บทที่ 218
อาภรณ์สายลมและทักษะเหยียบนภาถูกใช้งานอย่างเต็มกำลังดาบสีดำในมือถูกกำชับไว้จนแน่นกระหน่ำฟาดฟันออกไปอย่างไม่ลดละเคร้งเคร้งเคร้งเคร้งเสียงปะทะกันของดาบเสียงดังสนั่นเสื้อผ้าสวมใส่สีดำฉีกขาดเลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาจากบาดแผลอย่างช้าชายฉกรรจ์กัดฟันระเบิดพลังลมปราณสีดำขั้นกลางหวังหลบหนีตูมแต่ทว่าชายหนุ่มด้านหน้าหาได้กระเด็นออกไปอย่างที่หวังยังคงฟาดฟันดาบสีดำในมืออย่างไม่ลดละตนทำได้เพียงตวัดดาบขึ้นปัดป้องเคร้งเคร้งเคร้งเคร้งมือขวาด้านช้าไร้ความรู้สึกอีกต่อไปไม่นานดาบในมือก็หลุดกระเด็นฉับเสียงคมดาบสีดำวาดผ่านแขนขวาหลุดกระเด็นร่วงลงพื้นชายฉกรรจ์รีบซัดฝ่ามือซ้ายลงพื้นดิน เปรี้ยง พร้อมกับถีบเท้าถอยออกมาลมหายใจเหนื่อยหอบค่อยๆดังแว่วออกมา
เนี่ยฟงแสยะยิ้มเก็บดาบสีดำในมือพร้อมกับเรียกแส้แข็งออกมาถือเอาไว้ไม่ถึงสองลมหายใจก็พุ่งเข้าหาชายฉกรรจ์ด้านหน้าอีกครั้งแส้แข็งสั่นสะท้านมีประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากปล้องถูกฟาดหวดอย่างรวดเร็วไปที่หน้าอกเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เสียงกระดูกแตกดังลั่นติดตามเลือดสีแดงสดกระอักออกมาเต็มหน้าอกความเจ็บปวดส่งถึงสมองอย่างรวดเร็วไม่ถึงสองลมหายใจก็ได้ยินเสียงฟาดหวดอีกครั้ง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ครั้งนี้ชายฉกรรจ์ถึงกับร่วงลงกับพื้นลมหายใจรวยริน ขาทั้งสองถูกฟาดหวดจนกระดูกแตกเช่นเดียวกับแขนซ้ายที่ตอนนี้ห้อยอยู่ข้างกาย
“ใจเย็นๆพี่ชายข้าจะรักษาท่านเอง”
เนี่ยฟงกล่าวออกมาพร้อมกับฟาดหวดแส้แข็งออกไปปล้องสีขาวยืดยาวออกไปรัดตัวชายฉกรรจ์ด้านหน้าพร้อมกับถูกดึงเข้ามาอย่างแรงหมัดซ้ายถูกต่อยเข้าไปที่หน้าท้อง เปรี้ยง ของเก่าในท้องถึงกับสำรอกออกมา จุดเสียงถูกจี้สกัดเอาไว้เม็ดยาสีแดงถูกยัดเข้าไปในปาก ไม่ถึงสิบลมหายใจแส้แข็งในมือขวาถูกฟาดหวดอีกครั้ง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ผ่านไปยี่สิบลมหายใจเม็ดยาสีแดงก็ถูกใช้อีกครั้งพร้อมกับเสียงหวดของแส้แข็ง หยางเวยที่กำลังรักษาอาการบาดเจ็บถึงกับขมวดคิ้วทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็ตื่นตกใจไม่น้อย เสื้อผ้าสีดำของชายฉกรรจ์ถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉานศีรษะยุบใบหน้าแตกยับ แขนขวาขาด แขนซ้ายและขาทั้งสองถูกทุบตีจนบิดเบี้ยวผิดรูป ไม่นานเนี่ยฟงก็เดินกลับมาพร้อมกับแหวนในมือหนึ่งวง
“อาการเจ้าดีขึ้นแล้ว”
“อืมขอบใจเจ้ามากที่เข้ามาช่วยเหลือข้าเมื่อครู่ว่าแต่สิ่งที่เจ้าถืออยู่มันคือสิ่งใด”
“มันคือแส้แข็งข้าได้มันมาจากในสุสานโบราณเจ้าสนใจหรือไม่”
เนี่ยฟงโยนแส้แข็งในมือให้หยางเวย ทันทีที่ใช้มือขวาคว้าจับหยางเวยก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่นพร้อมกับรีบใช้มือซ้ายช่วยประคอง
“ไอ้บ้าเอ๊ยทำไมมันหนักเช่นนี้เจ้าถือมันได้อย่างไร”
เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้วเดินเข้าไปคว้าแส้แข็งออกจากมือหยางเวยพร้อมกับกวัดแกว่งไปมา
“ข้าไม่เห็นมันจะหนักอย่างที่เจ้ากล่าวหยางเวย”
หยางเวยเองก็ขมวดคิ้วเช่นกันที่เห็นท่าทางของเนี่ยฟง
“ไหนข้าขอลองอีกที”
หยางเวยโคจรลมปราณไปที่มือขวา คว้าแส้แข็งในมือเนี่ยฟงถึงกับล้มลงไปด้านหน้าเพราะความหนักมากกว่าเมื่อครู่
“เจ้าเอาไปเถอะเห็นทีมันคงไม่อยากให้ข้าใช้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า”
แส้แข็งถูกเก็บในแหวนเนี่ยฟงยื่นแหวนจากชายฉกรรจ์ให้แก่หยางเวย
“หวังว่ามันคงมีสมบัติมากพอสำหรับสิ่งที่ข้าต้องเจ็บตัวนะ”
สิ้นเสียงกล่าวหยางเวยรีบตรวจสอบในแหวนพร้อมกับดวงตาลุกวาว สะบัดมือขวานำหีบเหล็กออกมา ทันทีที่เปิดออกมาหยางเวยถึงกับตื่นตกใจชี้ไปที่หีบเหล็ก เพราะด้านในมีใบหูของผู้คนอยู่เต็มหีบพร้อมกับเตะหีบเหล็กออกไป
“บัดซบไอ้บ้านั่น”
“หยางเวยเราคงต้องย้อนกลับไปดูที่เมืองอีกครั้งหากเป็นจริงที่ชายผู้นั้นกล่าวใบหูที่เจ้าเห็นในหีบเหล็กคงเป็นของผู้คนในเมือง”
“คนพวกนี้จิตใจมันช่างต่ำช้ายิ่งนัก”
กิเลนอัสนีปรากฏออกมาทั้งสองรีบขึ้นไปนั่งด้านหลัง ไม่นานก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้ามุ่งหน้ากลับไปที่เมืองอีกครั้ง ควันไฟพุ่งโพยออกมาจากเมืองมองเห็นแต่ไกลชายหนุ่มทั้งสองกำหมัดในมือแน่น เมื่อกลับเข้ามาในเมืองซากศพผู้คนมากมายเกลื่อนเต็มพื้นพร้อมกับเลือดสีแดงฉาน เด็กหญิงชาย ชายหนุ่มหญิงสาว คนชราถูกสังหารจนสิ้นแต่ละคนถูกตัดใบหูออกจากร่างเป็นไปตามที่เนี่ยฟงกล่าว หยางเวยร้องคำรามเสียงดังลั่น ไม่นานทั้งสองก็ช่วยจัดการฝังซากศพทั้งหมดเอาไว้ที่ด้านท้ายของเมือง ในที่สุดความมืดก็เข้ามาปกคลุมอีกครั้ง ทว่าวันนี้มีเพียงแสงไฟจากตะเกียงสองดวงเท่านั้นหาใช้เหมือนเมื่อวาน
ทั้งสองเฝ้ารอกลุ่มของจงเหรินป้าถึงสี่วันกว่าจะเดินทางมาถึง จงเหรินป้ามอบจดหมายให้แก่เนี่ยฟงอ่าน หยางเวยแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ทั้งหมดให้แก่หยางเฟย หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็เร่งออกเดินทางมุ่งหน้าไปที่เมืองต่อไป ทิ้งความโกรธแค้นเอาไว้ให้แก่กลุ่มของจงเหรินป้าที่มีต่อสำนักพยัคฆ์ขาว
“หยางเวยอีกกี่เมืองเราจะเข้าสู่เมืองหลวง”
“อีกสองเมืองมีสิ่งใดรึ”
“เช่นนั้นเราเร่งมือเถอะข้าอยากจะเข้าไปที่เมืองหลวงโดยเร็วมีบางอย่างที่ข้าอยากตรวจสอบ”
“สิ่งใดรึ”
“ข้อมูลเกี่ยวกับสุสานโบราณที่เราเข้าไปตรวจสอบข้าเพียงต้องการอยากรู้ว่าสุสานนั่นเป็นของผู้ใด”
“เจ้าสงสัยเกี่ยวกับอาวุธที่เรียกว่าแส้แข็ง”
“ใช่ข้าตรวจสอบวงอักขระศักดิ์สิทธิ์แล้วยังมีบางส่วนที่ข้าไม่เข้าใจ”
“ได้เช่นนั้นรีบเดินทางก็แล้วกัน”
ทั้งสองนั่งบนหลังกิเลนอัสนีพุ่งทะยานขึ้นท้องฟ้ามุ่งหน้าอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ใกล้ถึงเมืองทั้งสองถึงกับขมวดคิ้วเพราะมีควันไฟพุ่งพวยออกมาจากในเมือง พร้อมกับเสียงกรีดร้องคำรามของปีศาจร้ายดังลั่นออกมา เนี่ยฟงตบไปที่หลังของกิเลนอัสนีพุ่งทะยานลงมาด้านล่าง หลังจากนั้นก็พุ่งทะยานเข้าไปในเมืองโดยแอบย่องเข้าซอกกำแพงด้านข้างที่พังทลาย ทันทีที่เข้ามาด้านในทั้งสองถึงกับตื่นตกใจซากศพของปีศาจนับสิบตนเกลื่อนพื้น เลือดสีเขียวไหลนองเต็มพื้นทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเอ่ยวาจาแว่วดังเข้ามา
“ข้ารอพวกเจ้ามาหลายวันแล้วไอ้หนู”
ทั้งสองหันไปมองตามเสียงพบเห็นชายชราผู้หนึ่งถือดาบเล่มใหญ่จ้องมองอย่างไม่วางตาเป็น เนี่ยฟงที่กล่าววาจาตอบกลับ
“ต้องขอบคุณท่านที่สังหารปีศาจพวกนี้ขอรับ”
“อย่าใส่ใจเลยไอ้หนูข้าเพียงแค่สังหารพวกมันแก้เบื่อเท่านั้น อย่ากล่าวสิ่งใดอีกต่อไปเรามาเข้าเรื่องของเราดีกว่า”
“เรื่องใดขอรับ”
“เรื่องที่ข้าจะนำศีรษะของเจ้ากลับไปอย่างไรละ”
“พวกท่านมากันกี่คนขอรับ”
“แค่สังหารเจ้าข้าเพียงคนเดียวก็พอแล้ว”
“น่าเสียดายยิ่งนัก”
“เสียดายสิ่งใด”
“เสียดายที่ท่านมาเพียงผู้เดียว หากมากันหลายคนคงบรรเทาอารมณ์โกรธของข้าไม่น้อย”
“ปากดีนักไอ้ลูกหมา”
เนี่ยฟงส่ายศีรษะไปมา หลังจากนั้นก็แอบสะบัดมือขวาที่ด้านหลังนำแผ่นหินออกมาสี่แผ่นพร้อมกับเร่งโคจรลมปราณ ทันใดนั้นก็ซัดแผ่นหินออกไปรอบกายชายชราด้านหน้า
“ฮ่าฮ่าเจ้ากลัวจนซัดอาวุธลับออกไปคนละทางเลยรึ”
“เปล่าขอรับข้าตั้งใจเอาไว้อยู่แล้ว”
สิ้นเสียงกล่าวของเนี่ยฟงเถาวัลย์สีฟ้าก็พุ่งออกมาจากแผ่นหินพุ่งเข้ารัดตัวของชายชราอย่างรวดเร็วเสียงสบถดังลั่นออกมา
“บัดซบไอ้เด็กเวรปล่อยข้าเดียวนี้”
เนี่ยฟงส่ายศีรษะไปมาอีกครั้ง สะบัดมือขวาถือดาบสีดำในมือก้าวเดินเข้าหาชายชราด้านหน้าอย่างช้าๆ ฉับ คมดาบวาดผ่านแขนขวาขาดกระเด็นร่วงลงพื้น เสียงร้องโหยหวนของชายชราดังลั่น เนี่ยฟงใช้มือซ้ายคว้าจับท่อนแขนขวาของชายชราโยนไปด้านหลัง
“หยางเวย”
หยางเวยรีบคว้าท่อนแขนค่อยๆนำแหวนออกจากนิ้วมือมาตรวจสอบ หลังจากนั้นเนี่ยฟงค่อยๆตัดแขนซ้ายและขาทั้งสองของชายชราออกมา เลือดสีแดงไหลออกมาจากบาดแผล ชายชรากัดฟันจ้องมองเนี่ยฟงด้วยความโกรธแค้น
คมดาบวาดผ่านดวงตาทั้งสองของชายชรา หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็จี้สกัดจุดเสียงของชายชราเอาไว้ ดาบในมือขวาถูกเก็บวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏ ไม่ถึงสามลมหายใจก็กลายเป็นแสงพุ่งหายเข้าไปในตันเถียนของชายชรา หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็เดินออกไปที่ด้านหน้าเพื่อประทับวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าไว้ที่กำแพง ส่วนหยางเวยมุ่งหน้าไปที่จวนเจ้าเมืองและโรงหลอมเพื่อหาแผ่นหิน โดยที่ทิ้งให้ชายชรานอนจมกองเลือดเอาไว้บนพื้น