ตอนที่แล้วแจ้งครับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 30 ผู้จัดการโรงงานและผู้ช่วยผู้จัดการโรงงาน(อ่านฟรี20-12-2020)

บทที่ 29 ขาดกำลังคน(อ่านฟรี17-12-2020)


เนื่องจากการเดินทางที่ยาวนานเมื่อวานนี้และความจริงที่ว่าเขาพลิกตัวไปมาในตอนดึกเพราะเรื่องของสเตลล่าทำให้ซูยี่ตื่นสายในวันรุ่งขึ้น

เมื่อเขาลืมตาขึ้นแสงแดดก็ส่องเข้ามาทางหน้าต่างของเขาและดูเหมือนว่ามันจะเป็นเวลาประมาณเที่ยงวัน

“อาจารย์ท่านตื่นแล้ว” เสียงขี้อายของวิเวียนดังขึ้นที่ข้างหูของเขา“ใกล้เที่ยงแล้วท่านจะทานอาหารเลยหรือไม่”

ซูยี่ลุกขึ้นนั่งและมองไปรอบ ๆ ก็ไม่พวกับสเตลล่าเลย

“พี่สาวสเตลล่ากลับไปแล้ว เธอบอกว่าถ้าวันนี้อาจารย์เข้าไปที่หอคอยเวทมนตร์ เธอบอกว่าให้ไปหาเธอด้วย เธอมีเรื่องจะคุยกับท่าน”

“ หืม มีอะไรจะคุยกับข้ากัน? ทำไมไม่พูดตั้งแต่เมื่อคืนกัน” ซูยี่มองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะถามวิเวียน“วันนี้ไม่ต้องทำอาหารหรอก ออกไปทานข้างนอกดีกว่าจะได้ประหยัดเวลา”

“อาจารย์ข้าไม่เป็นไร” วิเวียนพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจว่า“ท่านไปทานข้าวเถอะ ข้าจะหาอไรง่ายๆกินที่บ้านเอง”

“ไม่ต้องพูดแล้วนี่คือคำสั่ง” ซูยี่กล่าวโดยไม่มีความสุภาพใด ๆ

หลังจากอยู่กับวิเวียนมาระยะหนึ่งซูยี่รู้ว่าเพราะเด็กหญิงคนนี้เป็นทาสมานานเกินไปเธอจึงคุ้นเคยกับการวางตัวในตำแหน่งที่ต่ำกว่า หากเขาต้องการเปลี่ยนมุมมองของเธอก็ต้องใช้เวลานานเช่นกัน

“อ อืม” ตามที่คาดไว้เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่หนักแน่นในน้ำเสียงของซูยี่วิเวียนก็เห็นด้วยอย่างเชื่อฟัง

หลังจากพาวิเวียนออกมาซูยี่ก็พาเธอไปที่ร้านเสื้อผ้าเพื่อซื้อเสื้อผ้าสองชุดก่อนที่จะมองหาร้านอาหารเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน

ขณะที่รับประทานอาหารซูยี่กำลังจัดระเบียบความคิดของเขาในใจ

มีหลายสิ่งที่เขาต้องคิดดังนั้นเขาจึงต้องเรียบเรียงความคิดของตัวเองให้เรียบร้อย

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องการผลิตและจำหน่ายของพัดลมเวทมนตร์ มิฉะนั้นถ้าเขาขาดเงินเขาก็ทำอะไรไม่ได้เลย

แม้ว่ายอดขายของพัดลมเวทมนตร์จะมีมากมาย แต่ซูยี่ก็รู้ว่าตลาดของเมืองบันต้า และพื้นที่โดยรอบจะอิ่มตัวในไม่ช้า ยอดขายของพวกเขาในอนาคตจะลดลงอย่างรวดเร็วเป็นแนวดิ่งพวกเขาจะไม่สามารถทำยอดขายได้มากมายเหมือนเมื่อก่อน

ซูยี่คิดวิธีแก้ปัญหานี้ได้สองวิธี วิธีที่หนึ่งคือการพัฒนาพัดลมเวทมนตร์โดยออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

เขาเชื่อว่าหลังจากผลิตพัดลมเวทมนตร์รุ่นปรับความเร็วได้เป็นรุ่นที่สองแล้วมันจะทำให้เกิดอาการบวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นี่เป็นเพราะผู้คนชอบสิ่งใหม่ ๆ

วิธีที่สองคือการขยายตลาด

นอกจากเมืองคาร์มาแล้วยังมีพ่อค้าจากเมืองอื่น ๆ ใกล้ๆเมืองบันต้าที่สั่งซื้อจำนวนมาก

ตามข้อมูลที่ได้มาเมื่อพัดลมเวทมนต์ถูกขายในเมืองของพวกเขามันสร้างความฮือฮาในทันที พัดลมเวทมนตร์ที่ถูกขายไปเป็นการทดสอบตลาดของพ่อค้าเหล่านี้ได้ถูกซื้อไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมื่อพ่อค้าเหล่านี้มาเป็นครั้งที่สองพวกเขาจึงเสนอคำสั่งซื้อที่ใหญ่กว่าครั้งที่แล้วหลายเท่า

แต่เนื่องจากปัญหาเรื่องไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตพัดลมเวทมนตร์ได้ในตอนนี้ ไฮนซ์จึงยอมรับคำสั่งซื้อพัดลมได้เพียงห้าพันตัวเท่านั้น

เพราะเหตุนี้ไฮนซ์จึงรู้สึกรำคาญมาก หากเขารู้เรื่องนี้ก่อนหน้านี้เขาจะยิ่งกล้าขึ้นและสร้างโรงงานที่ใหญ่ขึ้นหลายเท่าเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีกหลายเท่าเพื่อให้พวกเขารับคำสั่งซื้อทั้งหมดนั้นได้

กลับกันูซูยี่ไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้เลย เขาได้ตัดสินใจเกี่ยวกับพัดลมเวทมนตร์รุ่นปรับความเร็วได้แล้ว

ตราบใดที่ทุกอย่างราบรื่นตราบเท่าที่พัดลมเวทมนตร์รุ่นปรับความเร็วได้รุ่นที่สองเข้าสู่สายการผลิตผลผลิตของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า เมื่อถึงเวลาไม่ต้องพูดถึงพัดลมหมื่นตัวแม้ว่าจะเป็นสองหมื่นสามหมื่นตัวหรือมากกว่านั้นพวกเขาก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย

แน่นอนว่าในการทำให้สายการผลิตนี้เป็นจริงมีหลายสิ่งที่ต้องเตรียม

นี่คือสิ่งที่ซูยี่ให้ความสำคัญมากที่สุดในตอนนี้

แม้ว่าปรมจารย์ลานัสจะสร้างเครื่องรีดเกลัยวเวทมนตร์และเครื่องขันระบบบิดเวทมนตร์(Magic Capping Machineไม่รู้ว่าแปลถูกหรือเปล่านะอันนี้ผมไม่แนใจ) ไว้แล้วทำให้สามารถผลิตสลักเกลียวและอนุญาตให้มีสายการผลิตพัดลมเวทมนตร์รุ่นปรับความเร็วได้ได้ แต่แค่นี้มันก็ยังไม่เพียงพอ

เพื่อที่จะพัฒนาพัดลมเวทมนตร์รุ่นแรกเขาจำเป็นต้องสร้างมาตรฐานทุกส่วนของการผลิตพัดลมเวทมนตร์

แต่ในการสร้างมาตรฐานนั้นยากมากไม่ใช่อะไรที่แค่เพียงอาศัยกำลังคนจะทำได้

แม้ว่าสมาชิกจาดเผ่าของปรมจารย์ลานัส จะมีทักษะการตีเหล็กในระดับเดียวกับ ปรมจารย์ลานัส แต่มันก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของเขา

เพื่อให้บรรลุสิ่งนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเครื่องตีเหล็ก

ยกตัวอย่างปลอกของพัดลมเวทมนตร์ หากต้องอาศัยการตีด้วยมือร้านช่างตีเหล็กในเมืองบันตาไม่สามารถผลิตได้มากกว่าสามสิบชุด

เพื่อรองรับกับการผลิตพัดลมเวทมนตร์ ซูยี่ได้ทำการสั่งซื้อจากร้านช่างตีเหล็กทุกแห่งในเมืองบันต้า

แม้ว่านี่จะหมายความว่ามีงานทำอยู่เสมอและมันทำให้ช่างตีเหล็กมีความสุขมาก แต่สิ่งนี้ส่งผลต่อคำสั่งซื้อในเมืองบันตาดังนั้นจึงไม่ใช่แผนระยะยาว

แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่ผลลัพธ์ของปลอกพัดลมเวทมนตร์ ก็แทบจะไม่เพียงพอกับการผลิตของโรงงาน ถ้าเขาอยากจะเพิ่มผลการผลิตมันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้

ไม่ต้องพูดถึงว่าซูยี่ไม่พอใจกับฝีมือของช่างตีเหล็กมาโดยตลอดปลอกพัดลมเวทมนตร์ส่วนใหญ่ที่พวกเขาทำนั้นไม่เหมือนกันเลย หากเป็นที่โลกเดิมของเขาตามหลักเกณฑ์ของโรงงานที่เข้มงวดส่วนใหญ่จะถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีตำหนิ

ถ้าเขาต้องการให้พัดลมเวทมนตร์รุ่นปรับความเร็วได้วางในสายการผลิตจำนวนมากปลอกด้านนอกเหล่านี้ยังใช้ไม่ได้

“ในท้ายที่สุดฐานรากอุตสาหกรรมยังขาดแคลนอย่างมาก” เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซูยี่ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

การจัดตั้งระบบอุตสาหกรรมไม่สามารถละทิ้งการพัฒนาอุปกรณ์อุตสาหกรรมหนักได้ แต่ในทวีปไซนส์ไม่ต้องพูดถึงเครื่องมืออุตสาหกรรมหนักแม้แต่อุปกรณ์อุตสาหกรรมเบาก็หายาก รากฐานของพวกเขาขาดเกินไป

“ข้าหวังว่าหลังจากที่คนแคระเหล่านั้นมาพวกเขาจะสามารถปรับปรุงด้านนี้ได้”

ซูยี่หยิบหนังสือเล่มเล็ก ๆ ออกมาและเริ่มวางแผนเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องนี้

ตามข้อตกลงของเขากับหัวหน้าเผ่าซิลูก้าในสามวันจะมีคนแคระร้อยคนที่มีทักษะในระดับยอดเยี่ยมมาที่เมืองบันต้า เพื่อเป็นพนักงานของซูยี่

เพื่อปกป้องคนแคระเหล่านี้ซูยี่จะสร้างพื้นที่ที่อยู่อาศัยใกล้กับโรงงานและยังสร้างโรงงานอีกสองแห่ง

โรงหนึ่งจะเป็นโรงหล่อโลหะที่คนแคระใช้เป็นหลักในขณะที่อีกโรงหนึ่งจะเป็นโรงประกอบสำหรับพัดลมเวทมนตร์รุ่นปรับความเร็วได้

เนื่องจากเหลือฤดูร้อนเพียงเดือนเดียวเวลาจึงสั้นมาก แผนการทั้งสองนี้จึงทำได้เพียงหยาบๆเหมือนกับโรงงานพัดลมเวทมนตร์ก่อนหน้านี้

แต่เขาไม่สามารถสร้างบริเวณที่อยู่อาศัยได้ทัน เขาจึงให้หัวหน้าเผ่าซิลูก้าไปอยู่กับปรมจารย์ลานัสก่อน

ไม่ต้องพูดถึงว่าคนแคระเหล่านี้เป็นปรมาจารย์การตีเหล็กที่สำคัญที่สุดในหัวใจของซูยี่ ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะกล่าวว่าฐานของระบบอุตสาหกรรมสำหรับทวีปไซน์ถูกวางไว้ในมือของคนแคระเหล่านี้ หากเขาไม่ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างถูกต้องนั่นคงไม่ดีแน่

“มีหลายอย่างที่ต้องทำตอนนี้ข้ายังมีคนไม่พอ” ซูยี่ขมวดคิ้วขณะที่เขามองดูสิ่งทุ่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มเล็ก ๆ ของเขา“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลยเพียงแค่ห้องวิจัยและหอพักของพนักงานก็ต้องการคนจำนวนมาก ข้าสงสัยว่าไฮนซ์จะดูแลเรื่องนี้อย่างไร”

ในขณะที่คิดถึงเรื่องนี้ซูยี่ก็มองไปที่วิเวียนที่กำลังจดจ่ออยู่กับการกินและดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น

"ข้ารู้แล้ว!"

###

“เจ้าต้องการซื้อทาสสองสามคนจากข้าหรือ” วิสเคานท์เลสลี่มองไปที่ซูยี่ด้วยความงุนงง เขาไม่เคยคิดเลยว่าเพื่อนคนนี้จะวิ่งมาที่นี่ตอนเที่ยงและถามแบบนี้ “จะซื้อไปทำไม”

“เพราะตอนนี้ข้าต้องการคนจำนวนมาก” ซูยี่กล่าวต่อว่า“ข้ากำลังขยายสายการผลิตของโรงงานและต้องการคนงานจำนวนมาก ข้าไม่สามารถจ้างคนจำนวนมากได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ข้าจึมาขอความช่วยเหลือจากท่าน”

การแสดงออกของวิสเคานท์เลสลี่ดูน่าเกลียดเล็กน้อย“จากน้ำเสียงของเจ้าข้าเกรงว่าเจ้าจะต้องการคนไม่ใช่จำนวนน้อยๆ บอกข้ามาว่าเจ้าต้องการกี่คน”

ซูยี่ยกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้วและพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ตอนนี้ข้าต้องการหนึ่งร้อยคน”

"หนึ่งร้อย?" วิสเคานท์เลสลี่หรี่ตาเล็กน้อยและตำหนิเขาโดยไม่ยับยั้งชั่งใจ“เจ้าคิดว่าพวกมันเป็นวัชพืชหรือไง? เจ้าคิดว่าถ้าต้องการหนึ่งร้อยเจ้าก็จะได้หนึ่งร้อย? ข้าขอบอกเจ้าว่าข้ามีทาสทั้งหมดสามร้อยคนภายใต้ชื่อของข้าและถ้าข้าให้เจ้าหนึ่งร้อยข้าจะทำอย่างไร? ถ้าข้าให้ทาสกับเจ้าแล้วข้าล่ะ? เจ้าไม่เห็นหรือว่ายังมีที่ดินที่ยังไม่พัฒนาภายใต้ชื่อของข้า? ถ้าข้ามีคนมากพอที่ดินผืนนั้นจะไม่ว่างเปล่าเลยและจะไม่มีที่ดินให้กับเจ้าด้วยซ้ำ”

ซูยี่ไม่ได้หวั่นไหวอะไรเลยในขณะที่เขาถามด้วยรอยยิ้ม“แล้วถ้าข้าจะบอกว่าข้าจะใช้คนพวกนี้พัฒนาที่ดินผืนนั้นล่ะ”

“ไร้สาระคนพวกนี้ใช้ประโยชน์อะไรได้? พวกมันก็เป็นแค่ทาสจำนวนหนึ่ง” วิสเคานท์เลสลี่กล่าวถ้อยคำอันเฉียบคมเหล่านี้ก่อนที่จะหันไปมองวิเวียนที่เดินตามหลังซูยี่ตลอดเวลา“ใช่แล้วเด็กผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นทาสที่เจ้าโขมยมาจากบรูไนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากข้าครั้งที่แล้วใช่ไหม อะไร? หลังจากได้สัมผัสความหวานจากเธอแล้วเจ้าต้องการซื้อทาสเพิ่มอีกสองสามคนหรือไม่?”

วิสเคานท์เลสลี่จ้องไปที่เธอ วิเวียนก็ก้มหน้าลงทันทีด้วยความกลัว

จากมุมมองของเธอวิสเคานท์เลสลี่เจ้านายคนก่อนของเธออยู่ในตำแหน่งที่ห่างไกลซึ่งทาสตัวเล็กอย่างเธอไม่สามารถจ้องมองได้

ซูยี่ขมวดคิ้วและพูดอย่างจริงจังว่า“ท่านวิสเคานท์ก่อนอื่นข้าไม่ได้ขโมยเธอ แต่ข้าได้คุยเงื่อนไขกับพ่อบ้านบรูไนแล้ว วิเวียนถูกซื้อโดยมีข้อตกลงจากทั้งสองฝ่ายและท่านก็ได้ลงนามในสัญญาสำหรับเรื่องนี้ ประการที่สองวิเวียนคือคนของข้าดังนั้นข้าขอให้ท่านระวังคำพูดและไม่พูดแบบนั้นอีก”

เมื่อได้ยินซูยี่ขัดแย้งกับวิสเคานท์เลสลี่โดยตรงวิเวียนก็รู้สึกหวาดกลัว เธออดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือเล็ก ๆ ของเธอไปดึงเสื้อผ้าของซูยี่ด้วยใบหน้าที่ปกคลุมไปด้วยความหวาดกลัว

วิสเคานท์เลสลี่ประหลาดใจเล็กน้อย จริงๆแล้วเขาไม่ได้โกรธอะไรจากการขัดแย้ง แต่เขามองไปที่ซูยี่และวิเวียนก่อนจะเผยรอยยิ้ม

“ ซูยี่เจ้าเป็นคนที่แปลกจริงๆ เพราะทาสเจ้าถึงกับกล้าเผชิญหน้ากับข้าจริงๆ เจ้าบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นของเจ้า… .. แต่ข้ายังเห็นว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่ใช่มั้ย? เธออาจจะยังคงเป็นสาวพรหมจรรย์อยู่ได้หลังจากอยู่กับเจ้ามานานขนาดนี้เจ้าเป็นคนดีที่คาดไม่ถึงจริงๆ”

พวกเขาไม่เคยคิดว่าวิสเคานท์เลสลี่จะพูดอะไรที่เก่ยวกับพรหมจีรรย์ทำให้ซูยี่และวิเวียนหน้าแดง

“ เเคะๆ… ... ท่านวิสเคานท์ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้นเพียง แต่… ... ลืมไปเถอะเรื่อ้นี้ไม่ได้มีความหมาดอะไร ข้าแค่ต้องการเตือนท่านวิสเคานท์ว่าท่านประเมินทาสต่ำเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทาสตราบใดที่มือเท้าและศีรษะของพวกเขายังทำงานได้อย่างถูกต้อง ก็มีค่าเป็นกำลังคนมีเพียงท่านเท่านั้นที่ไม่ได้ใช้มันอย่างมีประสิทธิภาพ ข้าจะพูดอะไรบางอย่างที่ท่านไม่อยากได้ยิน ถ้าท่านทั้งสามร้อยคนยังอยู่ในมือท่านมันจะไม่เกิดประโยชน์อะไร”

วิสเคานท์เลสลี่เต็มไปด้วยความสุขทันที

“ดี นี่คือสิ่งที่ข้าอยากได้ยิน ใหนเจ้าลองบอกข้าสิว่าเจ้าจะทำให้พวกเขาแสดงคุณค่าของตัวเองได้อย่างไร”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด