างมาทาน ในระหว่างรออาหารจากเสี่ยวเอ้อก็เริ่มมีผู้คนออกจากที่พักเดินทะลุทางเชื่อมเข้ามานั่งที่โต๊ะว่างกันบ้างแล้ว
ทันใดนั้นก็มีบัณฑิตชราผู้หนึ่งและผู้ติดตามอีกสามคนเดินขึ้นมาที่ชั้นสองเนี่ยฟงหรี่ตามองไม่ถึงสิบลมหายใจที่กลุ่มของบัณฑิตชรากำลังจะนั่งที่โต๊ะก็มีชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมชุดสีเทาวิ่งขึ้นมาชั้นสองชนกับบัณฑิตชรา ไม่นานหลังจากมีการเอ่ยวาจาขอโทษเสร็จสิ้นชายหนุ่มชุดสีเทาก็รีบวิ่งไปบริเวณที่พักแน่นอนว่าเนี่ยฟงแอบเห็นว่าชายหนุ่มผู้นั้นขโมยบางอย่างจากแหวนในมือบัณฑิตชราไป เกือบครึ่งชั่วยามที่ทั้งสี่ทานอาหารอยู่นั้นก็มีกลุ่มทหารหลายสิบนายเดินขึ้นมาที่ชั้นสองมุ่งตรงมาที่บัณฑิตชรา
“ต้องขออภัยพวกท่านที่ยังคงทานอาหารอยู่ พวกข้ามาที่นี่เพื่อตามหาคน”
สิ้นเสียงกล่าวของนายทหารผู้นั้นบัณฑิตชราก็นั่งตัวสนั่นสะท้าน
“ข้ามาตามหาบัณฑิตเหวินจง”
สิ้นเสียงกล่าวของนายทหารผู้นั้นอีกครั้งก็ได้ยินเสียงฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เศษไม้จากโต๊ะที่แตกหักกระเด็นบัณฑิตชราเร่งรีบพุ่งทะยานหลบหนีไปทางเชื่อมเข้าห้องพักอย่างรวดเร็ว
“บัดซบคิดหนีรึ”
มีเสียงกล่าวดังลั่นมาจากด้านหลังของเหล่าทหารวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีเขียวปรากฏขึ้นที่พื้นหลังจากนั้นสองลมหายใจก็มีเถาวัลย์สีเขียวพุ่งเข้าไปรัดที่ขาของบัณฑิตชราอย่างรวดเร็วจนสะดุดลงไปนอนกับพื้น ส่วนผู้ติดตามอีกสามคนก็ถูกทหารจับกุมด้วยเช่นกัน
“ท่านบัณฑิตเหวินจงมอบคัมภีร์มาเถอะ”
เป็นเสียงของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งสวมชุดสีเขียวในมือถือพัดไม้ไผ่ก้าวเดินเข้ามา บัณฑิตชราหน้าถอดสีตัวสั่นไปทั้งตัว
“ท่านก็รู้ดีว่าที่นี่ใครเป็นคนควบคุม ส่งคัมภีร์ออกมาเถอะแล้วข้าจะแจ้งต่อท่านพ่อให้ไว้ชีวิตพวกท่าน”
บัณฑิตชราหมายจะเอ่ยวาจากล่าวตอบแต่ก็ถูกทหารสองนายพุ่งเข้ามาตรวจค้นที่แหวนในมือแต่ก็ไม่พบสิ่งใดจึงรีบเอ่ยวาจารายงานชายฉกรรจ์ชุดเขียว
“เรียนคุณชายเคล็ดวิชาถูกล้วงไปแล้วขอรับ”
ชายฉกรรจ์ผู้นั้นได้ยินตัวสั่นสะท้าน
“บัดซบท่านเจ้าเมือง ปิดประตูเมืองทันทีลากพวกนักล้วงหัวขโมยออกมาให้หมด หากไม่พบสิ่งที่ท่านพ่อข้าต้องการละก้ออย่างหวังว่าท่านจะมีชีวิตรอด”
เสียงกล่าวตอบรับของชายชราด้านหลังด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน
“ชอรับคุณชายข้าจะดำเนินการโดยทันที”
เมื่อตอบรับชายฉกรรจ์ชุดสีเขียวชายชราที่ถูกเรียกขายว่าเจ้าเมืองก็รีบหันไปสั่งการทหารที่ติดตามมาเสียงดังลั่น
“จับพวกนักล้วงหัวขโมยออกมาให้หมดอย่าให้หลุดรอดแม้แต่คนเดียว”
สิ้นเสียงกล่าวของท่านเจ้าเมืองทหารทั้งหมดก็เร่งรีบออกไปจากโรงเตี๊ยมพร้อมกับนำตัวบัณฑิตชราและผู้ติดตามออกไปด้วย ชายฉกรรจ์ชุดสีเขียวสะบัดมือขวานำถุงเงินออกมาโยนทิ้งไปที่โต๊ะที่เสียหายหลังจากนั้นก็เดินลงไปที่ด้านล่างออกไปจากโรงเตี๊ยม เมื่อทั้งหมดจากไปแล้วเสี่ยวเอ้อและเถ้าแก่ก็รีบขึ้นมาจัดการบนชั้นสองเมื่อเปิดดูถุงเงินเถ้าแก่ก็เอ่ยวาจาออกมา
“คุณชายจ้าวซื่อหลี่จ่ายข้าอาหารมื้อนี้ของพวกท่านแล้วเพื่อเป็นการไถ่โทษ ต้องขออภัยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ พวกท่านสามารถสั่งอาหารเพิ่มเต็มได้อีกขอรับ”
เสียงตะโกนโห่ร้องดังลั่นบริเวณชั้นสองหลายโต๊ะรีบเรียกเสี่ยวเอ้อมาสั่งอาหารเพิ่มมีเพียงโต๊ะของเนี่ยฟงเพียงโต๊ะเดียวที่ไม่สั่งอาหารเพิ่มเพราะทั้งหมดทานกันจนอิ่มแล้ว ระหว่างที่ทั้งสี่ออกจากโรงเตี๊ยมเพื่อหาร้านสมุนไพรเนี่ยฟงก็เอ่ยวาจาสอบถาม
“พี่ชายซุนหวูขอรับ ท่านรู้จักคุณชายจ้าวซื่อหลี่อะไรนั้นหรือไม่ขอรับ”
“แน่นอนข้ารู้จักดี คุณชายท่านไม่แปลกใจรึของรับว่าชายผู้นั้นมีแซ่ว่าอะไร”
“แซ่จ้าว”
“ขอรับคุณชายจ้าวซื่อหลี่มีบุตรชายคนเล็กในบรรดาพี่น้องสามคนของอ๋องผู้ปกครองแคว้นเจ้าแห่งนี้ขอรับ ทางที่ดีเราอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนี้ดีกว่าขอรับอีกอย่างท่านก็ได้ยินแล้วว่าที่นี่บิดาของจ้าวซื่อหลี่ยิ่งใหญ่เพียงใดถึงขนาดสั่งการเจ้าเมืองได้”
“ข้าเข้าใจแล้วพี่ชายชุนหวู ว่าแต่ข้าสงสัยอย่างหนึ่งเหตุใดชายหนุ่มชุดสีเทานั้นถึงได้ขโมยสิ่งของออกไปจากแหวนของบัณฑิตชราผู้นั้นได้ขอรับ ไม่ใช่ว่าเราต้องปลดแหวนออกมาตรวจสอบหรือขอรับ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า หากเป็นที่ดินแดนของคุณชายแน่นอนต้องปลดแหวนออกมาเพื่อตรวจสอบ แต่ว่าที่นี่ไม่ใช่เช่นนั้น แล้วจะมีพวกนักล้วงหัวขโมยหรือขอรับ ส่วนวิธีการก็คือส่วนใหญ่แล้วแหวนหรือกำไลที่จัดเก็บสิ่งของถูกสร้างมาจากการสลักหรือประทับวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าหากท่านมีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับวงอักขระศักดิ์สิทธิ์คุณชายสามารถก็ทำได้ง่ายๆขอรับ”
“หากมีความสามารถเกี่ยวกับวงอักขระศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นเหตุใดถึงมาเป็นหัวขโมยกัน”
“ผู้คนที่นี่มีการแข่งขันที่สูงขอรับ ต่อให้ท่านเก่งกาจสามารถใช้วงอักขระศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างชำนาญแต่ทว่าระดับวิชาฝีมือไร้ความสามารถและระดับพลังที่น้อยนิดก็เป็นเพียงหัวขโมยเท่านั้น เพราะที่นี่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับระดับพลังและวิชาฝีมือ เมื่อต้องปะทะกันจริงๆส่วนใหญ่จะใช้พลังปราณจากระดับพลังเข้าต่อสู้ปะทะหรือกดดันกันขอรับ อย่างที่คุณชายเห็นว่าเหตุใดตาแก่นั้นถึงพลาดท่าถูกคุณชายจัดการโดยง่าย”
หลังจากนั้นไม่นานเนี่ยฟงก็เดินมาพบเจอกับร้านขายสมุนไพรร้านใหญ่ภายในเมือง เกือบหนึ่งชั่วยามที่เนี่ยฟงเสียเวลาอยู่ที่ร้านสมุนไพรทั้งนำสมุนไพรที่มีอยู่ออกมานำขายและซื้อเพิ่มเติมเพราะสมุนไพรส่วนใหญ่เนี่ยฟงก็พึงเคยเห็น เมื่อเสร็จสิ้นทั้งสี่ก็กำลังจะออกจากเมือง เมื่อมาถึงที่หน้าประตูเมืองก็ถูกปิดล้อมโดยทหารจำนวนหลายสิบนาย ชุนหวูเข้าไปสอบถามก็พบว่าประตูเมืองทั้งหมดถูกปิดเพื่อตามหาหัวขโมยเมื่อตอนเช้า ทั้งหมดจึงตัดสินใจกลับมาที่โรงเตี๊ยมอีกครั้ง
เมื่อมาถึงก็ยังคงเข้าไปด้านในโรงเตี๊ยมไม่ได้เพราะถูกทหารกลุ่มเมื่อเช้าปิดล้อมแถมครั้งนี้จับกุมแม้กระทั่งเถ้าแก่เสี่ยวเอ้อและคนทั้งหมดในโรงเตี๊ยม เป็นชุนหวูที่เข้าไปสอบถามแต่ทว่ากลับถูกจับกุมด้วยเช่นกัน
“รบกวนพี่ชายทหารท่านนี้เหตุใดถึงจับกุมพี่ชายข้าผู้นี้กัน”
ทหารผู้นั้นเมื่อหันมาพบเนี่ยฟง หม่าจวิน และไช่กวนก็รีบเข้ามาจับกุมแต่เป็นเนี่ยฟงที่เอ่ยวาจาสอบถามเสียก่อนพร้อมกับยกมือขวาขึ้นมาห้าม
“หยุดมือก่อนพี่ชายทั้งหลาย เกิดเรื่องอันใดขึ้นพวกท่านถึงกระทำเช่นนี้”
“ต้องขออภัยน้องชาย ตอนนี้พวกข้าจับกุมพวกนักล้วงหัวขโมยจนหมดทั้งเมืองแล้วแต่ก็ไม่พบเจอผู้ที่ขโมยสิ่งของที่คุณชายจ้าวซื่อหลี่ต้องการ ท่านเจ้าเมืองจึงให้ข้าเข้ามาตรวจสอบผู้คนในโรงเตี๊ยม แน่นอนข้าจดจำพวกเจ้าได้เมื่อตอนเช้า เช่นนั้นพวกเจ้าต้องถูกค้นตัว”
“ค้นตัวอย่างไรขอรับ”
“แน่นอนว่าต้องตรวจสอบแหวนในมือของพวกเจ้า”
เนี่ยฟงขมวดคิ้วทั้งสองขึ้น
“หากข้าไม่ยอมละขอรับ”
“แน่นอนว่าพวกเจ้าต้องถูกพวกข้าทุบตี”
เนี่ยฟงพยักหน้าสองสามครั้ง
“หากข้าสามารถช่วยพวกท่านจับหัวขโมยได้ละขอรับ ข้าจะได้สิ่งใดตอบแทน”
สิ้นเสียงกล่าวของเนี่ยฟงก็มีเสียงเอ่ยวาจาดังออกมาจากในโรงเตี๊ยม
“แน่นอนหากเจ้ากระทำได้อย่างที่เจ้ากล่าวออกมาข้ามีรางวัลมอบให้เจ้าอย่างงาม แต่หากว่าเจ้าทำไม่ได้แน่นอนว่าข้าจะหักแขนและขาของเจ้ารวมไปถึงคนของเจ้าอีกสามคนด้วย”
แน่นอนว่าเนี่ยฟงหันไปจ้องมองพบเห็นเป็นจ้าวซื่อหลี่ที่เดินออกมาที่ด้านหน้าโรงเตี๊ยม