บทที่ 70 ทักษะของเหอตง
บทที่ 70 ทักษะของเหอตง
“งั้นเรามาเริ่มกันเลย ฉันให้เธอเริ่มก่อนหนุ่มน้อย!” เหอตงยิ้มใจดี แต่ภายในใจเขานั้นมีความเจ้าเล่ห์ คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยเป็นคนแทงลูกก่อน เพราะถ้าคุณทำคะแนนไม่ได้ในครั้งแรก ลูกบิลเลียดส่วนมากจะไปอยู่ในตำแหน่งที่ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสได้คะแนนมากกว่า เพราะฉะนั้นผู้ที่เล่นทีหลังจะมีความได้เปรียบมากกว่า
จี้เฟิงที่ยืนอยู่ข้างๆ จางเล่ย ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้ดีว่า แม้ว่าจางเล่ยจะมีผลการเรียนที่ดีในโรงเรียนแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นนักเรียนที่ดี ในความเป็นจริงจางเล่ยมักจะชอบโดดเรียนไปที่ห้องบิลเลียดหรือไม่ก็ห้องวิดีโอเกม ถ้าจี้เฟิงไม่ปฏิเสธทุกครั้ง จางเล่ยจะต้องลากจี้เฟิงไปเล่นด้วยอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นทักษะการเล่นบิลเลียดของจางเล่ยเรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลย อย่างน้อยก็ในสายตาของจี้เฟิง ก่อนหน้านี้จางเล่ยยังไม่เคยแพ้บิลเลียดให้กับใคร แม้แต่ขาประจำร้านบิลเลียดใกล้ๆโรงเรียน หรือเจ้าของห้องบิลเลียดที่ถือว่าเก่งมาก ก็ยังฝีมือสูสีกับจางเล่ยเลยทีเดียว
ดังนั้นจี้เฟิงจึงไม่มีความสงสัยในฝีมือการเล่นบิลเลียดของจางเล่ยเลยแม้แต่น้อย
“ป๊อก!”
ในขณะที่จี้เฟิงกำลังคิดอยู่เพลินๆ จางเล่ยก็ได้เริ่มแทงลูกคิวบอลออกไปแล้ว แรงของการแทงลูกของจางเล่ยนั้นพอดีอย่างไร้ที่ติ รวมถึงมุมและองศาการแทงลูกคิวบอลก็แม่นยำมาก ผลจากการแทงลูกครั้งแรกของจางเล่ย ลูกคิวบอลได้ไปกระทบชิ่งลูกอื่นและไปกระแทกมุมสามเหลี่ยมปากหลุมและได้แต้มแรกไปอย่างสวยงาม
คิ้วของเหอตงอดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้นสองสามครั้ง ผู้ที่เชี่ยวชาญการเล่นบิลเลียดเมื่อเห็นการแทงครั้งแรกก็จะรู้ได้ทันทีว่าเทคนิคที่จางเล่ยใช้นั้นต้องมีความเชี่ยวชาญมากพอสมควร
“แต่แล้วยังไง? ก็คงได้แค่นั้น” เหอตงคิดในใจอย่างดูถูก เขาไม่อาจห้ามใจไม่ให้ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มแห่งความดูถูกเหยียดหยามออกมาได้ ตอนที่เขาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเขาเป็นถึงรองประธานสมาคมที่เล่นบิลเลียดโดยได้รับการฝึกจากประธานสมาคมที่ในตอนนั้นเป็นกึ่งมืออาชีพอย่างสม่ำเสมอ เหอตงผู้ที่ได้เรียนรู้จากคนเก่งระดับนั้นโดยตรงเป็นระยะเวลานาน นอกเหนือจากประธานสมาคม ฝีมือเขาก็ไม่เคยเป็นรองใคร!
“ป๊อก!”
ลูกบิลเลียดอีกลูกหนึ่งได้กลิ้งเข้าไปในหลุมเรียบร้อยแล้ว ในตอนนี้จางเล่ยได้นำเหอตงไปสองลูกและที่สำคัญที่สุดคือลูกคิวของเขาหยุดอยู่ข้างหลังลูกที่สามโดยหันหน้าเข้าหาหลุม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจางเล่ยจะทำคะแนนจากลูกที่สามไปได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามจางเล่ยกลับมองไปที่ลูกที่เหลืออยู่บนโต๊ะอย่างลังเล
เนื่องจากเมื่อตอนเริ่มต้น จางเล่ยไม่ได้ใช้ความพยายามมากนัก ทำให้ลูกบอลทั้งสิบห้าลูกไม่ได้กระจายออกอย่างที่สมควร แต่กลับทำให้ลูกบิลเลียดอยู่ใกล้กันเกินไป ถ้าจางเล่ยแทงลูกที่สามสำเร็จ ลูกที่เหลือจะยิ่งถูกบีบเข้าใกล้กัน และจะเป็นเรื่องยากที่จางเล่ยจะเก็บแต้มลูกที่เหลือต่อได้
เพราะเนื่องจากลูกคิวจะไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งที่ดีได้ในขณะนั้น และจะเป็นการเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ทันที
“หืม..ลูกนี้เล่นไม่ง่ายเลย!” เหอตงยิ้มอย่างชั่วร้ายและกล่าวว่า “ก็ถือว่าไม่เลว สำหรับสองสามลูกที่ลงหลุมไปในช่วงต้นเกม เพราะสำหรับนักเรียนม.ปลายที่ทักษะไม่ได้ดีอะไรมาก ทำได้เท่านี้ก็ถือว่าเก่งแล้วล่ะนะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!!”
เมื่อได้ฟังคำพูดของเหอตง จางเล่ยได้แต่เพียงยิ้มออกมาเล็กน้อย และในที่สุดเขาก็เลือกที่จะแทงลูกที่สามให้ลงหลุมไป แน่นอนว่าเขาไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรมากนัก ในที่สุดลูกคิวก็หยุดอยู่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะบิลเลียด
นี่อาจเรียกได้ว่าเป็นการป้องกันที่สวยงาม เพราะคนที่เล่นบิลเลียดต่างรู้ดีว่า หากลูกถูกปิดทางด้วยด้านข้างของโต๊ะจะทำให้จุดโฟกัสของไม้คิวนั้นยากต่อการเล่น ซึ่งการจะแทงลูกในลักษณะนี้ต้องใช้เทคนิคขั้นสูง
ในเวลานี้จางเล่ยแสดงให้เห็นถึงความฉลาดของเขา เมื่อเขาสัมผัสลูกคิวเบาๆ เพียงเล็กน้อยลูกคิวก็ค่อยๆ เคลื่อนและในที่สุดมันก็กลิ้งเข้าไปอยู่ในกลุ่มลูกบิลเลียดที่เหลือ
“เด็กน้อย วิธีเล่นของเธอนี่เจ้าเล่ห์ไม่เบา แต่ไม่เป็นไรมันจะได้ไม่ง่ายเกินไปที่จะหาว่าฉันรังแกเด็ก แล้วยิ่งถ้าฉันเล่นลูกยากๆ แบบนี้ได้ ฉันก็จะยิ่งรู้สึกประสบความสำเร็จ ฮ่าฮ่าฮ่า!” เหอตงหัวเราะด้วยความมั่นใจเขาหยิบไม้คิวและเดินมาที่ข้างโต๊ะ
“ป๊อก!”
ลูกคิวบอลกระโดดขึ้นจากการแทงของเหอตงอย่างแม่นยำ ตกลงไปกระทบลูกบอลกลิ้งไปลงหลุมได้อย่างพอดี!
คิ้วของจางเล่ยขมวดทันที เขาเห็นว่าเทคนิคของเหอตงนั้นทรงพลังมาก ไม่ใช่ธรรมดาเลย!
จี้เฟิงที่สังเกตอยู่ด้านข้าง เขาเห็นว่าทักษะของจางเล่ยที่แสดงออกไปเรียกได้ว่าดีมากและถือว่าอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับบุคคลทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามทักษะของเหอตงนั้นสูงกว่ามาก จนแทบจะเรียกได้ว่าไม่ใช่มือสมัครเล่นธรรมดาอย่างแน่นอน ฝีมือของเขาใกล้เคียงกับมืออาชีพเลยทีเดียว
แม้ว่าจี้เฟิงจะไม่ค่อยเข้าใจกฎของการเล่นบิลเลียดนี้เท่าไหร่ แต่เขาเคยได้ยินจางเล่ยพูดว่า ลูกบอลแบบเมื่อสักครู่นี้เรียกว่า ลูกกระโดด นอกจากจะยากต่อการควบคุมความแรงแล้ว ยังยากต่อการเล็งมุมตกอีกด้วย ผู้เล่นมืออาชีพที่มีชื่อเสียงเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้แบบนี้
เห็นได้ชัดว่าเหอตงแกล้งเป็นหมูในคราบเสือ!
ดวงตาของเซียวหยูซวนเป็นประกาย เมื่อเธอดูการเล่นของเหอตง สายตาของเธอฉายแววภูมิใจเมื่อมองไปที่เหอตง จี้เฟิงถึงกับขมวดคิ้วเล็กน้อย เกิดความอึดอัดและไม่พอใจอยู่ในใจของเขา
“ป๊อก!”
ต่อมาเหอตงได้โชว์ทักษะที่ไม่ธรรมดา แม้ว่าลูกบอลทั้งหมดจะบีบเข้าหากัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา เขาสามารถใช้ลูกกระโดดยิงตรงหรือยิงกลับหลังได้ตามต้องการ การเล่นบิลเลียดของเขาช่างเก่งกาจ แถมเขายังเล่นด้วยท่วงท่าที่ดูสง่างาม จี้เฟิงถึงขนาดต้องยอมรับอยู่ภายในใจอย่างเงียบๆว่า ทักษะของเหอตงนั้นดีมากจริงๆ แถมการเล่นของเขาไม่มีข้อผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย ช่างไร้ที่ติจริงๆ!
“ป๊อก!”
เหอตงวางไม้คิวลงบนโต๊ะ เมื่อลูกบอลเข้าสู่หลุมเป็นลูกที่ 8 “ขอโทษทีนะหนุ่มน้อยที่ฉันบังเอิญชนะ!”
ใบหน้าของจางเล่ยมืดมนขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ใช่คนที่แพ้ไม่เป็น แต่ไม่ว่าใครก็ต้องไม่ชอบการถูกมองเป็นแค่ตัวตลก
ถ้าเหอตงบอกกับเขาแต่แรกว่าฝีมือของเขานั้นเกือบจะเทียบเท่ามืออาชีพ จางเล่ยจะเล่นเกมนี้กับเขาด้วยการเล่นสนุกๆเท่านั้น แต่เหอตงกลับใช้วิธีพูดยั่วยุเพื่อให้จางเล่ยลงเดิมพันกับเขา พฤติกรรมของเหอตงนั้น ตั้งใจทำให้จางเล่ยต้องเสียเงินพนันอย่างไม่ต้องสงสัย
“ฮ่าฮ่า...” จางเล่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและส่ายหัว ดูเหมือนว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า ประโยคนี้ยังใช้ได้ตลอดกาลจริงๆ
จางเล่ยเหยียดแขนออกพร้อมรอยยิ้ม เขาหยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วหยิบธนบัตร 100 หยวนมาหนึ่งใบ แล้วยื่นให้เหอตง เงินเพียงหนึ่งร้อยหยวนไม่ได้สะเทือนกระเป๋าสตางค์ของจางเล่ยเลยแม้แต่น้อย
“โอ๊ะโอ ฉันรู้สึกอายจริงๆ ที่ชนะและได้เงินพนันจากหนุ่มน้อยคนนี้!” เหอตงยิ้มและพูดอย่างจงใจว่า “หนุ่มน้อย เธอเอาเงินเดิมพันคืนไปเถอะ คิดเสียว่าเราไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้แล้วกัน!”
หลังจากพูดจบเขามองไปทางจางเล่ยอย่างยั่วยุ พร้อมกับยื่นเงินจำนวน 100 หยวนคืน
“เหอตงคุณพูดถูกแล้วล่ะ จางเล่ย! เธอยังเป็นนักเรียนอยู่ เหอตงเขาแค่คุยเล่นสนุกๆเท่านั้น เขาจะเอาเงินเดิมพันจากเธอได้ยังไง?” เซียวหยูซวนพูดด้วยความเป็นห่วง ถึงเงินจำนวน 100 หยวนจะไม่ได้มากอะไร แต่สำหรับเด็กม.ปลายก็ถือว่าไม่ใช่ปริมาณที่น้อย
“ไม่เป็นไร ผมสามารถจ่ายได้!” จางเล่ยยิ้มเย็น “แล้วอีกอย่างผมเป็นคนเสนอเงินจำนวนนี้เอง ลูกผู้ชายต้องพูดคำไหนคำนั้น!”
“ดีมาก! ถ้าอย่างนั้น เธออยากจะเอาคืนสักสองสามเกมไหมล่ะ?” เหอตงหัวเราะ
เขาพูดอย่างยั่วยุอีกครั้ง!
จี้เฟิงขมวดคิ้วมองไปที่เหอตง การแสดงออกของผู้ชายคนนี้เห็นได้ชัดมาก เขาไม่เพียงแต่ต้องการจะเล่นบิลเลียดเพื่อเอาชนะเท่านั้น แต่เป้าหมายของเขานั่นคือการได้เงินเดิมพันจากจางเล่ยอย่างแน่นอน และเขายังต้องการมันมากขึ้นไปอีก!
...จบบทที่ 70~❤️
--------------------------------------------------------
กฎกติกาการเล่นบิลเลียดอาจไม่ตรงตามความเป็นจริง เนื่องจากผู้แปลเลือกที่จะแปลให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด (⁎˃ᆺ˂)
ต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ด้วยรัก
เนตรนารีสีชมพู