ตอนที่แล้วบทที่70:อับอาย! (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่72:ฉันอยู่ที่นี่แล้ว! (ฟรี)

บทที่71:พายุกำลังมา! (ฟรี)


S.P.P บทที่ 71: พายุกำลังมา!

วันที่เจ็ด,ในตอนเที่ยงของวันนั้นเจสัน,เจ้านายน้อยและรูจกำลังรับประทานอาหารกลางวันกันอยู่บนโต๊ะเล็กๆ

ทันใดนั้นเองอยู่การแสดงออกของเจสันก็ได้กลายเป็นจริงจังในทันที

เมื่อรูจเห็นการแสดงออกของเจสันมันทำให้เธอรู้สึกสงสัย

“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ? เจสัน!”

ในเวลาเดียวกันเจ้านายตัวน้อยที่กำลังดื่มนมอยู่ข้างๆเขานั้นก็ได้ยกศีรษะของเธอขึ้นตอนนี้ดวงตาของเธอก็จริงจังมากเช่นกัน

“เปแดบ! เปแดบ! เปแดบ!”

ในตอนนั้นเองเสียงของหอยทากสื่อสารก็ได้ดังขึ้นมา,เจสันที่กำลังกินอาหารอยู่เต็มปากนั้นก็ได้วางตะเกียบของเขาลงอย่างรวดเร็วแล้วหยิบหอยทากสื่อสารออกมาจากกระเป๋าของเขาในทันที

เป็นเวลากว่าเจ็ดวัน,หอยทากสื่อสารที่เงียบมาตลอดในที่สุดก็ได้ดังขึ้นมา

"สวัสดี"

เจสันได้หยิบหอยทากสื่อสารขึ้นมาอย่างรวดเร็ว,เขาได้พูดออกไปอย่างหนักแน่น

"ทำตามแผนได้เลย!"

เสียงของชายหนุ่มที่ดังขึ้นมานั้นมันทำให้เจสันได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา,เขาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ทางตอนใต้ของเกาะบราเทอริลล่า นับตั้งแต่วินาทีที่เขามาถึงที่นี้นั่นมันมักจะมีหน่วยลาดตระเวนเกือบทุกๆสิบเมตร อย่างไรก็ตามในวันหนึ่งอยู่ๆจำนวนของทหารเรือก็ได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ในทุกๆวันจำนวนของทหารเรือที่ลดลงก็เริ่มมากขึ้น

เจสันรู้ดีว่าสาเหตุของเรื่องนี้นั้นมันจะต้องเป็นเพราะโรแกนอย่างแน่นอน

เพื่อให้ง่ายขึ้นสำหรับพวกเขาที่จะหนีออกไปจากเกาะนี้,โรแกนเลือกที่จะเผชิญหน้ากับพวกทหารเรือด้วยตัวคนเดียว

เจสันรู้ว่ามันอะไรที่อันตรายมาก

“คุณยังปลอดภัยดีอยู่ใช่มั้ยกัปตัน?”

เจสันรีบถามออกไปในทันที

“อืม,ฉันสบายดี”

เสียงหัวเราะได้ดังออกมาจากหอยทากสื่อสาร,ก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า

“ทุกอย่างโอเคแล้ว,พวกนายทั้งคู่ก็เริ่มทำตามแผนได้แล้ว!,พาเธอออกไปจากเซาธ์บลูนั้นคือเป้าหมายของพวกนาย!”

“ถ้าออกไปได้แล้วให้มุ่งหน้าไปที่นอร์ธบลู!”

จากนั้นหอยทากสื่อสารก็ได้ถูกวางสายไป

เจสันนั่งนิ่งอยู่ตรงนั่น,เขาอึ้งไปพักหนึ่งหลังจากนั้นเขาก็ได้เอาหอยทากสื่อสารเก็บเข้าไปในกระเป๋าอย่างระมัดระวังและความกังวลบนใบหน้าของเขาก็ได้หายไป

เขามองไปที่รูจด้วยใบหน้าที่จริงจัง,เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่พูดออกมาในที่สุด

“คุณรูจ,เราต้องออกไปจากที่นี่กันแล้ว”

“ได้เวลาไปแล้ว”

รูจไม่ได้แปลกใจแต่อย่างใดเธอได้ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า“เป็นกัปตันของคุณสินะ?”

"ใช่!"

เจสันไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด

รูจได้ผงกหัวของเธอ

หลังจากนั้นทั้งสามคนก็ได้เก็บข้าวของของพวกเขา เจ้านายตัวน้อยได้ผูกห่อเล็กๆเอาไว้รอบคอของเธอแล้วกระโดดขึ้นไปอยู่บนไหล่ของเจสัน

"คลิก!"

ประตูได้ปิดลงและพวกเขาก็ได้เดินไปตามถนน

แมรี่เพื่อนบ้านของรูจนั้นกำลังเดินออกมาข้างนอก พอเธอเห็นเจสันและรูจเธอก็ดูแปลกใจมากและได้ถามรูจออกมาด้วยรอยยิ้ม

“รูจคุณจะเดินไปที่ไหนงั้นหรอ?”

“ฉันไม่ได้ออกมาข้างนอกนานแล้ว,เขาคงจะเบื่อแล้วนะ”

ใบหน้าของรูจได้แสดงความรักออกมาเมื่อเธอสัมผัสไปที่ท้องของเธอ

“ฮ่าฮ่า,การอุ้มท้องลูกนี้เป็นเรื่องที่ยากจริงๆ”

แมรี่ได้หัวเราะออกมาแล้วเธอก็ได้มองไปที่เจสันด้วยความสับสน

"เขาคือใครหรอรูจ?"

“นี่คือพี่ชายของฉันนะ,เขามาที่นี่เพื่อดูแลฉันในช่วงเวลานี้” รูจได้ตอบออกมาอย่างสงบ

เจสันยิ้มออกมาอย่างเก้ๆกังๆ

แมรี่ได้พยักหน้า,เธอไม่สงสัยอะไรเลยแม้แต่น้อย

ต่อมารูจได้บอกลาแมรี่,ทั้งสามนั้นไม่ได้ตื่นตระหนกใดๆ จากนั้นพวกเขาก็ได้เดินเลี้ยวซ้ายและเดินวนไปตามถนนหลังจากผ่านไปสี่ชั่วโมงพวกเขาก็ได้มาถึงถนนลูกรังที่ทอดยาวไปสู่ป่าทางใต้

“มีทหารเรืออยู่ข้างหน้า”

เมื่อมองไปที่ป่า,ในตอนนี้มีทหารเรือกลุ่มหนึ่งประจำการอยู่ในป่ารูจมองไปอย่างเป็นกังวล

"เหมียว."

เจ้านายตัวน้อยได้ชี้ไปที่เจสัน

เจสันได้พยักหน้าและพูดออกมาอย่างจริงจัง“ปล่อยให้ฉันจัดการเอง”

พวกเขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะสามารถออกไปจากเกาะได้อย่างง่ายดายและอุปสรรคอย่างทหารเรือก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เขาคิดเอาไว้แล้วว่าต้องเจอ

เจสันได้เดินเข้าไปหาทหารเรือที่ประจำการอยู่อย่างรวดเร็ว

เมื่อพวกเขาเห็นเจสันพวกเขาก็ได้กล่าวถามออกมาในทันที

"นายเป็นใคร? ที่นี่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใครเข้า,กลับไปซะ”

แม้ว่าพวกเขาจะตกใจกับร่างกายที่ดูแข็งแกร่งของเจสันแต่พวกเขาก็ยังกล่าวเตือนออกมา

แทนที่จะหันกลับไปเจสันกลับเร่งฝีเท้าของเขา,เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้นระยะห่างระหว่างพวเขาก็ได้ลดลงเหลือเพียงแค่สิบเมตร

ในตอนนั้นเองทหารเรือก็ได้ตอบสนองในทันที

“คัก! คัก! คัก!”

เสียงยกปืนได้ดังขึ้นมาในตอนนี้ทหารเรือทุกคนได้เล็งปืนไปที่เจสัน

“หยุด,ถ้าแกกล้าก้าวมาอีกก้าวเดียวหละก็เรายิงแกแน่!”

เจสันได้หยุดชั่วขณะหนึ่ง

ทหารเรือที่เห็นดังนั้นพวกเขาจึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่ในทันใดนั้นเองพวกเขาก็พบว่าพื้นดินนั้นสั่นสะเทือนเล็กน้อย

การสั่นสะเทือนนี้เกิดขึ้นอย่างกระทันหันและหนักหน่วง

ในเวลาต่อมามีเงาร่างขนาดใหญ่ก็ได้ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของพวกเขา

ชายร่างใหญ่ได้พุ่งเข้ามาหาพวกเขาและยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา พวกเขาตกใจมากพื้นดินรอบๆตัวเขานั้นได้ระเบิดออกราวกับว่าเกิดการระเบิดขึ้นที่นั่น

"ยิง!"

ทหารเรือคนหนึ่งได้ตะโกนสั่งเสียงดังออกมาแต่มันก็สายเกินไป!

"ร่วงไปซะ!"

เจสันคำรามออกมาเสียงดังและได้เหวี่ยงหมัดของเขาออกไปอย่างรุนแรง

ร่างใหญ่และแขนหนาของเขาได้พุ่งเข้ามาเหมือนรถดันดิน

เพียงพริบตาเดียวทหารเรือคนหนึ่งก็ได้ถูกส่งลอยขึ้นไปบนฟ้าก่อนที่เขาจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนั้น พวกเขาก็ได้ร่วงกระแทกลงมาบนพื้นอย่างแรงและหมดสติไป

ทุกครั้งที่เจสันเหวี่ยงแขนใหญ่ๆของเขานั้นทหารเรือทั้งห้าคนนั้นพยายามหลบอย่างสุดกำลัง เขาได้เหวี่ยงหมัดออกไปหกครั้งติดต่อกันในตอนนี้ทหารเรือทั้งหมดนั้นต่างก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างเงียบงัน

การโจมตีอันทรงพลังของเจสันนั้นมันทำให้พวกเขาทั้งหมดสิ้นสติลงไปในที่สุด

ส่วนทหารเรือที่รับผิดชอบพวกเขานั้นถูกสังหารไปตั้งแต่การโจมตีครั้งแรกของเขาไปแล้ว

หลังจากที่ได้ติดตามโรแกน,เจสันนั้นไม่คอยได้ต่อสู้มากนักแต่ทุกครั้งเขาจะทำแค่ขัดขวางและป้องกัน

เขาแข็งแกร่งขนาดไหนงั้นหรอ? บางทีมันก็คงเป็นอย่างที่เขาพูดแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้!

นั่นเป็นเหตุผลที่โรแกนมั่นใจในตัวเจสันมาก บางทีความแข็งแกร่งของเขาอาจจะใกล้ๆกับพลเรือโทหรือแม้กระทั่งพลเรือเอกแต่มันจะดีที่จะให้เขาเป็นแนวหลังแล้วฝ่าทะลายวงล้อมออกไป

แต่ถ้าต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเขาเองว่าเขาจะเอาแบบไหน

หลังจากแก้ปัญหาเรื่องทหารเรือเสร็จแล้ว รูจและเจ้านายตัวน้อยก็รีบตามเจสันไปทันทีและทั้งสามก็ได้เดินเข้าไปในป่าและหายไป

เกาะบราเทอริลล่าทางตอนเหนือ

ลมทะเลในวันนี้นั้นแรงมาก,บนหลังบ้านนั้นมีร่างของชายที่สวมหน้ากากและสวมชุดคลุมสีดำปรากฏขึ้นมาอย่างช้าๆ

เมื่อมองไปที่ท่าเรือกของลุ่มลาดตระเวนนั้นชายในชุดคลุมสีดำก็พึมพำออกมาว่า

“มีกันเยอะจริงๆ!”

“แต่ฉันจำเป็นต้องกลัวด้วยงั้นหรอ?”

“พวกนั้นแค่ฉันคนเดียวก็เกินพอแล้ว!”

“เจสัน,เจ้านายตัวน้อย,ที่เหลือนั้นขึ้นอยู่กับพวกนายทั้งสองคนแล้ว!”

ร่างที่สวมเสื้อคลุมสีดำได้ถอดหน้ากากออกมามันได้เผยให้เห็นถึงใบหน้าของชายหนุ่มรูปหล่อ คนหนึ่งในที่สุดโรแกนก็ได้ถอดหน้ากาก

ทันใดนั้นก็ได้มีสายลมพัดเข้ามามันทำให้เสื้อคลุมสีดำของเขานั้นพลิ้วไหวไปมา

เมฆบนท้องฟ้าได้เปลี่ยนไป,ในตอนนี้เมฆครึ้มก็ได้เข้าปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะบราเทอริลล่า

“บูม!”

เขาได้มองลงไปข้างล่างด้วยสายตาโกรธแค้น,โรแกนได้พูดออกมาด้วยเสียงทุ้ม

“พายุกำลังจะมา!”

“สายลมนี้,มันมาเพราะฉัน!”

ติดตามข่าวสารได้ที่เพจThe Soul Purchasing Pirate แปลไทย

https://www.facebook.com/Brazarux/?modal=admin_todo_tour

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด