ตอนที่ 3 - เป็นหญิงสาวที่ธรรมดานัก
“สวัสดีทุกคน , ฉันชื่อเย่เทียนซิ่ว พ่อแม่ของฉันเรียกฉันซิ่วเออร์ พวกคุณสามารถเรียกฉันได้ด้วยชื่อเต็ม ส่วนใครที่สนิทด้วยจะเรียกฉันว่าเทียนซิ่ว สาวๆต่างก็เรียกฉันว่าพี่เทียนซิ่ว . ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของพวกคุณ ถ้ามีอะไรก็ช่วยชี้แนะฉันด้วยนะ!”
ดวงตาของเย่เที่ยนอี้กวาดมองไปยังทุกคนที่กำลังตกตะลึงจากบนแท่นหน้าห้อง มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย เขายิ้มที่มุมปากเล็กน้อยอย่างมั่นใจและมีเสนห์
“ว้าว! เขาหล่อมาก ! หล่อมากจริงๆ!”
หนึ่งในนักเรียนสาวหลาย ๆ คนกำลังตื้อเพื่อนสนิทของเธอหลังจากที่เธอได้เห็นเย่เทียนอี้ เธอคลั่งไคล้มากเสียจนแทบเก็บอาการไม่อยู่พลางบีบแขนของเพื่อนเธออย่างแรง เธอพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมอารมณ์ นี่ถ้าเธอไม่ได้อยู่ในห้องนะ ป่านนี้เธอคงตะโกนร้องกรี้ดออกไปแล้ว ส่วนเพื่อน ๆ ของเธอก็มีอาการไม่ต่างกัน ทั้งคู่ต่างบีบกันและกันราวกับว่าจะควบคุมอารมณ์คลั่งในเสน่ห์ของเย่เทียนอี้ไม่ไหวแล้ว
แน่นอน ผู้หญิงเกินครึ่งจากเพื่อนร่วมชั้น 50 คน ต่างมีอาการเช่นเดียวกันกับพวกเธอ!
ใช่แล้ว เขาหล่อเอามากๆ ผมของเขายาวพอดิบพอดี คอเสื้อปลดกระดุมเล็กน้อย และแขนเสื้อก็ถูกพับขึ้นมาจนถึงข้อศอกเพื่อโชว์ผิวสีขาวเหลืองของตัวเอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยพลังและมีจมูกเป็นสันยาว ราวกับว่าเขาเป็นผลงานที่พระเจ้าสรรค์สร้างขึ้นมา ผู้ชายคนนี้ช่างหล่อวัวตายควายล้ม มากเสียจนแค่ความหล่อเหลาของเขาก็ทำให้หญิงสาวใจเต้น ร่างกายรุ่มร้อนวิ่งเข้ามาซอกของเขาในทันที!
จุดที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาดูไม่มีท่าทางออกสาวเลยแม้แต่น้อย!
“ติ๊ง... การแนะนำตัวของคุณประสบผลสำเร็จในการกระตุ้นฝูงชน ได้รับแต้มเย้ายวนเพิ่ม +3,000. ความคืบหน้าของภารกิจ: 2%” ระบบแจ้งเตือนขึ้นมาในความคิดของเย่เทียนอี้และทำให้ริมฝีปากของเขาค่อยๆยกยิ้มขึ้นมาบางๆ
“มันจะโชว์อะไรนักหนาวะ?” ผู้ชายบางคนพึมพำเบาๆด้วยความอิจฉาในรูปลักษณ์ของเย่เทียนอี้
มุมปากของอาจาร์ยหัวโล้นก็กระตุกเหมือนกันหลังจากที่เขาได้ยินการแนะนำตัวของเย่เทียนอี้
“เอาล่ะนักเรียน เพื่อนร่วมชั้นคนนี้ย้ายมาจากสถาบันเทียนเฉิง ในอนาคตก็ให้คำแนะนำเขาด้วยล่ะ ไปหาที่นั่งและทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมชั้นของเธอซะนะ อาจารย์ประจำชั้นของพวกเธอกำลังเมาแอ๋อยู่และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะโผล่หน้ามา ดังนั้นพวกเธอทไความร็จักกันไปก่อนละกัน” อาจารย์ผู้ชายดูเหมือนจะยุ่งมาก เขาออกจากห้องไปทันทีหลังจากที่พูดจบ
เย่เทียนอี้เดินลงมาจากแท่นดว่ที เขากวาดสายตามองไปยังเหล่าหญิงสาวที่มองเขาด้วยความคาดหวัง ในที่สุดเขาก็หยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงมุมห้อง
สถาบันเทียนฉุ่ยเป็นสถาบันที่มีผู้หญิงจำนวนมากและเป็นหนึ่งในสถาบันที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในนครศักดิ์สิทธิ์เทียนฉุ่ย หญิงสาวที่นั่งตรงมุมห้องมีรูปร่างหน้าตาสระสรวย แต่ที่นั่งข้างๆเธอกลับว่างเปล่า มันดูแปลกมาก เย่เทียนอี้จึงเดินเข้าไปหาเธอ
ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะแตกต่างจากคนอื่น ผู้หญิงทุกคนต่างมองเย่เทียนอี้ด้วยสายตาที่เร่าร้อน แต่เธอกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เธอแค่ชายตามาที่เขาเพียงครั้งเดียวแล้วก็ไม่มองเชาอีกเลย แต่กลับทำเพียงเอามือจับหน้าตัวเองและส่องกระจกเท่านั้น
“เห้อ...” เย่เทียนอี้เดินเข้าไปหาและได้ยินเสียงถอนหายใจของเธอ
.
“สหาย เธอถอนหายใจเรื่องอะไรน่ะ? หรือว่าเจอสิวกันล่ะ?” เบย่เทียนอี้ถามขึ้นมาอย่างสนใจ
ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มองมาที่เย่เทียนอี้ กลับกัน เธอเอาแต่มองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก ก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง และพูดออกมาด้วยความรู้สึกที่ผสมกันไปหมด
“ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยอะไรอย่างนี้...”
เย่เทียนอี้ “…”
เธอกำลังหลงตัวเองเหรอ?
ชะ-เชี่ย! เธอยังหลงตัวเองมากกว่าเขาซะอีก!
จากนั้นเธอก็หันกลับมาและมองมายังเย่เทียนอี้
เย่เทียนอี้ตะลึงไปชั่วขณะเพราะผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ เป็นที่รู้กันว่ามีสาวสวยมากมายในสถาบันเทียนฉุ่ย ข้อเท็จจริงนั้นได้รับการยืนยันจากสิ่งที่เขาเห็นในวันนี้
เธออายุประมาณ 18 หรือ 19 ปี สวมแจ็คเก็ตขนสัตว์ทับเสื้อคอเต่าสีขาว เธอมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม ขาที่บอบบางและสวยงามของเธอสามารถมองเห็นได้จากใต้กระโปรงจีบสีฟ้าของเธอ ผิวที่ขาวราวกับหิมะ ใบหน้างดงาม โดยเฉพาะดวงตาที่เย้ายวนของเธอ ต้องยอมรับว่าเธอพูดถูกที่ว่าเธอนั้นสวยจริงๆ
“สวัสดี นั่งสิ” ฮั่วฉุ่ยกล่าวกับเย่เทียนอี้ด้วยรอยยิ้ม
ผู้หญิงคนนี้ต่างไปเล็กน้อย
คนรอบข้างเริ่มกระซิบกระซาบกันเมื่อเห็นสิ่งนี้
“เขากล้านั่งข้างฮั่วฉุ่ยเหรอ? เขาเสร็จแล้ว!”
"ฮึ! เขาพยายามฆ่าตัวตาย! ชายคนสุดท้ายที่กล้านั่งข้างฮั่วฉุ่ยยังคงหยอดเข้าต้มอยู่ในโรงพยาบาลอยู่เลย นั่นมันผู้หญิงที่มีเสนห์แสนอันตรายเชียวนะ!”
“ปล่อยให้เขาทำทุกอย่างที่เขาต้องการเถอะ ไม่ใช่ว่าเขาทำตัวเท่ห์นักเหรอ? มาดูกันว่าหลังจากนี้เขาจะแย่ขนาดไหนกัน!”
“…”
“ไม่ เธอเข้าใจผิดแล้ว ฉันมาหาเก้าอี้เฉยๆน่ะ ฉันไม่ชอบคนหน้าอกเล็กหรอกนะ ฉันชอบแบบเบิ้มเบิ้มอะ”
เย่เทียนอี้เลื่อนเก้าอี้จากที่นั่งว่างข้างๆเธอแล้วเดินไปหาคนอ้วนฉุที่มีน้ำหนักประมาณ 100 กก. แล้วนั่งลง เขาเอนตัวลงนั่งและพูดพร้อมกับถอนหายใจ“เป็นเรื่องจริงที่คนอ้วนจะมีหน้าอกที่ใหญ่”
ทุกคน, "???"
“ติ๊ง…คุณประสบความสำเร็จในการกระตุ้นฝูงชน ได้รับคะแนนเย้ายวน +30,000 ความคืบหน้าของภารกิจปัจจุบัน: 3%”
เขากระตุ้นทุกคนได้สำเร็จอีกครั้ง
ดวงตาคู่งามของฮั่วฉุ่ยนิ่งอยู่กับที่ชั่วขณะ เธอควบคุมตัวเองไม่ได้และหัวเราะออกมา อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้พูดอะไรและยังคงชมตัวเองผ่านกระจกที่เธอถืออยู่
"มันจบแล้ว! เขากล้าพูดได้ยังไงว่าหน้าอกของฮั่วฉุ่ยเล็กน่ะ! เขาตายแน่!”
“เตรียมฝังศพเขาได้เลย คิดว่าหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…สะใจชะมัด!”
“…”
ในตอนแรก เพื่อนร่วมชั้นชายต่างหวาดกลัว แต่ตอนนี้ พวกเขาเริ่มย่ามใจขึ้นมาแล้ว
“เฮ้ จะเป็นการดีที่สุดถ้านายไม่ไปยั่วยุฮั่วฉุ่ยนะ เธอแข็งแกร่งมาก” คนอ้วนข้างๆเย่ทเยนอี้บอกแก่เขาอย่างเงียบ ๆ
“นายรู้ไหมว่าทำไมนายถึงไม่มีสาว ๆ อยู่เคียงข้าง” เย่เทียนอี้ถามเจ้าอ้วนทันที ทำให้ทุกคนประหลาดใจมาก
"ทำไม?"
“เพราะนายกลัวทุกอย่าง แม้แต่เงินสามร้อยเหรียญยังไม่กล้าใช้เลย”
เจ้าอ้วนหยุดพูด
คนอื่น ๆ, "???"
“ติ๊ง…คุณเรียกความสนใจจากทุกคน ได้รับคะแนน +30,000 ความคืบหน้าของภารกิจปัจจุบัน: 4%”
“หญิงสาวมีค่าเพียงแค่แปดร้อยเหรียญ ไม่ต้องกลัวหรอก” เย่เทียนอี้กล่าวอย่างใจเย็นขณะที่เขามองไปที่ฮั่วฉุ่ยซึ่งอยู่ไม่ไกลไปมากนัก
ฮั่วฉุ่ย“…”
“ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ !”
ทุกคนต่างสงสัยว่าทำไมฮั่วฉุ่ยถึงไม่ขยับ อย่างไรก็ตาม พวกเขาทุกคนรู้เหตุผลหลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว เธอไม่เคยต่อสู้ แต่เธอจะใช้ทุกวิธีเพื่อทรมานใครสักคน เธอน่าจะกำลังคิดว่าจะทรมาณเย่เทียนอี้ยังไงอยู่แน่นอน
ในขณะนั้น กลุ่มสาว ๆ ต่างก็เข้ามารุมล้อมเย่เทียนอี้
“พี่เทียนซิ่ว นี่คือไอดีวีแชทของฉัน เพิ่มฉันในรายชื่อติดต่อของคุณสิ”
“พี่เทียนซิ่ว คุณอยากดื่มนมไหม”
“พี่เทียนซิ่ว คุณชอบกินหมูฝอยไหม” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเหยียดขาของเธอออกมา
เย่เทียนอี้พยักหน้า“แน่นอน ฉันชอบผัดพริกหยวกใส่หมูฝอย มะเขือยาวผัดหมูฝอยและหมูฝอยผัดซอส”
สาว ๆ “ ???”
“ติ๊ง …คุณเรียกความสนใจจากทุกคนสำเร็จ ได้รับคะแนน +30,000 ความคืบหน้าของภารกิจปัจจุบัน: 5%”
“เขา…เขาชอบอวดชิบหายเลย”
“พี่เทียนซิ่ว คุณหล่อมาก ทำไมคุณถึงย้ายจากสถาบันเทียนเฉิงมาที่นี่ล่ะ” หญิงสาวอีกคนถามด้วยความคาดหวัง
“โอ้ ฉันมีแฟนมากกว่าสิบคนในสถาบันเทียนเฉิงน่ะ และฉันก็ถูกพวกเธอทั้งหมดรายงาน และประเด็นที่สำคัญกว่านั้นก็คือหลานสาวของอาจารย์ใหญ่ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย มีจะทำยังไงได้ล่ะ”
“เชี่ย…น่าเหลือเชื่อ” ทุกคนตกตะลึง
“เขากำลังพูดความจริง!” ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังมาจากทางฝั่งประตู