ตอนที่แล้วภาค5บทที่19 เพราะว่าสอบข้อเขียนเค้าได้เต็มไงล่ะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปภาค5บทที่21 เหมือนกับรุ่นพี่ในชมรมเลย!

ภาค5บทที่20 ห้อง E คือห้องที่ต่ำที่สุด (ฟรี)


ภาค5บทที่20 ห้อง E คือห้องที่ต่ำที่สุด

ผมผ่านการสอบเข้าโดยไม่ติดขัดอะไร และตอนนี้ก็ได้เรียนที่คณะศิลปะการป้องกันตัว

“เอ่อ อยู่ห้อง E อย่างนั้นเหรอ?”

ชาติก่อนผมแทบไม่เคยได้เข้าโรงเรียนแบบธรรมดาๆเลย เพราะงั้นในชาตินี้ผมจึงตั้งหน้าตั้งตารอชีวิตในโรงเรียนมานาน

ผมเดินเข้าไปในห้อง E ด้วยความคาดหวังสูง

บรรยากาศในห้องแบ่งเป็นสองแบบ

อย่างแรกเป็นคนที่มีความสุขที่ได้เข้าสถาบันชื่อดัง พวกเขาพูดประมาณแบบ “ดีใจมากเลยล่ะที่ได้เข้า” แล้วก็ “นับจากนี้ไปเราก็เป็นนักเรียนของสถาบันหลวงแล้วสินะ” อย่างมีความสุข

ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้โดยไม่พูดอะไรแม้แต่น้อย

บรรยากาศของพวกเขานั้นเหมือนกับอยู่ในงานศพเลย

ดูจากหน้าของพวกเขาที่สิ้นหวังขนาดนั้น ทำให้ยากที่จะเชื่อว่าพวกเขาเป็นเด็กใหม่

เกิดอะไรขึ้นกัน....?

ไม่เพียงแค่หนึ่งหรือสองคน แต่ว่ามีคนจำนวนมากที่เป็นแบบนั้น

เหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เหตุบังเอิญหรือโชคร้าย

ผมหาที่นั่งว่างๆและนั่งลงไป

และอีกซักพักก็มีคนที่ดูเหมือนจะเป็นอาจารย์เข้ามาในห้อง

ใช่ครูประจำชั้นรึเปล่านะ?

เขามองไปทั่วห้องและเปิดปากพูด

“ทุกคนมากันครบแล้วใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มโฮมรูมกันได้ ถ้ามีคำถามอะไรก็ไว้ถามทีหลังทีเดียวละกันนะ โอเคนะ?”

มีอยู่ไม่กี่คนที่ตอบ

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครคัดค้าน เขาจึงพูดต่อ

“อย่างแรก มาพูดกันให้รู้เรื่อง อย่างที่รู้ว่าคณะศิลปะการป้องกันป้องกันตัวนั้นแบ่งเป็นหกห้องเรียน จาก S ถึง E โดยวัดจากคะแนนสอบเข้าและอย่างอื่น ดังนั้นนักเรียนที่มีคะแนนดีก็จะได้เข้าห้อง S และนักเรียนคนอื่นๆที่ได้รองลงมาเรื่อยๆก็จะได้ไปห้อง A B C ตามลำดับ นั่นก็คือ ห้อง E เป็นห้องบ๊วยล่ะนะ”

เข้าใจละ ก็เลยมีพวกที่มีบรรยากาศเหมือนอยู่ในงานศพนั่นสินะ....

คนที่มีเป้าหมายแค่อยากจะผ่านก็ดูมีความสุขที่ผ่านเข้ามาจริงๆ

ส่วนคนที่เล็งห้องที่สูงกว่านี้ก็เศร้าใจที่พวกเขาต้องมาเข้าห้อง E

แต่ว่ามันแปลกนะ

ผมจำได้ว่าผมทำข้อสอบปฏิบัติได้ดีเลยนะ

หรือว่าจะเป็นนักเรียนคนนั้นที่เป็นคนคุมสอบให้คะแนนผมผิดกันนะ?

“แต่ถึงจะเป็นห้องบ๊วย แต่ว่าพวกเธอก็ยังเป็นนักเรียนของสถาบันแห่งนี้ ครูจะไม่ลดระดับของห้องเราลงมาไม่ว่าจะยังไงก็ตาม.... ถึงพวกเธอบางคนจะตามไม่ทันก็ตาม อันที่จริงแล้ว มีนักเรียนหลายคนลาออกไปทุกๆปี เพราะงั้นถ้าพวกเธอแค่พอใจกับการสอบเข้าได้ เธออาจจะเป็นหนึ่งในพวกเขาก็เป็นได้”

และด้วยคำพูดนั้น กลุ่มที่มีความสุข-----แน่นอนว่าไม่เกี่ยวกับคนในชาติก่อนของผม----ยืดตัวตรง

“แต่ห้องเรียนมันไม่ได้ตายตัว เพราะงั้นถ้าหากว่ามีการตัดสินว่าพวกเธอเก่งพอ ก็จะได้เลื่อนขั้นไปห้องเรียนที่สูงกว่านี้ ถึงจะเป็นตอนกลางเทอมก็ตามที แน่นอนว่าสิ่งตรงกันข้ามก็เป็นไปได้เหมือนกัน.... พวกเธออยู่ล่างสุดแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องตกไปชั้นล่างหรอก เพราะงั้นก็วางใจได้”

คราวนี้กลุ่มที่เศร้าๆนั้นมีสีหน้ามุ่งมั่นขึ้นมา

เหมือนว่าพวกเขาจะมุ่งมั่นกับการเลื่อนชั้น

หลังจากวันนั้น ก็มีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องในโรงเรียน แล้ววันนี้ก็เลิกแค่นั้น

พวกเราจะเริ่มเรียนวันมะรืนนี้

หลังจากที่นั้นผมก็มุ่งหน้าไปยังหอพัก

เหมือนว่าห้องนอนจะถูกตัดสินเอาไว้แต่แรกอยู่แล้ว

คนคุมหอก็บอกเลขห้องกับผม และตอนนี้ผมกำลังหาห้องที่ผมจะอยู่

มันเป็นห้องทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ

“ที่นี่เหรอ?”

ผมเปิดประตูเข้าไป มันเล็กกว่าที่คิด

เตียงสองชั้นตั้งอยู่ทางสองฝั่งของห้องนอน ทำให้มันดูแคบแปลกๆ

เมื่อผมเดินผ่านเตียงไป ก็เจอโต๊ะเรียนเป็นรูปตัว U

มันเป็นห้องนอนสำหรับสี่คน และแน่นอนว่ามันไม่มีที่ส่วนตัว

“นายเป็นเด็กใหม่เหรอ?”

ผมกำลังวางของลงบนโต๊ะที่ว่างเปล่าในขณะที่มีคนเดินเข้ามา

“อืม นายด้วยเหรอ?”

“ใช่แล้ว ฉันชื่อแลนต้า ยินดีที่ได้รู้จัก”

“ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่ออาร์ค”

พวกเราแนะนำตัวและจับมือ เขาเป็นคนอัธยาศัยดี และเหมือนว่าจะมาจากอาณาจักรเอเดลไฮด์แห่งนี้

“เฟย์นอท? ไม่รู้จักเลย? มันอยู่ตรงไหนน่ะ?”

“อยู่ทางฝั่งตะวันออกน่ะนะ ไกลเลย”

“อยู่ใกล้เมืองแห่งดาบรึเปล่า?”

“อยู่เลยไปอีก”

“เฮ้ๆ มันไกลมากเลยไม่ใช่รึไงกัน ใช้เวลาหลายวันเลยนะนั่นกว่าจะมาถึง”

ก็แค่ประมาณสองวันเองนะ

“แลนต้าอยู่ห้องไหนเหรอ?”

“ห้อง C น่ะ แล้วนายล่ะ?”

“ห้อง E น่ะ”

“อย่างนี้นี่เอง...ก็นะ ดูจากอายุนายแล้ว แค่ผ่านก็คงจะพอแล้ว ฉันได้ยินมาว่ามีอัจฉริยะคนนึงได้เข้าห้อง S ทั้งๆที่อายุแค่12ด้วยนะ นายรู้มั้ย? เหมือนว่าเด็กคนนั้นจะมี [อาชีพระดับสูงกว่า] แล้วก็เข้าคณะเวทมนตร์ล่ะนะ”

“เห อย่างนี้นี่เอง นายรู้เยอะจังนะนี่”

“มันก็มีคนคุยกันอยู่พอสมควรล่ะนะ”

เหมือนว่าแลนต้าจะเป็นคนมีความรู้

ไม่เหมือนกับผม เขามาจากประเทศนี้ เพราะงั้นคงจะมีคนรู้จักเยอะเลย

“และจากที่ได้ยินมา เด็กคนนั้นเป็นผู้หญิงด้วยนะ น่ารักด้วยล่ะ”

“เด็กผู้หญิงงั้นเหรอ”

“อ่า แต่ว่าเสียดายที่พวกเราอยู่คนละคณะกัน จะรู้จักกันก็คงยากล่ะนะ”

แน่นอนว่าหอพักมันไม่ได้แยกคณะ แต่ยังไงเด็กผู้หญิงก็แยกหอพักกันอยู่แล้ว

แน่นอนว่าเรย์ล่าก็อยู่ในนั้นเหมือนกัน

และในตอนนั้นเองก็มีชายสองคนเดินเข้ามาในห้อง

เด็กผู้ชายตัวเบิ้มๆกับอีกคนที่ดูกลางๆ เดินเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มแปลกๆ

“พวกเอ็งเป็นเด็กใหม่สินะ ข้าชื่อกาอง ปีสี่จากห้อง A ข้าเป็นบอสของห้องนี้เฟ้ย”

เด็กร่างใหญ่พูดชื่อและเปิดปากพูด

“หรือก็คือ พวกเอ็งต้องฟังข้า”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด