ตอนที่ 51 ภูมิภาคเหนือ
ตอนที่ 51 ภูมิภาคเหนือ
ดอนตื่นขึ้นมาแบบตอนนี้เขานอนอยู่บนเลื่อนหิมะที่ทำจากไม้ เลื่อนหิมะถูกลากโดยซิเรีย ‘นี่มันเกิดอะไรขึ้นกลับข้า’ ตอนนี้เขารู้สึกอ่อนล้าเป็นอย่างมาก เขาปวดไปทั้งตัวเพราะความหนาวเย็น เสื้อขนสัตว์ที่ห่มเขาอยู่หนวดเคราที่ลุงลัง ‘นี่เขาหลับไปนานแค่ไหน’
“ซิ...ซิเรีย” ดอนพูดออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้ง
ซิเรียที่ได้ยินเสียงดอน เธอก็ถึงกับหยุดลากเลือนทันที และรีบมาดูดอน เมื่อเธอเห็นว่าเขาลืมตาและเรียกเธอจริง ๆ ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่าง
“ท่านดอน...” ซิเรียกล่าวออกมาพร้อมน้ำตาของความดีใจ
“นี่...มัน...เกิดอะไรขึ้น” เขาพยายามลุกขึ้นมานั่ง
“ท่านดอน ท่านหลับไปนานมาก….ข้านึกว่าท่านจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว” ซิเรียพูดไปก็ร้องไห้ไปพร้อมกับเล่าว่า
ตอนที่เขาเดินเข้าไปในห้องและไล่จับวิญญาณทั้งหมดจากนั้นอยู่ ๆ เขาก็เดินไปที่เสาทองคำต้นที่อยู่กลางห้อง ทันทีที่เขาสัมผัสกับเสาทองคำพื้นดินก็สั่นสะเทือนรอบห้องก็ปรากฏลวดลายที่สวยงามจากนั้นแสงสีขาวก็มาห่อหุ้มทั้งเธอและดอน
หลังจากที่เธอลืมตาขึ้นอีกครั้งก็มาโผล่อยู่ที่ ๆ เต็มไปด้วยหิมะ เธอพยายามปลุกเขาแต่ก็ไม่ตื่น
ดังนั้นเธอจึงแบกเขาอย่างทุลักทุเลและก็มาถึงเมือง แต่กลับเป็นเมืองร้าง สภาพที่ถูกทำลายและแทะไปหมด
เมื่อเธอลองหาข้อมูลดูก็รู้ว่านี่เป็นหนึ่งในเมืองทางภูมิภาคทางตอนเหนือ
เธอเจอผู้คนอยู่บ้างดังนั้นจึงขอเดินทางมาพร้อมกลับพวกเขาเพื่อมุ่งหน้าสู่ภูมิภาคกลาง ตอนนี้ดินแดนแห่งนี้ถูกทอดทิ้งไปแล้วและถูกยึดครองโดยลัทธิบูชาปีศาจและพวกเกสเพนสท์
และเมื่อเขารู้ว่าตัวเองหลับไปถึง 2 ปีเต็มก็ต้องตกใจ
แต่ด้วยโชคดีที่ร่างกายของเขายังมีพลังงานที่อยู่ในอาณาเขตวิญญาณหล่อเลี้ยงร่างกายไว้
"อาคมเคลื่อนย้ายสินะ"
เขามองไปรอบ ๆ มีกลุ่มของผู้คนที่เดินฝ่าหิมะที่หนาวเย็นนี้ ส่วนใหญ่เป็นแค่คนธรรมดา มีนักรบอยู่บ้างเล็กน้อย
กลุ่มนี้มีขนาดแค่ 20 กว่าคนเท่านั้น
“ซิเรีย สามีของเจ้าตื่นแล้วเหรอ” นักรบหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ แค่ดอนมองจากสายตาของเขาก็รู้ว่า นักรบหนุ่มคนนี้ดูจะชอบซิเรียเป็นอย่างมาก
“อืม มาเกลท่านพอจะแบ่งเนื้อกวางให้ข้าสักเล็กน้อยได้หรือไม่” ซิเรียกล่าวด้วยท่าทีเรียบร้อยและเหินห่างเล็กน้อย และเธอก็โกหกว่าดอนเป็นสามีของเธอ
ถึงแบบนั้นมาเกลก็ไม่ได้ถือสาและเขาอิจฉาและคิดว่าเมื่อไหร่ไอ้คนที่นอนอยู่ในเลื่อนไม้จะตาย ๆ ไปสักที
ถึงจะไม่ชอบหน้าดอนแต่เขากลับไปหยิบเนื้อกวางแช่แข็งมาให้ซิเรียตามที่เธอขอ
“ขอบคุณ” ซิเรียกล่าวขอบคุณเธอพยายามรักษาระยะห่างจากเขา เพราะเธอคิดว่าตัวเธอเป็นของนายท่านดอนเท่านั้น แต่เธอก็ไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนเพราะต้องติดตามกลุ่มนี้และอาศัยพวกเขา
ซิเรียค่อย ๆ ใช้มีดหันเนื้อกวางแช่แข็งออกเป็นชิ้นบาง ๆ และป้อนมันให้กลับเขา
จากนั้นเธอก็ไปลากเลื่อนไม้ต่อ
หลังจากนั้นสักพักเขาก็เข้าไปในโลกลูกบาศก์วิญญาณ ดูเหมือนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทุกอย่างแทบจะถูกผลึกไว้พลังงานภายในทั้งหมดก็ถูกใช้ไปแล้ว
“นายท่าน” เคนทักทายดอนด้วยความเคารพ
ดอนพยักหน้าทักตอบไป
“ข้าขอดูข้อมูลโลกวิญญาณหน่อย”
[เริ่มการวิเคราะห์โลกลูกบาศก์วิญญาณ…..
พื้นที่ : 1050 ตารางเมตร
พืช : 51
สัตว์ : 83 สายพันธุ์ 350 ตัว
“หมูป่าเขี้ยวเหล็ก 30 ตัว”
“หมาป่าสีเทา 5 ตัว (ผลึก)”
“ผีเสื้อวิญญาณ 30”
“ผึ้ง 1000 ตัว”
“นกกระจิบ 4 ปีก 4 ตัว”
…….
มนุษย์ : 8
พลังงานวิญญาณทั้งหมด : 405
พลังงานวิญญาณที่สร้างต่อวัน : +60
พลังงานวิญญาณที่ใช้ต่อวัน : -600
เจตจำนง
โกรธ : เคน
“วิญญาณ : ขั้น 3 (ผู้ควบคุม) ”
“พลังจิต : 50 หน่วย”
“ความสามารถติดตัว : ความโกรธของจิตใจ 1(5%), วิญญาณคุ้มคลั่ง 5 (5%)”
]
เขาได้แต่ถอนหายใจ
หลังจากที่ตกเย็นพวกเขาก็หาที่พัก บริเวณมันเต็มไปด้วยต้นสนและไม้ที่อยู่ในป่าหนาว
เขามองไปที่ซิเรียที่ตอนนี้กำลังกลางกระโจมอยู่และหันไปมองของที่อยู่ในมือเขามันคือแท่งเหล็กที่ซิเรียว่าแต่ที่จริงแล้วมันคือ ดาบตัดวิญญาณ ดาบที่ไม่มีใบดาบ ทุกการฝันต้องสังเวย 1 รูนพลังจิตที่อยู่ในอาณาเขตวิญญาณ
เขาแค่ถือมันก็รู้ถึงความสามารถของมัน ‘มันน่าจะเป็นอาวุธอาคม ถ้างั้นจิตรสำนึกที่ข้าเห็นหายไปไหน หรือมันสลายไปแล้วไม่น่าใช่ดูเหมือนมันจะถูกผลึกไว้เพราะระดับพลังของข้า’
แต่แล้วเขาก็เห็นความผิดปกติเพราะภายในของดาบตัดวิญญาณมีเทคนิคการฝึกฝนพลังจิตที่อยู่ เมื่อจิตสำนึกของเขาสัมผัสโดนกลับมัน ทันก็ส่งข้อมูลของเทคนิคทั้งหมดมาให้เขา
“เทคนิควิญญาณพิภพ” ดอนจัดเรียงความคิด
มันเหมือนกลับเทคนิคกลืนพิภพที่มีในสถาบันเอราธาเมีย แต่นี่น่าจะเป็นเทคนิคตัวที่สมบูรณ์แบบ
ดูเหมือนว่าสถาบันเอราธาเมียจะสำรวจและเจอกลับเทคนิคกลืนพิภพซึ่งเป็นแค่ของที่ดัดแปลงโดยพวกวิหารดาราจักรฟ้า
เทคนิควิญญาณพิภพเป็นเส้นทางของจอมอาคมวิญญาณ มันก็คลายกลับจอมอาคมโลหิต ซึ่งเสนทางจอมอาคมพวกนนี้จะต่างจากจอมอาคมทั่วไปและมักจะจัดเป็นจอมอาคมแห่งความมืด
จะเป็นที่รังเกียจของจอมอาคมที่เดินบนเส้นทางแห่งพลังธาตุทั้ง 5 เพราะพวกจอมอาคมแห่งความมืดมีวิธีการฝึกฝนที่สุดโหดร้าย เช่นจอมอาคมโลหิต ก็ต้องฆ่าสิ่งมีชีวิตดูกลืนเลือดเพื่อเสริมสร้างรูน พวกเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอนุภาควิญญาณก็ได้
ถึงจะรังเกียจแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาแข็งเกร่งเป็นอย่างมาก
เทคนิควิญญาณพิภพ ก็คือการใช้วิญญาณในการฝึกฝน มันต้องการวิญญาณที่มีระดับที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามระดับของจอมอาคม หรือไม่ก็ใช้วิญญาณจำนวนมากในการสร้างรูน
แต่เงื่อนไขมันไม่ได้หมดแค่นั้น ทุกจอมอาคมมีเส้นทางของคาถาที่แตกต่างกันไป
ถ้าเขาหันมาฝึกเทคนิคนี้จะต้องเปลี่ยนร่างกายให้มีความสัมพันธุ์กับธาตุมืดซะก่อนและเขาก็อาจจะไม่สามารถใช้คาถาธาตุดินได้อีก
และถ้าจะใช้คาถาเส้นทางอื่นก็คงต้องใช้วิธีการวาดวงจรอาคมเอาเท่านั้น
เขากำลังคิดหนักเพราะเทคนิคนี้มันมีทั้งส่วนที่เป็นการฝึกฝนพลังจิตและส่วนที่เป็นเทคนิคพลังงานซึ่งมีครบ
ขณะที่คิดซิเรียก็จัดการทุกอย่างเสร็จ เธอก็พาดอนเข้าไปด้านในกระโจม ซิเรียก็จูบเขาทันทีด้วยความคิดถึงดังนั้นเขาจึงสลัดความคิดพวกนี้ทิ้งไปก่อนและหันมาจัดการกับซิเรีย
ดูเหมือนความรู้สึกทั้งหมดในช่วงสองปีที่เธอต้องอดทนมันถาโถมเข้ามาเก็บไว้ไม่อยู่
เธอรุกเขาอยู่ตลอดเวลาเริ่มด้วยจูบจากนั้นปากของเธอก็ลดต่ำลงไปเรื่อย ๆ
ไฟราคะที่เธอกระตุ้นมาจนทำให้เขาทนไม่ไหว ผลักร่างของเธอลงด้านล่างจากนั้นก็เริ่มจูบตั้งแต่ซอกคอไล่ไปทีรอยจูบจนถึงหน้าท้องลงไปด้านล้างของเธอ
“อ้า...” เสียงที่กระเส่าของซิเรียดังออกมาอย่างต่อเนื่อง แขนขาทั้งสีข้างของเธอเสมือนกับหนวดที่รัดตัวเขาเอาไว้ ร่างกายที่ร้อนลุ่มของทั้งสองกอดกันไปมา แม้แต่ความหนาวเย็นก็ยังละลายหายไป
ในคำคืนนี้มันถูกกำหนดให้เป็นคำคืนที่ทั้งสองจะไม่มีวันลืมเลือน
และแน่นอนว่าพวกเขาทั้งสองไม่ได้สังเกตุเลยว่าด้านนอก มีชายหนุ่มที่ยืนกำหมัดแน่นด้วยความเดือดดานและอิจฉาอยู่
เขาโยนโจ๊กร้อนในมือทิ้งและเดินออกมาทันที
เช้าวันต่อมาทั้งสองเปลือยกายอยู่
ในขณะที่ ดอนนอนคิดตัดสินใจว่าจะฝึกเทคนิควิญญาณกลืนพิภพเหรอไม่อยู่ ซิเรียที่นอนกอดเขาแน่นและบิดตัวไปมา
ดอนมองไปที่เธอ เขาใช้มือลูปผมที่บังหน้าเธอออก และตัดสินใจว่า เขาจะฝึกมันเส้นทางของจอมอาคมแห่งความมืด จอมอาคมวิญญาณ
สิ่งที่ต้องใช้ในการปรับสภาพร่างกายให้มีความสัมพันธุ์กับธาตุมืดนั้นก็คือความตาย พลังด้านลบ
และจะมีอะไรที่มีพลังด้านลบไปมากกว่าวิญญาณอาฆาตกัน
“เจ้าพอจะรู้จักที่ ๆ มีคนตายเยอะ ๆ ไหม หรือที่มีคนมารวมตัวกันมาก ๆ ก็ได้” ดอนกล่าวกับซิเรียที่ตอนนี้เธอตื่นขึ้นมาแล้ว
“นายท่านดอน ถ้าที่ ๆ มีคนเยอะ ๆ ละก็มีอยู่ อันที่จริงกลุ่มของพวกเราเป็นแค่กลุ่มย่อยเท่านั้น โดยพวกนนี้จะแยกกันเดินทางเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ไม่เกิน 30 คนเพื่อไม่ให้พวกเกสเพนสท์ตามจับพวกเราได้ และในทุก ๆ 1000 กิโลเมตรพวกเขาก็จะมีจุดนัดพบกัน” ซิเรียอธิบาย
“อีกกี่วันถึงจะถึงจุดนัดพบ” ดอนถาม
ซิเรียคำนวนดูอยู่สักพักก็กล่าวออกมา “น่าจะอีก 5 วัน”
ขณะที่ดอนจะถามต่อแต่มือของซิเรียก็เลื่อนไปจับดาบของเขา เละยิ้มอย่างยั่วยวนออกมา
ดอนจึงต้องหยุดถามและหันมาลงโทษเธอก่อน
หลังจากที่เป็นเวลาสาย ๆ แล้วอุณหภูมิก็สูงขึ้นพวกเขาจึงเก็บของและออกเดินทางกันต่อ
ในทุก ๆ วัน ดอนและซิเรียจะดื่มด่ำกันในทุกค่ำคืนที่มีโอกาศ และในขณะที่มาเกลก็จะยิ่งมีสีหน้าที่หน้าเกียจเข้าไปอีก
มาเกลสัญญากับตัวเองว่าเมื่อไปถึงจุดนัดพบในวันพรุ่งนี้เขาจะร่วมมือกลับกลุ่มสหายของเขาอีกกลุ่มฆ่าดอนและจัดการกับซิเรียซะ
ถึงแม้จะต้องแบ่งผู้หญิงให้กับพวกนั้นก็ตาม แต่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรก ตั้งแต่ที่เขาขึ้นมาเป็นนักรบขั้นที่สามเขาก็ทำแบบนี้มาทั้งแต่ก่อนที่ภูมิภาคทางเหนือจะถูกยึดครองโดยลัทธิบูชาปีศาจ
ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะไม่มีจอมอาคมหรือทหารของเมืองมาค่อยขัดขวางเขาแล้ว
และแล้ววันต่อมาทั้งกลุ่มก็มารวมกันที่นี่มีคนอยู่ราว ๆ 2-3 พันคนตั้งกระโจมเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของกัน
กลุ่มของมาเกลก็เขาไปรวมกลับพวกนั้นด้วย
ซิเรียที่ตอนนี้เดินคู่มากับดอนก็ถามขึ้นมาว่า “ท่านดอนจะทำอะไรต่อหรือคะ”
“ข้าจะฆ่าพวกนี้ทั้งหมด” ดอนกล่าวออกมาตามตรง
ซิเรียที่ได้ยินก็งง ๆ และตกใจในคำพูดดอน เธอก็คิดว่าเขาพูดเล่นแต่ถ้าเขาไม่ได้พุดเล่นเธอก็ยินดีจะช่วยเขาเพราะถึงอย่างไรก็ไม่ได้เป็นอะไรกลับพวกนี้
เธอไม่สนหรอกว่าจะเป็นทะเลเลือดหรืออะไรที่เธอสนจริง ๆ ก็คือ ขอแค่ดอนยังคงอยู่กับเธอก็พอ