ตอนที่ 289-290
ตอนที่ 289 : อับโชค
ทันใดนี้เองที่ออร่าอันยิ่งใหญ่ได้ปรากฏผ่านความว่างเปล่า มันราวกับหวนกลับคืนสู่กาลโบราณ!
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
คนทั้งสองต่างชะงักงันไปครู่
กระทั่งฝูงสัตว์อสูรคลั่งทางด้านหลังยังต้องชะลอตัวกันไปครู่เช่นเดียวกัน
ระหว่างสองคนและฝูงสัตว์ ห้วงมิติเกิดบิดเบี้ยวขึ้นมา
พร้อมกันนี้พายุรุนแรงได้บังเกิดขึ้นพวยพุ่งสู่ฟากฟ้าพร้อมส่องแสงสว่างเจิดจ้าท่ามกลางยามค่ำคืน
แสงสว่างยิ่งมายิ่งมาก เส้นสายของแสงปรากฏให้เห็นชัดราวกับเป็นออร่าแห่งฟ้าดินได้ไหลเวียน!
ห้วงมิติเกิดความบิดเบี้ยวขยายขนาดขึ้นจนเกิดเป็นวงกลมอย่างสมบูรณ์
เมื่อแสงสว่างเจิดจ้าถึงขีดสุด มันพลันทอประกายสว่างวูบ
สายลมเริ่มเคลื่อนที่ช้าลง
ร่างบางปรากฏตัวผ่านความว่างเปล่า
ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วพริบตา!
การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้ไม่อาจทำให้ฝูงสัตว์อสูรหยุดลงได้
ขณะนี้เองที่ฝูงสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนกำลังเคลื่อนเข้าหาร่างที่เพิ่งปรากฏ!
“หือ?”
เสียงรับคำเบาปรากฏจากริมฝีปากนั้นราวกับไม่สะทกสะท้านต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
“ระวัง!” แม้ชายหนุ่มไม่ทราบว่าเหตุใดบุคคลตรงหน้าปรากฏจากความว่างเปล่า กระนั้นเขาก็ยังหวังดีกล่าวเตือน
ทวีปเทียนหลันกว้างใหญ่ ผู้ฝึกตนหากคิดเดินทางไกลก็ยากจะประเมินระยะเวลาได้
แต่มันจะแน่นอนขึ้นมาหากมีการใช้ค่ายอาคมเคลื่อนย้าย
ค่ายอาคมเคลื่อนย้ายสามารถใช้ส่งถ่ายไม่ว่าทั้งวัตถุหรือบุคคล
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ค่ายอาคมเคลื่อนย้ายจะตั้งอยู่ในสองสถานที่
หนึ่งคือต้นทาง และอีกหนึ่งคือปลายทาง
แน่นอนว่ายังมีค่ายอาคมจำนวนหนึ่งที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว เหล่านั้นจะเป็นการเคลื่อนย้ายทางเดียว
ค่ายอาคมเคลื่อนย้ายเช่นนั้นกล่าวได้ว่ามีจำนวนเพียงน้อยนิด
และสถานที่จุดหมายปลายทางก็ยากจะกำหนด
หากบังเอิญเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่อันตราย เช่นนั้นก็ยากจะจินตนาการถึงเรื่องราว...
แน่นอนว่าชายหนุ่มที่ปรากฏตัวอย่างกะทันหันตรงหน้าผ่านค่ายอาคมเคลื่อนย้ายออกจะอับโชคเกินไปบ้างแล้ว
หลังใช้งานค่ายอาคมเคลื่อนย้าย ผู้ฝึกตนจะเกิดอาการวิงเวียนไม่อาจตั้งสมาธิได้ครู่หนึ่งเพราะผลกระทบจากห้วงมิติ
การเคลื่อนย้ายมาหยุดตรงหน้าฝูงสัตว์อสูรโดยตรง กล่าวได้ว่าโชคร้ายตั้งแต่ก่อนเดินทาง...
หญิงสาวที่อยู่ข้างกายขณะนี้หวาดกลัวขนาดสีหน้าซีดเผือด นางไม่กล้ารับชมภาพฉากนองเลือดที่อาจเกิดขึ้นถัดจากนี้...
แน่นอนว่าร่างที่ปรากฏย่อมเป็นลั่วฉวนที่ระบบส่งมา
ขณะนี้เขายังรู้สึกวิงเวียนอยู่บ้าง
ทว่าหูได้ยินเสียงร้องคำรามสัตว์อสูรขนาดสะท้านฟ้าสะเทือนดิน
อากาศยังเผยกลิ่นสาบของสัตว์ป่าอย่างเด่นชัด
ลั่วฉวนขมวดคิ้วพลางส่ายศีรษะ ความคิดขณะนี้กลับมากระจ่างอีกครั้งแล้ว
ถัดจากนั้นเขาจึงได้เห็น ว่าฝูงสัตว์อสูรมากมายโถมเข้ามาประหนึ่งคลื่นยักษ์สีดำ!
นี่มันเรื่องอะไรกัน?!
ลั่วฉวนตกใจ
ที่ตกใจก็เพราะเขาลืมตาขึ้นพร้อมได้พบเห็นเรื่องราวชวนแตกตื่นอย่างไม่ทันตั้งตัว
นี่คือสัญชาตญาณของมนุษย์
แต่ไม่ช้าสีหน้าลั่วฉวนก็กลับคืนความสงบ
ในดวงตานั้นกระทั่งเผยร่องรอยความเหยียดหยัน
ความแข็งแกร่งของตัวเขาตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับอยู่ที่ร้านต้นตำรับ!
หรือก็คือเขายังครอบครองบัพไร้เทียมทาน!
เช่นนั้นแล้ว...
ความเย็นเยือกจึงฉายวาบผ่านดวงตาของลั่วฉวน
เขากำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่เล็กน้อยพอดี
ผู้ใดก็ตามหากพบเจอสัตว์อสูรดุร้ายพุ่งเข้าหาตั้งแต่รู้สึกตัว จะมีใครบ้างที่อารมณ์ดีอยู่ได้...
ขณะนี้ฝูงสัตว์อสูรใกล้ถึงจุดปะทะกับลั่วฉวนแล้ว
เขาถึงกับเห็นได้ชัดเจนถึงฟันของเหล่าสัตว์อสูรและประกายความโหดเหี้ยมในดวงตาของพวกมัน!
ตอนที่ 290 : มนุษย์ที่น่าหวาดกลัว
ลั่วฉวนยืดฝ่ามือออกพร้อมสะกดลงใส่ความว่างเปล่า
ชายหนุ่มผู้ซึ่งพบเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นขณะนี้เผยความแตกตื่นในดวงตา
เผชิญหน้ากับฝูงสัตว์อสูร ทั้งยังเป็นการปรากฏตัวจากค่ายอาคมเคลื่อนย้าย ขณะนี้คิดจะตอบโต้พวกมันโดยไม่หลบหนีงั้นหรือ?
สิ่งที่เกิดขึ้นถัดจากนี้ส่งผลให้ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวต้องจับจ้อง
คนทั้งสองหวาดกลัวว่าจะได้เห็นอะไรเฉกเช่น “ร่างกายมนุษย์ที่แหละเละ”
ตู้ม!
เสียงดังขึ้นอย่างรุนแรง
ที่เบื้องหน้าลั่วฉวน ห้วงมิติคล้ายพังทลายลง
ราวกับมันถูกบีบอัด ต้นไม้และเนินเขาใกล้เคียงกลับกลายเป็นบิดเบี้ยว
แน่นอนว่ารวมถึงฝูงสัตว์อสูรเหล่านั้นด้วย
ทุกสิ่งอย่างบิดเบี้ยวและเลือนหาย
หากมองลงไปจะได้เห็น ว่าพื้นที่เบื้องหน้าลั่วฉวนมันปรากฏรอยประทับฝ่ามือเป็นรัศมีกว่ากิโลเมตร
พื้นดินถึงกับยุบตัวลงไปลึกหลายเมตร!
ดวงตาของชายหนุ่มเผยความไม่เชื่อ ใบหน้านั้นแตกตื่นอย่างเห็นได้ชัด
ทางด้านหญิงสาวอุทานร้องออกพร้อมดวงตาเบิกกว้าง
พลังอำนาจเช่นนี้ ชายหนุ่มที่เพิ่งปรากฏตัวเป็นใครกันแน่?!
ขณะเดียวกันนี้เองที่ฟากฟ้าเบื้องบนปรากฏเป็นหลุมลึก เหล่านกต่างบินหนีหาย
ลั่วฉวนหรี่ดวงตาจับจ้องนกเหล่านั้น
เขาทราบดีว่าจ่าฝูงสัตว์อสูรหลบซ่อนตัวอยู่ในฝูงนก!
ชายหนุ่มคิดนำหญิงสาวเผ่นหนี ทว่าบรรยากาศส่งผลให้ทั้งสองไม่กล้าขยับตัว
เพียงได้เห็นเรื่องราวชวนตื่นตะลึงเมื่อครู่ ก็ยากคาดเดาแล้วว่าบุคคลที่คล้ายจะอายุเท่าเทียมกันนี้เป็นยอดฝีมือระดับสูงล้ำเช่นไร!
อย่างน้อยก็ต้องขอบเขตทดสอบเต๋า!
“วิหคเกล็ดแก้วเจ็ดสี!” หญิงสาวแตกตื่นยามได้เห็นนกบนฟากฟ้า
เพราะเป้าหมายของคนทั้งสองก็คือวิหคเกล็ดแก้วเจ็ดสี!
วิหคเกล็ดแก้วเจ็ดสี?
ดวงตาลั่วฉวนเผยประกายยามได้ยินชื่อ
จากการฝึกสอนทำอาหารที่เขาได้รับชมก่อนมา มันก็ใช้วิหคเกล็ดแก้วเป็นวัตถุดิบ
แม้วิหคเกล็ดแก้วเจ็ดสีและวิหคเกล็ดแก้วชื่อคล้ายกัน ทว่าแท้จริงค่อนข้างแตกต่าง
จากที่ลั่วฉวนคาดเดา สมควรเป็นเพราะสายเลือดที่มันครอบครอง
ขณะนี้ภายในเขาจึงเกิดความคิดขึ้นมา...
วิหคเกล็ดแก้วเจ็ดสีตระหนักได้ถึงสายตาลั่วฉวนจนสั่นกลัว
ดวงตาของมนุษย์ผู้นี้คุกคามและอันตราย ราวกับคิดอยากกินมันทั้งเป็น...
“ท่านผู้อาวุโสยอดเยี่ยมนักถึงกับกวาดล้างพวกมันได้ด้วยฝ่ามือเดียว วิเศษมากล้ำ!” ชายหนุ่มเผยสีหน้าเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม
ครึ่งหนึ่งเป็นคำชม อีกครึ่งหนึ่งเป็นความจริงใจ
ลั่วฉวนรับชมชายหนุ่มและหญิงสาวด้วยท่าทีสงสัยก่อนจะพยักหน้าให้
เรื่องราวกลายเป็นเงียบงัน
บรรยากาศกลายเป็นกระอักกระอ่วน
ลั่วฉวนไม่ตอบคำ พวกเขาก็ไม่กล้ากล่าวเพิ่มเติม!
พวกเขาคิดถึงสาเหตุที่ลั่วฉวนอารมณ์ไม่ดี
ขณะนี้คงได้แต่ต้องรอเรื่องราวเสร็จสิ้นเสียก่อน
ลั่วฉวนพบว่าคนทั้งสองมองมา ขณะนี้จึงสอบถามต่อชายหนุ่ม “เจ้าเป็นใคร? ไฉนจึงอยู่ที่นี่?”
“ผู้อาวุโส ข้าน้อยเป็นศิษย์ตำหนักจักรกลสวรรค์นามเฉินโม่” ชายหนุ่มตอบคำอย่างนอบน้อมพร้อมชี้ไปยังหญิงสาวข้างกาย “นี่น้องสาวข้า เฉินอี้อี้”
ขณะเฉินโม่ตรวจสอบลั่วฉวน ภายในใจนั้นต้องเผยความแตกตื่น
เขาประหลาดใจที่อายุอีกฝ่ายน่าจะเยาว์กว่าเขาด้วยซ้ำ
อีกทั้งยังไม่เผยร่องรอยความผันแปรออร่าใดให้ได้เห็น
ทว่าเรื่องที่อีกฝ่ายทำลายฝูงสัตว์อสูรด้วยเพียงการผลักฝ่ามือออกนั้นชัดเจนว่าไม่มีทางใช่คนธรรมดา
หลังพิจารณาถี่ถ้วน เฉินโม่ก็ไม่อาจจดจำได้ว่ามียอดฝีมือผู้ใดคล้ายลั่วฉวนในความทรงจำ
เมื่อใดกันที่ทวีปเทียนหลันแห่งนี้ปรากฏยอดฝีมือลึกลับเช่นนี้?