บทที่ 28 ลุง(อ่านฟรี14-12-2020)
“ขยะ?” ซูยี่ตกตะลึงก่อนที่ใบหน้าของเขาจะจมลง“สเตลล่าบอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น? ถ้ามีใครรังแกเจ้าบอกข้าสิข้าจะคิดหาวิธีแก้แค้นให้เจ้าแน่นอน!”
"เจ้าเหรอ?" เธอยังคงหัวเราะและส่ายหัว“เจ้าทำไม่ได้หรอก ตระกูลที่อยู่เบื้องหลังเขาแข็งแกร่งมาก เจ้าทำอะไรเขาไม่ได้”
“เขามีอิทธิพลมากขนากนั้น?” ซูยี่ยกยิ้มขึ้นก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ถ้าเป็นแบบนี้ข้าก็ต้องตรวจสอบสักหน่อย ใหนบอกข้ามาสิว่าคนที่รังแกเจ้าเป็นคนแบบไหน? ที่สำคัญ....เจ้าได้รับอันตรายมั้ย?”
เมื่อเห็นว่าซูยี่กำลังจ้องมาที่เธอจู่จู่ก็มีริ้วสีแดงจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ขาวซีดของสเตลล่า เธอกลอกตาไปที่ซูยี่ด้วยความโกรธ“เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับข้าทั้งนั้นแหละ! อย่าลืมสิว่าปู่ของข้าเป็นถึงจอมเวทย์นะเขาไม่มีความกล้าที่จะทำอะไรข้าหรอก”
"มันก็จริง" ซูยี่พยักหน้า“ตามที่เจ้าพูดมาก่อนหน้านี้ว่าเจ้าเสียใจเพราะเขา เอ่อ........หรือว่าเจ้าอกหักอย่างนั้นเหรอ?”
“เพ่ย! ข้าไม่ได้แม้แต่จะคบกับเขาด้วยซ้ำ? ข้าจะอกหักได้อย่างไร” สเตลล่าล่าพูดอย่างไม่พอใจ
ซูยี่หัวเราะ“รักข้างเดียวที่สูญเสียไปก็ถือเป็นการอกหักได้เช่นกัน”
เมื่อเห็นว่าสเตลล่าหายโกรธแล้วซูยี่ก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
ดูเหมือนว่าสเตลล่าเพิ่งจะรู้ว่าคนที่เธอชื่นชมนั้นความจริงแล้วเป็นแค่ขยะคนหนึ่ง ดังนั้นภาพที่สวยงามในใจของเธอจึงแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทำให้เธอรู้สึกเสียใจ
นี่เป็นเรื่องปกติที่เด็กสาวคนหนึ่งจะต้องเจอ มันก็ดีแล้วที่เธอรู้ตั้งแต่ต้นๆเธอจะได้ไม่เจ็บมาก เวลาจะทำให้เธอดีขึ้นเอง
"ฮึ!้ เจ้ายิ้มอะไร!” สเตลล่าส่งเสียงฮึ่มเบาๆและจ้องมองไปทีซูยี่
แม้ว่าเธอจะโกรธนิดหน่อย แต่ก็ยังพบว่าหลังจากพูดคุยกับซูยี่สักพักเธอก็ไม่รู้สึกเหมือนว่าหัวใจของเธอว่างเปล่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อีกต่อไปและโลกทั้งใบก็พังทลายลงก็ราวกับว่าจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นานสเตลล่าก็มองไปที่ซูยี่อย่างจริงจังและพูดว่า“ ซูยี่สิ่งที่ข้ากำลังจะบอกเจ้าเจ้าต้องไม่เอาไปบอกปู่นะเข้าใจมั้ย”
ซูยี่รู้ดีว่าตอนนี้สเตลล่าต้องการใครสักคนที่จะระบายความโกรธของเธอออกไปดังนั้นเขาจึงพยักหน้าอย่างจริงจัง เขามองไปที่สเตลล่าและรอให้เธอพูดอย่างเงียบ ๆ
“ของขวัญนั้น… .. ข้ายังไม่ได้ให้เลย……”
ภายใต้ความมืดที่ปกคลุมท้องฟ้ายามราตรีมีเพียงแสงไฟจากเปลวเทียนจางๆในห้องของซูยี่ที่ให้แสงสว่าง
ด้วยแสงนี้สเตลล่าค่อยๆเล่าปัญหาของเธอในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาให้ซูยี่ฟัง
อันที่จริงนี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับซูยี่นัก
คนที่สเตลล่าไม่สมหวังคือนักเรียนชาย นักเรียนชายคนนั้นมาจากตระกูลขุนนางใหญ่ในอันวิลมาร์ ดังนั้นเขาจึงมีภูมิหลังที่ลึกซึ้ง นอกเหนือจากความจริงที่ว่าเขาหล่อเหลาและห้าวหารแล้วเขายังมีพรสวรรค์ในการใช้เวทมนตร์เขาจึงได้รับการยอมรับจากสาธารณชนว่าเป็น“เทพบุตร” ในสถาบันเวทมนตร์แห่งลัมปุรี เขาแอบมีความสัมพันธ์กับนักเรียนหญิงนับไม่ถ้วน
สเตลล่าก็เป็นหนึ่งในนั้น
พูดอย่างถูกต้องนี่เป็นเพียงเรื่องราวธรรมดาของความรักที่ไม่สมหวัง แต่ก็ยังเป็นผู้หญิงที่ทุ่มเท แม้ว่าหลังจากจบการศึกษาจากสถาบันเวทมนตร์แห่งลัมปุรี และกลับมาที่เมืองบันตาแล้วเธอก็ยังคงคิดถึงนักเรียนชายคนนั้นแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างกันมากก็ตาม
ครั้งนี้เธอต้องการใช้วันเกิดของนักเรียนชายคนนั้นและใช้โอกาสนั้นในการจัดเลี้ยงวันเกิดของเขา สเตลล่าให้ซูยี่ช่วยเธอสร้างโมเดลเปียโนเตรียมที่จะมอบของขวัญนี้เป็นการส่วนตัวให้กับนักเรียนชายคนนั้นในงานฉลองวันเกิดของเขาและสารภาพรักกับเขา
ใครจะไปรู้ว่าหลังจากเธอไปถึงเมืองหลวงอันวิลมาร์เธอจะได้รับรู้ถึงสิ่งที่น่ากลัว! เจ้าชายในใจเธอกำลังจะหมั้น!
สเตลล่ารู้สึกหดหู่มาก แต่เธอก็ยังคงวางแผนที่จะให้ของขวัญของเธอ เธอเตรียมพร้อมที่จะซ่อนความรู้สึกของเธอและอวยพรให้เทพบุตรในหัวใจของเธอ
ถ้าเรื่องนี้จบลงที่ตรงนี้ก็จะถือว่าเป็นเรื่องเศร้าที่มีจุดจบที่ดี
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้คือสิ่งที่ผู้คนไม่คาดคิด
สเตลล่าได้พบกับเทพบุตรคนนั้นในงานเลี้ยงวันเกิด เธอเตรียมที่จะให้ของขวัญเขาและแสดงความยินดีสองสามคำก่อนที่จะจากมา
ใครจะไปรู้ว่าหลังจากเห็นสเตลล่าแล้วเทพบุตรคนนั้นจะแอบบอกกับสเตลล่า ว่ารักเธอเสมอ
สเตลล่ารู้สึกประหลาดใจแต่ก็รู้สึกดีใจเช่นกัน แต่เมื่อจำได้ว่าเทพบุตรมีคู่หมั้นอยู่แล้วเธอจึงเตือนเขาอย่างมีชั้นเชิง
แต่หลังจากได้ยินคำพูดเคลือบน้ำผึ้งของเทพบุตรคนนั้นสเตลล่าเลือกที่จะเชื่อเขาอย่างแปลกประหลาด เธอยังมีนัดลับสองครั้งกับเขาในอีกสองวันข้างหน้า
“แล้วผู้ชายคนนั้นกลายเป็นขยะได้อย่างไร” เมื่อฟังถึงจุดนี้ซูยี่มองไปที่สเตลล่าด้วยท่าทางแปลก ๆ “เป็นไปได้ไหมที่เขา… .. เอ่อจะคิดข่มขืนเจ้า?”
ใบหน้าของสเตลล่าเปลี่ยนเป็นสีแดง“เขาไม่กล้าหรอก แต่เขา… .. เขา… .. เขามันเป็นพวกขยะ!เห็นชัดๆว่าเขาต้องการอะไร เขากำลังจะแต่งงานอยู่แล้วเขายังมาขอแบบนั้นกับข้า หึ ใครเป็นคนตั้งกฏกันว่าจะต้องมอบร่างกายให้กับคนที่ชอบ ไอ้ขยะนั่นข้าเคยได้ยินจากเพื่อนในโรงเรียนมานานแล้วว่าเขาทำแบบนี้กับนักเรียนหญิงมาหลายคนแล้ว เขามันเป็นขยะอย่างสมบูรณ์แบบ!”
“ ๊แปะแปะ”
ทันใดนั้นซูยี่ก็ปรบมือ
“ยังไงก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะ”
สเตลล่ามองไปที่ซูยี่ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง "ข้าน่าสงสารขนาดนี้ที่เจ้ายังมาแสดงความยินดีกับข้าอีก? เจ้าพยายามปลอบข้าหรือเจ้ากำลังหัวเราะเยาะข้ากันแน่”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าแสดงความยินดีกับเจ้าจริงๆ” ซูยี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม“การที่สามารถเห็นใบหน้าที่แท้จริงของใครบางคนได้ก่อนที่จะต้องเผชิญกับความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ไม่ควรแสดงความยินดีหรือ? นอกจากนั้นข้ายังชื่นชมจิตใจที่แน่วแน่และชัดเจนของเจ้ามาก เนื่องจากผู้ชายคนนี้หลอกนักเรียนหญิงทุกคนเขาจึงต้องมีทักษะในการหลอกล่อสาว ๆ เนื่องจากเข้ายังสามารถคงความบริสุทธิ์และมั่นคงไว้ได้เมื่ออยู่ต่อหน้ากลอุบายของเขามันจึงเป็นสิ่งที่หายากจริงๆ”
ใบหน้าของสเตลล่าเปลี่ยนเป็นสีแดงและเธอก็พูดเสียงเบา ๆ ว่า“ข้าจะไม่ทำตัวไม่มีค่าแบบนั้นแน่”
ซูยี่กล่าวขณะหัวเราะ“คำพูดที่ดี แต่ถึงกระนั้นเมื่อเจ้ารู้ว่าเขาเป็นขยะทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้กับตัวเองทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพที่แย่แบบนี้? มันไม่คุ้มค่าเลย”
“ข้าแค่… .. ไม่รู้จะทำยังไง” สเตลล่าพึมพำ
“แล้วตอนนี้ล่ะ? เจ้ารู้รึยังว่าจะทำยังไง”
สเตลล่ามองไปที่ซูยี่ก่อนที่จะมองไปที่ท้องฟ้ายามค่ำคืนนอกหน้าต่าง หลังจากคิดเรื่องนี้สักพักเธอก็หยิบกล่องออกมาจากกระเป๋าเป้
เธอเปิดกล่องและมีเปียโนจำลองที่เธอทำเองอยู่ข้างใน
สเตลล่ามองไปที่เปียโนรจำลองนั้นด้วยความงุนงงสักพักก่อนที่จะหายใจเข้าลึก ๆ และฟาดกำปั้นของเธอลงไป
“ปึง ----”
เปียโนรุ่นนี้มีความซับซ้อนอย่างหาที่เปรียบมิได้ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วมันจึงเปราะบางมาก การที่หมัดของสเตลล่าซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยเวทย์ไฟระดับต่ำเมื่อหมัดนี้กระแกงลงมาที่เปียโนจำลองก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที ชิ้นส่วนที่เหลือก็ลุกเป็นไฟและกลายเป็นขี้เถ้าในที่สุด
“เอาล่ะข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว”สเตลล่าเงยหน้าของเธอขึ้นและผมสีทองที่สวยงามก็สะบัดไปมา
เพียงไม่นานเธอก็กลับมาเป็นสาวสวยที่มีชีวิตชีวาเหมือนเดิม
ซูยี่อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มที่มีความสุขออกมา
สเตลล่าเป็นเด็กสาวที่เข้มแข็งจริงๆเธอสามารถฟื้นตัวได้อย่างง่ายดาย
แต่นั่นหมายความว่าเธอไม่ได้มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับ“เทพบุตร” คนนั้น มันไม่มากไปกว่าความชื่นชมที่เด็กสาวมีต่อสิ่งสวยงามในวัยเยาว์
นี่เป็นสิ่งที่ดีเช่นกันผู้หญิงส่วนใหญ่จะได้สัมผัสกับสิ่งนี้สักครั้ง สำหรับสเตลล่าการได้สัมผัสสิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นการสั่งสมประสบการณ์ทำให้เธอเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
“ ซูยี่คืนนี้ข้าจะไม่กลับ”
เมื่อซูยี่กล่าวชมเธอในใจจู่ๆคำพูดของสเตลล่าก็ทำให้เขาคายความคิดนั้นออกมา
“ฮะ? เจ้าจะไม่กลับ? อย่าบอกนะว่าเจ้าคิดจะค้างที่นี่น่ะ?” ดวงตาของซูยี่แทบจะถลนออกมาขณะที่เขามองไปที่สเตลล่าด้วยความไม่เชื่อ“เจ้าล้อข้าเล่นเหรอ? ข้าเป็นผู้ชายที่ใช้ชีวิตด้วยตัวเองและถ้าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเจ้าใช้เวลาทั้งคืนในสถานที่ของข้าเจ้าไม่กลัวข่าวลือที่ไม่ดี่ั้นเหรอ? ถ้าจอมเวทย์คามมิลล่ารู้เรื่องนี้คงแปลกถ้าเขาไม่ส่งเวทมนตร์มาเยือนข้า!”
“พี่สาวคนนี้ยังไมกังวลเลยแล้วเจ้าจะกลัวอะไร”สเตลล่ามองไปที่วูยี่“เจ้าไม่ได้บอกเหรอว่าข้าเป็นเด็กแล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเด็กอย่างข้าค้างคืนในบ้านของลุงอย่างเจ้า? แล้วอีกอย่างเจ้าก็มีผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างวิเวียนอยู่ที่นี่เจ้าจะทำอะไรได้? ผ่อนคลายเถอะข้าจะนอนกับวิเวียนไม่รบกวนเจ้าหรอก ท่านลุง” หลังจากพูดจบเธอก็ยืดตัวก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ“ข้าไม่ได้อาบน้ำมาหลายวันแล้วจัวข้าสกปรงมากเลย เฮ้ท่านลุงเจ้าช่วยให้ข้ายืมเสื้อผ้าหน่อยได้ไหม ข้ายังไม่ได้ซักเสื้อผ้าเลยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาข้าไม่มีอะไรจะเปลี่ยน”
เมื่อเห็นสเตลล่าเข้าไปในห้องน้ำของเขาโดยไม่มีความสุภาพใด ๆ ซูยี่ก็ทำได้เพียงยืนงง ๆ เขามองไปด้านข้างและพบว่าวิเวียนแง้มเปิดประตูห้องนอนของเธอแอบดูพวกเขา เขาโบกมือให้เธอ
“มาเถอะวิเวียน ไปดูแลสเตลล่าบอกวิธีใช้ห้องน้ำของเราให้เธอฟัง เออใช่มีเสื้อผ้าที่ข้าซื้อให้ที่ยังไม่ได้ใส่มั้ย? เอาชุดไปให้เธอเปลี่ยนก่อนข้าจะซื้ออีกสองสามชุดให้ทีหลัง”
วิเวียนพยักหน้าอย่างเชื่อฟังและกลับไปที่ห้องของเธอเพื่อนำชุดเสื้อผ้าไปที่ห้องน้ำ
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงน้ำสาดและเสียงร้องเบา ๆ ของสเตลล่าดังมาจากห้องน้ำ
ซูยี่อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว
“ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ว่าเธอเพิ่งจะอกหักมาเหรอ? ฮึ่มเรียกข้าว่าลุงเหรอ ข้าอายุแค่ยี่สิบเจ็ดปีนี้เองนะ! ข้าเป็นเหมือนลุงได้อย่างไร? เฮ้วิเวียนเจ้าคิดว่าข้าเหมือนลุงหรือเปล่า”
วิเวียนผู้น่าสงสารมองไปที่ซูยี่ด้วยความงุนงงไม่รู้ว่าจะพยักหน้าหรือส่ายหัวดี
.
.
.