บทที่ 38 งานเลี้ยง(อ่านฟรี13-01-2021)
วันต่อมาในเวลาใกล้ค่ำ คฤหาสน์ขนาดใหญ่ทางตะวันตกของเมืองบันตาเต็มไปด้วยรถม้าหรูหราทุกชนิด ผู้คนนับไม่ถ้วนที่สวมเสื้อผ้าหรูหราและปลดปล่อยรัศมีอันสูงส่งกำลังเดินไปมาในคฤหาสน์เติมเต็มคฤหาสน์แห่งนี้ที่ปกติแล้วเงียบสงบไปด้วยเสียงจอแจ
หากมีใครที่คุ้นเคยกับขุนนางของเมืองบันตามาอยู่ที่นี่พวกเขาจะสังเกตเห็นได้ทันทีว่าผู้คนในคฤหาสน์ส่วนใหญ่เป็นขุนนางทั้งใหญ่และเล็กของเมืองบันตา หากใครมีดวงตาที่แหลมคมกว่าพวกเขาคงจะสังเกตได้ว่าลึก ๆ ในคฤหาสน์ชายวัยกลางคนที่มีร่างกายแข็งแรงและท่าทางจริงจังกำลังคุยกับเจ้าของคฤหาสน์
ชายวัยกลางคนคนนี้เป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในเมืองบันตาเขาคือลอร์ดเคานต์ฌอนซาโมแห่งเมืองบันตา!
ส่วนหนุ่มหล่อเจ้าของคฤหาสน์ที่เจ้าเมืองกำลังคุยด้วยเขาเป็นคนที่ทุกคนในแวดวงชนชั้นสูงของเมืองบันตารู้จักวิสเคานท์เลสลี่ ชายผู้เป็นที่หมายปองของสตรีรุ่นเยาว์หลายคน
วิสเคานท์เลสลี่รักความสงบมาโดยตลอด แต่จู่ๆเขาก็ประกาศว่าเขากำลังจะจัดงานเลี้ยงดังนั้นขุนนางของเมืองบันตาจึงประหลาดใจมากกับเรื่องนี้
มีเหตุผลหลายข้อที่ทำให้วิสเคานท์เลสลี่จัดงานเลี้ยงนี้ขี้นมา… .. สิ่งที่น่าแปลกใจคือเขาพาหลานชายจากอันวิลมาร์ที่อยู่ห่างออกไปมาหาประสบการณ์ที่นี่ แต่ขุนนางมางานเลี้ยงนี้เพื่อยกระดับความสัมพันธ์พวกเขาจึงไม่สนใจเรื่องนั้นมากนัก ที่พวกเขาสนใจก็คือวิสเคานท์เลสลี่ได้จัดงานเลี้ยงขึ้นมา ดังนั้นเมื่อพวกเขาใด้รับบัติเชิญจึงไม่มีใครปฏิเสธและพวกเขาทั้งหมดก็เดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้
นอกจากขุนนางแล้วยังมีแขกบางส่วนที่ไม่ใช่ขุนนาง หากสังเกตุดีๆจะพบว่าแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่ขุนนาง แต่พวกเขาก็เป็นคนที่มีสถานะบางอย่างในเมืองบันตา ในบรรดาพวกเขาไม่มีแม้แต่คนเดียวที่เป็นคนธรรมดา
สำหรับเรื่องนี้ไม่มีใครแปลกใจ
วิสเคานท์เลสลี่จัดงานเลี้ยงทั้งทีเขาจะเชิญคนธรรมดามาได้อย่างไร?
ซูยี่จึงซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่งอย่างเชื่อฟังไม่ดึงดูดความสนใจใด ๆ
ด้วยสถานะของเขาเขายังไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมงานนี้
หอการค้าเฟรสเทคพึ่งพาพัดลมเวทมนตร์เพื่อหารายได้เป็นหลัก แต่เมื่อคำนวณทั้งหมดแล้วพวกเขาก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าบริษัทเล็ก ๆ ที่เพิ่งเริ่มต้น แม้ว่าในเมืองบันต้าจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่บริษัทขนาดเล็กของที่นี่ก็ยังมีกว่าแปดสิบแห่งดังนั้นซูยี่จึงไม่นับว่าพิเศษอะไร
สำหรับสถานะของเขาที่เป็นนักเวทย์?
ไร้สาระน่า! ซูยี่ยังไม่ผ่านการสอบรับรองของสมาคมนักเวทย์และยังไม่ถูกพิจารณาให้เป็นนักเวทย์อย่างเป็นทางการเลยด้วยซ้ำ แล้วเขาจะอาศัยสถานะนั้นมางานนี้ได้อย่างไร?
แม้ว่าซูยี่จะไม่ได้ดูแย่ขนาดนั้น แต่ในสถานการณ์แบบนี้เขาจะไม่ดึงดูดความสนใจมากเกินไป ตามปกติแล้วมันก็ไม่มีปัญหาสำหรับเขาที่จะหลบสายตา แต่ทว่าเขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับความจริงที่ว่าที่ข้างกายของเขานั้นมีดอกฟ้าที่ส่งประกายสวยงามราวกับด้วงจันทร์ที่ไม่ว่าใครก็ต้องสังเกตุเห็นได้ไม่ยากอยู่ที่ดานข้าง
“น่าเบื่อจริงๆ” สเตลล่าถอนหายใจก่อนที่เธอจะบ่นกับซูยี่“ซูยี่ข้าคิดว่างานเลี้ยงที่วิสเคานท์เลสลจัดขึ้นจะสนุก แต่ว่ามันก็เหมือนกับงานเลี้ยงทั่วๆไปที่ข้าเคยไป”
ซูยี่อดไม่ได้ที่จะกลอกตาไปที่เธอ“ข้าก็บอกแล้วว่านี่เป็นแค่งานเลี้ยงธรรมดา แต่เจ้าก็ไม่เชื่อข้า”
"ฮึ! เจ้ายังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอ“ สเตลล่าพูดอย่างโกรธ ๆ” จริงอยู่ที่เจ้าบอกว่างานเลี้ยงของขุนนางมันน่าเบื่อและควรจะเอาเวลาไปศึกษารูปแบบเวทมนตร์ แต่ตัวเจ้ากลับจะมาซะเองน่ะ”
ซูยี่เอามือตบที่หน้าผากของเขา“เอาล่ะข้าผิดเอง”
“ตอนนั้นข้าก็คิดว่าถ้าเป็นอย่างที่เจ้าพูดมามันก็น่าแปลกที่เจ้ายังจะมาที่นี่อีก ข้าก็เลยคิดว่ามันต้องมีอะไรที่ดึงดูดเจ้าแน่ๆ ใครจะไปคิดล่ะว่าเมื่อมาแล้วจะไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลย มันเป็นความผิดของเจ้าทั้งหมด”สเตลล่าพูดอย่างโกรธ ๆ
ซูยี่มองไปที่สเตลล่าจะสามารถเห็นได้ว่าในวันนี้เธอแต่งตัวอย่างพิถีพิถัน เธอสวมชุดสีม่วงที่แสดงรูปร่างของเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบผมที่ปัดขึ้นอย่างสบายๆเผยให้เห็นต้นคอขาวเรียวและรูปร่างของเธอก็เพิ่มออร่าอันสูงส่งให้กับเธอ เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งนี้แล้วใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของเธอยังเปล่งประกายอ่อนเยาว์ ด้วยรสนิยมที่แตกต่างกันทั้งสองนี้ทำให้เธอมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น ไม่น่าแปลกใจเลยที่เมื่อใคร ๆ เดินผ่านเธอไปพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองเธอเล็กน้อย
ในช่วงเวลาที่ยืนอยู่ที่นั่นไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีชายหนุ่มสิบกว่าคนเดินเข้ามาคุยกับเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะซูยี่ที่ยืนอยู่ข้างๆเธอตัวเลขนั้นคงจะมากกว่านี้
“ถ้าเจ้าพูดถึงเรื่องที่น่าสนใจแน่นอนว่ามันก็มีอยู่” ซูยี่จิบน้ำผลไม้และอธิบายกับสเตลล่าอย่างช่วยไม่ได้“สเตลล่าเจ้ายังจำสิ่งที่เราค้นคว้าเมื่อสองสามวันก่อนได้ไหม”
สเตลล่าแปลกใจเล็กน้อย“เจ้ากำลังพูดถึงแอร์เวทมนตร์?”
"ถูกตัอง" ซูยี่พยักหน้า
เนื่องจากสเตลล่าเข้าร่วมห้องปฏิบัติการวิจัยเธอจึงจะมีส่วนร่วมในการวิจัยแอร์เวทมนตร์เป็นปรกติ
อาจจะกล่าวได้ว่าสเตล่ามีส่วนสำคัญในการทำให้แอร์เวทมนตร์นี้เสร็จเร็วขึ้น
“แอร์เวทมนตร์เกี่ยวข้องกับงานเลี้ยงนี้ยังไง”สเตลล่าสับสนมากขึ้น
ซูยี่เผยรอยยิ้มจาง ๆ “เจ้าไม่สังเกตเหรอว่าแม้จะมีคนมากมายอยู่ที่นี่ แต่มันกลับไม่ร้อนขึ้นเลย”
ด้วยคำเตือนของซูยี่ สเตลล่าก็สามารถตระหนักได้ทันที เธอมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงและหลังจากนั้นครู่หนึ่งเธอก็พบว่าบนผนังของห้องโถงที่ใช้ต้อนรับแขกมีแอร์เวทมนตร์อยู่สองเครื่อง พวกมันพัดเอาลมหนาวออกมาอย่างต่อเนื่องไม่น่าแปลกใจที่ห้องโถงไม่ร้อนขึ้นเลย
“ ซูยี่อย่าบอกนะว่าเจ้ากับวิสเคานท์เลสลวางแผนเรื่องทั้งหมดนี้?” สเตลล่าอดไม่ได้ที่จะถาม
“ผิดแล้ว สิ่งนี้เรียกว่าความร่วมมือ”ซูยี่ตำหนิ“สเตลล่าหากเป็นตามปรกติสิ่งนี้ควรจะเป็นหน้าที่ของแบรนด์แอมบาสเดอร์(เปลี่ยนจากผู้โฆษณานะครับ) อย่างไรก็ตามข้าคิดว่าหากให้เจ้าไปบอกเกี่ยวกับตัวสินค้าเราเจ้าคงไม่ทำแน่ๆข้าเลยล้มเลิกความคิดนั้นไป”
“ อืมข้าจะไม่วิ่งไปหาคนอื่นแล้วพูดว่าเฮ้สวัสดีซื้อผลิตภัณฑ์ของเรามั้ย นี่มันโง่เกินไป”สเตลล่ากล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า“เจ้าเคยพูดกับข้าว่าการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องแบบนี้”
“ถูกต้องดังนั้นข้าจึงล้มเลิกความคิดที่น่าดึงดูดนี้ อีกอย่างมันค่อนข้างเสียเวลา” ซูยี่มองไปที่สเตลล่าอีกครั้งและพูดด้วยรอยยิ้ม“หากให้ความงดงามของเจ้าไปใช้กับการเป็นพนักงานขายแล้วคนอื่นรู้เข้าพวกเขาคงจะด่าข้าว่าไม่รู้จักใช้สมบัติในมือ”
เมื่อได้ยินคำพูดของซูยี่ สเตล่าก็เผยรอยยิ้มทันที เธอรีบหันกลับมาตรงหน้าซูยี่และพูดอย่างภาคภูมิใจว่า“วันนี้เจ้ารู้สึกว่าข้าสวยใช่มั้ยล่ะ”
“ไม่ ไม่ใช่แค่วันนี้ไม่ว่าวันใหนเจ้าก็สวย แต่ว่าวันนี้เจ้าสวยเป็นพิเศษ”
สเตลล่ากลายเป็นภาคภูมิใจมากขึ้น เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและส่งเสียงคำรามเบา ๆ “เจ้ารู้จักพูดจริงๆ” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเธอถามทันทีว่า“ใช่แล้วเนื่องจากเจ้าร่วมมือกับวิสเคานท์เลสลี่ ทำไมข้าถึงไม่เห็นวิสเคานท์เลสลี่ช่วยขายแอร์เวทมนตร์นี้เลย?”
ซูยี่อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มอันขมขื่น“ วิสเคานท์เลสลี่ยังคงเป็นวิสเคานท์ที่มีเกียรติเขาจะวิ่งไปขายสินค้าโดยตรงได้อย่างไร? ข้าควรจัดการงานนี้โดยพ่อค้าผู้ต่ำต้อย” เขามองไปที่สเตลล่าหลังจากที่เขาพูดจบและพูดต่อ“ ข้าต้องทำหน้าที่เป็นพนักงานขาย หากเจ้าไม่สนใจเจ้าก็รอข้าอยู่ที่นี่ก็ได้
สเตลล่ากลอกตาไปที่เขาและรีบเดินตามซูยี่ไป
“ให้ข้าดูว่าผู้เชี่ยวชาญอย่างเจ้าขายของได้อย่างไร”
ซูยีต่เผยรอยยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่ห้องโถงและเห็นชายวัยกลางคนที่ดูสง่างาม
“เป็นเกียรติ์ที่ได้พบท่านวิสเคานท์เซตามินและท่านหญิง”
วิสเคานท์เซตามินและภรรยาของเขาหันกลับมาเมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันก็รู้สึกแปลก ๆ
“เจ้าคือ……”
“ข้าชื่อซูยี่ประธานหอการค้าเฟรสเทค นี่คือเพื่อนของข้า……”
“เธอมีชื่อว่าสเตลล่า หลานสาวของจอมเวทย์คามิลล่า ข้าเคยเจอเธอสองสามครั้งก่อนหน้านี้” วิสเคานท์เซตามินชิงพูดก่อน
สเตลล่าโค้งคำนับให้ทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว“ท่านปู่พูดอยู่เสมอว่าท่านวิสเคานท์เซตามินเป็นคนชอบธรรมท่านเป็นหนึ่งในขุนนางไม่กี่คนที่เขาเคารพ ตอนนี้ข้าได้เจอท่านแล้วข้าเห็นด้วยกับความคิดของท่านปู่”
วิสเคานท์เซตามินหัวเราะชอบใจแม้เขาจะไม่เชื่อคำพูดนี้ก็ตาม เขาหันไปหาซูยี่ด้วยความสงสัยเล็กน้อยบนใบหน้าของเขา
“เจ้าเพิ่งบอกว่าเจ้าเป็นประธานหอการค้าเฟรสเทค?”
“ใช่ท่านวิสเคานท์”
“หอการค้าเฟรสเเทค … ... หอการค้าเฟรสเทค … ... ดูเหมือนว่าข้าจะเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนมาก่อน” วิสเคานท์เซตามินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้พรางขมวนคิ้วเล็กน้อย เขาหันหน้าไปถามภรรยาแต่ก่อนที่เขาจะได้รับคำตอบก็มีเสียงดังขึ้น
“ท่านวิสเคานท์ข้าคิดว่าท่านน่าจะเคยได้ยินชื่อนี้จากโอรินมาก่อนใช่ไหม?”ซูยี่เตือนเขา
วิสเคานท์เซตามินตะลึงเล็กน้อยก่อนที่เขาจะจำมันได้ทันที
“ใช่แล้วโอรินเป็นเด็กคนนั้นที่พูดถึงมัน โอ้หลังจากที่เจ้าพูดขึ้นมาข้าก็จำมันได้อย่างสมบูรณ์ ข้าเคยได้ยินโอรินพูดว่าเขาทำงานอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่งภายใต้หอการค้าเฟรสเทคของเจ้า… .. มันคือโรงงานอะไรนะ? มันทำเกี่ยวกับ… ...ใช่ พัดลมเวทมนตร์ใช่มั้ย?”
ซูยี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ท่านวิสเคานท์ข้าคิดว่าท่านจะไม่พอใจหลังจากที่ท่านรู้เรื่องนี้เสียอีก”
วืสเคานท์เซตามินแปลกใจ“ทำไมข้าต้องไม่พอใจด้วยล่ะ?”
“เพราะข้าคิดว่าเมื่อท่านรู้ว่าลูกชายของตัวเองทำงานในโรงงานธรรมดาท่านจะคิดว่ามันจะทำให้ท่านเสียหน้า ดังนั้นก่อนที่จะมาพบท่านข้าลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะกล้าเข้ามา”
สเตลล่าที่อยู่ด้านข้างเกือบจะหลุดเสียงหัวเราะออกมา
หลังจากที่ซูยี่เห็นวิสเคานท์เซตามินก่อนหน้านี้เขาไม่ลังเลเลยสักนิดในขณะที่เดินตรงเข้ามา เขาลังเลตอนใหนกัน
วิสเคานท์เซตามินหัวเราะ“ประธานซูยี่เจ้าคิดมากเกินไป โอรินเด็กคนนั้นเก่งทุกอย่าง ข้ากังวลมาตลอดว่าเขาจะทนไม่ไหวและใจร้อนเกินไปข้าไม่เคยคิดว่าเขาจะอยู่ในโรงงานของเจ้าได้นานขนาดนั้น แต่พอเห็นเขาอยู่ได้นานขนาดนี้ข้าเองก็มีความสุขมากกับเรื่องนี้ ข้าจะรู้สึกเสียหน้าได้อย่างไร”
“ถูกต้องแม้ว่า์อรินจะเหนื่อยมากทุกครั้งที่กลับบ้าน แต่ข้าก็บอกได้ว่าเขามีความสุขมากจริงๆ”ท่านหญิงเซตามินกล่าวตัดบท“พูดตามตรงหลังจากหลายปีที่ผ่านมามันหายากมากที่จะได้เห็นเขามีความสุขขนาดนี้ ประธานซูยี่แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าทำอะไรที่นั่นถึงทำให้เขามีความสุขเช่นนี้แต่ในฐานะแม่ของเขาข้าก็อยากขอบเจ้ามาโดยตลอด”
“จะทำอย่างนั้นได้อย่างไร……” ซูยี่โบกมือ“ท่านวิสเคานท์และท่านหญิงสุภาพเกินไปแล้วโอรินก็ช่วยข้าได้ไม่น้อย ข้าจะพูดตามตรงแกนหลักของพัดลมเวทมนตร์ของ บริษัทข้าคือรูปแบบเวทมนตร์และโอรินก็รับผิดชอบงานนี้ เขาไม่เพียงแต่ช่วยจารึกรูปแบบเวทมนตร์เท่านั้น แต่เขายังทำการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับมันและข้ายังให้โบนัสกับเขาอีกด้วย ทุกวันนี้เขารับหน้าที่ในการค้นคว้าและผลิตแอร์เวทมนตร์ และช่วยข้าได้ไม่น้อย เมื่อพูดถึงสิ่งนี้ข้าควรจะขอบคุณท่านวิสเคานท์และท่านหญิงที่ให้กำเนิดบุตรชายที่โดดเด่นเช่นนี้”
ไม่ว่าโลกจะเป็นอย่างไรพ่อแม่มักจะมีความสุขเมื่อคนอื่นยกย่องลูกต่อหน้าพวกเขาวิสเคานท์เซตามินและภรรยาก็ไม่มีข้อยกเว้น
“ ฮ่าฮ่าประธานซูยี่ เจ้าก็ชมโอรินพูดเกินไป ใช่แล้วแล้วแอร์เวทมนตร์ที่เจ้าเพิ่งคิดค้นคืออะไร? สิ่งนั้นมันคืออะไร? มันเกี่ยวข้องกับพัดลมเวทมนตร์หรือเปล่า”
เมื่อเห็นการแสดงออกนั้นวิสเคาเซตามินก็มาไปที่ซูยี่ด้วยควมสงสัย
ปลาติดเบ็ดแล้ว
ซูยี่รอที่รอคำถามนี้อยู่แล้วเขาก็ตอบกลับทันที "พูดถึงแอร์เวทมนตร์……จริงๆแล้วในห้องนี้ก็มีเช่นกัน"