Guild Master ตอนที่ 71 ตำแหน่งว่าง
ตอนที่ 71
ตำแหน่งว่าง
"........."หลังจากมายด์กับเจเข้ามาในเกมอีกครั้ง ภาพตรงหน้าก็ทำเอามายด์อดที่จะประหลาดใจไม่ได้ แค่เวลาย้ายของแค่วันเดียว เมืองการ์กันที่ก่อนหน้านี้แทบจะเป็นเมืองร้าง ยามนี้กลับมีผู้คนจำนวนมากเดินกันเต็มไปหมด แถมเมืองยังเริ่มปรับปรุงไปหลายส่วนแล้วอีกต่างหาก
"มีอะไรงั้นเหรอมายด์"เจถามพลางเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมาช้า ๆ เท่านี้ก็เหลือแค่กดออกจากปาร์ตี้เท่านั้น
"นี่มันอะไรเนี่ย…"มายด์มองไปรอบ ๆด้วยท่าทีตกใจ ไม่ใช่เพราะเมืองที่เปลี่ยนไปมาก แต่เพราะคนส่วนใหญ่ในเมืองไม่ใช่คนของกิลด์เรดซีต่างหาก
"ก็คนที่พี่กวีเรียกมาไง"เจตอบพลางกดออกปาร์ตี้ช้า ๆ ตอนนี้เมืองการ์กันมีคนของกิลด์บูรพาเดินกันเต็มไปหมด แถมอาคารของกิลด์บูรพายังกินพื้นที่ในเมืองมากกว่าของฝั่งเรดซีอีก
".........."มายด์ไม่นึกเลยว่ากวีสร้างกิลด์ได้ใหญ่ขนาดนี้ ตอนแรกที่กวีบอกว่าจะให้ทุกคนสร้างกิลด์ย่อยขึ้นมามายด์ยังแอบคิดว่าจะมีคนเข้ามาจนเต็มได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย แต่ตอนนี้กลับเห็นได้ชัดว่าต่อให้สร้างกิลด์มากกว่าที่บอกก็ไม่ทราบว่าจะรับคนได้พอหรือเปล่าด้วยซ้ำ
"เป็นอะไรไปมายด์ ทำไมยังไม่ออกปาร์ตี้อีกล่ะ"เจถามพลางมองไปทางมายด์ด้วยท่าทีนิ่ง ๆ อยู่ ๆก็เกิดเสียดายหรือไงที่ต้องออกจากปาร์ตี้ของหัวหน้ากิลด์ใหญ่แบบนี้ ทั้ง ๆที่ถ้าอยู่ในปาร์ตี้ของกวี ก็อาจจะได้มีตำแหน่งใหญ่โตในกิลด์แท้ ๆ แต่มายด์ก็เลือกที่จะไม่พอใจกวีแล้วชวนเจออกมา
"เข้าใจแล้ว"มายด์กลืนน้ำลายลงคอก่อนจะกดออกจากปาร์ตี้ไป แม้จะเสียดายแค่ไหนแต่เธอมาไกลเกินกว่าจะกลับไปหากวีแล้วปั้นหน้าขอโทษไปแล้ว ตอนนี้ต่อให้มายด์คลานเข่าเข้าไปก็กลัวว่ากวีจะไม่แม้แต่จะเหลียวมอง
"งั้นไปกันเถอะ"เจว่าพลางพามายด์ไปที่แท่นวาร์ปสำหรับย้ายไปเมืองอื่น ที่นอกเกมเจกับมายด์ตกลงกันแล้วว่าจะออกไปจากเมืองการ์กันให้ไวที่สุด แล้วค่อยไปหากิลด์ใหญ่ ๆอยู่แบบที่เจคิดจะทำตอนแรก
"เจ เราไปไกล ๆเลยได้ไหม ไปทางตะวันตกเลยก็ได้"มายด์เสนอพลางเดินตามเจเข้ามาในจุดวาร์ป เพราะเห็นเมืองที่โดนกวีกลืนไปกว่าครึ่งเลยสำนึกได้ว่ากวีไม่ใช่คนที่ไปแหย่เล่นได้ บางทีฐานะจริง ๆของกวีอาจจะเหนือกว่าที่มายด์เดาไว้ตอนแรกเสียอีก เผลอ ๆอาจจะอยู่ระดับเดียวกันหรือสูงกว่าหัวหน้ากิลด์เรดซีเสียด้วยซ้ำ เพราะงั้นเลยต้องหนีให้ไกล
"นั่นสินะ ไปให้ไกลเลยดีกว่า"เจว่าพลางเลือกแผนที่เพื่อวาร์ปไปยังเมืองแห่งหนึ่งทางตะวันออก เพียงแต่ก่อนจะเลือกเมืองเจก็แอบส่งข้อความไปบอกกวีเอาไว้โดยไม่ให้มายด์รู้ตัวก่อนแล้ว
.
.
.
"ไอ้นิสัยเสียชอบยื่นอาวุธให้ศัตรูนี่ขอทีเถอะ"เมฆเดินเข้ามาหากวีที่ขึ้นมายืนบนกำแพงเมืองฝั่งตะวันออก ก่อนจะเอ่ยปากบ่นออกมาตามประสาคนคุ้นเคย
"มันก็ต้องแลกกันบ้าง คราวนี้หมากบนกระดานมันเพิ่มขึ้นเยอะถ้าประมาทกลัวว่าจะล้มเอาง่าย ๆ"กวีตอบพลางยิ้มออกมาบาง ๆ
"ฝั่งนายทุนงั้นเหรอ"เมฆตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ แม้เมฆจะมีฝีมือสุดยอดแต่เรื่องการคุมกิลด์เมฆไม่กล้าเอาตัวเองไปเทียบกับกวีหรอก ตนเองเพียงอยู่กับกวีมานานเลยพอจะเข้าใจแผนของกวีบ้างเท่านั้น
"รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งไงล่ะ"กวีพูดจบก็เปิดจดหมายของเจออกมาอ่าน ข้อความแจ้งว่าเจจะเดินทางไปไหนนั้นทำให้กวียิ้มออกมาด้วยท่าทีพึงพอใจ กวีตัดสินใจให้เจออกจากปาร์ตี้เพื่อเข้าไปในกิลด์ฝั่งนายทุนแล้วคอยส่งข่าวให้กับตน พูดง่าย ๆก็คือเป็นสายข่าวนั่นเอง อย่างที่กวีบอกกวียังมีข้อมูลของฝั่งนายทุนไม่พอ แถมยังต้องดูข้อมูลใหม่ของฝั่งผู้เล่นมืออาชีพด้วย คำว่ารู้เขารู้เรานั้นแม้พูดออกมาง่ายแต่ทำจริงนั้นยาก การส่งสายข่าวไปครั้งนี้ไม่ใช่แค่ใครก็ได้ กวีต้องการคนที่ไว้ใจได้ และมีหนี้บุญคุณกับตัวเอง ที่เก็บมายด์เอาไว้ในตอนแรกนั้นก็เพื่อกดดันเจและดึงมาเป็นพวก สิ่งที่กวีต้องการไม่ใช่อะไรจากมายด์แต่จากเจต่างหาก
"แล้ว...กิลด์บูรพานี่มันมายังไง"เมฆถามด้วยท่าทีสงสัย แม้ชื่อกิลด์สุริยันจันทราที่ตั้งกันสมัยเล่นเกมจะเป็นชื่อที่ตั้งกันเล่น ๆแล้วดันดังก็เถอะ แต่ไอ้ชื่อกิลด์บูรพานี่หมายถึงอะไรกันแน่
"ตอนนี้เราอยู่อาณาจักรสุดเขตตะวันตกใช่ไหม"กวีถามพลางเอาไม้เท้ากระทุ้งลงพื้นเบา ๆ นอกจาเมืองทันดร้าแล้ว เมืองการ์กันแห่งนี้ก็อยู่สุดเขตตะวันตกที่สุดจริง ๆ แต่แบบนั้นควรตั้งชื่อว่ากิลด์ประจิมหรือเปล่า…
"ที่ตั้งชื่อนี้ก็เพราะอยากจะตั้งเป้าหมายสักหน่อย"กวีพูดจบก็เอาไม้เท้าชี้ไปทางตะวันออก
"มุ่งสู่บูรพาทิศ ยึดเอามาให้หมดตั้งแต่ตะวันตกจนถึงตะวันออก"กวีพูดด้วยท่าทีมุ่งมั่นอย่างมาก ในช่วงเวลาที่มีกิลด์ใหญ่สองฝั่งห้ำหั่นกันระหว่างฝ่ายผู้เล่นมืออาชีพที่มีแต่ยอดฝีมือเต็มไปหมดกับฝั่งนายทุนที่สามารถหาไอเทมและกำลังคนได้ราวกับไม่มีหมด หัวหน้ากิลด์ที่หายไป 5 ปีคนหนึ่งกำลังบอกว่าจะยึดมาให้หมดงั้นเหรอ
"ก็เข้าใจเป้าหมายนะ แต่ชื่อมันเล่นง่ายไปหน่อย"เมฆยักไหล่ด้วยท่าทีช่วยไม่ได้ มันออกจะตั้งง่ายไปหน่อยมั้งเล่นใช้บูรพาคำเดียวแบบนี้
"ตั้งไปแล้วนี่นาเปลี่ยนตอนนี้ไม่ทันหรอก"กวีหัวเราะก่อนจะเก็บท่าทีก่อนหน้านี้ให้กลับมาเป็นปกติ
"แต่ตอนนี้เราต้องจัดการเรื่องปาร์ตี้ก่อน ให้หาแทงค์ดี ๆมาสักคนไหม"เมฆถามพลางมองรายชื่อปาร์ตี้ที่ขาดหายไป 2 คน แต่ตอนนี้ในกิลด์ของกวีมีคนจำนวนมากแค่แทงค์กับตัวสร้างความเสียหายสักคนหาไม่ยากหรอก
"อย่าไปดึงคนของปาร์ตี้อื่นมาเลย ถ้าจะหาแทงค์ละก็มีคนในใจแล้วล่ะ"กวีตอบออกมาพลางเปิดรายชื่อเพื่อนขึ้นมาช้า ๆ
"ไม่ไหวมั้งหมอนั่นแก่แล้วกลับมาแทงค์ไม่ได้หรอก"เมฆว่าพลางหัวเราะออกมาเบา ๆ
"อย่าพูดแบบนั้นสิ พี่เขาแก่กว่าพวกเราแค่ 4 ปีเองนะ"กวียิ้มเจื่อน ๆออกมาก่อนจะเริ่มติดต่อไปยังรายชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอ ก่อนหน้านี้กวีสอบถามช่องทางติดต่อสมาชิกเก่าจากเรย์มาแล้ว เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาติดต่อเท่านั้น
"ว่าไง…."เสียงของชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย ดูแล้วเป็นเสียงผู้ชายที่ดูเป็นผู้ใหญ่ตรงกันข้ามกับเสียงของเรย์เลย
"พี่วิน ไม่ได้เจอกันนานนะครับ"กวีว่าพลางยิ้มออกมาบาง ๆ วิน อดีตตัวแทงค์ของพวกกวีในสมัยก่อนนั่นเอง
"นาน...ใครนะพอดีไม่ว่างอ่านชื่อคนติดต่อมา"วินตอบก่อนจะมีเสียงดัง เคร๊ง มาจากฝั่งของวิน
"แก่จนเลาะเลือนแล้ว แบบนี้เรียกตัวมาไม่ได้หรอก"เมฆยักไหล่ด้วยท่าทีล้อเลียน ทำเอากวีได้แต่หัวเราะออกมา
"เสียงนั้นเมฆเหรอ...แล้วอีกคนนี่……."วินได้ยินเสียงของเมฆก็จำได้ทันที แต่เพราะก่อนหน้านี้ไม่คิดว่ากวีจะติดต่อมาเลยไม่คิดว่าจะเป็นเสียงจากกวี
"พี่วิน ผมกำลังสร้างกิลด์ขึ้นมาใหม่ พี่จะเอาด้วยหรือเปล่า"กวีถามออกไปตรง ๆเมื่อเห็นว่าวินน่าจะจำเขาได้แล้ว แถมเสียงเคร๊ง ๆจากอีกฝั่งก็ยังเบาลงแล้วด้วย
"กิลด์งั้นเหรอ…."ทางฝั่งวินนั้นได้ยินว่ากวีจะสร้างกิลด์ก็ชะงักมือไปทันที ในวันนั้นเมื่อ 5 ปีก่อนสมาชิกหลักต่างเจอเรื่องหนักหนากันมาก แม้กวีจะเริ่มสร้างกิลด์และรู้กันหมดแล้วว่ากวีกลับมาแล้ว เหล่าสมาชิกหลักทั้งหลายก็ยังไม่ติดต่อกลับมา ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเพราะเรื่องในวันนั้นทั้งสิ้น
ตุบ…
วินวางค้อนในมือลงก่อนจะปล่อยดาบที่กำลังสร้างให้เย็นลง ตอนนี้วินกำลังอยู่ในสมาคมช่างตีเหล็กเพื่อเรียนสกิลการสร้างอาวุธ แต่เรื่องที่กวีติดต่อมานั้นดึงความสนใจจากวินไปจนหมด
"ได้...พี่เอาด้วย"วินตอบก่อนจะกำด้ามค้อนแน่น วินเป็นคนที่ชวนกวีมาเล่นเกมแถมยังเป็นหนึ่งในคนที่สร้างกิลด์สุริยันจันทรามากับมือ กวีออกปากชวนแบบนี้จะไม่ไปก็คงไม่ได้
"ครับ พวกเราอยู่ที่เมืองการ์กัน"กวียิ้มออกมาบาง ๆก่อนจะเริ่มนัดเจอกับวินอย่างราบรื่น ได้สหายเก่าที่คุ้นเคยมาแบบนี้ย่อมอุ่นใจขึ้นอยู่แล้ว
.
.
.
"พี่กวี ได้ข่าวว่าพี่สร้างกิลด์แล้วงั้นเหรอ"หลังจากวางสายจากวินและกำลังจะกลับลงมาสะสางงานของกิลด์บูรพาต่อ อยู่ ๆก็มีเสียง ๆหนึ่งติดต่อมาจากคนรู้จักคนหนึ่งของกวี
"น้ำหวาน?"กวีเลิกคิ้วด้วยท่าทีประหลาดใจ ไม่นึกเลยว่าน้ำหวานจะติดต่อเข้ามาแบบนี้
"ใช่แล้วค่ะ พี่กวีพี่ยังไม่ได้ตอบน้ำหวานเลยว่าพี่สร้างกิลด์แล้วเหรอ"น้ำหวานตอบกลับมาด้วยท่าทีร่าเริงไม่น้อย ท่าทางน้ำหวานจะมาที่เมืองการ์กันแล้วเลยทราบข่าวที่กวีสร้างกิลด์เป็นของตัวเองเสียที
"ใช่ ตอนนี้เพิ่งสร้างเสร็จมีอะไรงั้นเหรอ"กวีถามพลางยิ้มบาง ๆออกมา คราวก่อนได้เที่ยวเล่นด้วยกันกวีก็มองว่าเธอเป็นคนนิสัยดีทีเดียว
"น้ำหวานขอเข้ากิลด์ของพี่กวีด้วยได้หรือเปล่า"น้ำหวานถามออกมาตรง ๆ แม้แต่เดิมน้ำหวานจะเป็นลูกน้องของแก๊งดาวแดง แต่ถ้าได้เข้ามาอยู่ในกิลด์ของกวีหัวหน้าแก๊งดาวแดงก็คงไม่ว่าอะไรหรอก
"นั่นสินะ ยังไม่ได้ตอบแทนเรื่องข่าวเมื่อคราวก่อนเลย น้ำหวานเล่นอาชีพอะไรงั้นเหรอ"กวีถามพลางยิ้มบาง ๆออกมา นอกจากตำแหน่งแทงค์ที่ว่างลงแล้วยังมีตำแหน่งดาเมจว่างอีกที่ด้วยนี่นา
"น้ำหวานเล่นอาชีพนักธนูค่ะ"น้ำหวานตอบด้วยท่าทีมั่นใจไม่น้อย แม้จะไม่ได้เก่งกาจจนหาคนเทียบไม่ได้แบบแก้ว แต่น้ำหวานก็เล่นเกมเก่งกว่ามายด์แน่นอน
"ดีงั้นพี่จะรับเข้ากิลด์ให้แล้วก็มีตำแหน่งให้น้ำหวานทำด้วย"กวีตอบพลางยิ้มบาง ๆออกมา ไหน ๆตำแหน่งก็ว่างแล้วงั้นให้คนรู้จักเข้ามาก็คงไม่มีปัญหาอะไร