ตอนที่ 273-274
ตอนที่ 273 : โชคดีที่ทัน
ทั้งสามคนไม่ใช่พื้นเพทั่วไป ดังนั้นย่อมทราบข้อมูลลับมากกว่าที่คนปกติจะทราบได้
เหยาซือหยานพยักหน้ารับกล่าวตอบคำเบา “ถูกต้อง”
หลิวลู่อวี่ต้องรับคำด้วยอาการตื่นตะลึง “อย่างนั้นแล้วทัณฑ์สายฟ้าเมื่อวานเป็นของพี่ซือหยานงั้นหรือ?!”
เหยาซือหยานพยักหน้ารับ
“พอจะทราบแล้วว่าเมื่อวานเกิดเรื่องอะไรขึ้น”
หลิวลู่อวี่ครุ่นคิดไปครู่ก่อนจะกล่าวคำออกมา
นางคาดเดาได้แทบทั้งหมดว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร
เหยาซือหยานดื่มน้ำแร่เข้าไป ศักยภาพเพิ่มพูนมหาศาล สายเลือดฟื้นกลับคืนจากบรรพบุรุษ ทัณฑ์สายฟ้าโบราณจึงมาเยือน
ความน่าสะพรึงของทัณฑ์สายฟ้าโบราณไม่ใช่อะไรที่คนทั่วไปจะสามารถรอดชีวิต ดังนั้นเถ้าแก่จึงออกหน้า
ด้วยเพียงเสียงตะโกนดังออก ทัณฑ์สายฟ้าโบราณถึงกับต้องรีบถอยหนี
“กล่าวถึงเรื่องนี้ โชคของทั้งสองคล้ายจะไม่ดีเท่าพี่ซือหยาน!” ปู้หลี่เกื๋อใช้นิ้วจรดคางพร้อมกล่าวคำออกราวลืมตัว
กลายเป็นว่าเขาคือผู้รักชอบการกล่าวความจริงออกมาเสียแล้ว
หลิวลู่อวี่และหลิวลู่เหม่ยเผยสีหน้าซึมไป เพราะนั่นคือเรื่องจริง
เรียกคืนสายเลือดจากบรรพบุรุษ เรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นได้เรียกว่าโชคดีเพียงใด?
มันแทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นด้วยซ้ำ แต่เรื่องราวก็เกิดขึ้นไปแล้ว
หันกลับมามองตนเอง
ก้าวหน้านั้นคล้ายเล็กน้อยจนไม่น่าจะนับเป็นอะไรได้!
ผ่านไปเพียงครู่ ความยินดีแต่เดิมในใจคนทั้งสองจึงค่อยเลือนหาย
ทั้งสองกลายเป็นซึมไปแล้ว
ปู้หลี่เกื๋อพบเห็นสีหน้าคนทั้งสองจึงค่อยได้ตระหนักว่าตนเองกล่าวคำทำร้ายจิตใจออกไป
หลังจากคิดไปครู่ เขาจึงเลือกที่จะหุบปากตนเองเสีย
“แฮ่ก หลี่เกื๋อ พี่ซือหยาน พวกเรามาช้าไปหรือไม่?”
เสียงหอบดังจากทางหน้าประตู
คนทั้งสองเร่งรีบเข้ามาในร้านประหนึ่งสายลมหอบพัด
เป็นปู้ฉืออีและเจียงเฉิงจวิน
ปู้หลี่เกื๋อค่อยเผยความโล่งใจ
“พี่หญิงมาเสียที” ดวงตาปู้หลี่เกื๋อเผยประกายความตื่นเต้น
“น้ำแร่วันนี้ยังเหลืออีกหกขวด” เหยาซือหยานเผยยิ้ม
ปู้ฉืออีและเจียงเฉิงจวินค่อยถอนหายใจโล่งอกได้
ระหว่างทาง คนทั้งสองทุ่มเทสิ่งที่ฝึกฝนเร่งความเร็วเพราะเกรงว่าจะมีลูกค้าอื่นมาซื้อตัดหน้า
ขณะนี้ถือว่ามาทันเวลาอย่างเหลือเฟือแล้ว
คนทั้งสามแทบจะอดทนรอไม่ไหวเข้าไปคว้าน้ำแร่มาจ่ายผลึกวิญญาณ
ถัดจากนั้นจึงยกดื่มพร้อมกัน
สรรพคุณการเสริมศักยภาพของน้ำแร่นั้นไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง อย่างไรก็ต้องมีสักอย่างที่คืบหน้า
รอบกายคนทั้งสาม พลังวิญญาณกำลังก่อตัวเป็นพายุขนาดย่อม
ท่ามกลางคนทั้งสาม ที่น่าตกใจคือปู้หลี่เกื๋อที่ก้าวหน้าอย่างพุ่งตรง
แน่นอนว่าความก้าวหน้าไม่ใช่เพียงแต่การฝึกฝน
“การรับรู้พลังวิญญาณของฟ้าดินโดยรอบกระจ่างชัดมากขึ้น” ปู้ฉืออีกล่าวออกด้วยความตระหนกตกใจ
เหยาซือหยานเผยยิ้มกล่าวคำอธิบาย “หากศักยภาพก้าวหน้า เช่นนั้นย่อมรับรู้ถึงพลังงานแห่งฟ้าดินได้ดียิ่งขึ้น”
ทั้งสามพยักหน้ารับเห็นพ้อง
“น่าเสียดายที่จะได้ผลก็แต่ครั้งแรกที่ดื่ม” ปู้หลี่เกื๋อถอนหายใจเสียงเบา
“อย่างน้อยก็ได้รับ!” หลิวลู่อวี่แค่นเสียงตอบ “ยังคิดอยากรับรู้ถึงพลังแห่งฟ้าดินยิ่งกว่านี้อีกงั้นหรือ? นั่นออกจะละโมบเกินไปบ้างแล้ว!”
ปู้หลี่เกื๋อยิ้มเก้กังตอบรับโดยไม่ปฏิเสธคำใด
“ข้ารับรู้ได้ ความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มขึ้นไม่ใช่น้อย!” เจียงเฉิงจวินตระหนักอย่างถี่ถ้วนพร้อมอุทานออก
“นั่นเป็นอุปทาน” เหยาซือหยานส่ายศีรษะกล่าวคำออก
“ทำไมกัน?” เจียงเฉิงจวินเผยสีหน้างงงัน
“ศักยภาพการรับรู้เพิ่มขึ้น นั่นไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงขอบเขตพลัง เช่นนั้นกำลังจะแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร? อย่างดีก็คือยามต่อสู้สามารถฟื้นคืนพลังที่เสียไปได้รวดเร็วขึ้น”
เหยาซือหยานผายมือออกพร้อมอธิบาย
เจียงเฉิงจวินชะงักไปครู่ก่อนจะคิดตามว่าสมควรเป็นดังที่ได้รับฟัง
ตอนที่ 274 : ซ่อนเร้นในเมือง
“แต่ก็ต้องกล่าว ว่าการที่ศักยภาพเพิ่มมากขึ้น นั่นหมายถึงการก้าวสู่ขอบเขตถัดไปเป็นเรื่องง่ายขึ้นด้วย” เหยาซือหยานกล่าวคำต่อ
เจียงเฉิงจวินพยักหน้ารับ “ถูกต้อง! เพราะงั้นวันนี้ต้องตะลุยโหมดท้าทายให้ก้าวหน้ารวดเดียวไปเลย! หลายวันมานี้การฝึกฝนของปู้หลี่เกื๋อก็ตามข้ามาจนแทบชิดแล้ว!”
“หึหึ นั่นคือพรสวรรค์ของนายน้อยผู้นี้!” ปู้หลี่เกื๋อเผยยิ้มเบิกบาน
เจียงเฉิงจวินจึงหัวเราะตอบ
ผ่านไปครู่กลุ่มคนค่อยไปเลือกที่นั่งพร้อมเข้าสู่โลกเสมือนจริง
แม้ศักยภาพเพิ่มขึ้น ทว่าการฝึกฝนประจำวันก็ไม่อาจละเลย
ต้องเล่นเกมให้ครบเวลา นี่คือความในใจของบรรดาลูกค้าร้านต้นตำรับ เพราะนั่นเทียบเท่าการฝึกฝน...
เวลาไหลผ่าน ลูกค้าคนอื่นมาเยือน
เป็นโจวหู่และคณะ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมชายศีรษะล้านผู้หนึ่ง
เป็นจางอวี่ที่ท้าทายโจวหู่ก่อนหน้านี้
ในหมู่ทหารรับจ้างนั้นค่อนข้างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน
ครั้งโจวหู่บอกต่อจางอวี่เรื่องได้รับหมัดจอมราชันจากเกม สีหน้าท่าทีอีกฝ่ายนั้นก็เป็นเหมือนดังที่คนไม่เคยทราบเรื่องจะเป็น
จางอวี่คิดว่าโจวหู่หยอกล้อตนเล่น
แม้จางอวี่ดูสัตย์ซื่อ กระนั้นตัวเขาไม่ใช่โง่งม
เล่นเกมอะไรจึงได้รับวิชาหมัดลึกลับเช่นนั้นมา?
อย่ามาพูดให้ขำ!
พบเห็นท่าทีจางอวี่ไม่เชื่อ โจวหู่จึงนึกโกรธ
ไม่เชื่องั้นหรือ?
เช่นนั้นมารับชม!
ด้วยเหตุนี้คนทั้งหกจึงมาเยือนร้านพร้อมกัน
“ทางด้านนั้น” โจวหู่ชี้ไปยังตรอกพร้อมบอกกล่าวกับจางอวี่
จางอวี่เผยท่าทีสงสัย “พี่หู่ไม่ได้โกหกข้าหรือ? เปิดร้านในตรอกไกลห่างเช่นนี้ เถ้าแก่เสียสติ...อุ๊บ...”
คำกล่าวยังไม่ทันจบ คณะคนของโจวหู่ถึงกับต้องแปรเปลี่ยนสีหน้า
กล้าว่าร้ายต่อเถ้าแก่ นั่นหมายถึงหน่ายจะมีชีวิต!
โจวหู่จึงใช้มือปิดปากจางอวี่ไว้ไม่ให้กล่าวคำที่จะเป็นการเรียกหายนะมาสู่ตัว
พบเห็นว่าในตรอกไม่มีใดเกิดขึ้น โจวหู่ค่อยถอนหายใจโล่งอกพร้อมปาดเช็ดคราบเหงื่อกาฬที่หน้าผาก
“พี่หู่ ไฉนทำเช่นนี้?” จางอวี่เกิดโกรธขึ้นมา
ยังต้องถามอีกหรือ?
“พี่จางอวี่ กำลังของเถ้าแก่ไม่อาจหยั่งถึงได้ ภายหน้าอย่าได้กล่าวอะไรเช่นนี้อีก!” โจวหู่บอกกล่าวตามตรง
“ได้ ได้ ได้! ร้านเถ้าแก่อยู่ในสถานที่ไกลห่างเช่นนี้... อย่างนั้นให้เรียกว่าอะไร?”
“สถานที่สุดเร้นลับในเมือง!”
“ถูกต้องแล้ว! สุดเร้นลับในเมือง...”
คนทั้งห้าต่างกล่าวคำออก
แม้ว่าด้วยตัวตนของเถ้าแก่จะไม่สนใจถ้อยคำไร้มารยาทก็ตามแต่
กระนั้นโจวหู่และคณะไม่คิดอยากเสี่ยงชีวิต
“เป็นเช่นนี้นี่เอง” จางอวี่พยักหน้ารับรัวเร็ว
โจวหู่บอกอีกฝ่ายเรื่องเถ้าแก่ร้านไปแล้ว
โดยสรุปคือเป็นตัวตนที่อย่าได้หาเรื่องด้วยเป็นอันขาด!
หลังกล่าวคำเตือนแก่จางอวี่เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด ทั้งหกจึงเดินเข้าตรอกไป
“นั่นคือเถ้าแก่” เมื่อเข้ามาในตรอก โจวหู่จึงชี้ไปยังลั่วฉวนที่นอนอาบไล้แสงตะวันพร้อมบอกกล่าวแก่จางอวี่
“เถ้าแก่? ไม่เห็นคล้ายจะยิ่งใหญ่ตรงไหน?” จางอวี่เผยสีหน้างงงัน
ตัวเขากล่าวได้ว่าก็เป็นผู้ฝีมือคนหนึ่ง
กำลังนั้นอยู่ขอบเขตโชคชะตาระดับสูงสุด ท่ามกลางทหารรับจ้างในนครจิ่วเหยา ถือว่าเป็นชนชั้นแนวหน้าแล้ว
กระนั้นเขากลับไม่อาจรับรู้ถึงภัยคุกคามจากตัวตนที่เรียกว่าเถ้าแก่ได้เลย
เขากระทั่งไม่อาจตระหนักได้ถึงความผันแปรทางพลังวิญญาณด้วยซ้ำ ราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นคนธรรมดาไร้ซึ่งการฝึกฝนใดทั้งสิ้น