ตอนที่แล้วบทที่ 30 ผู้จัดการโรงงานและผู้ช่วยผู้จัดการโรงงาน(อ่านฟรี20-12-2020)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 32 แหล่งพลังงานที่เหนือกว่า(อ่านฟรี26-12-2020)

บทที่ 31 ผู้โฆษณา(อ่านฟรี23-12-2020)


ซูยี่เดินออกจากห้องทดลองของจอมเวทย์คามิลล่าที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่น

ก่อนหน้านี้เมื่อเขามองเห็นแอร์เวทมนตร์ ซูยี่ก็นึกขึ้นได้ว่าในตอนที่เขาศึกษาเกี่ยวกับแอร์เวทมนตร์เขาเคยนำเรื่องนี้มาปรึกษากับจอมเวทย์คามิลล่าอยู่หลายครั้งและได้รับความช่วยเหลือในการปรับแต่งรูปแบบเวทย์น้ำแข็งค่อนข้างมาก ดังนั้นเขาจึงต้องการเชิญจอมเวทย์คามิลล่ามาเป็นที่ปรึกษาการวิจัยของเขา ด้วยพลังเวทย์อันทรงพลังของเขาทำให้ปัญหาต่างๆสามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย

เมื่อซูยี่ได้พบกับจอมเวทย์คามิลล่า พวกเขาพูดคุยกันอย่างกลมเกลียว และจอมเวทย์คามิลล่าถึงกับเห็นด้วยกับคำขอของซูยี่โดยให้ความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์เป็นการชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาบางอย่างที่เขาไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เมื่อซูยี่เสนอค่าตอบแทนให้เขาเป็นเหรียญทองสำหรับช่วยเหลือของเขาใบหน้าของจอมเวทย์คามิลล่าก็เปลี่ยนไปทันที เขาตบโต๊ะด้วยความโกรธและชี้ไปที่ทางออกและไล่เขาไปโดยไม่ให้เวลาเขาอธิบายอะไรเลย

“จอมเวทย์คามิลล่าคนนี้เขามีอะไรกับเงินนักหนานะ” ซูยี่อดไม่ได้ที่จะสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้

แม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าจอมเวทย์คามิลล่านั้นไม่มีแนวคิดที่จะใช้เวทมนตร์ไปในเชิงธุรกิจเลยแต่เขาไม่คิดว่ามันจะขราดนี้

“ หืมท่านลุงไปทำอะไรมาทำหน้าเป็นทุกข์จัง? มีคนเป็นหนี้แล้วไม่จ่ายเหรอ” จู่ๆก็มีเสียงอันไพเราะดังมาจากข้างๆเขา

“ไม่มีใครเป็นหนี้ข้าทั้งนั้นแหละ นอกจากนั้นข้าอายุแค่ยี่สิบเจ็ดปีหยุดเรียกข้าว่าลุงได้แล้ว” ซูยี่มองไปที่สเตลล่าอย่างรวดเร็ว

หลังจากผ่านไปคืนเดียวใบหน้าของสเตลล่าก็ไม่แสดงถึงอาการอกหักเหมือนเมื่อคืนสีหน้าของเธอกลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิมแล้ว

แน่นอนว่าเธอยังคงผอมลงอย่างเห็นได้ชัด นี่คือสิ่งที่ไม่สามารถฟื้นฟูได้ในคืนเดียว

“ใครบอกให้เจ้าว่าข้าเป็นเด็กล่ะ”สเตลล่าตะคอกออกมา เมื่อสายตาเธอเหลือบไปเห็นห้องทดลองพิเศษเฉพาะของจอมเวทย์คามิลล่าที่อยู่ด้านหลังของซูยี่เธอก็ถามด้วยเสียงต่ำ“เจ้ามาทำอะไร? เจ้าทำให้ปู่โกรธเหรอ”

ซูยี่บอกสเตลล่าเกี่ยวกับเรื่องที่ทำให้เขาหดหู่และมันทำให้เธอหัวเราะเสียงดัง

“ ฮ่าฮ่าเจ้ามันสมควรแล้ว! เจ้าก็รู้ว่าปู่ของข้าไม่ชอบอะไรแบบนี้ แต่เจ้าก็ยังเสนอค่าตอบแทนให้เขา เจ้านี่มันรนหาที่ชัดๆ”

“ข้าจะไปรู้ได้ไงว่าเขาจะไม่ชอบขนาดนั้น” ซูยี่ถอนหายใจและอดไม่ได้ที่จะถามว่า“สเตลล่าทำี้ไมจอมเวทย์คามิลล่าถึงไม่ชอบเรื่องแบบนี้นัก? จอมเวทย์คนอื่นก็ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลย”

“เจ้าอยากรู้เหรอ” สเตลล่าเผยให้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“ถ้าอยากรู้คำตอบเจ้าก็ต้องลงทุนนิดนึง”

ซูยี่ยักไหล่และมองไปที่ท้องฟ้านอกหน้าต่าง“ยังไม่ถึงเวลาทานข้าวเลย ข้าว่าเราไปหาน้ำชาดื่มกันดีกว่า”

หลังจากสั่งเครื่องดื่มเย็น ๆ สองแก้วในร้านของว่างใกล้ๆกับหอคอยเวทมนตร์จากนั้นสเตลล่าก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้กับซูยี่ฟัง

ในตอนแรกจอมเวทย์คามิลล่ามีลูกศิษย์อยู่หลายคนและมีสองคนที่เขาคาดหวังไว้สูง เขาคิดว่าตราบใดที่พวกเขามีความพยายามมากพอพวกเขาก็จะกลายเป็นนักเวทย์ที่ทรงพลังได้ในที่สุดและสามารถเหนือกว่าเขาได้

แต่สุดท้ายลูกศิษย์ของเขาก็ไม่สามารถต้านทานเสียงเรียกร้องของเงินได้ พวกเขาได้รับการว่าจ้างจาก บริษัท ขนาดใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อยและกลายเป็นผู้คุม บริษัท เหล่านั้น พวกเขาไม่สนใจการวิจัยเวทมนตร์ของพวกเขาโดยสิ้นเชิงและไม่ก้าวหน้าเลยหลังจากผ่านไปหลายปี

จอมเวทย์คามิลล่าเจ็บปวดมากกับสิ่งที่พวกเขาทำในขณะเดียวกันก็รังเกียจการกระทำของ บริษัท เหล่านั้นด้วย มันสะสมหลังจากผ่านไปหลายครั้งและกลายเป็นลักษณะปัจจุบันของเขา

“หลังจากที่ปู่เห็นพัดลมเวทมนตร์ของเจ้าเขาก็รู้สึกว่าพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์ของเจ้านั้นโดดเด่นมาก เขาจึงคาดหวังกับเจ้าค่อนข้างมาก แต่สุดท้ายเจ้าไม่เพียงแต่ปฏิเสธที่จะเป็นศิษของเขา แต่เจ้ายังสร้างบริษัทของตัวเองขึ้นด้วย ดังนั้นเขาจึงรู้สึกผิดหวังมาก ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าถ้าปู่ไม่ตั้งความหวังกับเจ้าและพลังเวทย์ของเจ้าก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆเขาคงจะไล่เจ้าออกจากหอคอยเวทมนตร์ไปนานแล้ว เขาจะให้เจ้าพบเมื่อเจ้าอยากพบ ให้คำแนะนำเมื่อเจ้าต้องการทำไมล่ะจริงมั้ย? แล้วมาตอนนี้เจ้ายังมาคุยข้อตกลงทางธุรกิจกับเขาอีกเขาจะไม่โกรธได้อย่างไร ข้าถึงได้บอกไงว่าเจ้ามันรนหาที่ ทีนี้เจ้าเชื่อข้ายัง”

ได้ยินคำพูดสุดท้ายของสเตลล่า ซูยี่ทำได้เพียงเปิดปากและปิดริมฝีปากโดยไม่พูดอะไร

“เป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริงๆข้าต้องการเชิญจองเวทย์ที่มีความสามารถมาเป็นหัวหน้านักวิจัยของเราและข้าก็หวังว่าเขาจะเป็นผุ้โฆษณาผลิตภัณฑ์ของบริษัทเรา ถ้าเป็นตามที่เจ้าพูดนั่นไม่ได้หมายความว่าไม่มีความหวังหรือ?”ซูยี่กล่าวอย่างช่วยไม่ได้

“เจ้าฝันอยู่หรือไง”สเตลล่ามองไปที่ซูยี่ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงสงสัย“แต่หัวหน้านักวิจัยและผู้โฆษณาหมายความว่าอย่างไร? ทำไมข้าไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนเลย”

“หัวหน้านักวิจัย… .. ที่จริงเป็นแค่คนที่ช่วยข้าค้นคว้ารูปแบบเวทมนตร์ที่จำเป็นในเครื่องจักรเวทมนตร์ที่ข้าสร้างขึ้น เพราะปู่ของเจ้าเป็นจอมเวทย์ที่มีความสามารถแน่นอนว่าเขาจะกลายเป็นหัวหน้าได้ หัวหน้าก็คือคนคุมงาน เจ้าเข้าใจใช่มั้ย”

“แล้วผู้โฆษณาล่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินคำนี้มันมีความหมายว่าอะไร”

“ผู้โฆษณา… .. พูดถึงเรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน” ซูยี่คิดย้อนกลับไปที่โลกเดิมและหลังจากคิดสักพักเขาก็ตอบว่า“ผู้โฆษณาก็คือคนที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวแทนผลิตภัณฑ์ของบริษัท จะใช้ใครสักคนเป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์บางอย่างและเมื่อผู้คนเห็นคนๆนั้นพวกเขาก็จะนึกถึงผลิตภัณฑ์นั้นๆ โดยปกติแล้วบุคคลที่จะทำหน้าที่นั้นจะต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียง ด้วยวิธีนี้จะทำให้คนรู้จักกับผลิตภัณฑ์ของเราได้ง่ายขึ้น”

“ถ้าสินค้าที่พวกเขานำเสนอไม่ดีมันจะไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของผู้โฆษณาเสื่อมเสียด้วยหรือ?”สเตลล่าถามกลับทันที

ซูยี่ตกตะลึง“เจ้ามีเป็นคนที่มีใหวพริบจริงๆ ถูกต้องนี่เป็นความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันดังนั้นผลิตภัณฑ์และผู้โฆษณาจะได้รับผลกระทบร่วมกัน ไม่เพียงแต่ภาพลักษณ์ของผู้โฆษณาจะได้รับผลกระทบหากมีปัญหากับผลิตภัณฑ์ในขณะเดียวกันหากมีปัญหากับผู้โฆษณาก็จะส่งผลต่อผลิตภัณฑ์เช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้โฆษณาหรือ บริษัท ที่เลือกผู้โฆษณาพวกเขาจะต้องคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบ”

“เจ้ามีความคิดที่ดีที่เลืองปู่ของข้า”สเตลล่าส่งเสียงเบา ๆ ว่า“ปู่ของข้าเป็นถึงจอมเวทย์เขามีชื่อเสียงมากในอาณาจักรลัมปูรีแห่งนี้ ถ้าทุกคนรู้ว่าจู่ๆเขาก็เป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ทุกคนจะถามว่าสินค้านั้นคืออะไร แล้วอีกอย่างปู่ของข้าเป็นคนจริงจังมาโดยตลอดภาพลักษณ์ของเขาจึงดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ”

“นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าต้องการเขาเป็นผู้โฆษณา” ซูยี่ยื่นมือออกมาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเสียใจ“แต่จากทัศนคติของท่านจอมเวทย์ไม่จำเป็นต้องพูดถึงผู้โฆษณากับเขาเลยเขาคงไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน”

“คงจะแปลกถ้าเขาเห็นด้วย” สเตลล่าพยักหน้า เธอมองไปที่ซูยี่ก่อนจะถามทันทีว่า“ใช่แล้วซูยี่เนื่องจากเจ้ากำลังต้องการคนมาเป็นผู้โฆษณาของเจ้า เจ้าก็ต้องมีค่าตอบแทนด้วยใชามั้ย?”

“แน่นอนเราจะปล่อยให้เขาทำงานฟรีได้อย่างไร”

“ถ้าอย่างนั้นข้าขอถามได้ไหมว่าเจ้าพร้อมจะเสนอราคาเท่าไร”

“เรื่องนี้ไม่แน่ใจขึ้นอยู่กับว่าผู้โฆษณาเป็นใคร โดยปกติแล้วยิ่งบุคคลมีชื่อเสียงและภาพลักษณ์ดีเท่าไหร่พวกเขาก็จะได้รับค่าตอบแทนสูงเท่านั้น ถ้าเป็นจอมเวทย์ข้าอยากจะจ่ายเงินให้เขาหนึ่งพันเหรียญทองต่อปีเป็นค่าผู้โฆษณา……”

“หนึ่งพันเหรียญทอง?” โดยไม่รอให้ซูยี่พูดจบดวงตาของสเตลล่าก็เบิกกว้างและปากของเธอก็อ้าค้าง“ขนาดนั้นเลยเหรอ? นี่แค่ต้องเป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์เท่านั้นเองนะ”

“ถูกต้องแล้วล่ะ”

สเตลล่ามองไปที่ซูยี่ด้วยสายตาแปลก ๆ “นี่ ซูยี่เจ้าไม่ควรจะขายพัดลมเวทมนตร์ได้จำนวนมากขนาดนั้นแล้วเจ้าจะหาเงินมาจ่ายให้ปู่ข้าได้อย่างไร เจ้ามีเงินมากขนาดนั้นเลยเหรอ”

ซูยี่เผยรอยยิ้มจาง ๆ “เจ้าไม่เข้าใจ นี่เรียกว่าการลงทุนในการโฆษณาและเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก พันเหรียญทองนี้ดูเหมือนจะมาก แต่เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ได้รับจากจอมเวทย์แล้วมันเทียบกันไม่ได้เลย” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ซูยี่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“น่าเสียดายที่ท่านจอมเวทย์เขาไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เลยดังนั้นการพูดถึงเรื่องนี้จึงเป็นการเสียเวลาเปล่าๆ ใช่แล้ว เจ้ารู้จักกัจอมเวทย์คนอื่นมั้ย เจ้าพอจะแนะนำให้ข้ารู้จักกับพวกเขาได้มั้ย”

สเตลล่าขมวดคิ้วที่บอบบางของเธอขณะที่เธอครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่จะส่ายหัว“ข้ารู้จักกับจอมเวทย์อยู่หลายคนผ่านท่านปู่ แต่ซูยี่ข้าจะบอกกับเจ้าได้อย่างตรงไปตรงมาว่าคนพวกนั้นจะไม่สนใจบริษัทเล็กๆของเจ้าหรอก ้จ้าล้มเลิกความคิดนี้เถอะ”

“ข้าก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน”ซูยี่เผยรอยยิ้มที่เวทนาตนเอง“ตอนนี้บริษัทของข้าไม่มีอะไรเลย เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่บริษัทของข้าจะไม่อยู่ในสายตาพวกเขา”เมื่อเขาเลิกคิดเรื่องนี้ไป จู่ๆเขาก็นึกเรื่องบางอย่างขึ้นได้“ใช่แล้วเห็นวิเวียนบอกว่าก่อนที่เจ้าจะออกจากบ้านข้าไปเจ้าให้เธอบอกข้าว่ามีเรื่องจะคุยกับข้า”

“ อืมข้ามีเรื่องจุคุยด้วยจริงๆ แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว” สเตลล่าพูดด้วยรอยยิ้มว่า“ข้าอยากถามว่าเจ้าหาอะไรให้ข้าทำได้ไหม ตอนนี้ข้าเบื่อที่จะอยู่กับปู่ทั้งวันแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ามักจะดูเหมือนยุ่งอยู่ตลอดเวลาดังนั้นบางทีเจ้าอาจจะหาอะไรให้ข้าทำได้”

ซูยี่มองไปที่สเตลล่าอย่างจริงจัง เขาคิดว่าเป็นไปได้มั้นที่จู่ๆเธอก็อยากหาอะไรทำนั้นเป็นเพราะต้องการที่จะลืมเรื่องที่ตัวเองอกหัก

“มันไม่ใช่ปัญหาถ้าเจ้าต้องการหางานทำ ตัวอย่างเช่นข้าต้องการขอให้ปู่ของเจ้าเป็นหัวหน้านักวิจัยจริงๆแล้วเป็นเพราะข้าวางแผนที่จะสร้างห้องปฏิบัติการวิจัยเวทมนตร์เฉพาะของ บริษัท หากเจ้าสนใจเจ้าก็สามารถค้นคว้าเกี่ยวกับเวทมนตร์ในห้องปฏิบัติการและช่วยข้าทำผลิตภัณฑ์ต่อไปให้เสร็จ”

“ข้าสนใจงานนี้มากและข้าก็พร้อมที่จะเริ่มงานเลย ยังไงก็ตามตอนนี้ข้าได้ยินสิ่งที่เจ้าพูดแล้วข้ารู้สึกว่างานอีกประเภทหนึ่งน่าสนใจกว่า”สเตลล่าหรี่ตาขนาดใหญ่ของเธอและพูดด้วยรอยยิ้ม

"งานอะไร?"

สเตลล่าค่อยๆลุกขึ้นนั่งและเธอเผยให้เห็นรอยยิ้มที่สดใสเผยให้เห็นฟันสีเงินทั้งสองข้าง เธอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“ซูยี่เจ้าคิดยังไงถ้าข้าอยากจะเป็นผู้โฆษณาให้กับบริษัทของเจ้า”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด