ตอนที่แล้วตอนที่ 51 ภูมิภาคเหนือ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 53 เผ่าวิญญาณ

ตอนที่ 52 ทะเลแห่งความมืด


ตอนที่ 52 ทะเลแห่งความมืด

ทั้งสองคนเดินเข้าไปด้านในที่นี่มีการแลกเปลี่ยนสิ่งของกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอาหาร หนังสัตว์  และยา

แต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือมีการขายทาส ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเด็กและหญิงสาว คนที่อยู่รอดในสภาพแบบนี้ได้ไม่มีใครที่มือไม่เคยเปื้อนเลือด ส่วนพวกที่ไม่เปื้อนเลือดนะหรือตอนนี้เขาก็มองพวกมันถูกขังละขายเป็นเหมือนกับสัตว์อยู่ในกรง

เขาเดินมาถึงบริเวณที่ขายพวกหมาลากเลื่อน มันเป็นแค่สัตว์ป่าธรรมดาที่ถูกจับมาเลี้ยงเท่านั้น ส่วนพวกสัตว์ร้ายลากเลื่อนนั้นเขาเห็นมันอยู่ในคอกเช่นกัน แต่เมื่อถามก็ถูกบอกว่าเป็นของอัศวินขั้น 1 หัวหน้าของขบวนเดินทางนี้

เมื่อมองไปที่มันก่อนที่จะเดินกลับออกมา เขาไม่จำเป็นต้องซื้อเพราะอีกไม่นานพวกมันทั้งหมดก็จะไร้เจ้าของ เขาค่อยจับพวกมันตอนนั้นก็ได้

เราไปหาซื้ออะไรมากินกันเถอะ

ดอนซื้อเหล้ามาสองไห มันเป็นเหล้าท้องถิ่นของที่นี่มีราคาที่แพงมาก ถึง 5 เหรียญทองต่อ 1 ขวด หรือ 5000 เหรียญเครดิต

แต่แน่นอนว่ามันถูกเพิ่มราคาขึ้นมาอีกเพราะพวกคนขายกะเก็งกำไรพอไปถึงภูมิภาคกลางเหรียญทองพวกนี้ก็จะมีค่า

ตอนนี้ค่าของทองคำพวกนี้น้อยมากแต่ก็ยังเป็นที่ต้องการอยู่

หลังจากที่ได้ของที่ต้องการแล้วเขาก็ถือพวกมันออกมานอกค่ายและหาเนินสักแห่ง เพื่อเป็นมุมดี ๆ นั่งดูสิ่งที่จะเกอดขึ้นด้านล่าง

เขามีเวลาอีก 1 วันก่อนที่ขบวนพวกนี้จะแยกกันเดินทางอีกครั้ง

บริเวณนี้เป็นเนินหน้าผาไม่สูง ไม่ไกลมากนัก แต่พอที่จะเห็นทั้งค่ายได้

เขาหนังลงและหยิบดาบสั้นธาตไฟ อาวุธพลังงานที่อยู่กับเขาตั้งแต่เทือกเขาโบเมาท์ออก

จากนั้นก็วางทองคำลงไป เขาต้องการสร้างวงจรไฟเพื่อหลอมเหรียญทองให้เป็นทองคำเหลวจำนวนมหาศาล

เขาจะสร้างวงจรอาคมขนาดใหญ่

ระหว่างที่รอทองคำละลาย ดอนก็ใช้นิ้ววาดลงไปที่หิมะอย่างช้า ๆ เป็นวงจรธาตุไฟ มันกว้างประมาน 1 เมตร โดยที่มีซิเรียยืนอยู่ด้านข้าง

เมื่อเสร็จแล้วก็เททองคำใช้พลังจิตควบคุมมันออกเป็นเส้นอย่างช้า ๆ ทุกขั้นตอนเขามองผ่านลูกบาศก์วิญญาณในลักษณะภาพสามมิติทำให้วงจรอาคมมันออกมาแทบจะเข้าใกล้ความสมสบูรณ์แบบของวงจรพื้นฐาน

หลังจากรอให้มันเย็นตัวลง ก็ใส่ผลึกพลังงานลงไป 10 ก้อน

รูนเริ่มมีพลังงานเชื่อมต่อกัน ความร้อนเริ่มแผลออกมา บริเวณรอบก็เริ่มอุ่นขึ้นเล็กน้อย

เขาเอาหม้อโลหะที่ซื้อมาจากด้านล่างในค่ายออกมาและลงไปบนวงจรธาตุไฟ หม้อเริ่มร้อนจนผิวของมันแดงขึ้นมาอย่างช้า ๆ

ดอนเทเหรียญทองคำทั้งหมดลงไป หลังจากทองคำละลายเขาก็ใช้พลังจิตถึงพวกมันออกมาเป็นเหมือนกับลูกบอลทองที่ขนาดเท่ากำปั้นสลักคาถาสนนามโน้มถ่วงลงไป

เและใช่ผลึกพลังงานเพื่อเป็นพลังงานให้แก่วงจร เขาถือและมองดูมันอย่างพอใจ

หลังจากนั้นเขาก็ทำแบบเดิมอีก 200 ลูกมันใช้เวลาทั้งวัน เผาผานผลึกพลังงงานของเขาไปจำนวนมาก

“ซิเรีย!” ดอนเรียกเธอจากนั้นก็สั่งให้เอาพวกมันไปฝั่งรอบ ๆ ค่ายพักอย่าให้ใครเห็น

ในระหว่างนั้นเขาก็หยิบเหล้าออก 1 ขวดนั่งรอให้ซิเรียกลับมา รสชาติของเหล้ามันร้อนแรงแผดเผาเหมือนกินลูกไฟลงไปอย่างไรอย่างนั้นเลย

แต่มันก็ช่วยให้เขาสงบใจลงได้กำลังที่กำลังจะทำ “เห้อ ข้าเลือกแล้วมีแต่ต้องไปให้ถึงที่สุด”

“เจ้าเลือกอะไร เลือกที่จะตายงั้นรึ”

ทั้นใดนั้นเสียงของมาเกลก็ดังขึ้นมา เขาเดินมาพร้อมก้บพวกอีก 3 คน ทุกคนเป็นนัก ขั้น 3

“มาเกล ไอ้สวะนี่นะเหรอที่มีสาวงามข้างกายในละนางอยู่ที่ไหน” นักรบคนั้นกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่หื่นกระหาย

“ใจเย็น ๆ พวกเจ้าแค่ฆ่ามันและช่วยข้าจับผู้หญิงจากนั้นเราก็จะผลัดกันสนุกกลับนาง” มาเกลกล่าวด้วยน้ำเสียงอำมหิต

เขารู้สึกโกรธซิเรียที่ผ่านมาเขาพยายามช่วยเธอและบอกกับทุกคนว่าเธอคือผู้หญิงของเขาจึงไม่มีใครมายุ่งกลับเธอ แต่เธอกลับ เธอกลับไปเลือกไอ้คนไร้ประโยชน์ที่สลบนอนเป็นผัก

“พวกเจ้าช่างรีบมาตายซะจริง ๆ” ดอนค่อย  ๆ ยืนขึ้นมาและกล่าว “พร้อมที่จะตายหรือยัง”

“หืมไอ้เจ้าขยะ!!! ยังจะว่างท่าอีก คงต้องโดนนายท่านผู้นี้สั่งสอนก่อนถึงจะยอมนอนใช้พวกข้าเชือดดี ๆ ใช่ไหม” นักลยขึ้นที่ 3 ในกลุ่มอีกคนเดินออกมาและแตะไปที่ดอน

แรงของท่าแตะถึงกลับทำให้เหิดแรงลมขึ้นมา แต่เมื่อมันจะมาถึงดอนก็มีกำแพงดินขึ้นมาขวางไว

ปัง !

เสียงของเท้าที่แตะโดนกำแพงผู้พิทักษ์ เขาถึงกลับร้องโหยหวนออกมา แต่ก็ถูกหอกดินยิงทะลุตายทันที

มาเกลและอีกสองคนถึงกลับเงียบไปทันที

‘มันเกิดอะไรขึ้น’ ที่คือสิ่งที่พวกมันคิดทุกอย่างนั้นเร็วมาก เลือดที่ไหลออกมาจากศพของนักรบขึ้น 3 ที่ตาย ๆ ไหลย้อมหิมะสีขาว

เมื่อไหลไปถึงเท้าของมาเกล เขาก็รีบคุกเข่าลงด้วยความกลัว

“นายท่านจอมอาคมได้ ๆ โปรดยกโทษให้พวกข้า ๆ” เขารีบโขกศีรษะลงกลับพื้นขอร้องชีวิตอย่างเอาเป็นเอาตายแต่ดอนก็หาได้สนใจไม่

เพราะอย่างไรเขาก็ตั้งใจที่จะฆ่าทุกคนอยู่แล้ว

เขาหยิบดาบตัดวิญญาณออกมา และเดินเข้าไปหามาเกล แต่ดูเหมือนว่ามาเกลจะเป็นพวกหน้าไว้หลังหลอกเพราะทันทีที่ดอนเดินเข้ามาใกล้ เขาก็ชักดาบฟันไปที่ดอนอย่างรวดเร็ว

แต่อยู่ ๆ มาเกลก็แข็งค้างยืนนิ่งไป ด้ามดาบตัดวิญญาณของดอนจ่อห่างจากหัวของมาเกลไปแค่เมตรครึ่ง

ร่างของเขาค่อย ๆ ล้มลงวิญญาณแตกสลายและถูกดาบดูดกลืนไปจนหมด

นักรบอีกสองคนที่ตอนนี้เห็นว่าแค่ดอนชี้ด้ามดาบใส่มาเกล นักรบขั้น 3 แบบเดี่ยวกับพวกเขาก็ตายทันที

การตายโดยที่ไม่รู้ว่าตายอย่างไร มันน่ากลัวเกินไป

“อ๊าคคค” ทั้งสองคนร้องเสียสติและรีบวิ่งกลับไปที่ค่ายเพราะคิดว่าอย่างน้อยที่นั้นก็มีอัศวินน่าจะพอช่วยขอร้องไว้ชีวิตพวกเขาได้

“นายท่านจะให้ข้าตามไปหรือไม่” เคนที่ลอยออกมาจากลูกบาศก์วิญญาณถาม

“ช่างเถอะอีกเดี่ยวซิเรียกลับมาเราก็จะเริ่มกันแล้ว เจ้าก็เตรียมตัว พื้นที่ขนาดนั้นเจ้าจัดการได้ใช่ไหม”

“ข้าจัดการได้ แค่ให้พวกมันตกอยู่ในความโกรธฆ่ากันเองสักครึ่งก็พอแล้ว เดี่ยวที่เหลือพวกมันก็ฆ่ากันเองแบบที่ท่านต้องการ”

“อืม อย่าลืมทำให้พวกมันสิ้นหวัง วิญญาณของพวกมันจะได้มีพลังงานด้านลบและบิดเบี้ยวมากขึ้น”

ขณะที่คุยกันอยู่ ซิเรียก็เดินกลับมา “นายท่านอข้าไปวางตามที่ท่านบอกแล้ว”

“เริ่มกันเถอะ” เขาหันไปบอกกับเคน

เคนค่อย ๆ  ลอยลงไปที่ค่ายอย่างช้า ในขณะที่ดอนกลับมานั่งดื่นโดยมีซิเรียนั่งรินเหล้าให้อยู่ด้านข้าง

ผ่านไปสัก 10 นาทีเหตุการวุ่นวายค่อย ๆ มากขึ้นคนเริ่มที่จะทะเลาะกัน บางคนเห็นภาพหลอนเป็นคนที่ตัวเองฆ่า

เสียงกรีดร้องขอความเมตตา เสียงร้องของความสะใจที่ฆ่าศัตรูคู่แค้น เสียงแห่งความในจิตใจ

พวกเขาพยายามจะหนีออกมาจากพื้นที่การสั่งหารหมู่นี่แต่ก็ติดดับดักพื้นที่แรงโน้มถ่วงนอนตายอยู่รอบ ๆ ไม่สามารถออกไปได้

เขามองดูมันทั้งหมด มองเพื่อให้รู้สิ่งที่เขาแลกไม่ได้มีแค่การละทิ้งเส้นทางจอมอาคมด้านสว่างแล้วเดินหาความมืด

แต่เขาต้องละทิ้งคน

“เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนเลวไหม” ดอนดื่มจนหมดแล้วแล้วถามซิเรียโดยมองไปที่ภาพเบื้องหน้า

“ท่านก็คือท่าน” เธอเทเหล้าให้เขาอีก

“ขอบใจ” ดอนดึงตัวของซิเรียเข้ามากอดเพื่อแก้ความหนาวที่ไม่รู้ว่ามาจากรอบกายหรือจิตใจ

แสงของดวงอาทิตย์ที่ส่องผ่านเมฆหิมะลงมาอย่างยากลำบากหทดลงไปนานแล้ว เหลือแต่แสงของดาวดวงจันทร์ที่สองลงมาผ่านหมู่เมฆเป็นบางครั้ง

ตอนนี้ดานล่างเริ่มสงบลงแล้ว เหลือแค่เสียงร้องของคนที่รอดตายบ้างเล็กน้อยลอยผ่านสายลม

ดอนเดินลงมาที่ค่ายเคน ก็ลอยมารายงานผลงานของตัวเอง

“นายท่านมีทั้งหมด 3654 คนที่ตายลง มีคนที่รอดอีก 10 ว่าคน ตอนนี้เริ่มมีวิญญาณอาฆาตก็กำเนิดขึ้นมาบ้างแล้ว”

“ฆ่าพวกที่เหลือให้หมด ถือว่าช่วยปลดปล่อยพวกมัน” ดอนกล่าวอย่างไม่สนใจและเดินไปศูนย์กลางของค่าย

ที่นี่มีอนุภาคของความมืดเริ่มมารวมตัวกันมากขึ้น อนุภาคความมืดก็เหมือนกลับ ธาตุอื่น ๆ

ไฟต้องเผาไหม้ พื้นดินรองรับสรรพสิ่ง สายน้ำหล่อเลี้ยงกาย ต้นไม้ส่งต่อชีวิด โลหะสร้างความแข็งแกร่ง แสงเกิดความสว่างนำทาง ความมืดกำเนิดความตาย

และในทางกลับกันความตายก็ช่วยให้ความมืดมารวมตัวกันได้

เขาปักดาบตัววิญญาณลงไปตรงกลางของความตายแห่ง ด้ามของมันเริ่มขยายใหญ่ขึ้น เป็นเสาทองคำวิญญาณของคนทั้ง 3664 คนลอยเข้ามา

ซิเรียที่ยืนอยู่บนเนินดินมองดูดอนที่อยู่ด้านล่าง เธอเห็นดอนเริ่มถอดเสื้อผ้าออกที่ละชิ้น ๆ

ดอนเดินไปที่หน้าของดาวตัดวิญญาณ ศพที่นอนตายอยู่บริเวณโดยรอบเริ่มถูกดูดมารวมตัวกันอยู่ที่เสาทองคำ หรือดาบตัดวิญญาณ

“ข้าต้องทำลายทุกพลังจิตของตัวเองแล้วตายลง ฝากเจ้าด้วย” เขากำลังพูดกับดาบตัดวิญญาณ

ทันใดนั้นก็มีคนพูดขึ้น “เจ้า...เป็นเจ้านั้นเองที่ฆ่าทุกคน จอมอาคมแห่งความมืด ทวยเทพต้องลงทันเจ้า ข้าขอสาปแช่งเจ้า”

คนที่พูดก็คืออัศวินที่เป็นหัวหน้าขบวนนี้

“เวลานี้เจ้ารู้จักการสาปแช่ง! แล้วทาศเด็กที่อยู่ในกระโจมเจ้าละ!” เคนลอยู่ด้านหลังของอัศวินคนนั้นพร้อมกับใช้มือแทงทะลุหน้าอกดึงวิญญาณ ของอัศวินคนนั้นออกมา

ถึงอัศวินจะมีพลังที่รับมือกลับผู้ควบคุมได้ แต่ตอนนี้เขาบาดเจ็บหนักอีกอย่าง

อัศวินไม่มีทางรับมือกับ เคน ที่เป็นวิญญาณได้แน่

หลังจากที่ตายร่างของอัศวินก็ถูกดูดมารวมกลับกองซากศพแ ต่มันถูฏเหยียบไว้โดยดอนก่อน

เขาใช้ดาบที่หลนอยู่แถวนั้นผ่าไปที่ท้องน้อยของอัศวิน และใช้มือล้วงเข้าไปดึงเมล็ดพันธุ์ชีวิตออกมา

ดอนเมล็ดพันธุ์ชีวิตที่มีเลือดติดอยู่เก็บเข้าไปในกระเป๋าอาคมของเขา จากนั้นก็โยนมันไว้ด้านข้าง

“อย่าให้ใครรบกวนข้า”

หลังจากสั่งเคน เขาก็เริ่มขั้นตอนต่อไป การทำรูนทั้งหมดในร่างของเขาอีกครั้ง

รูนที่อยู่ในอาณาเขตวิญญาณค่อย ๆ ลอยออกมาและถูกตาบตัดวิญญาณทำลายที่ละตัว

ทุกครั้งที่รูนถูกทำลายดอนเหมือนกับตายลงไปทุกครั้ง

พลังจิตเขาเริ่มลดลงไปเรื่อย ๆ

อ๊าก ๆ ๆ !!!!!!!!!!!!

ความเร็วในการทำลายรูนเริ่มเร็วขึ้น รูนพลังจิต 125 ตัวเริ่ม ลดลงไปพร้อมกับพลังจิต

ดอนกัดฟันเขาจะสลบไม่ได้ไม่งั้นทุกอย่างก็จบ ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ อาณาเขตวิญญาณเริ่มที่จะสั่นไหว กระทบถึงวิญญาณของเขา

เลือดเริ่มไหลออกมาจากทวารทั้ง 7

ศพและวิญญาณเริ่มหลอมละลาย วิญญาณคนตายทั้งพวกมันไม่สามารถกลับเข้าสู่การวัฏจักรเกิดใหม่ของพิภพแห่งนี้ได้

การที่วิญญาณทั้ง 3664 ตนถูกแย่งชิงไปในครั้งเดี่ยวนั้นมันถึงกลับทำให้พิภพถึงกลับมีการตอบสนองเล็กน้อย

พายุและความโกลาหล เริ่มก่อตัวแต่อยู่ ๆ ก็มีแสงพุ่งทยานออกมาจากอาณาเขตวิญญาณของดอน

มันคือ แสงก่อเกิด ที่ตอนนี้เหมือนกลับดวงอาทิตย์เจิดจ้าบดบังดอนไว้ ราวกลับว่าพิภพนี้ไม่เห็นดอนพวกมันจึงค่อย ๆ หายไปอย่างช้า ๆ

และแสงก่อเกิดก็กลับเข้าไปในอาณาเขตวิญญาณเหมือนเดิม

“ขอบคุณ” ดอนกัดฟันตอบ เขาก็งงเช่นกันว่าทำไม่ถึงพูดขอบคุณไป ตอนที่มันออกมาเขารู้สึกว่ามันคือบางสิ่งที่มีชีวิต

ตอนนี้พลังจิต รูน พลังงานทุกอย่างสลายไปหมดแล้ว เขาอ่อนแอ่ยิ่งกว่าคนธรรมดาซะอีก

แต่ดอนก็ยิ้มออกมา เพาะบนหัวของเขามีทะเลความมืดลอยเหนืออยู่ และมันยิ่งขยายใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ

มันคือทะเลแห่งความมืดที่จะช่วยสร้างร่างกายที่มีความสัมพันธุ์กับธาตุความมืด

..............................................

Witterry : ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ อย่าพึ่งรีบเบื่อกันนะ เดี่ยวจะเริ่มเข้าสู่ช่วงแก้ปมหลาย ๆ อย่างที่ผูกไว้ช่วง 50 ตอนแรกแล้ว ติดตามกันต่อไปนะครับ

ลงนิยายทุกวัน เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ ไม่เกินเวลา 18.00 น. วันละ 1 ตอน ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านนะครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด