ตอนที่แล้วตอนที่ 47 สงครามโบเมาท์ (ทัพหลัก)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 49 เจ็ดแท่นบูชา 

ตอนที่ 48 วิกฤติ เรือเหาะอับปาง


ตอนที่ 48 วิกฤติ เรือเหาะอับปาง

ที่ยอดเขาโบเมาท์ ผู้นำกองกำลังทั้งหมดมองไปที่หิมะที่ตกลงมาและเสาแสงสีเทาขนาดใหญ่ที่ห่างไป 100 กิโลเมตร

“หิมะและเสาแสงสีเทา”

ทุกคนยินมืออกไปรับเกล็ดหิมะที่หล่นออกมา “พวกบูชาปีศาจ มันจะทำอะไร?”

“พวกมันต้องการเปลี่ยนภูมิภาคใต้ให้เหมือนกลับดินออดนทางเหนือที่หนาวเย็น” ผู้นำกองกำลังที่ 2 กล่าวออกมา

ทุกคนที่ได้ยินก็แสดงความกังวลออกมาทันที เปลี่ยนภูมิภาคทางใต้ให้เหมือนกับดินแดนทางเหนือนั้น หมาย ความว่าดินแดนแห่งนี้จะหนาวเย็น กลางวันจะน้อยลง กลางคืนจะยาวนานขึ้น

ความตายจะเข้าปกคุมภูมิภาคแห่งนี้ พร้อมกับข้อจำกัดของเกสเพนสท์ที่หายไป มันจะไม่ต้องจำศีลเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนจากแสงแดดในตอนกลางวันอีกต่อไป

“จะทำอย่างไรกันดี?” หนึ่งในผู้นำกองกำลังกล่าวออกมาด้วยความกังวล

“จะทำอะไรได้ด้วยกำลังพลที่เหลือแค่ 12,000 คนกับคนธรรมดา อีกแค่ 15,000 คน”

“ตอนนี้คนที่อยู่ในเมืองอัสซาเมียน่าจะมีอยู่อีก 1 ล้านกว่าคน ถ้าเดินทางมาที่เทือกเขาโบเมาท์ตอนนี้น่าจะพอทำอะไรได้บ้าง”

“แค่คนธรรมดา 1 ล้านคนมีแต่ส่งพวกเขาไปตาย! กองกำลังของเกสเพนสท์น่าจะมีอีกไม่ต่ำกว่า 1 ล้านแน่นอนรอบเสาแสงนั่น!”

“อีกอย่างคนที่สร้างเสาแสงที่เปลี่ยนสภาพอากาศได้กว้างขนาดปีกคุมทั้งภูมิภาคได้ แม้แต่ข้าก็คงสู้ไม่ไหว!” ผู้นำกองกำลังที่ 2 กล่าวจนหนวดที่อยู่บนใบหน้าสั่น

“ถอนกำลังกลับไปที่หอคอยเอราธาเมียกันเถอะ อย่างน้อยก็ดีกว่าตายอยู่ที่นี่” ผู้นำกองกำลังคนนึงก่อนขึ้นมา

ทุกคนก็เงียบทันทีไม่มีใครกล่าวอะไรไปสักพัก แต่เวลาก็ไม่เคยค่อยใคร แม้แต่พวกเขาเพราะมีเกสเพนสท์จำนวนมหาศาลเริ่มไหลบ่าจากทาง เสาแสงกำลังวิ่งมาที่ยอดเขาโบเมาท์

ด้วยจำนวนที่มากมันถึงกลับทำให้พื้นดินสันสะเทือนจนสามารถรู้สึกได้แม้จะห่างออกไป 100 กิโลเมตรก็ตาม

“สั่งถอนกำลังทันทีให้ทุกคนกลับมาที่ยอดเขา เราจะพาเฉพาะ ผู้ใช้พลังฝึกหัดและอัศวินออกไปทันที ส่วนพวกที่เหลืออยู่ทั้งหมดให้พวกเขาคอยถ่วงเวลาไว้”

“ท่าน...” ผู้นำกองกำลังที่ 10 กำลังจะกลับออกมาแต่ก็ถูกกล่าวขัดขึ้นมาซะก่อน

“ข้าตัดสินใจแล้ว ไปกันเถอะ เรียกตัวออร์คัสและลูกศิษย์ประจำตัวคนอื่นกลับไปด้วย อ้อ! อีกคนก็ลูกศิษย์ประจำตัวของตาเฒ่าอีวานด้วย เดี่ยวมันจะหาว่าข้าใจดำทั้งที่มันต้องเดินทางสู่หลุมใต้พิภพเพื่อสถาบันของเรา เอาละไปจัดการได้แล้วออกเดินทางทันที”

……………………………………………………………….

ดอนที่ตอนนี้กำลังวิ่งหนีด้วยกลับไปที่ภูเขาด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่เขาจะทำได้แต่มันก็ยังช้าอยู่

“เอายังไงดี?” เขาคิดหาวิธีที่จะไป ถึงให้เร็วที่สุดแต่ก็ไม่ทันการแล้ว เพราะพวกเกสเพนสท์ตามหลังเขามาระยะห่างแค่ 10 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น แต่ระยะทางที่เขาต้องไปถึงยอดเขาโบเมาท์คือยังห่างอีก 20 กิโลเมตร เขาไม่มีทางหนีไปได้ทันแน่

ทันใดนั้นเขาก็เห็นเรือเหาะกำลังลอยขึ้นจากยอดเขาโบเมาท์ เรื่อทั้งสองลำคือเรือขนส่งทรัพยากรที่จะมาที่ยอดเขาทุกเช้า

‘ดูเหมือนว่าพวกเขาว่างแผนจะหนีกันแล้ว’ ตอนนี้เขาต้องรีบแล้วเพราะเรือเหาะของกองกำลังสถาบันจอมอาคมเอราธาเมียอีก 5 ละก็กำลังจะขึ้นบินแล้ว

ทันใดนั้นก็มีบางอย่างบินข้ามหัวดอนไป มันคือลูกไฟขนาดยักษ์ชนเข้ากลับเรือเหาะ

ตูม !

เกาะพลังงานที่อยู่บนเรือเหาะถึงกลับสั่นไหวทันที แต่ยังไม่ทันไรก็มียิงมาอีกลูกแต่คราวนี้มีจอมอาคมออกมาต้านรับแทน เขาคือผู้นำกองกำลังที่ 4 เป็นจอมอาคมธาตุน้ำ

พลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากเพราะสายฝนที่ตกลงมาเบา ๆ

“สหายเจ้าจะปล่อยพวกข้าไปไม่ได้รึ?” เขากลาวออกมาขณะที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือ

“ในสงครามไม่มีสหายมีแค่มิตรหรือศัตรู” เสียงที่ดังกังวาลดังไปทั่วหุบเขา

จากนั้นก็มีลูกไฟถูกยิงออกมาเรื่อย ๆ มันไม่ได้มาจากจอมอาคมเพียงคนเดี่ยว

“บัดซบเอ้ยพวกเต่าหดหัวแน่จริงก็ออกมาสิ!!!” ผู้นำกองกำลังที่ 10 ตระโกนด่าออกมาเสียงดังจากเรือเหาะอีกลำหนึ่ง

ทันใดนั้นก็มีพลังงานสีแดงยิงใส่เข้าไปที่ผู้นำกองกำลังที่ 10  ทะลุหน้าอก ศรสีแดงยังคงยิงรูปผ่านเรือเหาะจนระเบิด ทั้งเรือเหาะรำ นั้นไม่มีใครรอดแม้แต่คนเดี่ยว จากนั้นเรือเหาะลำต่อ ๆ  มาก็ถูกยิงอย่างต่อเนื่อง

“รีบไปเราไม่ต้องรอแล้ว ?” ผู้นำกองกำลังที่ 2

เรือเหาะที่เหลือนี่ใช้พลังงานจำนวนมหาศาลโดยไม่สนใจผลิตพลังงานที่สูญเสียไป เรือขนส่งทรัพยากรทั้ง 2 ลำจะเคลื่อนที่ช้าเป็นอย่างมาก เนื่องจากบรรทุกทรัพยากรจำนวนมหาศาล

มันถูกยิงจนเกาะด้านนอกสั่นไหวด้วยความรุนแรง

ถึงเกาะช่วยป้องกันความเสียหายได้แต่คลื่นกระแทกที่ส่งผ่านเข้ามาก็ยังทำให้เรือเหาะส่ายไปมายิ่งทำให้มันเคลื่อนที่ช้าลง

หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองลำก็ถูกยิงจนตก  ตามมาด้วยเรือเหาะที่ขนส่งนักรบอัศวินบางส่วนตกลงสู่พื้นนอกยอดเขาโบเมาท์ห่างไปหลายกิโล ด้วยความสูงกว่า  1,500 เมตรคนทั้งโลกจึงตายหมด ถึงแม้จะมีบางคนที่รอดแต่ก็ถูกกองทัพของเกสเพนสท์ที่อยู่ด้านข้างฉีกกระชากจนไม่เหลือซาก

ดอนที่ตอนนี้มองเรือเหาะที่เหลืออีก 3 ลำบินหนีออกไปทั้งอย่างนั้น เขาด้วยแต่ถือตราที่อาจารย์มอบให้เพื่อใช้หนีไปพร้อมกับเรือเหาะเมื่อเกิดวิกฤต แต่ตอนนี้มันไม่มีที่จอดรอรับเขาอยู่แล้ว แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร

“ตอนนี้ข้าต้องเอาตัวรอดด้วยตัวเองให้ได้ก่อน” ดอนรีบคิดหาวิธีทันที จะขึ้นไปที่ยอดเขาและไปหลบอยู่ที่ห้องใต้ดินของเขาตอนนี้ก็ไม่ทัน “ข้าจะทำอย่างไร?”

“ใช่แล้วหลุม” ดอนรีบเรียกลูกบาศก์วิญญาณออกมาจากนั้นก็ใช้มันย่อยสลายดินจนเป็นหลุมลึกลงไปแค่ประมานพอตัวเขาลงไปได้

ปากหลุมซ่อนอยู่ตรงพุ่มไม้

ถึงเขาจะใช้ลูกบาศก์วิญญาณในการช่วยขุดหลุมขุดหลุมแต่มันก็ยังช้าอยู่ดี

และตอนนี้เองกอลทับของเกสเพนสท์ก็มาถึง

“ซวยแล้ว” ดอนรีบกระโดดลงไปในหลุมที่ขุดไม่ แต่มันก็ไม่ลึกพอที่จะหลบพ้นเพราะมีเกสเพนสท์ตัวหนึ่งเดินเข้ามาประเวณนั้น

ดอนจึงรีบไล่คาถากำแพงดินปิดปากหลุม เมื่อเกสเพนสท์ตัวหนึ่งเงินที่ปุ้มไม้  ถึงมันก็ไม่เจออะไรจึงเดินกลับเข้าไปรวมกับกลุ่มต่อไป

“เกือบไปแล้ว” เขาได้แต่ถอนหายใจอยู่ก้นหลุม หลังจากนั้นก็เปิดปากหลุมไว้เล็กน้อย เพื่อให้พอมีอากาศผ่านเข้าออกได้

ด้านบนมีเสียงวิ่งของพวกเกสเพนสท์ที่ดังสนั่นหวั่นไหวอย่างต่อเนื่อง ๆ ราวกับฝูงวัวกระทิงวิ่งผ่าน

ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากรอให้พวกมันผ่านไปจนหมดก่อน จึงจะออกไปจากหลุมตอนนี้เอาจึงไปได ้แต่นั่งพัก ดอนจึงเข้าไปในลูกบาศก์วิญญาณ

“เคน”

“นายท่านมีอะไรให้ข้ารับใช้” เคนทําความเคารพดอนทันที

“เจ้าหมูป่ามันไปไหนแล้ว” ดอนกล่าวออกมาพร้อมกับมองไปที่เถาวัลย์ที่ขาดหล่นอยู่บนพื้น

“เอ่อ...” เคนไม่รู้ว่าจะตอบไปอย่างไรดี ตอนที่เขาออกไปข้างนอกเพื่อไล่ฆ่าเกสเพนสท์กลับดอนพอกลับเข้ามาหมูป่ามันก็หายไปแล้ว ตอนนี้เขาก็กำลังตามหามันอยู่เหมือนกัน

เมื่อเห็นว่าเคนไม่สามารถตอบได้เขาจึงเรียกระบบโลกลูกบาศก์วิญญาณ “ระบบเจ้าหามันเจอหรือไม่?”

ทันใดนั้นก็มีภาพปรากฏออกมาด้านหน้าเขามันเป็นเหมือนกับโลกย่อส่วนของโลกลูกบาศก์วิญญาณ

เมื่อเขามองดูก็เห็นว่ามีหมูขนาดเล็กขุดหลุมอยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ลนอนหลับอย่างสบายใจ

เขาก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที มันไม่เพียงแต่จะมาขโมยของของเขากิน แต่กลับยังมาทำรังนอนอยู่ใต้ต้นไม้อีกราวกลับว่ามันเป็นเจ้าของไม่มีผิด

ขณะที่เขาสังเกตุภาพของโลกย่อส่วนลูกบาศก์วิญญาณแบบ 3 มิตินั้นอยู่นั้น เขาก็คิดว่าพื้นที่ภายในลูกบาศก์วิญญาณมันน้อยไป

“ระบบข้าสามารถขยายพื้นที่ได้หรือไม่?”

เมื่อก็ถามไปอย่างนั้นมันก็ปรากฏข้อความ

[1 ตารางเมตร/100 พลังงาน]

ตอนนี้เขามีพลังงานอยู่ภายในลูกบาศก์วิญญาณ 42,500 หน่วย ดังนั้น 1 ตารางเมตรใช้ 100 หน่วย พลังงานที่เขามีอยู่ตอนนี้สามารถสร้างพื้นที่เพิ่มได้แค่ 425 ตารางเมตรเท่านั้น

‘เอายังไงดี’ เราจะคิดสักพักเขาก็ลองสร้างมันสัก 100 ตารางเมตรดูก่อน

เมื่อเขาสั่งให้มันฟังมันก็แสดงให้เขาเห็นว่าสามารถสร้างได้แบบไหนบ้าง มันมีแค่ผืนดินและน้ำแค่สองอย่างเท่านั้น

เขาจึงสร้างผืนดินและน้ำอย่างละครึ่ง หลังจากนั้นพื้นดินก็ค่อย ๆ งอกออกมาจากรอยต่อเดิม ส่วนที่เป็นน้ำอย่างไรมันก็ต้องมีดินรองรับเขาจึงเลือกตำแหน่งมันทางทิศตะวันออก

เมื่อมองดูแล้วความเร็วในการสร้างของมันนั้นช้าเป็นอย่างมากเขาจึงออก จากโลกลูกบาศก์วิญญาณไป โดยลืมเรื่องเจ้าหมูป่าไป

หลังจากออกมาเขาก็นอนพักและคิดว่าจะทำอย่างไรต่อดี และซิเรียจะหนีไปพร้อมกลับเรือเหาะได้หรือไม่ เขาก็หลับไปทั้งแบบนั้น

โดยที่ไม่รู้ว่า ตอนนี้ภายนอกกำลังเกิดการสังหารหมู่ตั้งแต่ตีนเขาไปจนถึงทางขึ้นเขาโลหิตไหลเป็นสายน้ำลงตามขั้นบันได

เรือเหาะแต่ละลำบรรจุคนได้จบกันดังนั้น พวกเขาจึงพาไปแค่คนที่มีค่าและทรัพยากรบางส่วนเท่านั้น คนที่มีค่าในที่นี้ก็หมายถึงนักรบขั้นที่ 3 ขึ้นไปเท่านั้น

คนธรรมดาและนักรบระดับต่ำถูกทิ้งไว้คอยถ่วงเวลาของเกสเพนสท์

ตอนนี้ซิเรียกำลังวิ่งหนีอย่างสุดชีวิตเธอคิดว่าดอนน่าจะทิ้งเธอและหนีขึ้นเรือเหาะไปแล้ว เธอจะรู้สึกว่าไร้ที่พึ่ง ตอนนี้สิ่งเดี่ยวที่น่าจะช่วยชีวิทเธอได้ก็มีแค่ห้องใต้ดินของดอน

ซึ่งไม่มีใครน่าจะหาเจอถ้าไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน เธอรีบวิ่งไปที่หลังวิหารทันทีพร้อมกับมองคนอื่นเขาฆ่าตายไปอย่างโหดเหี้ยม

ใครที่ไม่ยอมจำนนก็จะถูกตัดหัวร่างถูกลุมฉีกกินทันทีด้วยเกสเพนสท์จำนวนมาก

คนธรรมดาที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับยอมจำนนก้มหัวขอร้องชีวิต

แต่บางครั้งนั้นนักรบก็มีศักดิ์ศรีของตัวเองพวกเค้าจึงสู้จนตัวตายก็มี ไปในหมู่นักรบก็มีบางคนที่ไม่สนใจถึงศักดิ์ศรีอะไร

พวกเขารีบยอมสวามิภักดิ์ต่อพวกลัทธิบูชาปีศาจทันที จากนั้นก็หันกลับมาไล่ฆ่าคนพวกพร้องของตนเพื่อชีวิตรอด

เพราะว่าเงื่อนไขในการเข้าร่วมลัทธิบูชาปีศาจที่พวกนั้นต้องการคือ เอาหัวของสหาย 1 หัวมาแลกการสวามิภักดิ์

ที่บันไดมีชายหนุ่มเดินเหยียบไปบนบันไดเลือดมุ่งสู่ยอดเขาอย่างไม่สะทกสะท้าน

ชายหนุ่มคนนั้นก็คือเอล ซึ่งตอนนี้กำลังเดินตามหลังของอาจารย์ของตน

อาจารย์ของเขาก็คือ จอมอาคมที่ยิง 1 โลหิตฆ่าทั้งลำเรือเหาะ

……………………………………………..

witterry : ลงนิยายทุกวัน เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ เวลา 18.00 น. วันละ 1 ตอน (ถ้าแต่งไปไกลจากที่ลงแล้วจะลงแถมให้) ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านนะครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด