พรสวรรค์ระดับเทพ
King Of Sports บทที่ 5
หวังเต้าเป็นรองหัวหน้าโค้ชของทีมยิงธนูเมืองอู่โจว แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในระดับของผู้เฒ่าหลี่แต่เขาก็ยังเห็นว่าคุณภาพเทคนิคของถังหยานนั้นเกินกว่านักเรียนที่อยู่รอบตัวเขาถึงแม้ว่าจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง
แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือการเคลื่อนไหวของถังหยาน เขาเร็วมีเสถียรภาพและความแม่นยำด้วยข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆนั้นสามารถมองข้ามไปได้
การเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลนั้นไม่ใช่สิ่งที่คุณจะคาดหวังได้จากนักเรียนมัธยมปลาย แต่เป็นนักธนูชั้นหนึ่ง!
ในขณะที่เทคนิคของเขาเหลือที่ว่างอีกมากที่สามารถสอน แต่พรสวรรค์ไม่สามารถสอนกันได้
เขาได้พบสมบัติที่แท้จริง!
เขาแทบจะไม่สามารถระงับความสุขและความตื่นเต้นของเขาไว้ได้ผู้เฒ่าหลี่พูดถูกอนาคตของการยิงธนูในเมืองอู่โจวนั้นจะเปลี่ยนไปนับจากวันนี้
ถังหยานหยิบลูกศรที่สี่ของเขาขึ้นมาและทำชุดการเคลื่อนไหวทางเทคนิคภายใต้สายตาที่คาดหวังของหวังเต้า
ในการเคลื่อนไหวที่ราบรื่นในครั้งเดียวเขายิงได้อีก10 คะแนน!
หลังจากยิงเข้าเป้า 10 คะแนนติดต่อกันความจริงก็ชัดเจน
ถังหยานไม่จำเป็นต้องป้ายสีคู่ต่อสู้โดยไม่มีเหตุผลดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าเฉียนเฟิงแทรกแซงการยิงของเขาอย่างจงใจ
หวังเต้าหันไปเรียกกรรมการคนเดิมกลับมา
ความจริงได้ข้อสรุปหวังเต้ากลับมาที่โต๊ะของกรรมการ เขาตัดสินใจแล้วว่าจะต้องทำอะไรต่อไป
ลูกศรสองอันสุดท้ายของถังหยานยังคงเข้าเป้า 10 คะแนนทั้งสองครั้ง
เมื่อสิ้นสุดรอบสี่การทดสอบก็จบลง
แต้มสูงสุดคือเฉียนเฟิง แม้ว่ารอบสองของเขาจะแย่ แต่รอบต่อมาของเขาก็ค่อนข้างดีดังนั้นเขาจึงชนะด้วยคะแนนรวม 210 คะแนนโดยขึ้นอยู่กับความมั่นคงของเขา
เนื่องจากได้คะแนน 0 ในรอบแรกถังหยานทำได้แค่อันดับที่ 4 ด้วยคะแนน 179
ในตอนท้ายของการสอบ สามคนที่เข้าร่วมทีมยิงธนูของเมืองหนึ่งในนั้นคือถังหยานแต่สิ่งที่ผู้คนไม่คาดคิดก็คือเฉียนเฟิงผู้ที่ได้อับดับ1กลับถูกตัดสิทธ์
เมื่อเห็นผลลัพธ์ถังหยานก็อดสั่นเทาไม่ได้แม้ว่าวิญญาณของเขาจะอยู่ในวัยสามสิบกว่าๆ แต่ก็ไม่สามารถทำให้เขาระงับความตื่นเต้นไว้ได้
"หนุ่มน้อยจงตั้งใจฝึกซ้อมให้ดีฉันหวังว่าจะได้เห็นเธอเป็นตัวแทนของประเทศในวันหนึ่ง" ในขณะที่เขาหมกมุ่นอยู่กับความสำเร็จ ชายชราผมขาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเขาตบไหล่เขายิ้มแล้วเดินออกไปทิ้งคำพูดเหล่านั้นไว้ข้างหลัง
“รอผมด้วยครับ!”หวังเต้าตะโกนไล่หลังผู้เฒ่าหลี่ แต่ยังไม่ลืมหันมายิ้มให้ ถังหยานมองไปที่แผ่นหลังของทั้งสองคนที่เดินจากไป ในใจยังคงตื่นเต้นไม่หาย
หลังจากตรวจเอกสารทั้งหมดของเขาแล้วถังหยานก็โค้งคำนับและรีบวิ่งออกจากสนามแข่ง
เขากระตือรือร้นที่จะกลับบ้าน
เขาวิ่งไปตามถนนมองดูบ้านที่คุ้นเคยอย่างตื่นเต้น เขากลับแล้วมาอย่างแท้จริง
"แม่ครับผมกลับมาแล้ว" ทันทีที่เขามาถึงถังหยานรีบรีบเข้าไปในครัว
"ช้าช้าจะรีบไปไหน!" แม่ของเขากำลังทำอาหารตะโกนใส่ตังหยานเมื่อเห็นเขากระโจนเข้ามาในครัว
ถังหยานจ้องที่หญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่หน้าเตา เธอเป็นคนที่มีหน้าตาอ่อนโยนเธอดูสง่างามและเปล่งปลั่ง เธอมองเขาด้วยรอยยิ้มและเห็นความตื่นเต้นของเขา
"แม่ ... " ถังงหยานพูด อารมณ์ของเขาตกอยู่ในความวุ่นวายตาของเขาเริ่มที่จะแดง
แม่ของเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเต้านมเมื่อเขาอายุได้สามสิบปี พวกเขาต่อสู้กับมันสองสามปีหลังจากที่เธอได้รับการตรวจวินิจฉัย แต่ในที่สุดพวกเขาก็หมดเงินสำหรับการรักษาของเธอ สภาพของเธอค่อยๆแย่ลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งในที่สุดเธอก็จากไป
หลังจากนั้นสิ่งต่างๆไม่เคยเหมือนเดิม ความสัมพันธ์ของเขากับพ่อเริ่มแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาไม่เคยใกล้ชิดกันมาก่อนและตอนนี้หากไม่มีเธอที่เป็นกาวใจพวกเขาจะเริ่มทะเลาะกันทันทีในความเป็นจริงเหตุผลหลักที่เขาอยู่ในแอฟริกานั่นเป็นเพราะมีปัญหากับพ่อของเขา
เรื่องทั้งหมดนี้ถังหยานสาบานในใจว่าจะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้น!อีกเด็ดขาด
“ลูก..ร้องไห้? มีอะไรผิดปกติ เกิดอะไรขึ้นที่โรงเรียน?” แม่ถามเขาด้วยความเป็นห่วง
หลังจากหลายปีผ่านไปได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของแม่ ถังหยานไม่สามารถกลั้นอารมณ์ของเขาไว้ได้น้ำตาของเขาไหลออกมามากขึ้น
เมื่อเห็นว่าถังหยานร้องไห้หนักมากแม่ของเขาก็วิตกเริ่มกังวลเธอรีบกอดเขาและเริ่มพยายามปลอบเขา
“แม่ผมสบายดีผมแค่มีความสุขจริงๆฮ่า ๆ แม่ไม่เห็นเหรอว่าน้ำตาพวกนี้มีเป็นน้ำตาแห่งความสุข” ถังหยานกล่าวเริ่มฟื้นตัวเมื่อเขาเช็ดดวงตาด้วยรอยยิ้ม
แม่ของเขาได้ยินเสียงหัวเราะของเขาในที่สุดก็ปล่อยถังหยานออกจากอ้อมกอดของเธอ
เธอโล่งใจเธอถามว่า "อะไรทำให้ลูกมีความสุข?"
“ผมได้รับเลือกให้เป็นทีมยิงธนูของเมืองผมสามารถไปเรียนที่วิทยาลัยได้” ถังหยานกล่าวด้วยน้ำเสียงที่กำลังมองหาคำชม
"ไปเรียนที่วิทยาลัย?" แม่ของเขาถามด้วยความสงสัยและพูดว่า "แล้วการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของลูกล่ะ?"
"แม่ผมสามารถเข้าเรียนได้โดยไม่ต้องทดสอบเพราะเป็นทุนการศึกษาด้านกีฬาคะแนนการสอบไม่สำคัญเท่าไหร่ตราบใดที่ .... " ถังหยานอธิบายกับแม่ของเขา
หลังจากคำอธิบายแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจมากนักแต่ได้ยินว่าลูกชายของเธอได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแล้วเธอก็ดีใจมาก เธอลุกขึ้นและเริ่มทำอาหารเพื่อเฉลิมฉลอง
ถังหยานออกจากครัวและเริ่มเดินไปรอบ ๆ บ้านเก่าของเขา
เมื่อเห็นโซฟาหนังและนาฬิกาลูกตุ้มขนาดใหญ่หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยอารมณ์
ในขณะที่เขากำลังรำลึกความหลังประตูหน้าถูกเปิดออกและชายวัยกลางคนเดินเข้ามา
"พ่อกลับมาแล้ว" ถังหยานกล่าวพร้อมเห็นรูปร่างที่คุ้นเคย
พ่อของเขาพยักหน้าให้เขาสั้น ๆ จากนั้นก็ตรงไปที่โต๊ะและเริ่มชงชา
นี่คือพ่อของเขาช่างไฟฟ้าธรรมดาเรียบง่ายและน่าเบื่อ แต่เป็นเสาหลักของครอบครัว เขาออกไปทำงานตอนเช้าและกลับมาตอนค่ำ เขาแบกรับบ้านหลังนี้อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย
ที่โต๊ะอาหารเย็นถังหยานและพ่อแม่ของเขากินข้าวด้วยกันความรู้สึกในการทำเช่นนี้ช่างยอดเยี่ยมเขารู้สึกเหมือนอยู่ในภาพลวงตาเขาพูดคุยกับพ่อแม่ของเขาซึ่งทำให้แม่ของเขาหัวเราะด้วยความยินดีและโอ้อวดว่าลูกชายของเธอโตขึ้นมาอย่างไร
เขารายงานตัวกับทีมยิงธนูของเมืองในวันรุ่งขึ้น
2010 เป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับการยิงธนู ในเดือนพฤศจิกายนจะมีการแข่งกีฬาเอเชียนเกมส์ในฐานะแชมป์ยิงธนูปัจจุบันเกาหลีใต้ยังคงเป็นเต็ง1แต่ยังคงต้องห้ำหั่นอยู่างดุเดือดกับจีนก็เหมือนกับทั้งในการแข่งขันชิงแชมป์โลกหรือการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
ก่อนหน้านั้นในเดือนสิงหาคมการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกจะจัดขึ้นที่สิงคโปร์
เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์สำคัญสองเหตุการณ์นี้สมาคมยิงธนูแห่งชาติจะทำการทดสอบทีมชาติในเดือนกรกฎาคม
ในทำนองเดียวกันเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดงานระดับชาตินี้จังหวัดเจ้อเจียงก็จะทำการทดสอบในระดับจังหวัดในเดือนมิถุนายน
เป้าหมายของอู่โจว นั้นจะพยายามส่งนักธนูสองสามคนลงในรายชื่อทีมของจังหวัดให้ได้
นี่คือเหตุผลว่าทำไมการแข่งขันระดับโรงเรียนมัธยมจึงถูกจัดขึ้นเมื่อปลายเดือนเมษายน
การเลือกสรรนี้เป็นบันไดสำหรับถังหยาน นี่เป็นโอกาสของเขาที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จ