ระบบใช้จ่ายตอนที่ 84
ติดตามอ่านตอนใหม่ๆ และข่าวสารได้ที่แฟนเพจ:แปลNiyay
บทที่ 84: ชื่อของฉัน
“รับทราบครับ ท่าน…ท่านหญิง” ถังมู่ซินอยู่กับทุกคนมานานและเธอแทบไม่แสดงออกอะไรเลย ชายผู้ติดตามจึงได้แต่กลัวจนตัวสั่นและถอยทันที
จากนั้นถังมู่ซินก็ถอนหายใจและหันมาถามว่า "ท่านหญิงน้อยค่ะ ท่านต้องการเครื่องฉายภาพเสมือนจริงใช่ไหมคะ?"
หลินหยูหยินก็ได้พยักหน้าและพูดน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ตามปกติของเธอว่า "ฉันต้องการใช้มัน"
"ได้ตามที่ขอเลย ถ้าเธอต้องการ" หงต้าหลี่กล่าว
นั้นมันฮัทสึเนะ มิคุ แน่ๆ! ไม่มีใครรู้เลยว่าหงต้าหลี่ตอนนี้รู้สึกยังไง!
"เย้" หลินหยูหยินยื่นมือไปหาหงต้าหลี่ "แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะ?"
"มอบให้เธอซะ!" หงต้าหลี่เสยผมของเขาอย่างเก๋ไก๋ก่อนที่จะพูดว่า "เธอสามารถใช้มันได้นานเท่าที่เธอต้องการเลยนะ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าควรจะใช้มันยังไงดี"
หลินหยูหยินพูดอย่างสุภาพว่า "ในนามของฉันหลินหยูหยิน ฉันจะยืมแค่ 3 วันเท่านั้น"
หลังจากนั้นเธอก็ขึ้นรถสปอร์ตสีดำที่ดูรวดเร็ว โดยที่เธอไม่ขอบคุณอะไรเลย เสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังขึ้นและท่อไอเสียก็มีควันทะลักออกมาพร้อมกับมีประกายไฟ หลังจากนั้นรถก็หายละไปไกลจากสายตาของพวกเขาในพริบตาทันที
ฟิ้ววว…หลังจากหลินหยูหยินออกไปแล้ว ถังมู่ซินก็หายใจออกเป็นเวลานาน ราวกับว่าร่างกายของเธอเหนื่อยล้า เธอเช็ดเหงื่อเย็นและพูดว่า "ในที่สุดเธอก็ไปสักที เธอทำให้ฉันกลัวจริงๆนะตอนนี้"
"ฉัน…ฉันว่าแล้ว ซินซิน!" เมื่อมองไปที่ทิศทางที่หลินหยูหยินหายไป หงต้าหลี่ก็ตะลึงและถามว่า "รถของหยูหยิน ไม่คิดว่ามีอะไรแปลกๆบ้างหรือ? มันพ่นไฟได้?"
ตอนนี้ ผู้ติดตามและหงต้าหลี่ต่างก็มองไปที่ถังมู่ซินอย่างสงสัย ลี่เนียนเหว่ยที่กำลังอยู่ข้างๆหงต้าหลี่ก็พูดเบาๆว่า "หลินหยูหยินคนนี้ เธอไม่ใช่คนธรรมดา เธออันตรายมาก ฉันรู้ได้เลย"
"เธอไม่ใช่คนธรรมดา" เสียงเบา ๆ ดังขึ้น หลิวหมิงซินเดินไปหาพวกเขาอย่างสง่างามและมองไปที่ต้าหลี่ เขายิ้มแล้วพูดว่า "มันเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดมากที่ผู้ติดตามของนายไม่ได้ทำร้ายเธอ"
"โอ้? ทำไมถึงเป็นงั้นเหรอ นายบอกฉันได้ไหม?" หงต้าหลี่ไม่ได้มีความกังวลใดๆเลย และขอให้เขาพูดตรงๆ เนื่องจากมีคนที่รู้เรื่องราวทุกอย่างอยู่ เขาก็เลยถาม เพราะหลินหยูหยินคนนั้นไม่ได้สุภาพอะไรกับเขาเลย
"หยูหยินเป็นลูกสาวคนเดียวของหลินเจียยุน เขาเป็นผู้อำนวยการของบริษัท World's 500 Strong Lin Corporation" หลิวหมิงซินหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อยพูดว่า "จริงๆแล้วไม่มีอะไรมาก ในแวดวงเน็ตเวิร์ค บุคคลประเภทนี้ไม่ได้พบเห็นได้ง่ายๆ จุดพิเศษของผู้หญิงคนนี้ คือ เธอเป็นผู้หญิงที่เกินบรรยาย ใช่ เธออยู่บ้านทุกวันและแทบไม่ค่อยออกจากบ้าน"
เธอเป็นพวกกี๊กงั้นเหรอ…!?
หงต้าหลี่ก็ตกตะลึงเช่นกัน หลินหยูหยินเป็นผู้หญิงที่หมกหมุ่นและชอบในสิ่งที่เธอชอบเท่านั้นหรอ? เธอเป็นกี๊กและก็เลยไม่สนใจบทเรียนเลยอย่างนั้นหรอ?
"ใช่ แต่ผู้หญิงคนนี้มีความแตกต่างจากคนอื่นมาก" เมื่อพูดถึงประเด็นนี้ หลิวหมิงซินก็ส่ายหัวอย่างไร้ประโยชน์และพูดว่า "ฉันก็คิดว่าฉันไม่ได้ด้อยกว่าคนอื่น แต่เมื่อเทียบกับเธอแล้ว เธอกินขาด หลินหยูหยินเป็นสมาชิกขององค์กร 'Holy Grail' อีกด้วย ฉันไม่แน่ใจว่านายเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนหรือป่าว"
หงต้าหลี่ส่ายหัว
"ก็คงงั้น เมื่อพูดถึง ในโลกนี้ก็ถือว่ายังมีกลุ่มคนที่มีระดับสติปัญญาที่อยู่เหนือกว่าคนธรรมดา คนกลุ่มนี้ลึกลับมากและคนปกติจะไม่มีทางรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร และไม่รู้ว่าจริงๆแล้วพวกเขาอยู่ที่ไหน ผู้ที่รู้ก็มีแค่เฉพาะคนที่เป็นระดับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลในโลกนี้เท่านั้นที่จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับคนกลุ่มนี้ และไม่มีข้อยกเว้น ทุกคนจะปฏิบัติต่อข้อมูลพวกเขาเหล่านี้เสมือนเป็นสมบัติล้ำค่า
"ในโลกนี้มีประชากรห้าพันล้านคน ผู้ที่สามารถเข้าถึงพวกเขาเหล่านั้นมีเพียง 42 คนเท่านั้น องค์กรที่พวกเขาอยู่ในนั้นเรียกว่า 'Holy Grail' และคนที่อยู่ในองค์กรจะต้องมีไอคิว 180 ขึ้นไปถึงจะมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมได้
"และหนึ่งในนั้นก็คือหลินหยูหยิน เธอเป็นสมาชิกของ 'Holy Grail' นอกจากนี้เธอเป็นบุคคลที่อันตรายที่สุดในกลุ่ม
"เธอเป็นกี๊กและเธอก็ชื่นชอบเทคโนโลยี"
"หมกมุ่นเกี่ยวกับเทคโนโลยีโว้ย! แล้วเธอก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ที่มีไอคิว 180+ด้วย!!" เมื่อหลิวหมิงซินพูดถึงจุดนี้ หงต้าหลี่ก็ประหลาดใจจริงๆ นับตั้งแต่เขามาถึงโลกนี้ สิ่งที่เขาโต้ตอบด้วยล้วนแต่เป็นบุคคลชนชั้นสูงทั้งหมด ก็อาจพูดได้ว่าหงต้าหลี่ไม่ได้เกรงกลัวเลยว่าเขาจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์อะไรหรือแบบไหน
แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าหลินหยูหยินที่เป็นคนที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเข้าขั้นนี้ เขาก็รู้สึกกลัว
บางทีผู้คนจำนวนมากไม่เข้าใจแนวคิดของความหมายของเทคโนโลยี แต่ถ้าพูดถึงตัวละครหลักอย่าง "ไอรอนแมน" จากภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ หนังฮอลลีวูด ก็บอกได้เลยว่าชีวิตของตัวละครอย่างโทนี่สตาร์กล้วนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
ไม่น่าแปลกใจที่เธอไม่ได้เข้าชั้นเรียนตามปกติ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอยืมเครื่องฉายภาพเสมือนจริงจากฉันไปทำไม เป็นไปได้ไหมว่าเทคโนโลยีนี้จะมีความล้ำสมัยเกินกว่าคนไอคิว 180 หรือมากกว่านั้น และอาจสร้างเกราะ exoskeleton ที่ยอดเยี่ยมอย่างไอรอนแมนได้?
ในที่สุดหงต้าหลี่ก็เข้าใจว่าทำไมหลินหยูหยินถึงพูดแบบนั้น ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี แถมเธอยังเป็นกี๊ก มันก็เลยทำให้มีทักษะด้านการสื่อสาร -10 มันก็ไม่แปลกตรงไหนนี้หว่า!?
"เมื่อเห็นการแสดงออกของเธอ ก็คงเข้าใจแล้วว่าคนที่หมกมุ่นในเรื่องเทคโนโลยีนั้นมีความน่ากลัวขนาดไหน" หลิวหมิงซินยิ้มแล้วพูดว่า "ถ้าอย่างนั้น ก็คงเข้าใจแล้วสินะ"
ในขณะที่เขาพูดถึงจุดนี้ท่ามกลางผู้คน นอกเหนือจากหงต้าหลี่,ถังมู่ซินและหลิวหมิงซิน ส่วนที่เหลือก็ยังไม่ชัดเจนว่าหมายถึงอะไร ในที่สุดลี่เนียนเหว่ยก็ไม่สามารถทนได้และถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น "เอ่อ..คุณสามารถยกตัวอย่างได้ไหมคะ?"
"ฉันจะอธิบายให้นะ ลี่เนียนเหว่ย" ถังมู่ซินเดินไปที่ด้านข้างของเธอแล้วพูดช้าๆว่า
"ความสัมพันธ์ของฉันกับท่านหญิงน้อยนั้นก็ถือว่าไม่เลว มีวันหนึ่งฉันไปเยี่ยมที่บ้านของเธอและโชคดีพอที่จะได้เห็นอะไรบางอย่าง"
ทุกคนกำลังคิด: สิ่งลึกลับหรอ? หรืออะไรบางอย่างที่ยอดเยี่ยม?
จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินถังมู่ซินพูดว่า "บังเอิญวันนั้นเธอกำลังสร้างจรวดด้วยตัวเองและเธอก็ปล่อยให้ฉันดู เมื่อฉันไปที่นั่น"
"จรวด?" ลี่เนียนเหว่ยถามต่อด้วยความสงสัย "ดอกไม้ไฟเหรอคะ?"
"ไม่ นั่นคือจรวดจริงๆกับตัวปล่อยจรวด" ถังมู่ซินยักไหล่และพูดว่า "ท่านหญิงน้อยได้ติดตั้งกล้องขนาดเล็กไว้ จากนั้น... จากนั้นฉันก็ดูจนจรวดติดตั้งเสร็จ ในเวลานั้นอุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณจะส่งวิดีโอของมันกลับมาจนกว่ามันจะทะลุผ่านชั้นบรรยากาศ "
เมื่อเธอพูดถึงจุดนี้ ทุกคนก็กลืนน้ำลาย
แม้แต่ลี่เนียนเหว่ยที่เงียบและสงบก็ยังประหลาดใจ หลังจากนั้นครู่หนึ่งเธอก็ได้ถามว่า "คุณกำลังจะพูดว่าจรวดที่เธอทำสามารถทะลุผ่านชั้นบรรยากาศและเข้าไปในอวกาศได้?"
"ใช่ ฉันยังเก็บวิดีโอไว้อยู่เลย" ถังมู่ซินหยิบโทรศัพท์ออกมา "ทำสำเนาคลิปวิดีโอที่เกี่ยวกับท่านหญิงน้อยให้ฉันด้วย"
หนึ่งนาทีต่อมา
ชายผู้ติดตามคนนั้นก็เหงื่อออกอย่างล้นหลามและบ่นไม่หยุด "โชคดี ... โชคดีที่ฉันยังไม่ได้ทำร้ายเธอ ... "
ในตอนนี้หลิวหมิงซินไม่ลืมที่จะห้ามปรามเขา "จริงๆแล้วยังมีบางอย่างที่น่ากลัวมากเกี่ยวกับหลินหยูหยิน" เขาชี้ไปที่หัวของเขาแล้วพูดว่า "พระเจ้ามอบสมองให้เธอซึ่งเป็นสมองที่ฉลาดกว่าคนธรรมดาคนหนึ่งด้วยซ้ำ แต่พระเจ้าก็เอาบางอย่างไปจากเธอ นั่นก็คืออารมณ์ของเธอยังไงล่ะ"
“พูดง่ายๆว่าหลินหยูหยินแทบไม่มีอารมณ์ใด ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำอยู่ มันนอกเหนือจากสัญชาตญาณของคน เธอจะไม่ดีต่อใครสักคนและเธอจะไม่ทำตัวแย่ต่อใคร เมื่อเธอรู้สึกถึงอันตรายโดยที่ไม่ต้องคำนึงว่าเป็นใคร ทุกคนที่คุกคามความปลอดภัยของเธอจะตกเป็นเป้าหมายการโจมตีของเธอ นั่นรวมถึงพ่อแม่ของเธอด้วย”