ตอนที่แล้วบทที่ 202
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 204

บทที่ 203


เนี่ยฟงก้าวเดินเข้าหาเพื่อปลดแหวนในมือระหว่างที่กำลังเอาแหวนออกจากมือ เนี่ยฟงรีบดึงแหวนพร้อมกับถีบเท้าถอยออกมา ปราณสีดำพุ่งออกมาจากร่างกายชายฉกรรจ์ด้านหน้า เสียงสะบัดมือดังแว่ววงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏทับซ่อนกันสองวงใต้ร่างของชายฉกรรจ์ สายตาของเนี่ยฟงจับจ้องมองอย่างไม่วางตา ในมือกำชับดาบสีดำแน่น ทันทีที่วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าก่อตัวสำเร็จเถาวัลย์สีฟ้าพุ่งเข้ารัดตัวอย่างรวดเร็วพร้อมประกายสายฟ้าพุ่งเผาทำลายปราณสีดำจนหมดสิ้น

“ข้าไม่เข้าใจพวกท่านเสียจริง ว่าเหตุใดถึงขายความเป็นมนุษย์เพื่อรับใช้ปีศาจ”

ไร้ซึ่งเสียงกล่าวตอบได้ยินเพียงเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ปราณดาบสีฟ้าพุ่งเข้าหาปะทะร่างกายเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เศษซากชิ้นส่วนกระจายเลือดสีน้ำตาลสาดเต็มพื้นพร้อมกับรอยปราณดาบเป็นหลุมลึก เนี่ยฟงรีบพุ่งทะยานกลับไปหาหยางเวยอย่างเร่งรีบ เมื่อมาถึงพบเห็นหยางเวยกำลังสะบั้นศีรษะชายฉกรรจ์อีกผู้หนึ่ง เสียงสะบัดมือดังแว่วอีกครั้ง วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าสองวงก่อตัวทับซ่อนที่ใต้เท้าของหยางเวย แต่ทว่าปราณสีดำหาได้พุ่งออกจากร่างชายฉกรรจ์ที่หยางเวยสังหาร ไม่นานวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าก็จางหายไป

“เกิดสิ่งใดขึ้นเนี่ยฟง”

“ข้าคิดว่าคนผู้นั้นได้รับพลังปีศาจเช่นชายอีกคนที่ข้าสังหาร เลยเตรียมวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ไว้”

“ขอบใจเจ้ามา”

ในระหว่างนั้นเองหยางเวยตรวจสอบแหวนในมือก็ต้องขมวดคิ้วทั้งสองขึ้นหันมาจ้องมองเนี่ยฟงพร้อมกับเอ่ยวาจาออกมา

“ข้าว่าเราคงมีปัญหาใหญ่เข้ามาอีกแล้ว ชายที่ข้าสังหารไปเป็นคนของเขตปกครองแห่งดิน”

“เจ้าอย่าคิดมากเป็นคนพวกนั้นเองที่อยากสังหารเรา หรือเจ้าจะให้คนพวกนั้นมาสังหารเจ้าโดยที่เจ้าไม่ทำสิ่งใดเลย แล้วเจ้าคิดว่าที่ผ่านมาพวกเราเป็นคนดีรึ”

หยางเวยไม่กล่าวสิ่งใดตอบทำได้เพียงหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

“อย่าคิดมากหากพวกมันคิดสังหารเราก็ต้องได้รับค่าตอบแทนที่สาสม คิดเพียงแต่สมบัติจำนวนไม่น้อยที่คนพวกนั้นจะนำมาให้ก็พอ”

“แน่นอนคุณชายเนี่ยฟง”

“เหอะ หากกล่าวถึงสมบัติตัวเจ้าช่างหาได้หวาดกลัวอำนาจเมื่อครู่ เอาเถอะตอนนี้เราคงต้องกลับไปรวมกับพวกแม่นางเสี่ยวจูและแม่นางฟางจวินซีก่อน เพื่อไม่ให้พวกที่เข้ามาทีหลังได้สงสัย”

เสียงสะบัดมือดังอีกครั้งพร้อมกับแผ่นหนังในมือไม่ถึงสิบลมหายใจชายหนุ่มทั้งสองก็พุ่งทะยานออกไปทิ้งไว้เพียงซากศพที่ไร้ศีรษะกองอยู่บนพื้น

เวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบลมหายใจก็มีชายฉกรรจ์อีกสองคนสวมชุดสีดำสวมหมวกฟางสานพุ่งทะยานเข้ามาบริเวณทันทีที่เห็นซากศพไร้ศีรษะอยู่บนพื้นชายทั้งสองร้องคำรามเสียงดังลั่น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งเข้าไปสวมกอดซากศพที่ไร้ซึ่งศีรษะ ส่วนอีกผู้หนึ่งสะบัดมือไปมาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงปรากฏออกมาไม่นานก็พุ่งหายไปทางป่าต้นไผ่ ชายที่สร้างอักขระศักดิ์สิทธิ์รีบพุ่งทะยานติดตามอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงยี่สิบลมหายใจชายผู้นั้นก็พุ่งทะยานกลับมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“คนผู้นั้นถูกสังหารแล้ว เรารีบกลับไปแจ้งท่านผู้นั้นเถอะ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”

“ไม่ ข้าจะไม่ไปไหนจนกว่าจะสังหารไอ้บัดซบที่มันสังหารน้องชายข้า มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้ามาที่นี่แล้วลมปราณมีพิษหากเดาไม่ผิดคนผู้นั้นที่มากับน้องชายข้าต้องถูกเพื่อนของมันสังหารเป็นแน่ อีกอย่างมันทั้งสองก็เป็นเป้าหมายของท่านผู้นั้นอยู่แล้ว หากเราสังหารพวกมันทั้งสองได้ เจ้าไม่คิดถึงรางวัลที่เราจะได้รับรึ”

“แล้วเจ้าจะทำอย่างไร”

“มันทั้งสองก่อนเข้ามาที่นี่ข้าเห็นรวมกลุ่มอยู่กับกลุ่มของฟางจวินซี และกลุ่มของจงเหรินป้า”

“เจ้าคิดจะทำอย่างไรกันแน่”

“ทำอย่างที่เราทั้งสองเคยทำ ตอนนี้เจ้ามีหน้าที่ติดตามว่าไอ้ตัวบัดซบที่สังหารน้องชายข้าอยู่ที่ใด”

เสียงสะบัดมือดังแว่วแผ่นหนังปรากฏขึ้นที่มือขวาชั่วน้ำเดือดก็มีเสียงเอ่ยวาจาออกมา

“ข้าไม่พบเจอพวกมันทั้งสองเลย”

“โธ่เว้ย มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร หากหาตัวพวกมันทั้งสองไม่พบ เช่นนั้นก็สังหารเพื่อนของมันซะ”

ชายฉกรรจ์ผู้นั้นจ้องมองแผ่นหนังในมือไม่นานก็ขมวดคิ้วทั้งสองขึ้น

“กลุ่มของฟางจวินซีข้าก็ไม่พบ พบเจอแต่กลุ่มของจงเหรินป้าเพื่อนสำนักพยัคฆ์สายลมของมัน”

“พาข้าไป หากไม่เจอตัวมันข้าก็จะสังหารเพื่อนของมันให้หมด”

“ติดตามข้ามา”

สิ้นเสียงกล่าวทั้งสองก็พุ่งทะยานออกไปตามทิศทางที่กลุ่มของจงเหรินป้าอยู่บริเวณ

เกือบสองชั่วยามทางด้านเนี่ยฟงและหยางเวยก็กลับมายังถ้ำที่พวกเสี่ยวจูฝึกฝนพลังปราณทั้งสองหาได้เข้าไปเพียงแค่หยุดพักอยู่ด้านหน้าเพราะตอนนี้ใกล้ค่ำแล้ว หยางเวยเป็นคนจัดการเกี่ยวกับอาหารส่วนเนี่ยฟงนั่งอ่านบันทึกที่ได้จากหยางเวย ไม่นานหยางเวยก็จัดการย่างเนื้อจนสุกในระหว่างที่ทั้งสองทานเนื้อย่างเสี่ยวจูและฟางจวินซีก็เดินผ่านม่านอักขระศักดิ์สิทธิ์ออกมา

“ข้าคิดว่าเป็นผู้ใดเสียอีกที่ย่างเนื้อสัตว์อสูรได้หอมเช่นนี้”

“เชิญแม่นางทั้งสองข้าได้ย่างเตรียมเอาไว้ให้พวกท่านแล้ว”

หยางเวยยื่นเนื้อย่างให้แก่ทั้งสอง

“ขอบคุณคุณชายหยางเวย ว่าแต่เหตุใดพวกท่านทั้งสองไม่เข้าไปด้านใน”

“มันจะเป็นการไม่เหมาะเท่าไรที่จะให้พวกข้าเข้าไปด้านใน”

หญิงสาวทั้งสองเมื่อได้ยินหยางเวยกล่าวเช่นนั้นก็ยกยิ้ม

“เช่นนั้นข้าจะเรียกพวกนางมาทานเนื้อย่างของท่านไปดีหรือไม่”

“เชิญได้เลยขอรับข้าจัดเตรียมไว้ให้เยอะพอสมควร”

ในขณะนั้นเองกลุ่มของจงเหรินป้าก็ถูกชายฉกรรจ์ทั้งสองไล่ล่าสังหารอย่างสนุก เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงร้องโหยหวนจากกลุ่มของจงเหรินป้าดังลั่นไปทั่วบริเวณ มีหลายคนตกตายไปโดยหาได้ส่งเสียงใดๆ จงเหรินป้าและหยางเฟยทั้งสองต้านรับพร้อมกับถอยหนีมาเกือบครึ่งชั่วยาม

“บัดซบมันเกิดสิ่งใดขึ้น เหตุใดคนทั้งสองถึงลงมือสังหารเรา”

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันหยางเฟย ทางที่ดีหาทางติดต่อพวกเนี่ยฟงเถอะ”

“ได้ขอรับศิษย์พี่”

หยางเฟยรีบเก็บดาบในมือเปลี่ยนมาถือแผ่นหินขนาดเล็กในมือหลังจากนั้นก็เร่งโคจรลมปราณไปที่แผ่นหิน เนี่ยฟงที่ตอนนี้กำลังทานเนื้อย่างอยู่ทันใดนั้นก็มีเสียงเรียกดังมาจากเสี่ยวจู

“คุณชายเนี่ยฟงแผ่นหินที่ท่านให้ข้ามาอยู่ๆมันก็ส่องแสงออกมาเช่นนี้”

เนี่ยฟงหันไปมองขมวดคิ้วทั้งสองขึ้น หลังจากนั้นก็สะบัดมือขวานำแผ่นหินออกมาพร้อมกับแผ่นหนัง

“หยางเวยเราคงต้องออกกำลังกายหลังอาหารเย็นเสียแล้ว”

“เกิดสิ่งใดขึ้น”

“กลุ่มของจงเหรินป้ามีปัญหาขึ้น”

เสี่ยวจูและฟางจวินซีเมื่อได้ยินที่เนี่ยฟงกล่าวก็ลุกขึ้นหันมามองเนี่ยฟง

“พวกท่านอยู่ที่นี่เถอะ คงไม่มีอะไรมากข้าไปกับหยางเวยก็พอ”

“เช่นนั้นขอให้คุณชายทั้งสองปลอดภัย”

“ขอบคุณแม่งนางเสี่ยวจูมากขอรับ”

เนี่ยฟงจดจ้องมองไปที่แผ่นหนังหลังจากนั้นก็หันไปมองหยางเวย

“หยางเวยไปเถอะ”

สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็วหยางเวยก็พุ่งติดตามประดุจเงาตามตัว เมื่อทั้งสองพุ่งมายังจุดที่จงเหรินป้าสภาพโดยรอบถูกทำลายมาต้นไม้โค่นล้มพื้นดินถูกทำลาย มองเห็นซากศพคนจากกลุ่มของจงเหรินป้าอยู่ตามพื้น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากทางซ้ายมือ ทั้งสองรีบพุ่งทะยานออกไป เห็นชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งแสยะยิ้มใช้ดาบจ้วงแทงหยางเฟยจากด้านหลัง ปลายดาบทะลุออกมาที่หน้าอกเลือดสีแดงสดไหลรินออกมาเปื้อนชุดที่สวมใส่ ส่วนจงเหรินป้านั้นกำลังถูกเถาวัลย์สีแดงพันรอบกาย

หยางเวยหาได้กล่าวสิ่งใดสะบัดมือขวากำชับมีดอันแปลกประหลาดในมือเร่งโคจรลมปราณพุ่งทะยานเข้าหาชายฉกรรจ์ที่ใช้ดาบจ้วงแทงหยางเฟย เนี่ยฟงเองสะบัดมือขวาซัดกระบี่ออกไปสองเล่มติดตามหลังหยางเวย ชายฉกรรจ์ผู้นั้นรีบปล่อยมือจากดาบถีบเท้าพุ่งถอยออกมาพร้อมกับสะบัดมือขวาถือดาบอีกเล่มหมายต้านรับชายหนุ่มที่พุ่งเข้ามา แต่ทว่าทันทีที่ชายหนุ่มเข้ามาในระยะดาบ ชายหนุ่มด้านหน้ากลับเร่งฝีเท้ากระโดดข้ามตนเองไป เป็นตนเองที่หันหลังกลับไปมองชั่วจังหวะนั้นเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่เอวด้านขวาและต้นขาซ้าย เมื่อก้มลงมองก็พบว่าตนถูกกระบี่สองเล่มทิ่มแทงอยู่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด