บทที่ 39 เครื่องจักรทางการเกษต(อ่านฟรี16-01-2021)
ตกดึกงานเลี้ยงในคฤหาสน์ของวิสเคานท์เลสลี่ก็สิ้นสุดลง แขกได้จากไปแล้วและในที่สุดคฤหาสน์ก็กลับคืนสู่ความเงียบสงบ
ในห้องโถงใหญ่ที่หลังจากงานเลี้ยงจบลงก็ยังยุ่งเล็กน้อย วิสเคานท์เลสลี่จ้องมองไปที่ซูยี่ที่กำลังคุยอยู่กับสเตลล่า ความชื่นชมปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขาอย่างไม่อาจเก็บซ่อนได้
งานเลี้ยงในวันนี้จัดขึ้นตามคำขอของซูยี่ จุดประสงค์คือประชาสัมพันธ์แอร์เวทมนตร์ที่เพิ่งถูกคิดค้นขึ้นให้เป็นที่รู้จัก เขาชื่นชมกับความคิดนี้มาก
ซูยี่ได้กำหนดให้แอร์เวทมนตร์เป็นผลิตภัณฑ์ระดับกลางไปทางสูงดังนั้นจึงได้กำหนดเป้าหมายเป็นผู้ที่มีสถานะและตำแหน่งสูงในเมืองบันต้า กลุ่มลูกค้าคือคนที่กระเป่าหนัก
ในงานเลี้ยงครั้งนี้เนื่องจากมันถูกจัดขึ้นโดยวิสเคานท์เลสลี่งกล่าวได้ว่าคนที่มาล้วนแล้วแต่ผ่านข้อกำหนดนี้แล้ว
แต่ทว่าซูยี่ขอให้เขาจัดการแค่เรื่องนี้เท่านั้น ส่วนจะทำอย่างไรต่อนั้นซูยี่จะเป็นคนจัดการทั้งหมด วิสเคานท์เลสลี่จึงไม่เคยรู้เลยว่าซูยี่จะจัดการอย่างไร แต่ตอนนี้เขาได้รับรู้แล้ว
นั่นเป็นเพราะว่าในระหว่างงานเลี้ยงมีบางคนได้พูดถึงแอร์เวทมนตร์เมื่อได้พูดคุยกับวิสเคานท์เลสลี่ หลังจากที่พวกเขาทราบราคาและค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้เพื่อให้มันทำงานพวกเขาก็ไม่ปกปิดความต้องการที่จะซื้อเลยแม้แต่น้อย
แม้แต่เจ้าเมืองลอร์ดเคานต์ฌอนซาโมก็ไม่มีข้อยกเว้น
ดังนั้นวิสเคานท์เลสลี่จึงมั่นใจว่าแอร์เวทมนตร์นี้จะสร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ในหมู่ขุนนางเมืองบันตา คนที่ทำให้เกิดกระแสนี้ในสายตาของขุนนางก็คือวิสเคานท์เลสลี่
“ถ้าพวกเขารู้ว่าเรื่องนี้ได้อยู่ในการคำนวณของซูยี่ข้าละสงสัยจริงๆว่าพวกเขาจะมีท่าทีแบบไหนกันนะ?”วิสเคานท์เลสลี่ลอบคิดในใจ
ในตอนนี้ซูยี่ได้จบการพูดคุยกับสเตลล่าแล้วเดินเข้ามา
“ท่านวิสเคานท์งานเลี้ยงในคืนนี้ค่อนข้างประสบความสำเร็จ ข้าต้องขอบคุณจริงๆ”ซูยี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหรอก ถึงอย่างไรข้าก็ถือได้ว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของหอการค้าเฟรสเทค”วิสเคานท์เลสลี่ส่ายหัว“ข้ามีคำถามที่จะถามเจ้า คนที่มีกำลังจะซื้อในเมืองบันต้านั้นมีไม่มาก ด้วยข้อจำกัดนี้หากเจ้าขายพวกมันในเมืองบันต้ากำไรที่ได้มันจะเทียบได้กับพัดลมเวทมนตร์ได้อย่างนั้นเหรอ?”
“เรื่องนี้ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเลย” ซูยี่หัวเราะ“เนื่องจากแอร์เวทมนตร์นี้ถือเป็นผลิตภัณฑ์ระดับกลางไปทางระดับสูงดังนั้นโดยปกติแล้วแผนการขายจึงแตกต่างจากพัดลมเวทมนตร์ ข้าได้ลงนามในข้อตกลงกับหอการค้าฟาร์ซัคในเมืองซาลตั้นและในเร็วๆนี้ที่เมืองซาลตั้นก็จะมีร้านค้าพิเศษถูกจัดตั้งขึ้นซึ่งจะทำหน้าที่ขายสินค้าของหอการเฟรสเทคของเรา ถึงเวลานั้นแอร์เวทมนตร์แบรนด์เฟรสเทคก็จะภูกขายที่เมืองซาลตั้นด้วย”
“เมืองซาลตั้น?” ทันใดนั้นวิสเคานท์เลสลี่ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้“ อืมมีขุนนางหนุ่มสองคนที่มาจากเมืองซาลตั้นเพื่อเยี่ยมญาติของพวกเขาเจ้าคงไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาแล้วใช่ไหม”
ซูยี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ วิสเคานท์เลสลี่ช่างเฉียบแหลมจริงๆ”
วิสเคานท์เลสลี่จ้องมองไปที่ซูยี่กลายเป็นจริงจังมากขึ้น
ชายคนนี้เขาคำนวณถึงจุดนี้ด้วย เขาช่างน่ากลัวจริงๆ
แต่ไม่นานเขาก็เปลี่ยนความคิดนี้วิสเคานท์เลสลี่ชื่นชมการมองการณ์ไกลของตัวเองจริงๆ
โชคดีที่เขาได้เห็นความิพิเศษของซูยี่จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้และตัดสินใจร่วมมือกับเขา มิฉะนั้นหากเขาพลาดโอกาสในตอนนั้น นั่นก็นับได้ว่าเขาพลาดอย่างมหาศาล
ไม่ต้างกล่างถึงเรื่องอื่น เพียงแค่การขายพัดลมเวทมนตร์เพียงเดือนเดียววิสเคานท์เลสลี่ก็ได้รับไปแล้วกว่าพันเหรียญทอง
แม้ทรัพสินของวิสเคานท์เลสลี่จะมากมาย แต่หนึ่งพันเหรียญทองก็ไม่ถือว่าเป็นจำนวนเล็กน้อย
ยิ่งไปกว่านั้นวิสเคานท์เลสลี่เชื่ออย่างลึกซึ้งว่าหลังจากที่หอการค้าเฟรสเทคมีขนาดใหญ่ขึ้นรายได้ที่มาจากส่วนแบ่ง 30% ของเขาก็จะค่อยๆเพิ่มขึ้นเช่นกัน ในท้ายที่สุดมันจะเกินหนึ่งพันเหรียญทอง
“ท่านวิสเคานท์นอกเหนือจากแอร์เวทมนตร์เวทมนตร์แล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากจะพูดคุยกับท่าน” ซูยี่กล่าว
“โอ้? มันคืออะไร? พูดมาได้เลย”
ซูยี่พิจารณาเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า“ท่านวิสเคานท์ตอนนี้ก็กำลังจะเข้าสู่เดือนกันยายนและดินแดนของท่านน่าจะถึงช่วงเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วงแล้วใช่ไหม?”
วิสเคานท์เลสลี่ชะงักเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าซูยี่จะพูดเรื่องนี้
“ อืมถูกต้องใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว เจ้าพูดถึงเรื่องนี้ทำไม”
ซูยี่หัวเราะ“ท่านยังจำทาสตัวเล็กที่ข้าซื้อมาจากท่านครั้งที่แล้วได้ไหม? เหตุผลทีข้าซื้อเธอมาเพราะเธอทำวัวหายซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง ด้วยเหตุนี้ผู้คุมจึงเกือบทุบตีเธอจนตาย”
วิสเคานท์เลสลี่เคยได้ยินพ่อบ้านบรูไนรายงานเรื่องนี้มาก่อน เขามองไปที่ซูยี่และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“อะไร? เจ้าต้องการขอความเป็นธรรมให้กับทาสตัวน้อยตอนนี้งั้นเหรอ? ให้ข้าบอกเจ้าว่าการฝึกวัวตอนนี้ยากมากวัวมีค่ามากกว่าทาสคนเดียว เธอที่ทำวัวหายการทุบตีเธอจนตายนั่นยังนับว่าสบายเกินไปด้วยซ้ำ”
ซูยี่แอบถอนหายใจในใจ แม้ว่าตอนนี้เขาจะถือว่าค่อนข้างสนิทกับวิสเคานท์เลสลี่แต่เขาก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนน้ำเสียงที่ไม่แยแสของวืสเคานท์เลสลี่ที่มีต่อทาสได้
แน่นอนว่าวิสเคานต์เลสลี่ปฏิบัติต่อทาสเป็นบรรทัดฐานของทวีปไซน์ ซูยี่ไม่มีความสามารถและไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนทัศนคตินี้โดยธรรมชาติแล้วเขามีแผนอย่างอื่นเมื่อพูดถึงสิ่งนี้
“ความหมายของท่านวิสเคานท์คือวัวหายากมากและมีความสำคัญต่อการทำการเกษตมากจึงมีมูลค่าสูงมากใช่ไหม?”ซูยี่ถาม
“แน่นอนว่ามันเป็นแบบนี้แล้วซูยี่เจ้าพูดเรื่องนี้ทำไม”วิสเคานท์เลสลี่เริ่มใจร้อนเล็กน้อย
ซูยี่หัวเราะ“ถ้าอย่างนั้นท่านวิสเคานท์ถ้าข้าสามารถสร้างเครื่องมือทดแทนวัวได้ท่านยินดีจ่ายเงินเท่าไหร่เพื่อซื้อมัน”
วิสเคานท์เลสลี่มองไปที่ซูยี่ด้วยความสงสัย“เป็นไปได้ไหมที่เจ้าได้ประดิษฐ์เครื่องจักรเวทมนตร์ที่สามารถทำงานในที่ดินนี้ได้? นี่ไม่ใช่ความจริงใช่มั้ย? งานในฟาร์มมีความซับซ้อนเครื่องจักรชนิดใดที่แข็งแรงพอที่จะทดแทนการใช้วัวได้”
“ท่านแค่ตอบมาเท่านั้น ท่านวิสเคานท์ถ้าเครื่องจักรนี้สามารถทดแทนการทำงานของวัวได้และมันยังมีประสิทธิภาพมากกว่าวัว ท่านจะยอมรับราคาไหน?”
วิสเคานท์เลสลี่ครุ่นคิดและยกมือขึ้น“ห้าสิบเหรียญทองต่อหนึ่งเครื่องและซื้อเท่าที่เจ้ามี”
ดวงตาของซูยี่สว่างขึ้น“ท่านวิสเคานท์ทีึท่านพูดมันไม่เกินจริงไปหน่อยรึ?”
“ไร้สาระ!” วิสเคานท์เลสลี่กล่าวอย่างรวดเร็วว่า“เจ้าไม่รู้รึว่าพื้นที่กว่าครึ่งของข้ายังไม่ได้รับการพัฒนานั่นเป็นเพราะข้าไม่มีกำลังคนเพียงพอที่จะเพาะปลูก ข้าไม่มีทางเลือกจึงปล่อยให้มันเป็นพื้นที่รกร้าง หากมีเครื่องจักรเวทมนตร์แบบที่เจ้าพูดถึงแน่นอนว่าข้าต้องการให้มากที่สุดเท่าที่เจ้ามีจะดีที่สุดถ้าข้าสามารถทำให้ดินแดนทั้งหมดของข้าใช้งานได้ นอกเหนือจากนี้ข้ากล้ายืนยันว่าไม่เพียงแตข้า ในเมืองบันตาอาณาจักรลัมปุรีทั้งหมดและทวีปไซนส์ทั้งหมดยังมีขุนนางอีกมากมายที่ต้องการสิ่งนี้ ถ้าเจ้าสามารถพัฒนาเครื่องจักรเวทย์มนตร์ชนิดนี้ได้จริง ๆ ข้ารับรองได้ว่ามันจะทำให้ผู้คนต่างฉกฉวยมันอย่างแน่นอน”
หลังจากพูดสิ่งนี้วิสเคานท์เลสลี่ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า“เฮ้ซูยี่เจ้าคงไม่ได้คิดค้นสิ่งนี้ขึ้นมาแล้วใช่ไหม? นี่ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าสามารถพูดเล่นได้”
ซูยี่เผยรอยยิ้มจาง ๆ และส่ายหัว“แน่นอนว่าไม่ตอนนี้ยังเป็นเพียงแค่ความคิดเท่านั้น แต่ด้วยคำตอบที่น่าตื่นเต้นจากท่านวิสเคานท์ทำให้ข้าสนใจที่จะกลับไปค้นคว้าสิ่งนี้มากขึ้น”
เมื่อเห็นรอยยิ้มลึกลับบนใบหน้าของซูยี่หัวใจของวิสเคานท์เลสลี่ก็สว่างขึ้น
“คนคนนี้บางทีเขาอาจจะคิดค้นสิ่งนี้ขึ้นมาแล้ว”
จริงๆแล้ววิสเคานท์เลสลี่ประเมินซูยี่ไว้สูงเกินไป
หลังจากเห็นวิเวียนเกือบถูกทำร้ายจนตายหลังจากทำวัวหาย ซูยี่ก็ตัดสินใจที่จะค้นคว้าเครื่องจักรทางการเกษต แต่จนถึงตอนนี้ไม่เพียงแต่เขาไม่มีเวลาเขายังไม่มีเงินทุนและกำลังคนที่จะค้นคว้าสิ่งนี้ ดังนั้นนี่จึงเป็นความคิดในใจของเขามาโดยตลอดและไม่ได้กลายเป็นความจริงเลย
แต่ตอนนี้มันต่างออกไป แม้ว่าซูยี่จะยังไม่มีเวลาเพียงพอในตอนนี้ แต่กำลังคนที่เขามีในตอนนี้นั้นไม่น้อยเลยไม่ต้องพูดถึงคนแคระที่เป็นกำลังสำคัญทั้งร้อยคนที่มาจากเผ่าของปรมจารญ์ลานัส
ด้วยความช่วยเหลือของคนแคระเหล่านี้ที่มีฝีมือไม่ต่ำกว่าปรมจารย์ลานัส ซุยี่สามารถทำสัญญากับประธานฟาร์ซัคและจัดหาเครื่องจักรที่เกี่ยวข้องให้กับเขาเพื่อสร้าง พัดลมเวทมนตร์รุ่นที่สอง
แต่การทำเครื่องจักรเหล่านี้ไม่ซับซ้อนมากนักดังนั้นเหล่าคนแคระจึงใช้เวลาไม่นานก็สามารถทำเครื่องจักรพวกนั้นเสร็จ และตอนนี้พวกเขาก็กำลังศึกษาความรู้เกี่ยวกับเครื่องจักรบางอย่างที่ซูยี่มอบให้และส่วนใหญ่แล้วพวกเขาก็ว่างดังนั้นซูยี่จึงคิดเกี่ยวกับเครื่องจักรทางการเกษตรนี้้
สำหรับคนอย่างซูยี่แล้วทวีปไซน์ที่มีระดับเทคโนโลยีและมาตรฐานการครองชีพที่ต่ำกว่าที่โลกเดิมเทคโนโลยีทางการเกษตเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้
เป็นเหมือนที่วิสเคานท์เลสลี่กล่าวไว้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเขายังคงรกร้างเพราะเขาไม่มีคนเพียงพอที่จะเพาะปลูกได้
หากในทวีปไซน์เป็นแบบนี้ทั้งหมด ใคร ๆ ก็สามารถจินตนาการได้ว่าในทวีปนี้มีดินแดนรกร้างอยู่มากเพียงใด
ด้วยเหตุนี้ทวีปไซน์จึงมีมาตรฐานในการเก็บเกี่ยวต่ำอยู่เสมอดังนั้นสิ่งนี้จึงนำไปสู่มาตรฐานการครองชีพที่ต่ำสำหรับผู้คนในทวีปนี้ อย่างน้อยในเมืองเล็ก ๆ อย่างเมืองบันต้าทุกปีก็จะมีข่าวคนตายจากความอดอยาก
จากการพูดคุยกับไฮนซ์ซูยีรู้ว่าเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนทวีปไซนส์เกิดความอดอยากครั้งใหญ่เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ตั๊กแตนระบาดไปทั้งดินแดนในเวลานั้นและสร้างปัญหาให้กับทวีปนี้โดยมีประเทศเล็ก ๆ หลายแห่งถูกทำลายในคืนเดียว
ท่าทางหวาดกลัวของไฮนซ์ ซูยี่เห็นอย่างชัดเจน
สำหรับซูยี่มาจากสังคมขั้นสูงอย่างโลกเขาจะเคยได้เห็นฉากนี้ได้อย่างไร
แค่จินตนาการเขาก็รู้สึกหวาดกลัวแล้ว
ดังนั้นเขาจึงตั้งใจที่จะคิดค้นเครื่องจักรทางการเกษตรมากขึ้น
“ถ้าสิ่งนี้เพียงพอที่จะเพิ่มมาตรฐานความเป็นอยู่ของผู้คนในทวีปนี้บางทีนี้อาจจะเป็นเหตุผลที่ข้าได้มาที่โลกนี้”
ซูยี่มองไปบนท้องฟ้สยามราตรีที่เต็มไปด้วยดวงดาว ในเวลาเดียวกันเขาก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง