ตอนที่ 72 : ข้าไม่ยินดี! ฟรี วันที่ 2021/01/16
หลังจากส่งเซี่ยงเส้าหยุนเข้าที่พำนักแล้ว ชายแก่ขี้เมาได้จากไปอย่างไม่ยินดีนัก ขณะมองดูชายชราจากไป เซี่ยงเส้าหยุนถอนหายใจ ‘มิต้องกังวล ตาแก่ คุณชายผู้นี้อยู่ที่นี่จะดีกว่า ฉันจะไม่มีวันปล่อยพวกคนทรยศไปแม้ต่คนเดียว’
ชั่วขณะนั้นเอง เซี่ยงเส้าหยุนปรารถนาอย่างแรงกล้า ที่จะแข็งแกร่งให้มากขึ้น และรวดเร็ว แต่ก็ตระหนักดีว่าเรื่องเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
‘ยังต้องไปให้ไกลกว่านี้ เราต้องการแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วกว่านี้!’ เซี่ยงเส้าหยุนปฏิญาณในใจ หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ จึงเดินออกจากที่พัก
ขณะที่เดินออก มีผู้ดูแลคนหนึ่งพบเขา และร้องออก “น นี่ มะ มัน เซี่ยง ... คุณชายเซี่ยงกลับมาแล้ว”
ผู้ดูแลร้องเสียงดังเป็นนามเซี่ยงเส้าหยุนได้ แต่เขากลับเรียก “คุณชาย” แทน คำใหม่นั้นแสดงถึงความคุ้นเคย และความเคารพระหว่างเด็กหนุ่ม
การหายไปของเซี่ยงเส้าหยุนได้สร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่ภายในตำหนักยุทธ์ ผู้อาวุโสเจิ้นเผิง และเจ้าตำหนักต่างดำเนินการด้วยตนเอง เป็นเหตุผลที่ผู้ดูแลแสดงความเคารพต่อเด็กหนุ่ม และเมื่อผู้ดูแลตะโกนเมื่อครู่ ข่าวการกลับมาของเซี่ยงเส้าหยุนกระจายไปทั่วทั้งตำหนัก
ไม่นาน ผู้อาวุโสเจิ้นเผิง หยาวเกาฉวน ฉิงสิวเหอ จื่อฉางเหอ และเหล่าผู้เป็นใหญ่แห่งตำหนักยุทธ์หลังหลายก็มาถึงที่นี่ แม้แต่หลี่เสวียเหมิงเองก็มิยกเว้น เมื่อหลี่เสวียเหมิงมองเห็นเซี่ยงเส้าหยุนยังปลอดภัยดี หัวใจของเขาเต้นอย่างบ้าคลั่ง ‘เป็นไปได้เช่นไร? นี่อู่ฝูเซี่ยงปล่อยเขารึ? บ้าฉิบ!’
“คุณชาย เป็นอย่างไรบ้าง?” ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงก้าวเข้ามา และถาม
เซี่ยงเส้าหยุนผายมือ และกล่าว “ข้าสบายดี ต้องขอโทษต่อปัญหาที่เกิดด้วย”
“เส้าหยุน เจ้าบอกเราได้ไหมว่าเกิดสิ่งใดขึ้นระหว่างสองวันที่ผ่านมา? ผู้อาวุโสเจิ้นเผิง และทุกคนต่างเป็นห่วงเจ้ากันหมด” จื่อฉางเหอถาม
“เดี๋ยวนะ คุณชาย นี่ท่านบรรลุขั้นที่สี่แล้วรึ?” ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงร้องออกด้วยความตกใจ
“เหอะ เหอะ ข้าเพียงโชคดี ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นทั้งสิ้น ขอบคุณสำหรับปัญหานั่น ข้าจะขอเลี้ยงทุกคนในงานเลี้ยงเพื่อกล่าวขอบคุณหากมีโอกาสแน่นอน” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวด้วยเสียงหัวเราะร่าเริง
เซี่ยงเส้าหยุนไม่มีเจตนาจะเล่าความจริง อาจมีผู้ไม่เชื่อในความจริงที่เขาจะเล่าก็ได้ เนื่องจากเป็นเช่นนั้น จึงมิจำเป็นต้องกล่าวสิ่งใดเพิ่มเติม
ทุกคนต่างตกตะลึงกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ พวกเขาเพียงแค่สันนิษฐานว่าเซี่ยงเส้าหยุนอาจจะกินยาวิญญาณเพื่อเร่งความเร็ว เมื่อพบว่าเด็กหนุ่มปลอดภัย พวกเขาจึงแยกย้ายกันไป แม้แต่ผู้ที่คนหาด้านนอกเองก็ถูกเรียกตัวกลับมา
“ผู้อาวุโสที่สิบสาม โปรดรอก่อน” เซี่ยงเส้าหยุนเรียกหาหลี่เสวียเหมิง
หลี่เสวียเหมิงตัวสั่นก่อนนะหันกลับไป “วะ ว่าไง?”
เขาพยายามระงับอาการอย่างที่สุด แต่ก็ยังไม่สามารถระงับความหวาดกลัวได้หมดสิ้น แม้ตอนนี้เซี่ยงเส้าหยุนจะไม่ได้เป็นภัยคุกคามสำหรับเขา แต่ตอนนี้มีผู้อาวุโสเจิ้นเผิงนั้นอยู่ข้างกาย หากทำให้ยอดฝีมือระดับราชาต้องโมโห ตระกูลหลี่อาจถูกฆ่าล้างก็เป็นได้
“โปรดส่งข้อความไปให้บุตรชายของท่าน ข้าจะพบเขาในลานประลองพรุ่งนี้” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวอย่างเคร่งขรึม เมื่อหลี่เสวียเหมิงได้ยินเช่นนั้น เขาหายใจด้วยความโล่งอก ตราบใดที่ไม่เอ่ยถึงการลักพาตัว จึงไม่มีเหตุให้สนใจสิ่งอื่นใด
“คะ คุณชายเซี่ยง ไม่จำเป็นหรอก ใช่ไหม? ข้าขอกล่าวในนามบุตรชายของข้า ข้าจะบอกให้บุตรทั้งสองไปให้พ้นทางทุกครั้งที่เห็นท่าน” หลี่เสวียเหมิงกล่าว เขาลดตัวลง และสาบานกับตนเองว่าตราบใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการลักพาตัว เขาจะไม่ยั่วยุเด็กคนนี้อีก
“ไม่ เขาได้แสดงท่าทีอวดดีต่อข้า ซึ่งทำให้ข้าไม่เป็นสุข เขาต้องมาพบข้าในลานประลองพรุ่งนี้ หากไม่พบเขาที่นั่น ข้าก็จะไม่เป็นสุขมากขึ้น และพวกเข้าทั้งหมดคงจะไม่มีเวลาที่ดีอีกต่อไป” เซี่ยงเส้าหยุนปฏิเสธคำกล่าวยอมจำนน
“ทำตามที่กล่าวเสีย” ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงกล่าว
“ได้ แน่นอน ข้าจะไปบอกบุตรชายให้พบคุณชายเซี่ยง และให้คุณชายระบายความโกรธ” หลี่เสวียเหมิงสัญญาอย่างรวดเร็ว
“ไม่จำเป็นต้องกล่าวเช่นนั้น จงบอกเขาให้สู้กับข้าด้วยพลังทั้งหมด ข้าจะไม่เสียใจหากต้องตายหรอก ผู้อาวุโสเผิง และศิษย์พี่จะไม่ทำสิ่งใดทั้งสิ้น หากข้าถูกสังหารในลานประลอง มิต้องกังวลไป” เซี่ยงเส้าหยุนสัญญา
หลี่เสวียเหมิงไม่ทราบว่าเซี่ยงเส้าหยุนได้ความมั่นใจจากไหน เขาเพียงแค่พยักหน้า และจากไป หลังจากนั้น เสี่ยวไป่คำรามอยู่บนไหล่ของเด็กหนุ่มด้วยท่าทีดุร้าย
“เป็นเขาไช่ไหม?” เซี่ยงเส้าหยุนถาม
“เหมียว!” เสี่ยวไป่ตอบ
ในตอนนั้นเอง จื่อฉางเหอกล่าวขึ้น “เมื่อตอนที่เจ้าหายไป เจ้าหนูนี่โผล่ออกมาจากรถม้าของผู้อาวุโสที่สิบสาม และยังพาเราไปยังอาคารรกร้างด้านหลังคฤหาสน์ตระกูลอู่ด้วย โชคร้าย ที่เราไม่พบเจ้า”
“เป็นเช่นนั้นเอง” เซี่ยงเส้าหยุนเข้าใจทุกสิ่งอย่างโดยพลัน หลี่เสวียเหมิงเป็นผู้ลักพาตัวเขาไปให้อู่ฝูเซี่ยงที่อาคารรกร้างนั่น อาจกล่าวได้ว่าทั้งสองเป็นคนร้าย
“คุณชาย ท่านต้องการให้ข้า...” ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงถาม แววตาโหดเหี้ยมเผยขึ้น
เซี่ยงเส้าหยุนส่ายหัว “ไม่ต้อง ข้าจะจัดการกับเจ้าขยะนั่นด้วยตัวเอง แบบตัวต่อตัว”
เขามองว่าทั้งตระกูลอู่ และหลี่เสวียเหมิงมิได้เป็นสิ่งใดมากไปกว่าบันไดอีกขั้น เซี่ยงเส้าหยุนได้ถามเกี่ยวกับลู่เสี่ยวฉิง เมื่อพบว่านางปลอดภัย เขาจึงโล่งใจ
“ผู้อาวุโสเจิ้นเผิง ศิษย์พี่ โปรดมากับข้า ข้ามีบางสิ่งจะมอบให้พวกท่าน” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวก่อนจะเข้าไปยังที่พำนัก แม้จะไม่รู้ว่าสิ่งหนุ่มจะทำสิ่งใด แต่พวกเขาก็ตามเข้าไปด้านใน
เมื่อเซี่ยงเส้าหยุนออกจากห้องด้วยของสองชิ้นซึ่งถูกคลุมด้วยเสื้อสีดำ แต่เมื่อมองดูอย่างถี่ถ้วนแล้ว พวกมันจะต้องเป็นอาวุธแน่นอน เด็กหนุ่มยื่นของทั้งสองให้ และกล่าว “รับมันไปเสีย ข้าเชื่อว่าพวกมันจะเป็นประโยชน์แก่พวกท่าน”
ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงเป็นคนแรกที่รับของขวัญไป เขาเปิดเสื้อที่คลุ่มออก และพบกับดาบด้านใน เขาชักออกมาทันที
ชิ้ง!
ขณะที่ดาบออกจากฝักของมัน แสงสว่างจ้าพึ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ราวกับศิลาเพลิ่งพุ่งผ่านท้องฟ้าไป
“นะ นี่มันอาวุธราชา!” ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงร้องออก เสียงของเขาสั่นเทา
“ใจเย็นก่อน ตาแก่เผิง เก็บมันไว้ก่อน มิงั้นคงมีปัญหากันพอดี” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวเฉยเมย
“โอ๊ะ นะ นั่นสิ จริงด้วย ข้าตื่นเต้นไปหน่อย” ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงเก็บดาบกลับไปในฝักอย่างรวดเร็ว
“อาวุธราชารึ? ที่ข้าจะได้รับก็เช่นกันหรือ?” จื่อฉางเหอร้องออกด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะเปิดเสื้อที่คลุมของไว้ ในทำนองเดียวกันนั้น แสงประกายระยิบระยับได้พวบพุ่งขึ้นไปบนฟ้า แต่คราวนี้ สีของมันดูต่างออกไป มันเป็นสีม่วง
“นะ นี่มัน หอกอัสนีสีม่วงของจริงนี่!” จื่อฉางเหอร้องออกด้วยความปิติ
“ถูกต้องแล้ว ชิ้นแรกเป็นดาบศิลาเพลิง และอีกอันเป็นหอกอัสนีสีม่วง ทั้งสองล้วนเป็นอาวุธราชาระดับทั่วไป แต่ข้ามั่นใจว่ามันจะดีพอสำหรับพวกท่าน” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว
“นี่พวกมันมิใช้อาวุธราชาธรรมดา ใช่ไหม? พวกมันอาจเป็นอาวุธราชาช่วงท้ายระดับกลาง! พวกมันเป็นสมบัติล้ำค่าเชียวนะ!” ผู้อาวุโสเจิ้นเผิงยังคงแสดงรอบรู้
“ถูกต้อง พวกมันล้วนมีค่า เรารับมันไว้ไม่ได้!” จื่อฉางเหอกล่าว
“รับมันไปเถอะ เราสามารถหาสิ่งธรรมดาเช่นนี้ได้มากเท่าที่ต้องการ” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวอย่างเฉยเมย