Ep.437 - สามชั้นสามสังหาร
3/5
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.437 - สามชั้นสามสังหาร
ต่อมา ฉินเฟิงก็กางเล็บคว้าตัวจิ่นเฟย กระโดดลงชั้นแรกไปพร้อมกัน
เมื่อก้าวเข้าสู่บันไดชั้นแรก กระแสพลังงานทำลายล้างก็พัดเข้าใส่พวกเขาทันที แต่ปราณกำลังภายในที่คอยคุ้มกันอยู่ภายนอกยังคงนิ่งสนิทไม่ไหวติง
ฉินเฟิงเริ่มก้าวเดินอย่างมั่นคง
เมื่อเทียบกับความเร็วของคนอื่นๆแล้ว ฉินเฟิงกับจิ่นเฟยเหมือนกำลังเดินเล่น
ช่วงเวลานี้ คนที่เร็วที่สุด ไปถึงชั้น 5 แล้ว!
ตูม!
ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล D ระเบิดปราณกำลังภายใน ทิ้งตัวลงไปยังชั้น 5
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาลงไป ทุกคนกลับสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าปราณกำลังภายในของเขาเริ่มเกิดการสั่นสะเทือน
ก็เหมือนกับในอัตราเดิมพัน ชั้นไหนที่รางวัลเพิ่มเป็นเท่าตัว นั่นหมายถึงกระแสพลังงานทำลายที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ยังไม่พอ บันไดในชั้นนี้ยังหมุนตลอดเวลา ค่อยๆชักนำพวกเขาออกจากตำแหน่งที่ปลอดภัยทีละน้อย ทีละน้อย บริเวณโดยรอบเป็นสีเทาทั้งหมด ส่วนเหนือศีรษะ เหมือนจะถูกปิดไว้ด้วยหลังคาโลหะ
อาจกล่าวได้ว่า ตอนนี้พวกเขาอยู่ในมิติสุญญากาศ
ยังไม่พอ แก่นอบิลิตี้ราชันย์เลเวล C ที่โผล่มาให้พวกเขาเห็นเมื่อครู่ กลับค่อยๆหมุนไปอีกทาง ระยะห่างไม่ใช่ 80 เมตรอีกต่อไป หากแต่ห่างออกไปมากถึง 920 เมตร!
“ระยำเถอะ”
“สารเลว! เป็นเพราะพวกเอ็งนั่นแหละมัวแต่ขัดขวางบิดา!”
“ว่าไงนะ ปากแบบนี้ อยากหาเรื่องตายใช่ไหม?”
ฝูงชนโดยรอบเริ่มสบถ แต่ละคนกระจัดกระจายอยู่คนละชั้น และเนื่องจากบันไดมันหมุนวนอยู่ตลอดเวลา ฝูงชนที่ก่นด่ากันเลยแยกไปคนละทางโดยปริยาย
กลุ่มคนที่ยังอยู่ในชั้นแรก ยังมีอีกเยอะ
ฉินเฟิงค่อยๆก้าวเดินลงไปยังชั้นสองอย่างต่อเนื่อง
แม้ทุกย่างก้าวของจิ่นเฟยจะเชื่องช้า แต่ไม่นานเจ้าตัวก็พบว่าฉินเฟิงกำลังปกป้องตนจริงๆ เพราะเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย กระทั่งความเจ็บปวดจากกระแสพลังงานทำลายล้างที่กำลังพัดเข้าใส่ ก็ไม่ส่งผลอะไรอีกต่อไป
ในความคิดของเขา เริ่มเกิดประกายแห่งความหวัง
หรือว่าคนๆนี้จะสามารถทำได้จริงๆ?
แต่แล้วความหวังในแววตาของจิ่นเฟย ก็กลับกลายเป็นมืดมนอีกครั้ง
“ระวังให้ดี คนข้างหน้าคุณคือจางเป่ย เป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล D4 เขาฝึกฝนเทคนิคกำลังภายในระเบิดปราณขั้น C กระบวนท่าวรยุทธที่สร้างชื่อเสียงให้เขาก็คือ ‘ท่าพันฝ่ามือ’ อย่าเข้าไปใกล้เขาเชียว”
อย่างไรก็ตาม พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา!
แค่การโจมตีแรก จางเป่ยก็ระเบิดกระบวนท่าที่สร้างชื่อให้แก่ตนใส่ฉินเฟิงทันที!
กำลังภายในปะทุโหม แม้จะถูกรบกวนโดยกระแสพลังงานทำลายล้าง แต่มันก็ไม่อาจหยุดจางเป่ยได้ ฝ่ามือนับไม่ถ้วนเริ่มผุดพราย ปกคลุมรอบกายฉินเฟิง
“มันจบแล้ว …”
หัวใจของจิ่นเฟยเต้นระรัว เบิกตากว้างจ้องมองฝ่ามือนับไม่ถ้วน ที่กำลังตรงเข้ามาตรงหน้า
แต่ในเวลานั้นเอง ฉินเฟิงก็เริ่มยกแขนขึ้น
พร้อมกับแสงไสวสีทองที่พรั่งพราวออกจากมือเขา ก่อร่างเป็นกรงเล็บมังกรขนาดใหญ่
กรงเล็บมังกรทะลวงพยุหะฝ่ามือในพริบตา ตรงเข้าหาจางเป่ยที่อยู่เบื้องหลัง ฟาดเข้าใส่กายเขาอย่างโหดเหี้ยม
ปัง!
เพียงฉาดเดียว เล่นเอาจางเป่ยบินกลับหัวกลับหาง ลอยไปไกลกว่า 30 เมตรทันที
ยังไม่พอ อำนาจจากฝ่ามือมังกร ยังทำลายปราณกำลังภายในของจางเป่ยจนป่นปี้ และส่งร่างเขาร่วงตกลงสู่ชั้นสาม
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้วว!
สายลมทำลายล้างพัดผ่านจางเป่ย ปรากฏรอยจ้ำแดงนับไม่ถ้วนบนกายเขา พริบตาเดียวจางเป่ยก็กลายเป็นมนุษย์เลือดไปในทันที
โครม!
ร่างของจางเป่ยร่วงตกลงในบันไดชั้น 3 จากนั้นก็แน่นิ่งไม่ไหวติงอีกเลย
คนอื่นๆต่างคิดกันว่าจางเป่ยคงถูกสังหารลงโดยกระแสพลังงานทำลายล้าง แต่จิ่นเฟยทราบดี ว่าจางเป่ยตายเพราะฝ่ามือของฉินเฟิง!
--ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉินเฟิง มันมากเกินไป! เขาสามารถรับมือกับเลเวล C5 ได้ ฉะนั้นเลเวล D4ไม่ต้องกล่าวถึง !
“อา …” จิ่นเฟยแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ไม่ ไม่ ไม่ บังเอิญ นี่ต้องบังเอิญแน่ๆ เขาอาจแค่โชคดี!
แม้จะคิดเช่นนั้น แต่เมื่อลองเอามือทาบอก จิ่นเฟยกลับพบว่า หัวใจของเขายังคงเต้นครึกโครม
ฉินเฟิงเริ่มเดินหน้าต่อ มุ่งตรงไปยังชั้นสองของเทียนไต้
กระแสพลังงานทำลายล้างของที่นี่แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย กระทั่งการไหลเวียนของกระแสอากาศยังสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
อย่างไรก็ตาม ปราณกำลังภายในของฉินเฟิง ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสั่นไหวแม้แต่น้อย
ยังคงมั่นคงหนักแน่น
จิ่นเฟิยเอ่ยปากอีกครั้ง
“ระวัง นั่นปรมาจารย์ไห่ซาน รีบหนีเร็วเข้า!”
ชายคนนี้คือคนที่ลงบันไดชั้นแรก ไปก่อนหน้าฉินเฟิง แต่เนื่องจากบันไดมันเคลื่อนที่เป็นวงกลม
ชั้นแรกวนทวนเข็มนาฬิกา ส่วนชั้นสองวนตามเข็มนาฬิกา ดังนั้นเมื่อฉินเฟิงเดินลงไปชั้น 2 เขาเลยจ๊ะเอ๋กับปรมาจารย์ไห่ซานทางด้านซ้ายเข้าพอดี
อีกฝ่ายเป็นชายหัวล้าน ในมือกุมขวานใบกว้าง
ไม่รอให้อธิบายไปมากกว่านี้ ปรมาจารย์ไห่ซาน วาดคมขวานเป็นแนวนอน ตรงเข้าสะบั้นศีรษะผู้มาเยือนทันที
ฉินเฟิงยกแขนซ้ายขึ้นและ--
“--ลำแสงเปลวเพลิง!”
บรึ้ม!
อำนาจเปลวไฟอันยิ่งใหญ่ ทะลักออกมาจากอย่างคลั่ง
จิ่นเฟยเห็นกับตาว่าปรมาจารย์ไห่ซานใช้ขวานยักษ์ทานรับได้อย่างทันท่วงที แต่เขากลับถูกกดดันจนถอยหลังไปไกลกว่า 10 ก้าว ยังไม่พอปราณกำลังภายในของไห่ซานยังถูกทำลาย!
“เสาแมกมา!”
ใต้เท้าของไห่ซานกลายเป็นแอ่งลาวา พวกมันทะปุขึ้นสู่ฟากฟ้า โถมกลืนไห่ซานเอาไว้ภายใน
“อ๊ากกกกก”
ปรมาจารย์ไห่ซานกรีดร้องน่าเวทนา ผ่านพ้นไปเพียง 5 วินาที ไฟก็มอดลง ทั้งคนทั้งขวานมอดจนเหลือแต่ขี้เถ้า
หน้าผากของฉินเฟิงย่นเข้าหากันเล็กน้อย และเริ่มก้าวไปข้างหน้า
“ทั้งจางเป่ยและคนๆนี้ ทำไมถึงไม่มีใครพกอุปกรณ์รูนมิติมาด้วยเลย?”
จิ่นเฟยตะลึงจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้วเวลานี้
พอได้ยินคำถามของฉินเฟิง เขาก็อธิบายออกไปโดยไม่รู้ตัวว่า “ไม่มีใครพกมันติดตัวไว้หรอก เพราะการลงขั้นบันไดของเมืองหวัง มันจะสร้างความเสียหายต่ออุปกรณ์รูนทุกชนิด หากปราณกำลังภายใน หรือโล่อบิลิตี้ที่คอยปกป้องอยู่ภายนอกสลายไปแม้เพียงครั้งเดียว ทุกอย่างที่อยู่บนตัวจะถูกทำลายทันที”
ฉินเฟิงไม่ทันคาดคิดถึงเรื่องนี้เลย
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่เคยเข้าร่วมงานเทียนไต้มาก่อน
นี่คือครั้งแรก
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้”
“เดี๋ยวสิ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะพูดซะหน่อย --คุณเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณไม่ใช่หรอ? แล้วสามารถปลดปล่อยอบิลิตี้ได้ยังไงกัน!” ดวงตาของจิ่นเฟยฟุ้งไปด้วยความตกใจ
ฉินเฟิงบีบบังคับให้เขาต้องลงบันไดเทียนไต้ ในสายตาของจิ่นเฟย ราวกับคนที่กำลังจะถูกประหาร ดังนั้นแม้จิ่นเฟยจะกลัวฉินเฟิง แต่เขาก็ยังเกลียดอีกฝ่ายเช่นกัน แต่เมื่อลงบันไดมาแล้วถึง 2 ชั้น ฉินเฟิงกลับยังคงปกป้องตนและไม่ปล่อยให้ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย
จิ่นเฟยลองสังเกตฉินเฟิงอย่างรอบคอบอีกครั้ง เจ้าตัวพบว่าใบหน้าอีกฝ่ายแม้เรียบเฉย แต่ก็ไม่แสดงออกถึงความโหดเหี้ยม แตกต่างกับผู้คนอื่นๆในเมืองหวัง
เมื่อนึกถึงจุดนี้ ความเกลียดชังในหัวใจก็เริ่มลดทอนลง ความหวาดกลัวก็เช่นกัน แต่จิ่นเฟยยังไม่ไว้ใจฉินเฟิงอยู่ดี
ในเวลานี้เขารู้สึกตกใจกับอีกฝ่ายมากกว่า
ฉินเฟิงยิ้มบาง “ที่นายต้องรู้ มีแค่เรื่องเดียว นั่นคือหากฉัยเอ่ยปากว่าจะทำอะไร นั่นหมายความว่าฉันมั่นใจว่ามีความแข็งแกร่งมากพอที่จะทำมัน!”
ฉินเฟิงก้าวลงไปข้างหน้าอีกครั้ง
ลงสู่ขั้นบันไดชั้น 3
แต่ในเวลานั้นเอง ผู้ใช้พลังที่อยู่บนบันไดชั้น 4 ก็กระโดดขึ้นมาชั้น 3 อย่างกะทันหัน
“ระวัง นั่นเสี่ยว ….”
จิ่นเฟยเริ่มอธิบายรายละเอียดของศัตรูอีกครั้ง
แต่ฉากที่เกิดขึ้นต้องหน้า มันบังคับให้เขาต้องหุบปากลง!
--ฉินเฟิงชักมีดกษัตริย์ครามออกมา วาดสะบัดอย่างโหดเหี้ยม ไร้ซึ่งความลังเลใดๆ จังหวะที่มีดกรีดผ่านอากาศ ใบมีดก็เริ่มลุกไหม้
ปราณกำลังภายในของอีกฝ่ายสลายไปทันที คนที่คิดเข้ามาขวางฉินเฟิง ถูกตัดเป็นสองซีก
เลือดในส่วนเนื้อที่ถูกเฉือนมิอาจทะลักออกมาในทันที เนื่องจากถูกคั่วจนรอยปิดสนิทด้วยมีดเปลวเพลิง
ไม่รอให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ กระแสพลังงานทำลายล้างก็กระพือใส่เขา เป่าร่างศพสองซีก สลายหายไปทันที มิอาจเห็นร่องรอยได้อีกเลย
ฉินเฟิงเริ่มก้าวต่อไป
เพียงลงมาบันไดชั้น 3 ฉินเฟิงก็สามารถสังหารศัตรู 3 คนได้อย่างง่ายดาย
ในสายตาของจิ่นเฟย นี่มันช่างเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ
นอกจากนี้ คนบนเวทีที่กำลังรับชม ทั้งหมดต่างตกตะลึงไม่แพ้กัน
ขณะนี้ คนที่สวมชุดคลุมดำ ท่าทีกลายเป็นเย็นเยียบ
นั่นเพราะเขาเริ่มเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้น!
ระหว่างอธิบาย ฉินเฟิงก็สามารถก้าวลงไปถึงชั้น 4 ได้แล้ว
อีกแค่ก้าวเดียว เขาก็จะสามารถลงไปถึงชั้น 5 นั่นเท่ากับเสร็จสิ้นการเดิมพันแรก แต่แน่นอน นั่นมันในกรณีที่จิ่นเฟยยังมีชีวิตอยู่
“ฆ่า!”
“ไม่ต้องสนคนข้างหน้า จัดการเจ้าเลเวล E ข้างหลังซะ!”
“ทำใจเชื่อไม่ได้จริงๆ แต่ตอนนี้ล่ะ ฉันจะเด็ดหัวแกเอง!”