ตอนที่ 269-270
ตอนที่ 269 : เสริมศักยภาพ
สำหรับจี้อู๋ฮุยและเหล่าไป ทั้งสองไม่ได้ขาดแคลนเงินทองอยู่แล้ว
หนึ่งหมื่นผลึกวิญญาณแทบไม่นับเป็นอะไร
ไม่ว่าจะเสริมศักยภาพได้เพียงใด แต่สุดท้ายอย่างไรก็ต้องได้รับ
อย่างไรแล้วพวกเขาก็ไม่เคยได้ยินว่ามีเทพเซียนองค์ใดสามารถเสริมศักยภาพให้ผู้อื่นได้ในทวีปเทียนหลันแห่งนี้...
“แม่นางเหยา องค์เหนือหัวและข้าต้องการซื้อน้ำแร่คนละขวด” เหล่าไป่นำน้ำแร่สองขวดไปวางพร้อมสินค้าอื่น จี้อู๋ฮุยเดินไปทางโต๊ะจ่ายเงินพร้อมกล่าว “ที่เหลือก็เหมือนเดิม เครื่องเล่นเกมเสมือนจริงสามชั่วโมง”
เล่นเกมเสมือนจริง อย่างไรมาร้านแล้วก็ต้องทำ ทว่าเป็นอย่างสุดท้ายที่จะทำ
ปู้หลี่เกื๋อรับชมคนทั้งสองด้วยความอิจฉา
เถ้าแก่อย่างราก็เป็นเถ้าแก่ หากมีผลึกวิญญาณมากพอเช่นนั้นก็สามารถซื้อของในร้านได้เลย
เหยาซือหยานพยักหน้ารับ “สองหมื่นห้าร้อยผลึกวิญญาณ”
“ผลึกวิญญาณอยู่ในนี้”
เหล่าไป่ส่งแหวนมิติให้เหยาซือหยาน
หนึ่งหมื่นผลึกวิญญาณ หากจะเก็บได้ก็ต้องมีพื้นที่ไม่ใช่น้อย
หากคิดเก็บไว้กับตัว เช่นนั้นไม่ต่างอะไรกับแบกหาม
ดังนั้นภายใต้สถานการณ์ปกติแล้วจึงมักเก็บเอาไว้ในแหวนมิติเก็บของ
แน่นอนว่าต้องมีผลึกวิญญาณมากพอสำหรับซื้อแหวนมิติเก็บของก่อนด้วย...
กว่าสองหมื่นผลึกวิญญาณถูกนำออกจากแหวนมิติและส่งกลับคืนให้เหล่าไป่
เหล่าไป่จึงมอบขวดน้ำแร่ให้แก่จี้อู๋ฮุยก่อนจะสอบถามต่อเหยาซือหยาน “แม่นางเหยา ไม่ทราบว่าน้ำแร่นี้มีเรื่องใดต้องระวังยามดื่มหรือไม่?”
เหยาซือหยานส่ายศีรษะ “เหมือนอย่างโคล่า เพียงดื่มก็พอแล้ว”
เหล่าไป่พยักหน้ารับ
หลังมองหน้ากันเองกับจี้อู๋ฮุย ทั้งสองจึงสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมยกขวดน้ำแร่ขึ้นดื่ม
รับชมคนทั้งสอง ปู้หลี่เกื๋ออดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายอึกใหญ่
เขากำลังสงสัยว่ารสชาติของสิ่งที่เรียกว่าน้ำแร่จะเป็นอย่างไร จะเลิศรสเหมือนดังโคล่าหรือไม่?
ไม่ช้าคนทั้งสองจึงดื่มน้ำแร่หมดขวด
ขณะนี้เป็นเวลาหลังอาหารเช้าแล้ว
ดังนั้นได้ดื่มน้ำแร่สักขวด กล่าวตามตรงว่าเรียกความสดชื่นได้ดี
ทว่าที่นี่คือร้านต้นตำรับ ทั้งสองเขินอายหากจะพูดกล่าวออกมา
“องค์เหนือหัวเป็นอย่างบ้างขอรับ?” ปู้หลี่เกื๋อกล่าวถามด้วยความสงสัย
จี้อู๋ฮุยเพ่งพิจารณาพร้อมขมวดคิ้ว “เหมือนว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยน... เดี๋ยวนะ...”
ถัดจากนั้นเขาจึงหลับตาลงราวกับประสบพบเจออะไรเข้า
เหล่าไปที่อยู่ข้างกายก็เป็นเช่นเดียวกัน ร่างนั้นหลับตาลง
ท่าทีนั้นคล้ายร้อนรนอยู่ภายใน
เกิดอะไรขึ้น ไฉนไม่พูดกล่าวให้มากกว่านี้กัน?
ผ่านไปหลายสิบชั่วลมหายใจ เหล่าไป่จึงลืมตาขึ้นเป็นคนแรก
ปู้หลี่เกื๋อได้เห็นกระจ่างชัดว่าในดวงตานั้นมันเผยแสงส่องสว่างออก!
เหล่าไป่เผยยิ้มอย่างไม่รู้ตัว คล้ายว่าผลประโยชน์ที่เขาได้รับจะไม่ใช่เล็กน้อย
อึดใจถัดมา จี้อู๋ฮุยเองก็ลืมตาตื่นขึ้น
กระนั้นท่าทีของเขาคล้ายจะได้รับเยอะยิ่งกว่าเหล่าไป่
ค่ายอาคมพลังวิญญาณพบเห็นได้ด้วยตาเปล่ากำลังบินโคจรรอบกายจี้อู๋ฮุย
เส้นผมสีดำเริ่มยกตัวขึ้นพร้อมชุดที่พลิ้วไหวกับอากาศ!
ออร่าอันชวนสะพรึงเกิดเป็นรัศมีจากร่างจี้อู๋ฮุยอย่างที่เขาไม่อาจควบคุม
ทว่าอึดใจถัดมาภายในร้านกลับเกิดความเคลื่อนไหว
ออร่าลึกลับปรากฏอย่างกะทันหันทำการปิดบังซ่อนเร้นออร่ารอบกายของจี้อู๋ฮุยเอาไว้
เดิมเหยาซือหยานคิดช่วยสะกดไว้ให้ ทว่าขณะนี้ได้เห็นก็ค่อยโล่งใจ
กลายเป็นว่าร้านต้นตำรับดำเนินการด้วยตัวของมันเองแล้ว
ไม่ทราบว่าร้านแห่งนี้เถ้าแก่แท้จริงลงค่ายอาคมไว้มากมายเพียงใดกันแน่?
ตอนที่ 270 : โอกาสของจี้อู๋ฮุย
ตามปกติแล้วเหยาซือหยานไม่เคยคิดใส่ใจเรื่องค่ายอาคมแต่อย่างใด
ขณะนี้หากรับชมสีหน้าของเหล่าไป่และปู้หลี่เกื๋อ คล้ายทั้งสองจะตื่นตะลึงมากกว่าเหยาซือหยาน
หลังผ่านไปหลายสิบชั่วลมหายใจ จี้อู๋ฮุยค่อยสูดลมหายใจเข้าลึก
ออร่าที่มารวมตัวกันเช่นตอนนี้ ผู้ฝึกตนธรรมดาไม่มีทางตระหนักทราบได้
ทว่าเหยาซือหยานกล้ากล่าว ว่าจี้อู๋ฮุยแปรเปลี่ยนไปจากก่อนหน้าเล็กน้อยอย่างพบเห็นได้ชัดเจน
คล้ายว่าจะได้รับผลประโยชน์ก้อนใหญ่
“แม่นางเหยา เมื่อครู่ข้าไม่อาจควบคุมตัวเองได้ ต้องขออภัย” จี้อู๋ฮุยทราบดีว่าเมื่อครู่ตนเองเป็นต้นเหตุ เมื่อกลับคืนสภาวะปกติสิ่งที่ทำอย่างแรกคือการขออภัย
เหยาซือหยานเผยยิ้มบาง “ไม่เป็นไร ไม่มีเรื่องใดต้องกังวล หากไม่ใช่การตั้งใจสร้างปัญหาภายในร้าน เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหาใด”
จี้อู๋ฮุยเผยยิ้มตอบรับ
“องค์เหนือหัว คล้ายว่าผลการเก็บเกี่ยวครั้งนี้จะไม่ใช่น้อยเลย!” เหล่าไป่เผยยิ้ม
“ฮ่าฮ่าฮ่า สินค้าของร้านเถ้าแก่ทำพวกเราประหลาดใจได้เสมอ”
จี้อู๋ฮุยขณะนี้อารมณ์ดีจนเผยยิ้มแก้มบาน
“ตัวข้ารู้สึกเหมือนได้เดินก้าวไปอีกก้าวหนึ่ง ภายในอีกไม่กี่ปี อย่างน้อยห้าในสิบข้าต้องข้ามผ่านขอบเขตไปให้ได้!”
เหล่าไป่เผยความประหลาดใจ “ที่องค์เหนือหัวกล่าวนี้จริงหรือ?”
คิดข้ามผ่านขอบเขตทดสอบเต๋าสู่ขอบเขตราชันคือเรื่องยากเย็นมหาศาล
ไม่เพียงแต่ต้องการศักยภาพการฝึกตนอันสูงล้ำ แต่ยังต้องการโอกาสที่ฟ้าประทานให้
ในทวีปเทียนหลัน นับตั้งแต่ครั้งโบราณจนถึงตอนนี้ ไม่ทราบว่ามีผู้ซึ่งน่าทึ่งเช่นนี้กี่คน เพราะส่วนใหญ่จะไม่อาจข้ามผ่านไปได้ เหล่านั้นล้วนเผชิญอุปสรรคจนต้องถอยด้วยความอับจนสิ้นหวัง
ทว่าจี้อู๋ฮุยกลับรับรู้ได้เด่นชัด ว่าตนจะสามารถข้ามอุปสรรคนั้นไปได้!
เรื่องนี้ทำเอาเหล่าไป่นึกริษยา
“ฮ่าฮ่า ข้าหรือจะโกหก?” จี้อู๋ฮุยหัวเราะตอบ
“ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับองค์เหนือหัวแล้ว” เหล่าไป่เผยยิ้ม
ด้วยเพราะเป็นสหายกับจี้อู๋ฮุยมานาน เหล่าไป่ย่อมร่วมยินดี
“เหล่าไป่ เจ้า...” จี้อู๋ฮุยพลันได้ตระหนักถึงเรื่องเหล่าไป่ สีหน้าขณะนี้จึงชะงักค้าง
ก่อนหน้านี้เป็นเขายินดีกับตนเองจนเกินไป ถึงกับลืมเลือนว่าเหล่าไป่เองก็ดื่มน้ำแร่ไปเช่นเดียวกัน
ด้วยสถานะปัจจุบัน การเสริมศักยภาพย่อมไม่อาจส่งผลให้เห็นเด่นชัดอะไรมาก
ท่าทีของเหล่าไป่คล้ายสุขสบายไม่ใส่ใจ “ไม่ใช่เถ้าแก่กล่าวแล้วหรือว่าอาศัยโชค เป็นข้าโชคไม่ดีบ้างก็เท่านั้น”
ในขณะนี้เหล่าไป่มองเป็นอื่น
หากไม่ใช่เพราะร้านต้นตำรับ เกรงว่าตัวเขาจะอยู่ขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่แปดจนตกตายแล้วด้วยซ้ำ
ขณะนี้ได้ดื่มน้ำแร่ ไม่คล้ายว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มพูนศักยภาพเท่าใดนัก
พบเห็นท่าทีเหล่าไป คำปลอบของจี้อู๋ฮุยจึงต้องกล้ำกลืนกลับลงไป
ถัดจากนั้นเหล่าไป่และจี้อู๋ฮุยต่างไปนั่งเล่นเข้าโลกเสมือนจริง
ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและโคล่า ทั้งสองยังไม่ได้คิดดื่มกินในตอนนี้
เหตุผลก็เพราะดื่มน้ำแร่ไปขวดก็ทำให้อิ่มไม่ใช่น้อยแล้ว...
ปู้หลี่เกื๋อรับชมคนทั้งสองอย่างริษยา
ขณะเดียวกันนี้สายตาเขาก็มองออกไปยังนอกร้านครั้งแล้วครั้งเล่า
นานแล้วไฉนยังไม่กลับมากันอีก?
“ปู้หลี่เกื๋อ? มายืนทำอะไรที่ตรงนี้กัน?” น้ำเสียงฉงนกล่าวถามดังขึ้น
ปู้หลี่เกื๋อได้ตระหนัก ว่าเป็นสองโฉมงามเดินเข้ามาภายในร้าน
สองคนเป็นคนคุ้นหน้า ทั้งยังเป็นสองโฉมงามที่ต้องตา
เป็นหลิวลู่เหม่ยกับหลิวลู่อวี่สองพี่น้อง
“ข้ารอคนอยู่” ปู้หลี่เกื๋อกล่าวตอบ
“รอคน?” หลิวลู่อวี่เผยเสียงเบาด้วยความสงสัย “ในเมื่อต้องรอ เหตุใดไม่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและเล่นหอคอยแห่งการทดสอบรอเสียก่อนเล่า?”