ตอนที่ 8 ไม่เหมือนเดิม
ตอนที่ 8
ไม่เหมือนเดิม
"เดี๋ยวก่อน ศิษย์พี่….."ชิงหมิงพยายามจะขัดขืน แต่กำลังของหัวหน้าศิษย์รับใช้กลับเยอะจนน่าตกใจ นางท่าทางจะแข็งแกร่งไม่น้อยทำไมถึงมาเป็นหัวหน้าศิษย์รับใช้กันเล่า.....
"ไม่มีเดี๋ยวเจ้าต้องกลับไปที่เรือนนอนเดี๋ยวนี้"หัวหน้าศิษย์รับใช้ว่าพลางเดินพรวดกลับไปทางเรือนนอนโดยไม่คิดจะฟังชิงหมิงแม้แต่น้อย
"ซีฮันมีอะไรงั้นหรือ"ระหว่างหัวหน้าศิษย์รับใช้ซีฮันกำลังลากชิงหมิงกลับเรือนนอนอยู่นั้น อยู่ ๆเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของชิงหมิงเสียก่อน เพียงแต่พอได้ยินเสียงนี้ชิงหมิงก็ไม่อยากจะหันไปมองด้านหลังเลย
"ศิษย์พี่ตู้กู่ เด็กคนนี้แอบออกมากลางดึกข้าเลยจะพากลับเรือนนอนเจ้าค่ะ"ซีฮันตอบพลางก้มหัวให้ตู้กู่ตามมารยาท
"ศิษย์พี่ซีฮัน ท่านจะพาข้ากลับเรือนนอนไม่ใช่หรือเจ้าคะ รีบพาข้ากลับไปเถอะ"ชิงหมิงว่าพลางจับมือของหัวหน้าศิษย์รับใช้เอาไว้แน่น ตอนนี้ชิงหมิงยินดีจะจะถูกจับไปเรือนนอนมากกว่าจะหยุดคุยกับท่านน้าตู้กู่เสียอีก
"พูดอะไรนะเด็กคนนี้ รีบคารวะศิษย์พี่อาวุโสเดี๋ยวนี้"ซีฮันเห็นชิงหมิงยังไม่ยอมหันหน้ามาก็รีบจับชิงหมิงหมุนตัวกลับมาหาตู้กู่ก่อนจะบังคับให้เขาคารวะตู้กู่ทันที
"ไม่เป็นไรหรอกซีฮัน ข้าจะเป็นคนพาเด็กคนนี้กลับเรือนนอนเอง"ตู้กู่ว่าพลางเดินเข้ามาจับมือชิงหมิงเอาไว้แทน
"เจ้าค่ะ…"แม้จะเกรงใจแต่เมื่อตู้กู่ต้องการแบบนั้นซีฮันก็ไม่มีอะไรต้องเถียง นางปล่อยมือชิงหมิงอย่างรวดเร็วก่อนจะขอตัวกลับไปตรวจตราภายในสำนักต่อทันที
"ได้พบท่านแม่ของท่านแล้วเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ"ทันทีที่ซีฮันเดินจากไป ตู้กู่ก็ไม่ได้มีท่าทีประหลาดใจหรือโกรธอะไรชิงหมิงแม้แต่น้อย นางเพียงเอ่ยปากถามด้วยท่าทีสงสัยเพราะนางไม่ได้ตามชิงหมิงเข้าไปส่วนที่พักของนายหญิง เพราะนางต้องดึงความสนใจจากศิษย์ที่ทำหน้าที่เฝ้าระวังแทน
"ข้า...ดีใจมากเลยขอรับ"ชิงหมิงตอบพลางยิ้มออกมาด้วยใบหน้ามีความสุข วันนี้ได้พบมารดาแถมยังได้รับคำชมไหนจะให้มารดาหวีผมให้อีก ชิงหมิงผู้นี้ไม่คิดฝันอะไรไปมากกว่านี้แล้ว
"งั้นหรือเจ้าคะ"ตู้กู่เองก็อมยิ้มออกมาด้วยท่าทีเอ็นดู เห็นชิงหมิงมีความสุขมีหรือน้าอย่างนางจะไม่ดีใจ ชิงหมิงแอบฝึกวิชาตัวเบาที่ป่าข้างวังมาตั้งนานพวกนางจะไม่รู้ได้อย่างไร ตอนแรกพวกนางก็ว่าจะห้ามแต่เมื่อนึกถึงท่าทีของนายหญิงแล้วกลัวว่าหากปล่อยไปแบบนี้ชิงหมิงจะไม่มีวันได้พบนายหญิงไปทั้งชีวิต พวกนางเลยตัดสินใจปล่อยให้ชิงหมิงฝึกฝนวิชาตัวเบาจนสำเร็จแล้วปล่อยให้ชิงหมิงขึ้นไปบนวังหลักโดยไม่คิดจะขวาง แม้จะต้องถูกลงโทษทั้งเรื่องที่ปล่อยชิงหมิงหนีออกมาหรือเรื่องที่ขัดคำสั่งแล้วสอนวิชาให้ชิงหมิงเองพวกนางยินดีรับโทษทั้งหมด แต่อย่างน้อยก็อยากให้ชิงหมิงได้เห็นหน้ามารดาสักครั้ง
บางที...หากได้เผชิญหน้ากันบางทีนายหญิงอาจจะยอมบอกก็ได้ว่าทำไมถึงไม่ยอมลงมาพบชิงหมิง แม้จะต้องแตกหักกันก็จะได้เข้าใจเสียทีว่าทำไมทุกอย่างถึงได้เป็นแบบนี้ ดีกว่าเลี้ยงชิงหมิงโดยไม่ให้เขาได้รู้อะไรเลย เอาแต่เฝ้ารอมารดาจนแก่ตายไปงั้นหรือ เพียงแต่….พวกน้า ๆไม่รู้เลยว่าชิงหมิงจะเตรียมตัวมาดีเช่นนี้ ถึงกับแอบเข้าไปเอาชุดของศิษย์หญิงมาสวมเลยทีเดียว ยิ่งพอเห็นว่าชิงหมิงออกมาจากเขตที่พักของนายหญิงได้โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตู้กู่ก็รู้สึกประหลาดใจมากที่ชิงหมิงสามารถปลอมเป็นศิษย์ในสำนักได้อย่างแนบเนียนเช่นนี้
“แต่เรื่องที่ท่านแอบฝึกวิชาตัวเบาโดยไม่บอกพวกข้า รวมถึงแอบเข้ามาในวังหลักโดยไม่ได้รับอนุญาตยังไงก็ต้องถูกลงโทษนะเจ้าคะ”ตู้กู่เลื่อนมือไปหยิกแก้มของชิงหมิงเบา ๆ แต่ถึงนางจะทำท่าโกรธแค่ไหนชิงหมิงก็รู้ดีว่าท่านน้าตู้กู่ใจดีกับตนเสมอ หากจะโดนโกรธจริง ๆต้องเป็นท่านน้าฟ้านลี่ต่างหาก
“ขอโทษขอรับ”ชิงหมิงตอบด้วยท่าทีสำนึกผิด ตอนแรกชิงหมิงเพียงแค่อยากแอบมาพบมารดาเท่านั้นเองนี่นา
“แล้ว....ท่านได้พบมารดาแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้างงั้นหรือเจ้าคะ”ตู้กู่ถามพลางพาชิงหมิงเดินไปบนทางเดินของสำนัก ระหว่างนี้ชิงหมิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นภายในสวนด้านหลังวังหลักให้น้าของตนฟังอย่างมีความสุข ทั้งเรื่องที่มารดาจับตนเองได้ แถมยังปลอบใจตนเองเช่นไรรวมถึงเรื่องที่นางบอกว่าหากเป็นชิงชิงละก็จะให้เข้ามาในเขตพักผ่อนของนางก็ได้ด้วย
“ให้ท่านเข้าไปได้งั้นหรือเจ้าคะ?”ตู้กู่ตอบด้วยท่าทีตกใจ จริง ๆแล้วนายหญิงเป็นคนใจดีมาแต่ไหนแต่ไร เพียงแต่ช่วงหลังการดูแลสำนักจะใช้เพียงความใจดีไม่ได้ นางเลยต้องทำตัวเป็นเจ้าสำนักที่เข้มงวดและทำเป็นแข็งแกร่งต่อหน้าผู้อื่นเพื่อไม่ให้คนนอกสำนักมาดูถูกสำนักของตนได้ ทำให้เหล่าศิษย์ที่ทราบว่าแท้จริงแล้วนายหญิงเป็นเพียงหญิงสาวใจดีคนหนึ่งนั้นมีเพียงศิษย์ที่มีอายุมากกว่า 80 ปีทั้งสิ้น เพราะแบบนั้นพวกนางที่เป็นเหมือนผู้อาวุโสของสำนักเลยประหลาดใจมากที่นายหญิงมีท่าทีเย็นชาเช่นนั้นกับชิงหมิง นั่นไม่ใช่นิสัยของนางเลย
“ขอรับ ท่านแม่บอกว่าหากเป็นชิงชิงก็ให้เข้าไปหาได้ขอรับ”ชิงหมิงตอบพลางยิ้มออกมาบาง ๆ เขาดีใจเหลือเกินที่ได้รับการตอบรับเช่นนี้ แม้ชิงชิงจะไม่ใช่ตัวจริงของเขาก็ตาม
“พบได้งั้นเหรอ.....”ตู้กู่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะคิดอะไรในหัวอยู่คนเดียว หากชิงชิงสามารถเข้าพบนายหญิงได้ งั้นก็ให้ชิงหมิงปลอมเป็นชิงชิงเพื่อเข้าพบนายหญิงก็พอแล้วไม่ใช่หรือ พวกนางเพียงบอกทุกคนว่าชิงชิงเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเมื่อไม่นานนี้เท่านั้น ชิงหมิงก็สามารถไปไหนมาไหนในสำนักได้อย่างสบายแล้ว ไม่จำเป็นต้องถามเรื่องต่าง ๆกับนายหญิงก็ได้ ขอแค่อยู่ในฐานะชิงชิงเท่านั้นชิงหมิงก็สามารถอาศัยอยู่กับมารดาได้แล้ว
“ชิงหมิง ท่านอยากอยู่กับมารดาของเจ้าหรือเปล่า”ตู้กู่ถามพลางยิ้มกว้างด้วยท่าทีดีใจ แม้จะขัดต่อกฎแต่การให้ชิงหมิงได้อยู่กับมารดาก็เป็นสิ่งที่ตู้กู่พยายามหาทางมาตลอด การปลอมตัวของชิงหมิงคราวนี้ทำให้นางเห็นเส้นทางใหม่เลยก็ว่าได้ แม้อาจจะใช้ได้ไม่นาน แต่จนกว่าชิงหมิงจะโตก็สามารถอยู่กับมารดาได้เท่าที่ใจอยากแล้ว
“ได้หรือขอรับ....”ชิงหมิงเบิกตากว้างด้วยท่าทีตกใจ ไม่นึกว่าท่านน้าจะเป็นฝ่ายสนับสนุนเสียเอง
“ข้าจะปรึกษากับน้า ๆคนอื่นของท่านก่อน หากทุกคนเห็นด้วยท่านอาจจะได้อยู่กับมารดาของท่านในฐานะชิงชิงก็ได้เจ้าค่ะ”ตู้กู่ยิ้มก่อนจะยื่นมือไปให้ชิงหมิงจับเอาไว้เพื่อข้ามไปยังฝั่งของวังตะวันตก
“ขอรับ”ชิงหมิงยิ้มกว้างด้วยท่าทีดีใจ หากพวกท่านน้าเห็นด้วยชิงหมิงก็อยากจะอยู่กับมารดาเหมือนกัน ถึงจะบอกไม่ได้ว่าตนเองเป็นบุตรชาย แต่เพียงได้อยู่กับมารดาก็เกินกว่าที่ฝันไปมากแล้ว
.
.
“...............”หลังจากตู้กู่เสนอเรื่องนี้กลางวงประชุมในตอนกลางดึก เหล่าน้า ๆก็พากันเงียบไปทันทีเพราะไม่คิดว่าตู้กู่จะเป็นคนเสนออะไรแบบนี้ออกมาด้วยตนเอง
“แบบนี้นายหญิงต้องลงโทษข้าหนักมากแน่ ๆ”เหมยอิงว่าพลางเอามือกุมอกตนเองเอาไว้ด้วยท่าทีกลัว ๆ แม้นายหญิงจะใจดี แต่พอต้องลงโทษขึ้นมาจริง ๆก็ดุมาก คนขี้กลัวอย่างเหมยอิงถึงกับจะเป็นลมเสียให้ได้แต่ปากของนางก็ไม่ได้พูดว่าจะไม่ยอมแต่อย่างไร
“ลำพังฝึกวิชาให้ชิงหมิงก็คงโดนไล่ออกจากสำนักอยู่แล้วนี่นา แถมแต่เดิมพวกพี่หญิงจะให้ชิงหมิงโดนนายหญิงจับเอาวันนี้เสียด้วยซ้ำ แบบนี้ก็แค่ใช้แผนเดิมแค่ยืดเวลาออกไปจนกว่านายหญิงจะจับได้นะสิ”กงจื่อตอบด้วยท่าทีไม่ใส่ใจนัก เหมือนคนที่พูดว่าในเมื่อผิดไปแล้วจะผิดมากหรือน้อยก็ไม่ต่างเลย
“พวกเจ้านี่จริง ๆเลยนะ พี่ตู้กู่เองก็เถอะพี่เป็นพี่ใหญ่ของพวกเรานะทำไมถึงเป็นคนเสนอเองเสียได้ล่ะ”ฟ้านลี่ว่าพลางถอนหายใจออกมาด้วยท่าทีหนักใจ
“เจ้าไม่เห็นด้วยงั้นหรือ”ตู้กู่ถามพลางยิ้มออกมาบาง ๆ ไม่ใช่แค่ให้ชิงหมิงได้พบมารดาแค่ครั้งเดียวแล้วแตกหักกันไปเลย แต่นี่ชิงหมิงยังได้อยู่กับมารดามากขึ้นก่อนจะต้องสะสางความจริงกันเลยนะ
“ใครบอกว่าข้าไม่เห็นด้วยกันล่ะ แค่มัน....ไม่สมกับเป็นพวกเราเลยเท่านั้นเอง”ฟ้านลี่ว่าพลางมองไปทางศิษย์พี่ศิษย์น้องแต่ละคน ตู้กู่แต่ก่อนไม่มีทางเสนอแผนแบบนี้ออกมาแน่ ๆ นางเป็นพวกตรงไปตรงมาและไม่ใช้วิธีคดโค้งแต่อย่างไร แต่ยามนี้กลับเสนอแผนหลอกลวงนายหญิงออกมาเสียได้ ส่วนตัวนางฟ้านลี่เองแต่เดิมเป็นคนเคร่งครัดในกฎอย่างมากจนถูกพวกศิษย์ใหม่เรียกว่าศิษย์ผู้คุมกฎเลยทีเดียว แต่พอเป็นเรื่องของชิงหมิงเมื่อไร นางแทบจะยอมอย่างง่ายดายตลอด ทางด้านเหมยอิงนางขี้กลัวขนาดนี้แต่กลับยอมขัดคำสั่งนายหญิงเท่านี้ก็นับว่าแปลกแล้วไม่ต้องพูดถึงกงจื่อที่แต่เดิมไม่คิดจะสนใจผู้อื่นทำตัวเย็นชาเหมือนแยกออกมาเพียงคนเดียว ยามนี้กลับยอมทำตัวบ้า ๆบอ ๆใส่หน้ากากฝึกวิชาให้ชิงหมิงเสียอย่างนั้น
“มันก็.....ช่วยไม่ได้นี่นา”กงจื่อว่าพลางมองไปทางห้องนอนของชิงหมิง ทั้งหมดนี้พวกทางทำก็เพื่อความสุขของชิงหมิง นายน้อยของพวกนางเท่านั้น และพวกนางก็ไม่เคยคิดที่จะเสียใจกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ด้วย
“แต่ชุดนี่ยังไงก็ต้องไปคืนเจ้าของ เอาไว้ให้เหมยอิงตัดชุดใหม่ให้ชิงหมิงก็แล้วกัน”ฟ้านลี่ว่าพลางมองชุดที่ตู้กู่ให้ชิงหมิงถอดมาคืนด้วย ดีหน่อยที่ชิงหมิงยังเด็กหากเป็นชายหนุ่มละก็มีหวังได้โดนมองว่าเป็นพวกโรคจิตแน่ ๆ
“งั้นข้าจะเอาไปคืนเอง ข้ายังต้องบอกซีฮันด้วยว่าพวกเราจะรับชิงชิงมาเป็นผู้ช่วย”ตู้กู่ว่าพลางหยิบชุดขึ้นมาถือ ขอเพียง ชิงชิง เป็นผู้ช่วยของพวกนางชิงชิงก็จะสามารถไปมาระหว่างวังตะวันตกกับวังหลักได้อย่างอิสระ เมื่อประกอบกับคำยินยอมจากเจ้าสำนักอย่างนายหญิงให้เข้าส่วนที่พักของนางได้เท่ากับว่าชิงชิงแทบจะสามารถไปที่ไหนก็ได้ในสำนักเลย