LCEW เล่มที่ 1 ตอนที่ 36 - จะมีชีวิตอยู่อย่างไร
เล่มที่ 1 ตอนที่ 36 - จะมีชีวิตอยู่อย่างไร
"ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะพาตัวฉันไปที่เมืองพระจันทร์เงิน เพราะพวกเขาสงสัยฉันตั้งแต่แรกพบ"ไม่ว่าอย่างไร ความจริงที่ว่าซิงชวนโยนฉันลงมาจากฟ้าก็ยังคงเป็นความจริงวันยันค่ำ
"หากว่าพวกเขาตั้งใจจะทิ้งเธอจริง พวกเขาก็คงไม่มอบกระสวยหลบหนีให้กับเธอหรอก"เจ้าหญิงอาร์เซนอลอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจังราวกับว่าเธอโต้เถียงแทนซิงชวน
"แต่ตอนที่เธอช่วยชีวิตฉัน!! เธอไม่ได้สงสัยและไม่ได้สอบสวนฉันเลย!!"ฉันเริ่มมีอารมณ์ "จริงๆแล้วฉันเองก็เป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอเหมือนกัน"
สีหน้าของเจ้าหญิงอาร์เซนอลแข็งกระด้าง เธอก้มหน้าต่ำและเงียบ การแสดงออกของเธอมาทำให้ฉันตกใจ เธอ…..
"ไม่สงสัยเลยจะเป็นไปได้อย่างไร?"ทันใดนั้น เสียงแก่แต่ทรงพลังก็ดังขึ้น เจ้าหญิงอาร์เซนอลและฉันหันไปมองก็เจอกับผู้อาวุโสอลูฟาที่กำลังเดินโดยใช้ไม้เท้าพยุง ผมสีขาวของเขาสะท้อนแสงเงินระยิบระยับท่ามกลางแสงจันทร์ ทำให้ดูเหมือนกับผู้วิเศษมากขึ้น
เขาช่างดูเท่ห์ และเดินอย่างสงบนิ่งมาตรงหน้าฉัน "เราขอโทษนะ หลัวปิง ครั้งหนึ่งพวกเราเองก็เคยสงสัยในตัวเธอเหมือนกัน"
"หรือว่าพวกคุณจะคิดว่าฉันมาจากเมืองภูติคราส?"ฉันสงสัยตั้งแต่การโจมตีของซิงชวนเมื่อตอนนั้น หลังจากเมืองโนอาห์ยื่นมือมาช่วยเหลือฉัน รวมถึงความซื่อสัตย์ที่ผู้อาวุโสอลูฟาและคนอื่นๆแสดงออก ฉันก็ไม่ได้มีความสุขเลย แต่แล้วฉันก็สงบลงได้เมื่อรู้ว่าพวกเขาเองก็เคยสงสัยในตัวฉัน
"ฮ่าฮ่าฮ่า!!"ผู้อาวุโสอลูฟาหัวเราะชอบใจ "ผู้คนในเมืองภูติคราสไม่มีทางเนื้อตัวสะอาดสะอ้านเหมือนกับเธอ"
"......" ฉันนึกขึ้นได้เลยว่าซิงชวนเองก็เคยพูดแบบเดียวกัน สาเหตุที่เขาคิดว่าฉันไม่ใช่คนของเมืองภูติคราสก็เพราะว่าฉันตัวเหม็น แต่กลับสะอาดสะอ้าน
"นอกจากนี้ เราเองก็เชื่อในการตัดสินใจของเมสัน เขาคิดว่าเธอบริสุทธิ์ เธอจะต้องเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างแน่นอน!!"ผู้อาวุโสอลูฟาขยิบตาอย่างมีเลศนัย
ฉันถึงกับตาค้าง "ลุงเมสัน? เขาดูไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย"แม้ว่าฉันจะขอบคุณลุงเมสันที่ให้ความไว้วางใจ แต่การตัดสินใจของเขาถูกต้องจริงหรือ?
"หลัวปิง อย่าตัดสินลุงเมสันเพียงแค่หน้าปก เขาทรงพลัง ที่สุดเท่าที่เคยเจอเลยล่ะ"เจ้าหญิงอาร์เซนอลหัวเราะ ฉันได้แต่มองรอยยิ้มของเธอด้วยความสงสัย
ลุงเมสัน?
แข็งแกร่งทรงพลัง?
จริงเหรอ?
แม้ว่าเจ้าหญิงอาร์เซนอลและพี่สาวเช่อชื่อจะจัดสรรห้องให้ฉันอยู่ แต่ฉันก็ยังคงอยู่กับพี่สาวเช่อชื่อในโกดังของราฟเฟิล กองเส้นลวดอบอุ่นมาก และตอนนี้ก็ย่างเข้าเดือนกันยายน พวกเขาอยู่อาศัยในเขตเก้า ฉะนั้นเมืองพระจันทร์เงินก็จะหวนกลับมาในเดือนกันยายนปีหน้า
พี่สองชื่นชอบของลวดเหล็กมาก ฉันนอนลงบนอกนุ่มๆของพี่สอง และมองดูเครื่องแต่งกายของตัวเอง ฉันควรจะเอาตัวรอดอย่างไร? ฉันไม่ควรเอาแต่พึ่งพาการดูแลจากคนของเมืองโนอาห์
เจ้าหญิงอาร์เซนอลที่มีอายุเกือบจะเท่าฉัน เธอกำลังทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อปกป้องเมืองนี้ เธอไม่มีความหยิ่งผยองและถ่อมตัวต่อหน้าคนของเมืองพระจันทร์เงิน เธอเป็นคนใจกว้าง สงบเสงี่ยม สมกับเป็นผู้นำ
สำหรับเสวี่ยกี๋และหมิงหยู ทั้งสองแต่งกายชุดพร้อมรบ บ่งบอกชัดเจนว่าพวกเธอคือผู้พิทักษ์ประจำเมือง และขอให้ต่อสู้เพื่อปกป้องเมืองนี้
แม้แต่ แฮรี่ที่ดูไม่เป็นผู้เป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ก็ยังมีกองสอดแนมของตนเองที่คอยออกสอดแนมเพื่อหาทรัพยากร
ส่วนราฟเฟิลก็กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีประจำเมือง สมองซีกหนึ่งคิดหาวิธีเพิ่มผลผลิตพืชพันธุ์ ขณะที่สมองอีกซีกก็ใช้ในการวิเคราะห์เทคโนโลยียานอวกาศของเมืองพระจันทร์เงิน
ทุกคนที่นี่อายุเท่ากับฉัน แต่กลับต้องแบกรับภาระกิจสำคัญ ทุกคน ทั้งเข้มแข็งและมีความรับผิดชอบ ในโลกของฉัน เด็กผู้หญิงวัยเดียวกันป่านนี้คงเอาแต่เรียนหนังสือ บางคนพ่อแม่ก็คอยตามใจ ส่วนผู้ชายก็มัวแต่แกล้งทำตัวเป็นเท่ห์
แล้วฉันล่ะ? ฉันทำอะไรได้บ้าง?
ฉันมองไปที่มือทั้งสองข้าง มือคู่นี้สร้างประโยชน์อะไรให้กับเมืองนี้ได้บ้าง? ฉันควรทำอย่างไรตอบแทนคนใจดีที่พาฉันเข้ามา
ฉันเก่งแต่ปามีด บนโลกที่เต็มไปด้วยพวกเหนือมนุษย์ ทักษะของฉันดูไม่คุ้มค่าเลย
ใช่แล้วล่ะ ฉันทำอาหารได้ แต่ช่างน่าเสียดายที่มันไม่มีส่วนผสม ฉันจึงไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถในการทำอาหาร
ฉันเอามือไขว้ไว้ด้านหลังศีรษะและหลับตา บนโลกต่างแดนที่ยืนอยู่บนวันสิ้นโลก เวลานี้คงเป็นครั้งแรกที่ฉันได้หลับอย่างสงบสุข……
ผู้คนในเมืองโนอาห์ตื่นแต่เช้าตรู่ ทุกคนรู้หน้าที่ของตน ที่แห่งนี้คือเมืองใต้ดินที่ขาดแคลนทรัพยากร คุณคงไม่เข้าใจหรอกว่าพวกเขายุ่งอะไรกัน
ราฟเฟิลมาที่โกดังก็เพื่อตรวจสอบกระสวยหลบหนีของเมืองพระจันทร์เงินตั้งแต่เช้าตรู่ พี่สองไม่คอยระแวงอีกต่อไปแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่ราฟเฟิลเข้ามา เธอจะนั่งลงบนกองลวดเฝ้ามองเขาราวกับว่าเธอกำลังมองลูกของตนเอง
"ผู้พันชาร์จาห์บอกว่าพวกเขาจะตามหาที่อยู่ของกระสวยได้ทันที ถ้าหากเชื่อมต่อเข้ากับเครื่อง เซิร์ฟเวอร์หลักของพวกเขาในเมืองพระจันทร์เงิน"ฉันเตือนความจำราฟเฟิล
ราฟเฟิลก้มหน้าก้มตา เขาเขินอายเกินกว่าจะสบตาฉัน "ผมรู้ ผมแค่เพียงต้องการจะเอาคริสตัลพลังงานสีฟ้าออกมาก็เท่านั้น"
"เอาออกมาได้เลย"ฉันนั่งอยู่บนกองลวดเหล็ก มือหนึ่งก็หยิบกระเป๋าออกมาส่วนอีกมือก็หยิบเครื่องมือทำความสะอาดสุขอนามัยออกมา
ราฟเฟิลอดไม่ได้ที่จะแอบมองกระเป๋าของฉัน ฉันตอบโดยที่ไม่ต้องมองเขาเลย "ในกระเป๋าของฉันไม่มีอาหารเหลืออีกแล้ว"
เขากระพริบตาและหันหน้ากลับ "เจ้าหญิงเอาแตงโมที่เธอให้เมื่อคืนกลับไปด้วย"
"เอ๋ เธอไม่ได้กินเหรอ?"ฉันตกใจมาก ไม่คิดเลยว่าเจ้าหญิงอาร์เซนอลจะยังเก็บแตงโมเอาไว้ "มันไม่มีเมล็ดเหลือแล้ว ถ้าหากไม่กินมัน อีกไม่นานมันจะเสีย"
ราฟเฟิลเองก็รู้สึกเสียใจ "อืม แต่เจ้าหญิงฝากให้ผมเอาไปเก็บด้วยวิธีการที่ถูกต้อง เพื่อให้วันนึง เราจะได้วิธีดึงยีนของมันออกมา จากนั้นฉันจะโคลนนิ่งพวกมัน"
ฉันได้แต่มองด้วยความตกใจ "สามารถโคลนนิ่งได้? แล้วมันจะออกมาเป็นลูกแตงโมหรือว่าออกมาเป็นแค่ชิ้นแตงโมล่ะ?"
ราฟเฟิลสังเกตฉันด้วยดวงตาสีฟ้าอมเทาของเขา "หลัวปิง ผมรู้นะว่าเธอรู้หลายๆอย่าง"
ฉันตกตะลึงยิ่งกว่า แค่นี้ถือว่าฉันรู้มาก? ฉันเป็นเพียงแค่นักเรียนมัธยมต้นเอง
"หลังจากวันสิ้นโลก วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก็เสียหายอย่างรุนแรง"ราฟเฟิลกล่าวขอโทษ "เขตกัมมันตรังสีแบ่งแยกผู้รอดชีวิตออกจากกัน แต่ละแห่งก็เกิดการย้อนกลับของเทคโนโลยี แฮรี่เคยบอกผมว่าครั้งหนึ่งเขาค้นพบหมู่บ้านที่สร้างขึ้นมาจากหิน ไม่มีแม้กระทั่งเทคโนโลยี ผู้คนที่นั่นไม่รู้หนังสือ มันช่างน่าเศร้าใจ…..โชคดีที่ปู่ของเจ้าหญิงอาร์เซนอลครั้งหนึ่งเคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้น เราจึงเก็บรักษาเทคโนโลยีเอาไว้ได้"ราฟเฟิลสายหน้าด้วยความเสียใจ หลายพื้นที่ เทคโนโลยีและอารยธรรมถูกย้อนกลับ
แม้ว่าฉันจะเป็นเพียงนักเรียนมัธยมต้น ฉันก็รู้ดีว่าเทคโนโลยีจะถดถอยถ้าหากไร้ซึ่งการแลกเปลี่ยนความรู้ มันคล้ายกับโลกของเรา ที่มีหมู่บ้านคนป่าที่ไม่ยอมสื่อสารกับโลกภายนอก พวกเขาก็ยังคงใช้ชีวิตเหมือนกับยุคดึกดำบรรพ์
"ต้องรีบแล้ว เราต้องรีบเอาคริสตัลพลังงานออกมา เจ้าหญิงอาร์เซนอลบอกว่าภายในมันมีสารอันตราย ถ้าหากผมประมาท มันอาจจะระเบิด!!"
"ระเบิด!!" ฉันรีบจับแขนพี่สอง "เราไปจากที่นี่ดีกว่า"
พี่สองไม่ขยับตัว เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากไปจากกองลวดเหล็ก