เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 108: เสื้อกันหนาวที่เซี่ยวหลิงทำ 2
大姐大 บทที่ 108: เสื้อกันหนาวที่เซี่ยวหลิงทำ 2
“ตั้งแต่พวกเธอยังเด็กจนโตมาด้วยกัน พวกเราล้วนเอาอกเอาใจน้องสาวของเธอ หากว่าต้องเลือกของขวัญ น้องสาวของเธอก็มักจะเป็นคนแรกที่เลือกก่อนเสมอ แต่ในความเป็นจริง หากผิดก็ว่ากันไปตามผิด หากถูกก็ว่ากันไปตามถูก พวกเราทำผิดต่อเธอเมื่อไหร่กัน”
ปู่เจี่ยนดุเจี่ยนหยุ่นน่าว และก็ไม่มีคนในตระกูลเจี่ยนคนไหนกล้าพูดออกมา
ไม่มีใครคิดว่าชายชราจะโกรธในเรื่องนี้
ปู่เจี่ยนนั้นมีหลักการเป็นของตนเอง ในฐานะผู้นำตระกูลเจี่ยน เขายอมให้ลูกหลานทำเรื่องร้ายได้ ยอมให้พวกเขาทำผิดพลาดได้
แต่ถ้าเป็นเรื่องของหลักการแล้ว ปู่เจี่ยนไม่เคยยอมให้อย่างเด็ดขาด
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับตระกูลเจี่ยนที่รุ่งเรืองมากว่าร้อยปีก็คือความสามัคคีในครอบครัว
ทัศนคติของเจี่ยนหยุ่นน่าวนั้นละเมิดข้อห้ามของเขา
เจี่ยนหยุ่นน่าวนั้นหวาดกลัวถึงที่สุด ถึงกับนั่งนิ่งเงียบ
ย่าเจี่ยนเห็นว่าถึงเวลารวบยอดแล้ว เพื่อไม่ให้เรื่องวกไปวนมา จึงพูดขึ้น “เอาล่ะ ตาเฒ่า เซี่ยวน่วนแค่สับสนอยู่บ้าง พูดกับเขาดีๆ เขาก็ย่อมเข้าใจ ไม่ต้องถึงกับโกรธ ระวังความดันจะสูงอีก”
คนที่กล้าพูดในตอนนี้ก็มีเพียงหญิงชราของตระกูลเจี่ยนเท่านั้น
จากนั้นย่าเจี่ยนก็พูดกับเจี่ยนหยุ่นน่าวอีกครั้ง “เซี่ยวน่วน แม้ว่าคำพูดของปู่จะค่อนข้างดุอยู่บ้าง แต่นั่นก็เป็นความจริง ดูเสื้อของหยู่เจี๋ยสิเหมือนกันกับของหยุ่นเฉิงยังกับแกะ หลานบอกว่าเพื่อนของหลานให้ ถ้าเช่นนั้นเพื่อนหลานจะให้หยู่เจี๋ยด้วยทำไม ถ้าหลานไม่เชื่อก็ให้หยู่เจี๋ยพูดว่าใครเป็นคนมอบเสื้อให้”
เจี่ยนหยุ่นน่าวตกตะลึง
เขาก็คิดสงสัยอยู่เมื่อเขาเห็นเสื้อของเจี่ยนหยู่เจี๋ยเมื่อเช้า
ตอนนี้เมื่อย่าเจี่ยนพูดแบบนั้น เขาก็ดูเหมือนจะรู้ตัวขึ้นมาเช่นเดียวกัน
เจี่ยนหยุ่นน่าวมองไปยังพ่อแม่กับพี่ชายของเขาอีกครั้ง
และทันใดนั้นเองเขาก็รู้ตัวว่าทัศนคติที่ตัวเองมีต่อพวกเขานั้นแย่จริงๆ
เขาเกลียดเจี่ยนอีหลิงแต่ก็ไม่ควรจะเอาไปลงใส่พวกเขา
เจี่ยนหยุ่นน่าวหันหน้าหนีอย่างประดักประเดิด
เวินน่วนพูดกับเขาอย่างอ่อนโยน “ไม่ว่ายังไง แม่ก็รู้ว่าลูกอารมณ์เสียในช่วงที่ผ่านมานี้ แม่ไม่โทษลูกที่ดุใส่แม่ เพียงแต่แม่หวังว่าลูกจะเข้าใจแม่ พ่อ กับพี่ชายของลูกบ้าง”
เจี่ยนหยุ่นน่าวพยักหน้า
เขาไม่สามารถบอกได้ว่าตอนนี้เขารู้สึกอย่างไร แต่ความอยากอาหารของเขาไม่เหลืออยู่อีกต่อไป
เมื่อเห็นเจี่ยนหยุ่นน่าวยอมรับคำพูดของทุกคนแล้ว เจี่ยนชูฉิงและคนอื่นๆต่างก็พากันถอนหายใจโล่งอก
ย่าเจี่ยนถามปู่เจี่ยนว่า “ตาเฒ่า อยากกินอะไรอีก”
ปู่เจี่ยนมีทางลงจากการพูดของภรรยาของตนเอง “ขอซุปให้ฉันอีกถ้วย”
ความโกรธของปู่เจี่ยนมาเร็วและก็ไปเร็ว
ในเวลานี้บรรยากาศที่ถูกแช่แข็งได้ถือว่าผ่อนคลายลงไปแล้ว
ย่าเจี่ยนเรียกเจี่ยนหยุ่นเฉิงให้ไปเอามา “หยุ่นเฉิง ไปเอาซุปมาให้ปู่ของหลานอีกถ้วย”
“ครับ” เจี่ยนหยุ่นเฉิงรับคำ ลุกขึ้นและไปที่เจี่ยนอีหลิงเพื่อที่จะเสิร์ฟซุปให้กับปู่เจี่ยน
หยูซีเห็นเจี่ยนหยุ่นเฉิงมาจึงกล่าวขึ้นว่า “กลับกลายเป็นว่าเสื้อของพี่เฉิงกับหยู่เจี๋ยล้วนเป็นอีหลิงทำให้ พวกมันดูทั้งนุ่มทั้งอุ่น และสไตล์นี้ก็ดูกระชับ ทำให้เห็นหุ่นหล่อๆ”
เจี่ยนหยู่เจี๋ยกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ “นี่เป็นของน้องสาวถักเองกับมือเลยนะ”
ไม่มีพี่น้องคนอื่นในตระกูลอีกนอกจากเขากับหยุ่นเฉิงที่ได้รับ
และพี่ชายหยุ่นเฉิงเองก็ได้รับมันเพราะว่าเป็นวันเกิด
หยูซียิ้มและกล่าวกับเจี่ยนอีหลิงว่า “น้องสาวอีหลิง เมื่อตอนมีเวลาว่าง ถักให้พี่กับนายท่านเชิ่งคนละตัวนะ”
หลักๆแล้วเป็นเพราะว่าท่าทางภาคภูมิใจของเจี่ยนหยู่เจี๋ยที่ทำให้หยูซีต้องการที่จะล้อเล่นกับอีกฝ่าย
“ฉันคิดว่าก็ดีนะ” เป็นจ๋ายหวินเชิ่งที่กำลังลิ้มลองอาหารอยู่ที่พูดรับขึ้นมาอย่างกระทันหัน
ใครๆก็คิดว่าเขามัวสนใจอยู่กับการกินและไม่ได้ยินว่าพวกเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน แต่กลับเป็นว่าเขาได้ยิน
“ไม่” ก่อนที่เจี่ยนอีหลิงจะพูด เจี่ยนหยู่เจี๋ยก็ได้ปฏิเสธ “พวกนายได้ยินจากย่าฉันไหม น้องสาวของฉันถักเสื้อกันหนาวอย่างยากลำบากมาก ถ้าพวกนายต้องการเสื้อกันหนาว ไปซื้อมาใส่สิ”
เจี่ยนหยู่เจี๋ยรีบพูดกับเจี่ยนอีหลิง “น้องสาว อย่าฟังคำพูดไร้สาระของหยูซีนะ เขาพูดเล่น จริงแล้วเขาไม่ได้ขาดเสื้อกันหนาวเลย”
“เมื่อไหร่กันที่นายคิดว่าฉันพูดเล่น” หยูซีรู้สึกว่าตนเองถูกใส่ร้าย
เจี่ยนหยู่เจี๋ยไม่สนใจเขา
เจี่ยนหยุ่นเฉิงเติมซุป และก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้กล่าวกับเจี่ยนอีหลิงว่า “ซุปอร่อยมาก”
“อื้อ” เจี่ยนอีหลิงรับคำ ดวงตาเธอจับจ้องไปยังตะแกรงย่างบาร์บีคิว ไม่ได้มองไปที่เจี่ยนหยุ่นเฉิงเลย