เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 68: ของขวัญ 3
大姐大 บทที่ 68: ของขวัญ 3
แน่นอนว่ามีเหตุผลที่ทำให้ป้าโม่คิดอย่างนั้น
นอกจากคนในบ้านตระกูลเจี่ยนแล้ว ก็มีคนที่สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระภายในบ้านตระกูลเจี่ยนอีกไม่กี่คน ก็คือ ตัวเธอเอง ป้าอัน และลูกสาวของเธอโม่ชืออวิ้นเท่านั้น
ของชิ้นนี้แน่นอนว่าต้องไม่ได้ตระเตรียมโดยคนตระกูลเจี่ยนที่อยู่กันตรงนี้ เพราะว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องวางของไว้ที่ประตู
คนเดียวที่เหลืออยู่ก็อาจจะเป็นลูกสาวของเธอ โม่ชืออวิ้น
และของขวัญก็เป็นสิ่งที่เธอได้เกริ่นกับลูกสาวเธอไว้ก่อนหน้านี้
ป้าโม่ไม่เคยคิดว่าเจี่ยนอีหลิงอาจจะกลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลเจี่ยน และยิ่งไม่คิดว่าเจี่ยนอีหลิงจะให้ของขวัญวันเกิดให้กับพี่ชายในช่วงสถานการณ์เช่นนี้
ในความทรงจำที่ชัดเจนของป้าโม่นั้น ด้วยนิสัยใจคอเอาแต่ใจของเจี่ยนอีหลิง เธอเข้ากับเจี่ยนหยุ่นเฉิงได้ไม่ดีนัก อย่าว่าแต่การที่จะคิดให้ของขวัญวันเกิดกับเจี่ยนหยุ่นเฉิง
ส่วนที่ว่าทำไมของขวัญจึงถูกวางไว้ที่ประตูแทนที่จะยื่นส่งให้กับนายน้อย นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าลูกสาวเธอนั้นรู้สึกอาย เมื่อเธอถามลูกสาวเธอให้เตรียมของขวัญในวันนั้น ลูกสาวเธอก็ยังหลบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
โม่ชืออวิ้นเห็นรอยยิ้มสดใสของแม่ของเธอ ดังนั้นเธอก็จึงเดาเอาว่าอาจจะถูกนำมาโดยแม่ของเธอ
บางทีแม่ของเธออาจจะรู้ว่าเธอนั้นวุ่นวายอยู่กับการเรียนก่อนหน้านี้และของขวัญก็ยังไม่เรียบร้อยมาจนถึงวันนี้ ดังนั้นแม่ของเธอจึงถือโอกาสซื้อของที่ทำเสร็จแล้วมาแทนของเธอและโกหกว่าเธอทำมันด้วยตนเอง
ใช้การสินค้าที่ทำเสร็จแล้วมาอ้างว่าเป็นของทำมือ โม่ชืออวิ้นรู้สึกว่านี่ไม่ค่อยดีนัก
แม่ควรจะปรึกษาหารือกับเธอก่อนล่วงหน้า ตอนนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกละอายใจ
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นี่เป็นความกรุณาของแม่เธอ และแม่ของเธอก็ทำไปเพื่อเธอ…
และถ้าเธอบอกความจริงในตอนนี้ แม่เธอก็ย่อมต้องอับอาย
โม่ชืออวิ้นเกิดความขัดแย้งภายในใจอยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็ก้มหน้าลงอย่างช้าๆ
หากไม่ปฏิเสธ นั่นก็คือการยอมรับ
เมื่อเห็นโม่ชืออวิ้นก้มหน้าลง ทุกคนก็คิดว่าเธออาย
เวินน่วนก็นึกขึ้นได้ว่าวันพรุ่งนี้เป็นวันเกิดลูกชายคนโตเช่นกัน
หลายวันมานี้ ใจของเธอเต็มไปด้วยความคิดเกี่ยวกับมือของลูกชายกับลูกสาวที่บ้านเก่า
เธอลืมเรื่องลูกชายคนโตไป ต้องให้คนภายนอกมาเตือนเธอว่าวันเกิดของลูกชายคนโตของเธอมาถึงแล้ว
เวินน่วนได้แต่ขอโทษ
อารมณ์ของเจี่ยนหยุ่นน่าวหลายวันมานี้ยังไม่ดีขึ้น เพียงแต่เมื่อได้ยินว่าเป็นวันเกิดของพี่ชายคนโต เขาก็ปรับอารมณ์เพื่ออวยพรวันเกิดให้พี่ชาย
“พี่ครับ สุขสันต์วันเกิด ผมไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรเลย ผมจะผนวกเพิ่ให้ในปีหน้า”
น้ำเสียงเขายังมืดหม่นและขาดชีวิตชีวา
เจี่ยนหยุ่นเฉิงเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของเจี่ยนหยุ่นน่าว เอาแต่จ้องมองไปยังเสื้อกันหนาวกับผ้าพันคอในมือ
ของทั้งสองสิ่งนี้ทำได้ดีมาก และขนาดของเสื้อกันหนาวก็ดูเข้ากับตัวของเจี่ยนหยุ่นเฉิง
แม้ว่าสไตล์ของผ้าพันคอจะดูเรียบๆ แต่เห็นได้ชัดว่ามันก็เป็นงานแฮนเมดที่ทำอย่างพิถีพิถันมากเช่นกัน
หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน เขาก็เงยหน้าขึ้นไปยังโม่ชืออวิ้นกับป้าโม่ซึ่งก้มหน้าอยู่
“เธอทอมือเสื้อกันหนาวกับผ้าพันคอนี้เหรอ” เจี่ยนหยุ่นเฉิงถามโม่ชืออวิ้น
โม่ชืออวิ้นก้มหน้าต่ำลงไปกว่าเดิม เธอไม่กล้าที่จะยอมรับมัน แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธมันเช่นกัน
“ฉันไม่คิดว่าศิลปะการถักทอของเธอในการทำของพวกนี้จะดีถึงขนาดนี้ เธอเรียนรู้มันตั้งแต่เมื่อไหร่” เจี่ยนหยุ่นเฉิงถามโม่ชืออวิ้นอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าลูกสาวเธอไม่ได้ตอบคำถาม ป้าโม่ก็รีบตอบคำถามอีกฝ่าย “ชืออวิ้นเรียนนิตติ้งเสื้อกันหนาวเมื่อตั้งแต่เธอยังเด็กมาก เธอถักเสื้อกันหนาวของเธอเองตอนเมื่อเธอยังเป็นเด็ก ราคามันถูกกว่าซื้อจากข้างนอกและคุณภาพก็ดีกว่า เธอเห็นว่าฉันทำงานหนัก ก็เลยเรียนรู้จากฉัน เธอไม่เพียงถักให้ตัวเธอเอง แต่ยังคงถักให้ฉันด้วยเมื่อตอนที่เธอว่าง”
เจี่ยนหยุ่นเฉิงบันทึกปฏิกิริยาของแม่และลูกสาวด้วยสายตา สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย มีแต่เพียงแววตาของเขาเท่านั้นที่เย็นชาขึ้น…
เขาสัมผัสอีกด้านของผ้าพันคอด้วยนิ้วหัวแม่มือ
ตรงนั้นมีชื่อปักอยู่ว่า เจี่ยนอีหลิง
แต่สองแม่ลูกสกุลโม่ต่างยืนยันว่าของขวัญเหล่านี้ โม่ชืออวิ้น ตระเตรียมไว้ด้วยตัวของเธอเอง