ตอนที่ 32 เฉียวเมียนเมียน นี่หมายความว่ายังไง
เฉียวเมียนเมียนนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นเล็กน้อยก่อนตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะควบคุมให้เป็นปกติ “ไม่เกี่ยวกับหัวหน้าเฉินเลยค่ะ เขาจัดการทุกอย่างได้ดีมากจริง ๆ”
“แล้วทำไมคุณยังไม่มีความสุขล่ะ?” เหมาเยซื่อถามต่อ น้ำเสียงของเขาแฝงความห่วงใย
“เอ่อ...คงเป็นเพราะฉันหิว” เฉียวเมียนเมียนตอบอย่างเร่งรีบ เธอไม่รู้จะพูดอะไรดีก็เลยใช้ข้ออ้างนี้แทน
เสียงหัวเราะเบา ๆ ของเหมาเยซื่อดังลอดผ่านสาย “อืม ขอโทษที วันนี้ผมพยายามเคลียร์งานให้ได้มากที่สุด คราวหน้าเลิกงานตรงเวลาจะได้รีบกลับบ้านไปหา...คุณ”
เฉียวเมียนเมียนถึงกับสำลักออกมา “แค่ก ๆ ...” หน้าแดงกว่าเดิมอย่างห้ามไม่อยู่ เขาไม่ต้องพูดออกมาตรง ๆ ขนาดนั้นก็ได้!
“ผมมาถึงแล้ว” เสียงของเขากลับมาจริงจังอีกครั้ง “จะให้ผมขึ้นไปหาคุณเลยไหม หรือ...”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะลงไปหาคุณเอง” เธอตอบทันที ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เธอไม่อยากให้เขาขึ้นมาหา เพราะกลัวจะเป็นจุดสนใจของคนรอบข้าง
เมื่อเธอมาถึงลานจอดรถชั้นใต้ดิน รถเบนท์ลีย์สีดำติดไฟหน้าขึ้นทันทีที่เธอเดินมาใกล้ ภายในรถ เหมาเยซื่อนั่งทำงานบนแล็ปท็อปอย่างเกียจคร้าน ดวงตาของเขาจ้องมองหน้าจออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอ
บรรยากาศในที่จอดรถที่มืดสลัว แสงไฟภายในรถที่สะท้อนใบหน้าเขาทำให้เขาดูหล่อเหลามีเสน่ห์ยิ่งขึ้น เส้นบนใบหน้าของเขาถูกขับเน้นด้วยแสงอ่อน ๆ นั้น ทำให้ดวงตาของเขาดูอบอุ่นและลุ่มลึกมากขึ้น
หัวใจของเฉียวเมียนเมียนเต้นผิดจังหวะไปชั่วขณะ เหมาเยซื่อจ้องเธอครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “ทำไมยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นล่ะ ขึ้นรถสิ”
“อ๊ะ...ค่ะ” เธอรีบตอบ ก่อนจะหายใจลึกแล้วก้าวขึ้นรถ
เมื่อประตูรถปิดลง บรรยากาศภายในรถก็อึดอัดขึ้นทันที กลิ่นหอมอ่อน ๆ ในรถยิ่งทำให้เธอรู้สึกประหม่า และสายตาของเหมาเยซื่อที่จ้องมองเธออยู่ก็ยิ่งทำให้ใจเต้นแรง
เสียงทุ้มของเขาดังขึ้น “ทำไมคุณถึงไม่ได้ซื้ออะไรเลยล่ะ คุณได้รับการ์ดจากลุงหลี่ใช่ไหม?”
“ได้รับแล้วค่ะ” เธอตอบสั้น ๆ
“แล้วทำไมไม่ซื้ออะไรติดมือมาบ้าง ไม่ชอบอะไรเลยเหรอ?” เขาขมวดคิ้ว ราวกับไม่พอใจที่เธอไม่ยอมใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว
เฉียวเมียนเมียนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบการ์ดสีดำและนาฬิกาที่อยู่ในกระเป๋าออกมายื่นคืนให้เขา “ฉันไม่สามารถรับมันได้ค่ะ มันมีค่ามากเกินไป”
เหมาเยซื่อขมวดคิ้วลึกยิ่งกว่าเดิม สีหน้าไม่พอใจชัดเจน “เฉียวเมียนเมียน นี่มันหมายความว่าไง?”
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที ปกติแล้วเธอไม่ใช่คนที่จะกลัวใครง่าย ๆ แต่กับเขา…เธอรู้สึกได้ถึงความกดดันมหาศาล เธอพยายามพูดออกมาอย่างเบา ๆ และเรียบง่าย “เหมาเยซื่อ แม้ว่าเราจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ฉันยังไม่คุ้นเคยกับความสัมพันธ์ของเรา... ฉันแค่อยากขอเวลาหน่อย”
คำพูดของเธอทำให้บรรยากาศในรถเงียบลงชั่วขณะ เหมาเยซื่อยังคงจ้องเธออยู่ด้วยดวงตาที่ลึกซึ้งและอ่านยาก ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเยือกเย็นแต่ชัดเจน “ผมเข้าใจ...แต่จำไว้นะ เฉียวเมียนเมียน คุณเป็นภรรยาของผม สิ่งที่ผมให้คุณ คุณมีสิทธิ์ที่จะรับไว้”