Chapter 185 - 186: พิธีเปิดงาน, ไปกินข้าวด้วยกัน (ฟรี)
Chapter 185: พิธีเปิดงาน
ในเมื่อกู้หนิงสัญญา จางฉิวฮวาก็สบายใจ แต่ยังคงย้ำเตือนเธอให้ตั้งใจเรียนมากขึ้น ถ้าเธอทำไม่ได้ จะไม่อนุญาตให้ลาได้ในครั้งถัดไป
“อ้อ หยูหมิงซีก็จะไปร่วมงานเปิดร้านกับหนูวันนี้ด้วยนะคะ อนุญาตด้วยนะคะอาจารย์” กู้หนิงอ้อนวอน
“เธอ...” จางฉิวฮวารู้สึกฉิว แต่อนุญาตให้ไปได้ในที่สุด เธอบอกกู้หนิงให้รีบออกไปอย่างความหมดอดทน “ไปได้แล้วไป”
กู้หนิงรู้ว่าอาจารย์ไม่ใช่คนใจร้าย เธอขอบคุณอาจารย์ก่อนเดินออกไป
เมื่อกู้หนิงออกไปแล้ว เจียงหยวนก็เดินเข้ามาในห้องทำงาน จางฉิวฮวาที่กำลังไม่พอใจอยู่ เขาถามเธอด้วยความเป็นห่วงว่า “อาจารย์จาง คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
“ฉันสบายดีค่ะ แค่โมโหให้กู้หนิง การสอบกำลังจะใกล้เข้ามาแล้วแต่เธอเอาแต่ลาไปนู่นนั่นนี่เรื่อยๆ” จางฉิวฮวาบ่น
“อย่างน้อยเธอก็ขออนุญาตนะครับ ฉู่เพ่ยหานเด็กห้องผมไม่เคยลาเลย” เจียงหยวนพูด ความจริงไม่มีใครกล้าตักเตือนฉู่เพ่ยหานเพราะครอบครัวของเธอ
กู้หนิงกลับไปที่ห้องเรียนของตัวเอง และบอกหยูหมิงซีว่าพวกเธอสามารถออกไปข้างนอกได้ หยูหมิงซีโล่งอก
ยกเว้นมู่เค่อและอ้ายยี่ที่ยังต้องขออนุญาตอาจารย์ประจำชั้นของพวกเขา ฉู่เพ่ยหาน ฮ่าวหรันและเด็กหนุ่มอีกสองคนออกจากโรงเรียนได้ทุกเมื่อทุกเวลาที่พวกเขาต้องการ คงแปลกน่าดูที่พวกเขาต้องขออนุญาตอาจารย์ และอาจารย์ของพวกเขาต้องประหลาดใจมากแน่ที่พวกเขาทำอย่างนั้น
เมื่อคาบบ่ายจบลง พวกเขาก็พากันออกจากโรงเรียนไปพร้อมกัน และไปซื้อดอกไม้
“บอส ฉันสังเกตว่าเฉินจื่อเหยาไม่มาโรงเรียนวันนี้!” ฉู่เพ่ยหานพูดขึ้น
“อายจนไม่กล้ามาน่ะสิ” มู่เค่อหัวเราะ
“ถึงเธอจะถูกเปิดโปง แต่ฉันยังไม่พอใจเท่าไหร่ที่ไม่ได้ต่อยหน้ายัยนั่น”
“เห็นด้วย” ฮ่าวหรันเอ่ย
“ช่างเถอะน่า ต่อยคนไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา” กู้หนิงโน้มน้าวพวกเขา
พวกเขาพากันไปตลาดเพื่อซื้อดอกไม้ ก่อนที่ทุกคนจะควักกระเป๋าออกมาจ่ายเงิน กู้หนิงจัดการจ่ายเรียบร้อยแล้ว จากนั้นไปที่ย่านขายวัสดุก่อสร้าง
ร้านดอกไม้จัดหารถบรรทุกขนาดเล็กเพื่อไปส่งดอกไม้ยังสถานที่จัดส่ง รถบรรทุกมีที่นั่งพอสำหรับคนสี่คน กู้หนิงจึงให้มู่เค่อ ฮ่าวหรัน ฉินซีหุนและจางเทียนปิงนั่งไปกับรถบรรทุก ในขณะที่กู้หนิงและเด็กสาวอีกสองคนนั่งรถแท็กซี่
เมื่อกู้หนิงไปถึงร้านของเจียงซู่ เธอตะลึงกับจำนวนดอกไม้ที่วางอยู่ที่ประตู
ว้าว มากมายจริงๆ! เธอไม่ต้องการให้งานน่าเบื่อ เลยโทรหาอ้ายกวงเหยาและอ้ายเฉียนและเพื่อนของเธอ แต่ดูจำนวนดอกไม้ตอนนี้สิ!
กู้หนิงเดินอ่านการ์ดอวยพรตามตะกร้าดอกไม้ ดอกไม้เหล่านี้มาจากบริษัทขนาดใหญ่เพื่อแสดงความยินดีในงานเปิดตัวร้านซูริคอนสตรัคชั่น
เธอเห็นตะกร้าดอกไม้จากเจิ้งหัวเรียลเอสเตจและกาเม่ยบิ้วตี้ซาลอน
บางบริษัทเธอก็เคยได้ยินชื่อ บางบริษัทก็ไม่เคยได้ยิน นั่นเป็นเพราะเธอยังไม่ได้ศึกษาว่าในเมือง F มีบริษัทใหญ่ๆกี่บริษัทและชื่ออะไรบ้าง
นอกเหนือจากบริษัทแล้ว ยังมีกระเช้าดอกไม้จากคนธรรมดาทั่วไป อ้ายเฉียนก็เป็นหนึ่งในนั้น
กู้หนิงและเพื่อนๆเขียนการ์ดอวยพรลงในกระเช้าดอกไม้
มีคนไม่มากเมื่อกู้หนิงและเพื่อนของเธอเดินเข้าไปข้างใน เพราะพวกเขาส่วนใหญ่กลับไปทันทีที่มอบกระเช้าดอกไม้และของขวัญ ส่วนใหญ่คนที่ยังอยู่จะเป็นคนรู้จักไม่ก็ญาติสนิทมิตรสหาย
แม้ว่าในสมัยก่อนเจียงซู่จะเป็นคนขับรถบรรทุก แต่เขารู้จักนักธุรกิจหลายคน เมื่อเจียงซู่เปิดกิจการของตัวเอง พวกเขายินดีที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้
นั่นเป็นทางในการสร้างคอนเนคชั่น อ้ายเฉียนอยู่ข้างในพร้อมกับลีเจิ้งหยู
“สวัสดีค่ะ อ้ายเฉียน ผู้อำนวยการลี ดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะ” กู้หนิงเดินเข้ามาทักทาย
“กู้หนิง ดีใจที่ได้เจอเธออีกครั้งเช่นกันจ๊ะ” อ้ายเฉียนยิ้ม “ยินดีที่พบอีกครั้งครับ คุณกู้” ลีเจิ้งหยูกล่าวทัก
“ลุงคะ ทำไมหน้าประตูถึงมีกระเช้าดอกไม้วางไว้มากมายล่ะคะ?” กู้หนิงถามเจียงซู่
เจียงซู่ตอบว่า “ลุงก็ไม่รู้เหมือนกัน! เช้านี้มีคนมาแสดงความยินดีกับลุงตั้งหลายคน ลุงยังนึกไม่ออกเลย อ้อ พวกเขายังมอบซองอั่งเป่าข้างในมีเงินเป็นฟ่อนเลย หนึ่งในพวกเขาอยากจะทำการค้ากับลุง เขากำลังจะสร้างโรงงานสองชั้นขนาดสามร้อยตารางเมตรที่ชานเมือง”
เจียงซู่รู้สึกเหมือนเขาอยู่ในความฝัน มันดีกว่าที่เขาคิดไว้มาก มากกว่าจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง
กู้หนิงประหลาดใจเช่นกัน ต้องมีคนวางแผนเรื่องนี้เอาไว้ แต่ใครกันล่ะ?
ในขณะที่กู้หนิงกำลังใช้ความคิด ข้อความใหม่ก็เด้งเข้ามาในโทรศัพท์ของเธอ เธอเปิดอ่าน ข้อความมาจากเลิ่งเชาถิง กู้หนิงรู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเธออ่านข้อความจากเขา
เลิ่งเชาถิงเป็นคนทำ เขาจัดหาคู่ค้าทางธุรกิจให้เจียงซู่
ว่าไปแล้วซู่จินเฉินก็ประหลาดใจไม่ต่างกัน ที่ได้รับคำขอจากเลิ่งเชาถิงหัวหน้าของเขา
ซู่จินเฉินโทรหาเลิ่งเชาถิงทุกวันเพื่อถามว่าเมื่อไหร่เลิ่งเชาถิงจะกลับมาเขาจะได้กลับสักที เลิ่งเชาถิงบอกว่าเขาสามารถกลับได้ทุกเมื่อ แต่ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าซู่จินเฉินเลยสักครั้ง และยังไม่ยอมบอกว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน
ซู่จินเฉินไม่รู้ว่าเลิ่งเชาถิงไปที่เมือง F เพื่อกู้หนิงทันทีที่เขารับโทรศัพท์จากเธอ ที่น่าประหลาดใจคือเลิ่งเชาถิงไปด้วยตัวเอง
ซู่จินเฉินตั้งใจจะซุบซิบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่เลิ่งเชาถิงวางสายทันที ซู่จินเฉินรู้สึกเจ็บปวดและทรมานกับความอยากรู้อยากเห็นของเขา กระนั้นเขาก็ไม่กล้าโทรหาเลิ่งเชาถิงอีก
บ้าเอ๊ย! เลิ่งเชาถิงที่โสดมานานกำลังจะมีแฟนในขณะที่เขายังโสด
โชคดีที่เลิ่งเชาถิงอนุญาตให้เขาออกจากฐานทัพได้ เพื่อที่เขาจะได้ออกไปเจอกับสาวๆ แต่เลิ่งเชาถิงพูดเตือนให้เก็บความลับที่ว่าเขาอยู่ที่เมือง F
อย่างน้อยตอนนี้เขาก็มีเวลาว่าง ดังนั้นเขาจึงวางแผนจะไปเมือง F เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างกู้หนิงและเลิ่งเชาถิง
ระหว่างทางไปเมืองหลวง เขาถูกปล้น เมื่อไปถึงเมืองหลวงก็พลาดเครื่องบินไปเมือง F ดังนั้นเขาต้องรอจนกว่าจะวันพรุ่งนี้
เลิ่งเชาถิงส่งข้อความหากู้หนิงบอกว่าเขาทำอะไร เผื่อเธอไม่ชอบใจเพราะเขาทำโดยผละการไม่ได้บอกเธอ
Chapter 186: ไปกินข้าวด้วยกัน
กู้หนิงไม่รู้จะพูดอะไร ถึงแม้เขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เธอก็ปลาบปลื้มใจลึกๆ เขาทำทุกอย่างเพื่อเธอ
กู้หนิงตอบไปว่า ‘แล้วผู้ชายที่จะทำธุรกิจร่วมกับลุงของฉันล่ะคะ?”
เลิ่งเชาถิง ‘พอดีเขากำลังจะสร้างโรงงานที่ชานเมือง เขาเพียงแต่พูดคุยกับลุงของเธอเท่านั้น ถ้าเขาพอใจก็คงได้ทำธุรกิจร่วมกัน
ซึ่งหมายความว่าผู้ชายคนนั้นต้องการที่จะร่วมมือกับเจียงซู่เพราะเขาพอใจกับคุณภาพของวัสดุก่อสร้างที่เจียงซู่สามารถจัดหาได้ นั่นทำให้รู้สึกว่าวัสดุก่อสร้างที่เจียงซู่เตรียมไว้ล้วนมีคุณภาพสูง ผู้ซื้อที่เชื่อถือได้ส่วนใหญ่จะเลือกเจียงซู่ให้เป็นผู้ให้บริการ
กู้หนิง ‘ขอบคุณมาก!’
เลิ่งเชาถิงที่กำลังนั่งในรถแลนด์โรเวอร์ของเขา ไม่ไกลจากร้านขายวัสดุก่อสร้างของเจียงซู่ เขามองเข้าไปในร้าน รอยยิ้มผุดขึ้นที่ใบหน้า เขามีความสุขที่เห็นเธอมีความสุข
จากนั้นกู้หนิงก็บอกเจียงซู่ว่า “ลุงคะ ดอกไม้พวกนี้เป็นของคนรู้จักของเพื่อนหนูเองค่ะ เขารู้ว่าวันนี้เป็นวันเปิดร้านของลุง เขาเลยส่งของขวัญมาให้ จดชื่อในการ์ดอวยพรไว้นะคะ ไว้วันหลังเราค่อยส่งของขวัญให้พวกเขา”
“เพื่อนของลูกเหรอ? เพื่อนแบบไหน? แล้วเขารู้จักคนรวยๆเยอะแยะได้ยังไง?” กู้ม่านถาม นี่เป็นครั้งแรกที่กู้ม่านถามกู้หนิงเรื่องเพื่อน
กู้หนิงรู้ว่าเธอไม่สามารถให้คำตอบแก่แม่ของเธอได้ จึงอธิบายไปว่า “เขาเป็นเพื่อนที่หนูได้ช่วยชีวิตเขาไว้ พวกเรายังคงติดต่อกันอยู่ แม่ก็รู้นี่คะว่าคอนเนคชั่นนั่นสำคัญ เขาเป็นคนใหญ่คนโต และเขาเต็มใจที่จะช่วยเหลือหนู หนูไม่ควรปฏิเสธน้ำใจของเขา”
ได้ฟังคำตอบของลูกสอบ กู้ม่านจึงเชื่อตามนั้น คงไม่มีอะไรหรอก
ในขณะนั้นฉินซีหุนก็ยื่นกล่องของขวัญให้กู้หนิง “บอส พี่อี้ฟานวันนี้ติดงาน เขาเลยขอให้ฉันมอบของขวัญนี้ให้เธอแทนเขา”
“อะไรนะ?” กู้หนิงประหลาดใจ เธอไม่ได้บอกฉินอี้ฟานแล้วเขารู้ได้ไง? ฉินซีหุนต้องเป็นคนบอกเขาแน่
“ขอบใจ” กู้หนิงรับกล่องของขวัญมา จากนั้นยื่นให้เจียงซู่ต่อ
“โว้ว...” เจียงซู่เปิดกล่องออกดู ตาโตลุกวาวเมื่อเห็นของที่อยู่ข้างใน ทองเหรอ?
“นีมันทำจากทองนี่?”
“อะไรนะ? ทำจากทองหมดเลยเหรอ?”
ได้ยินแบบนั้นทุกคนตกใจไปตามๆกัน ดูจากขนาดของมันแล้วราคาไม่ต่ำก่าหนึ่งล้านหยวน!
“พะ แพงมากเลยนะ!” มือของเจียงซู่สั่นเทา เขาไม่กล้ารับเอาไว้
กู้หนิงคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ของขวัญที่เธอให้พ่อของฉินอี้ฟานราคาหลายล้านหยวน การที่ฉินอี้ฟานทำแบบนี้เพื่อการแสดงความขอบคุณของเขา
กู้หนิงเดินไปด้านข้างของเจียงซู่ พูดกับเขาด้วยเสียงต่ำว่า “ลุงคะ รับไว้เถอะค่ะ หนูเคยให้ของขวัญวันเกิดพ่อของเขา เรารับไว้ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
กู้หนิงพูดเพื่อคลายความกังวลของเจียงซู่ เจียงซู่ได้ฟังแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
ระหว่างพัก กู้หนิงเดินไปด้านข้างเพื่อโทรหาฉินอี้ฟาน
ฉินอี้ฟานลังเลที่จะรับในตอนแรก เพราะเขาไม่รู้จะคุยอะไรกับกู้หนิง แต่สุดท้ายก็กดรับ “สวัสดี”
“สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากสำหรับของขวัญ ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้บอกเพราะกลัวว่าคุณรู้สึกไม่สบายใจ” กู้หนิงขอบคุณเขาก่อนที่จะขอโทษเขา
“ไม่เป็นไร ยังไงวันนี้ฉันก็ติดงานพอดี” ฉินอี้ฟานพูดเสียงเรียบ แน่นอนว่ามันเป็นแค่ข้ออ้าง
กู้หนิงเข้าใจและเธอไม่อยากพูดอะไรให้เป็นประเด็นอีก ไม่นานทั้งคู่ก็วางสาย
ภายในห้องทำงาน ฉินอี้ฟานปล่อยให้จิตใจล่องลอยไป เขารู้สึกเศร้าในใจเพราะเขายังลืมเธอไม่ได้
เจียงซู่พาแขกไปทานอาหารที่โรงแรมห้าดาวที่อยู่ใกล้ๆ แขกทุกคนล้วนให้ของขวัญราคาแพง เขาจึงต้องดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ กู้หนิงเสนอขึ้นมาว่า “ทำไมพวกเราไม่ไปเยี่ยมแม่ของหมิงซีกัน? พวกเราไม่ได้เยี่ยมท่านนานแล้ว”
“ใช่ๆ ลืมไปได้ไงนะ?!” ทุกคนเพิ่งนึกขึ้นมาได้
“พวกเธอสะดวกกันรึเปล่า?” หยูหมิงซีรู้ว่าเพื่อนของเธอคงไม่ไปเยี่ยมมือเปล่าแน่
“สะดวกสิๆ”
จากนั้นพวกเขาก็ไปโรงพยาบาล พวกเขาซื้อของบำรุงต่างๆก่อนไปโรงพยาบาล หยูหมิงซีพยายามห้ามพวกเขาอย่างสุดความสามารถ
พ่อแม่ของหยูหมิงซีต่างประหลาดใจเมื่อพวกเขาปรากฏตัวพร้อมถุงและกล่องผลิตภัณฑ์บำรุงร่างกาย แม่ของหยูหมิงซีหายดีแล้ว แม้แต่โรคเรื้อรังของเธอก็หายขาด ตอนนี้เธอสามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้แล้ว
นั่นเป็นเพราะพลังของกู้หนิง
แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแล้ว แต่เนื่องจากนอนบนเตียงเป็นเวลานานและไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย เธอยังต้องทำกายภาพบำบัดเพื่อให้แขนขาทำงานได้ดี ในไม่ช้าก็ตะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้
แม่ของหยูหมิงซีขอบคุณกู้หนิงซ้ำๆไปมา และเกือยจะคุกเข่าลงเมื่อรู้ว่ากู้หนิงเป็นคนให้ครอบครัวเธอยืมเงิน
เพื่อให้แม่ของหยูหมิงซีพักผ่อนอย่างเต็มที่ กู้หนิงกับเพื่อนจึงพากันกลับ
บ้านของแต่ละคนอยู่คนละทาง ดังนั้นทุกคนจึงแยกย้ายกันที่หน้าประตูทางเข้าโรงพยาบาล
กู้หนิงตั้งใจจะวิ่งกลับบ้าน แต่รถแลนด์โรเวอร์ที่คุ้นเคยมาจอดอยู่ใกล้ๆเธอ เป็นเลิ่งเชาถิง
กู้หนิงยืนนิ่งไม่ขึ้นรถไปในทันที หรี่ตามองเลิ่งเชาถิง “ทำไมนายมาอยู่ที่นี่?”
เลิ่งเชาถิงประหม่านิดหน่อย ไม่กล้าสบตาเธอตรงๆ เขารู้ว่าไม่ควรตามเธอ “ฉันตามเธอมา”
“ทำไม?” กู้หนิงถาม
“ไม่มีเหตุผล แค่อยากตาม”
กู้หนิงซาบซึ้งใจ เธอไม่อยากผลักเขาให้ออกห่างจากเธอ ดังนั้นเธอจึงทำเป็นลืมๆเรื่องนี้ไปซะ และขึ้นรถไป “กินไรยัง?”
“ยัง”
“นายอยากกินอะไร? ไปกินข้าวกัน” กู้หนิงชวน
“อืม ได้สิ” เลิ่งเชาถิงยิ้ม และขับรถออกไป