ตอนที่ 257-258
ตอนที่ 257 : ยังมีชีวิตก็ดีแล้ว
เหล่าไป่และจี้อู๋ฮุยต่างได้ยินว่าเป็นเสียงของลั่วฉวน
มวลเมฆสีดำบนฟากฟ้าที่กระจายตัวเลือนหาย กระทั่งสายฟ้าที่กำลังจะร่วงหล่นลงมายังเผยท่าทีแตกตื่น
เรื่องราวส่งผลให้คนทั้งสองรู้สึกขบขัน
นั่นคือทัณฑ์สายฟ้าโบราณ!
เกียรติของทัณฑ์สายฟ้าโบราณอันเกรียงไกรหายไปไหนหมดแล้ว?
ขณะเดียวกันนี้ ในสายตาคนทั้งสอง กำลังของลั่วฉวนยิ่งกลายเป็นสิ่งที่สุดจะหยั่งได้ถึง
สังหารขอบเขตราชันภายในหนึ่งกระบวนท่า ขณะนี้ขับไล่ทัณฑ์สายฟ้าโบราณได้ในหนึ่งถ้อยคำ!
เถ้าแก่จะเลิศล้ำเกินไปแล้ว!
ขณะเดียวกันนี้ บรรดาผู้คนของนครจิ่วเหยาต่างก็ได้เห็นมวลเมฆสีดำที่กระจายตัวเลือนหายพร้อมเสียงตะโกน
หลิวลู่เหม่ยสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตาขณะนี้แข็งค้างแตกตื่น
นางไม่อาจจินตนาการถึงได้ ว่าตัวตนธรรมดาเฉกเช่นเถ้าแก่ร้านผู้นั้นจะชวนสะพรึงได้เพียงนี้!
เพียงหนึ่งถ้อยคำตะโกน ทัณฑ์สายฟ้าถึงกับเลือนหาย ทั้งยังเป็นถึงทัณฑ์สายฟ้าโบราณ เกรงว่าเรื่องนี้จะผิดแปลกเกินไปแล้วกระมัง?
ในใจของหลิวลู่เหม่ย ตัวตนของร้านต้นตำรับยิ่งกลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจยั่วยุ!
ทางด้านตี้อู๋ปาเต๋าเองก็ตื่นตะลึงเช่นเดียวกัน
พร้อมกันนี้ยังปรากฏความร้อนแรงฉายชัดผ่านดวงตา
ผู้ฝึกตนถึงกับสามารถก้าวไปถึงการมีกำลังวิเศษเช่นนั้นได้!
กระทั่งสวรรค์แห่งเต๋ายังไม่กล้ามีเรื่องด้วย!
ขณะนี้ตี้อู๋ปาเต๋ายิ่งมีลั่วฉวนเป็นเป้าหมายความสำเร็จ!
บรรดาลูกค้าของร้านต้นตำรับผู้อื่นต่างก็คิดเห็นเช่นเดียวกันนี้
ขณะนี้บรรดาผู้คนของนครจิ่วเหยาต่างถอนหายใจโล่งอก
เมฆสีดำมืดในที่สุดก็กระจายหายหมดแล้ว
ยังดีที่รอดชีวิตกันมาได้...
มื้อเที่ยงที่เหยาซือหยานทำยังอร่อยเหมือนดังเคย ลั่วฉวนทานมื้อนี้ไปไม่ใช่น้อย
ขณะนี้ตัวเขากำลังนั่งเก้าอี้หินภายในร้านเพื่อทานมื้อเที่ยง
เมื่อใดท้องอิ่ม เช่นนั้นก็คิดนอนเสียที่นี่เลย
ลั่วฉวนบิดขี้เกียจก่อนจะปล่อยร่างกายให้เป็นไป...
ช่วงบ่ายเป็นคราวถึงศิษย์สถาบันวิญญาณเมฆาและศิษย์สถาบันจันทราลึกล้ำมาเยือนร้าน
เมื่อพบเห็นลั่วฉวนนอนกลางวัน พวกเขาต่างเผยสายตานับถือพร้อมเข้ามาทักทาย
แน่นอนว่าลั่วฉวนหาได้ใส่ใจไม่
“พวกเจ้าว่าเมฆสีดำก่อนหน้านี้เป็นของเถ้าแก่งั้นหรือ?”
เว่ยฉิงจู่ที่เดินเข้ามาในตรอกกำลังพูดคุยด้วยอาการตื่นเต้น
ซ่งฉิวหยิ่งพยักหน้ารับมาดมั่น “แหงอยู่แล้ว! ข้ามั่นใจว่านั่นเป็นเสียงเถ้าแก่!”
“ไม่ทราบเลยว่าเถ้าแก่ทำอะไรไป ถึงกับดึงดูดทัณฑ์สายฟ้าอันชวนสะพรึงเช่นนั้นมาได้” หลินว่านฉวงคาดเดาด้วยความสงสัย
ไม่ช้ากลุ่มคนที่เดินในตรอกจึงมาถึงร้าน
ถัดจากนั้นด้วยพิจารณาผ่านสายตา พบเห็นเป็นลั่วฉวนนอนอาบไล้แสงตะวันสุขสบายเหมือนดังเคย
“ไม่ว่าดูยังไงก็ยากจะเชื่อมต่อเถ้าแก่กับพลังอำนาจสุดจะหยั่งถึงได้!” เว่ยฉิงจู่กล่าวคำเสียงเบา
ซ่งฉิวหยิ่งและหลินว่านฉวงต่างพยักหน้าเห็นพ้อง
คำกล่าวนี้ไม่ใชเกินเลย
“เถ้าแก่” คนทั้งสามเข้ามาทักทาย
ลั่วฉวนที่เกือบจะหลับไปแล้ว ขณะนี้พลันตื่นขึ้น
ถัดจากนั้นจึงมองพวกเว่ยฉิงจู่ทั้งสามคน
ลั่วฉวนพยักหน้ารับเล็กน้อย “ตามสบาย”
คณะของเว่ยฉิงจู่จึงเดินเข้าร้านไปเหมือนดังทุกวัน
อย่างไรแล้วพวกนางก็เป็นทหารรับจ้าง ระดับการเงินนั้นเทียบเปรียบกับศิษย์สถาบันใหญ่และผู้ทรงอำนาจไม่ไหว
ดังนั้นนอกจากมาเล่นเกมเสมือนจริงแล้ว น้อยครั้งที่จะมาซื้อสินค้าอื่นภายในร้าน
อย่างไรกระเป๋าพวกนางก็มีให้ใช้สอยอย่างจำกัด...
“เถ้าแก่ ทัณฑ์สายฟ้าก่อนหน้านี้เลือนหาย เป็น...” เว่ยฉิงจู่กล่าวคำถามชักนำ
ลั่วฉวนพยักหน้ารับ
เรื่องราวนี้ไม่มีใดต้องซ่อนเร้น
นอกจากนี้เสียงเมื่อครู่ของเขา เกรงว่าจะได้ยินทั้งนครจิ่วเหยาด้วยซ้ำ
ดังนั้นจึงเป็นปกติหากลูกค้าร้านต้นตำรับจะทราบเรื่อง
ตอนที่ 258 : สินค้าใหม่
“เถ้าแก่เป็นต้นเหตุของทัณฑ์สายฟ้าหรือ?” ซ่งฉิวหยิ่งเผยความสงสัย
ลั่วฉวนเงียบงันก่อนจะหันมองไปทางเหยาซือหยาน
เขาคิดไปครู่ก่อนจะกล่าวตอบ “เป็นซือหยานก้าวหน้าขึ้น”
คณะเว่ยเฉิงจู่ทั้งสามไม่ทราบเรื่องทัณฑ์สายฟ้าโบราณ
หากกล่าวถึงทัณฑ์สายฟ้าโบราณ จะพบได้ก็เพียงแต่ในตำราโบราณของกองกำลังใหญ่ทั้งหลาย
ทั้งสามจึงไม่ทราบ
ที่คิดคือเป็นทัณฑ์สายฟ้าของขอบเขตราชัน!
“เป็นเช่นนี้!” เว่ยฉิงจู่พยักหน้ารับ
ซ่งฉิวหยิ่งและหลินว่านฉวงต่างมองหน้ากันเอง ทั้งสองกลายเป็นผิดหวัง
ที่พวกนางคาดเดานั้นไม่ถูกต้อง
กระนั้นถ้อยคำถัดมาของลั่วฉวนส่งผลให้พวกนางต้องตื่นตกใจ
“พรุ่งนี้จะมีสินค้าใหม่เข้าร้าน”
“สินค้าใหม่? เป็นอะไรกันหรือเถ้าแก่?” เว่ยเฉิงจู่กล่าวถามด้วยความตื่นเต้น
“ขอคาดเดา น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มพลังจิตได้ชั่วครู่กระมัง? หรือจะเป็นยาถอนพิษในพริบตา?” ซ่งฉิวหยิ่งเริ่มคาดเดา
หลินว่านฉวงเพียงแต่คิดอยากทราบจึงกล่าวถาม “ของใหม่! ที่ร้านไม่มีของใหม่เข้านานแล้ว เถ้าแก่พอจะบอกพวกเราได้หรือไม่?”
ถูกโฉมงามสามคนเผยสายตาเฝ้ามองคาดหวังจะให้ทำอย่างไร?
ลั่วฉวนได้เพียงกล่าวภายในใจ ทว่าภายนอกหาวตอบ
จากนั้นจึงส่ายศีรษะพร้อมกล่าวคำปฏิเสธ “พรุ่งนี้ก็ทราบแล้ว”
“จิ๊ เถ้าแก่จะลึกลับเกินไปแล้ว” เว่ยฉิงจู่กล่าวคำออก
พวกนางทราบว่าลั่วฉวนแข็งแกร่ง ทว่าแข็งแกร่งเพียงใดนั้นไม่ทราบ
เมื่อกำลังแตกต่างถึงระดับหนึ่ง เช่นนั้นอาจถึงขั้นละเลยความสนใจทางโลก
ด้วยเหตุนี้คนทั้งสามจึงพูดคุยพลางหัวเราะกับลั่วฉวนเหมือนดังที่มาเยือนร้านครั้งแรก กระทั่งเล่าเรื่องตลกประจำวันก็มี
ต่อหน้าลั่วฉวน เหล่าศิษย์จากทั้งสองสถาบันขณะนี้กลายเป็นระมัดระวัง
พวกเขาไม่กล้าพูดกล่าวหยอกล้อด้วย
แน่นอนว่าไม่นับกู่หยุนซีและเจียงเหวิ่นฉางที่เป็นคนคุ้นเคย...
พูดกล่าวกับลั่วฉวนอยู่พักหนึ่ง ทั้งสามจึงเดินเข้าไปในร้าน
“พี่ซือหยาน สินค้าใหม่ของเถ้าแก่คืออะไรกัน?”
เว่ยฉิงจู่ยังไม่คิดยอมแพ้ ขณะนี้เปลี่ยนมาถามเหยาซือหยานแทน
“สินค้าใหม่?”
“เถ้าแก่กำลังจะนำสินค้าใหม่มาขายไม่ใช่หรือ?”
“เรื่องนี้...”
ขณะนี้บรรดาลูกค้าที่เล่นเกมอยู่จึงได้ยิน พวกเขากลายเป็นตื่นเต้นยินดี
ส่วนว่าแม้สวมใส่หมวกเล่นเกมโลกเสมือนอยู่ได้ยินอย่างไรนั้นยากจะทราบ...
เหยาซือหยานมองที่ลูกค้าอื่นพร้อมเผยยิ้มอันลึกลับ “พรุ่งนี้ก็ทราบแล้ว”
เว่ยฉิงจู่ได้แต่ต้องกลอกตาถอยทัพ
คำตอบเหมือนกับเถ้าแก่ นี่เตี๊ยมกันมางั้นหรือ?
นับเป็นโชคดีที่ทุกคนไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรือคิดอยากทราบเพียงนั้น ขณะนี้จึงกลับเข้าไปเล่นเกมต่อ
แม้ภายในใจตื่นเต้น แต่ก็มีความสงสัยเปี่ยมแน่นเช่นกัน...
ตะวันใกล้ลาลับฟ้า เพียงพริบตาก็ถึงช่วงเย็นแล้ว
ขณะนี้อีกไม่นานก็ถึงเวลาปิดทำการของร้านต้นตำรับ
“พี่ซือหยาน เถ้าแก่ พวกเราขอตัวก่อนแล้ว”
หมดเวลาเล่นเกมสามชั่วโมง ลูกค้ากลุ่มสุดท้ายที่เป็นคณะของโจวหู่จึงล่ำลาพร้อมเดินทางกลับ
ระหว่างทางคนทั้งห้ายังพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้น
“นี่ ตอนนี้ตัวข้าอยู่ระดับที่สี่ในโหมดทั่วไปแล้ว พรุ่งนี้คิดเดินทางออกสำรวจให้ไกลหน่อย!”
“ระดับสี่แล้ว? อีกไม่ช้าข้าก็ระดับหก!”
“ชิ! พวกเจ้าแอบไปเลื่อนระดับนำหน้าข้า! น่าโมโหนัก!”
“อย่าได้โกรธแล้ว! อย่าได้โกรธ...”
กลุ่มคนพูดคุยกันเสียงดังเฮฮาขณะเดินกลับผ่านตรอกไป