ตอนที่ 44 เหมาเยซื่อขอบคุณนะคะ
หลังจากที่พวกเขามาถึงโรงพยาบาล เฉียวเฉินกำลังเพลิดเพลินกับมื้อเย็นไปพร้อมกับดูโทรทัศน์ เขามีท่าทีร่าเริงไม่น้อยเมื่อเห็นพี่สาวเข้ามาในห้อง
"พี่ครับ!" เขากล่าวทักอย่างอบอุ่น พร้อมกับยิ้มแย้ม
“ไง เฉินเฉิน” เฉียวเมียนเมียนยิ้มตอบ เห็นว่าอารมณ์ของเขาดีขึ้นมากจากตอนที่เพิ่งออกจากห้องฉุกเฉิน ทำให้เธอโล่งใจและมีความสุขไปด้วย
“ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” เธอถาม ขณะที่เดินเข้าไปนั่งข้างเตียง
“พี่เขยส่งอาหารมาให้ผมทาน อร่อยกว่าของโรงพยาบาลตั้งเยอะครับ ผมกินหมดเลย แถมยังมีอาหารเสริมดี ๆ มาให้เต็มไปหมดด้วย” เฉียวเฉินพูดพลางยิ้มอย่างเขิน ๆ ก่อนจะหันไปมองเหมาเยซื่อแล้วพูดอย่างจริงใจ
“ขอบคุณครับ พี่เขย”
เหมาเยซื่อยิ้มตอบอย่างอ่อนโยน “ด้วยความยินดี”
เฉียวเมียนเมียนหันไปมองกองถุงที่เต็มไปด้วยอาหารเสริมและดอกไม้สดใหม่ที่ถูกเปลี่ยนเข้ามา เธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกซาบซึ้งใจจนไม่รู้จะพูดอะไรดี เธอหันมามองเหมาเยซื่อแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม “ขอบคุณนะคะ”
เหมาเยซื่อหรี่ตาลงเล็กน้อย เขามองเธอด้วยสายตาที่คาดเดายาก ก่อนจะพูดเสียงทุ้มต่ำ “ขอบคุณอะไรกัน? คุณลืมที่ผมเคยบอกไปแล้วเหรอ?”
เฉียวเมียนเมียนยืนนิ่ง จำได้ทันทีว่าเขาเคยบอกว่าไม่อยากได้ยินคำว่า "ขอบคุณ" จากเธออีกแล้ว แต่ในสถานการณ์นี้ เธอไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำขอบคุณ
"พี่ครับ พี่เขย" เฉียวเฉินซึ่งนั่งอยู่บนเตียงมองพวกเขาสลับกัน ก่อนจะถามขึ้นอย่างสงสัย “พวกพี่คุยอะไรกันเหรอ?”
"อ้อ ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ" เฉียวเมียนเมียนรีบเปลี่ยนเรื่อง หยิบส้มจากตะกร้าผลไม้ออกมาแล้วถาม “อยากกินส้มไหม เดี๋ยวพี่ปอกให้”
เฉียวเฉินส่ายหน้าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ “ไม่อยากกินส้มครับพี่ ผมอยากกินซาลาเปาร้านข้าง ๆ โรงพยาบาลมากกว่า พี่ไปซื้อให้หน่อยได้ไหมครับ?”
“ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้” เฉียวเมียนเมียนตอบอย่างเต็มใจ
เหมาเยซื่อกำลังจะเสนอให้บอดี้การ์ดไปซื้อแทน แต่เขาสังเกตเห็นท่าทีของเฉียวเฉินที่ดูเหมือนจงใจอยากให้เฉียวเมียนเมียนออกไปข้างนอก ดูท่าว่าเด็กหนุ่มคนนี้อาจต้องการคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว
เมื่อเฉียวเมียนเมียนออกจากห้องไป เหมาเยซื่อนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง เขายกขาไขว้กันและมองไปที่เฉียวเฉินซึ่งดูจะประหม่าเล็กน้อย
"มีอะไรอยากคุยกับฉันใช่ไหม?" เหมาเยซื่อถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่สายตายังคงแฝงด้วยอำนาจที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา
เฉียวเฉินรู้สึกกดดันเมื่ออยู่ต่อหน้าเหมาเยซื่อ เขาดูแข็งแกร่งจนยากที่จะเข้าถึง แม้กระทั่งในตอนนี้ เขายังคงรู้สึกว่าพี่เขยของเขาน่าเกรงขาม แต่เพราะความเป็นกันเองและความใจดีที่เขามีต่อพี่สาว ทำให้เฉียวเฉินค่อย ๆ รวบรวมความกล้า
หลังจากสูดหายใจลึก เขาจึงเงยหน้าขึ้นและพูด “พี่เขยครับ ผมขอถามอะไรสักอย่างได้ไหมครับ?”
เหมาเยซื่อมองเฉียวเฉินด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ได้สิ มีอะไรก็ถามมาเลย”