ตอนที่ 2 รัชทายาท
ตอนที่ 2 รัชทายาท
ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะมีอายุประมาณสิบห้าปีกำลังนอนแผ่หราอยู่ในถ้ำที่มืดสลัวและรกร้างในหุบเขาแห่งหนึ่ง
เขานอนอยู่บนพื้นหินที่มีความเยือกเย็นเป็นอย่างมาก ร่างนั้นสวมเสื้อคลุมสีเหลืองที่สกปรก และขาดวิ่นบางแห่ง ร่างนั้นหมดลมหายใจแล้ว
เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ และเมื่อถึงเวลากลางคืน นิ้วของชายหนุ่มผู้นี้กระตุกเล็กน้อย ราวกับภาพลวงตา
ต่อมาอีกมินานนัก มือทั้งสองข้างของเด็กชายได้สั่นระริก และหลังจากนั้นคิ้วของเขาก็เริ่มขมวดเล็กน้อย
ทันใดนั้นดวงตาที่ปิดสนิทคู่ก็ได้ลืมตาขึ้น เผยให้เห็นนัยต์ตาสีดำเหมือนหมึก ดวงตาที่พราวระยับ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดแม้จะอยู่ในความมืดมิด
ชางอู๋ซินรู้สึกว่า ร่างกายค่อย ๆ ร้อนขึ้น นางลุกขึ้นนั่งด้วยความยากลำบาก
ชางอู๋ซินยื่นมือออกไปด้านหน้า และมองดูรูปลักษณ์ของมือที่อ่อนเยาว์และบอบบาง
สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นของนายน้อยที่มิเคยทำงานหนักมาก่อน
“ฮ่า…” ชางอู๋ซินหัวเราะออกมาเบา ๆ จากนั้นชั่วอึดใจ นางได้ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…” เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความหยิ่งผยอง มันดังก้องในถ้ำมืดมิดอย่างน่าสยองขวัญ
ชางอู๋ซินมองไปยังความมืดมิดรอบตัว นี่นางยังมิตายหรือ?
ตามที่คาดไว้ แม้แต่นรกก็ยังมิต้องการจิตวิญญาณของนาง เพราะชางอู๋ซินฆ่าผู้คนมาแล้วมากมาย และทำบาปกรรมมากจนเกินไป
แต่มิเป็นไร ในตอนนี้นางยังมีชีวิตอยู่ก็เพียงพอแล้ว และชางอู๋ซินต้องการที่จะใช้ชีวิตนี้ให้คุ้มค่าที่สุด!
ชางอู๋ซินสำรวจร่างกายของตนเอง แม้นางมิสามารถมองเห็นใบหน้า แต่ร่างกายนี้ช่างอ่อนแอและซูบผอมมาก คาดคะเนว่าน่าจะอายุสิบห้าปีโดยประมาณ
เมื่อสังเกตุจากเครื่องแต่งกายแล้ว ชางอู๋ซินทราบในทันทีว่าเจ้าของร่างกายนี้คือองค์รัชทายาทแห่งแคว้น ซึ่งอาจดูเหมือนจะมีสถานะที่น่าเกรงขาม
โชคมิดีที่เจ้าของร่างกายนี้มีอาการป่วยมาตลอด และมีร่างกายที่อ่อนแอตั้งแต่แรกเกิด ยิ่งไปกว่านั้นเขายังขาดความกล้าหาญ
และมักจะถูกกลั่นแกล้งโดยบรรดาโอรสของจักรพรรดิและผู้ติดตามของพวกเขา
ในตอนนั้น สิ่งที่รัชทายาทผู้นี้ทำได้ก็แค่เพียงซ่อนตัวอยู่ห่าง ๆ และร้องไห้คร่ำครวญอยู่เพียงผู้เดียว
ชางอู๋ซินใช้มือแตะไปที่หน้าอกทันที และพบว่ามันช่างราบเรียบ นางจึงสะดุ้งเล็กน้อย นี่ข้ากลายเป็นผู้ชายจริง ๆ หรือ?
จากนั้นมือของนางก็คลำไปบริเวณใต้เอว และพบว่ามันว่างเปล่า ชางอู๋ซินจึงทราบในทันทีว่ารัชทายาทผู้นี้เดิมทีนั้นเป็นผู้หญิง
นางคงจะปลอมตัวเป็นผู้ชาย จึงได้ตำแหน่งรัชทายาทมาครอบครอง
ชางอู๋ซินพยายามเรียบเรียงความทรงจำทั้งหมดในหัว เพื่อที่จะได้ทราบว่า องค์ชายผู้นี้เสียชีวิตได้อย่างไร?
แม้ว่าองค์ชายจะเป็นถึงองค์รัชทายาท แต่เขาก็เป็นเพียงร่างที่มิมีพละพลัง แม้แต่จักรพรรดิก็ดูมิได้ใส่ใจและมิแยแสบุตรชายผู้นี้แม้แต่น้อย
แต่เหตุใดเขาจึงแต่งตั้งให้องค์ชายผู้นี้ขึ้นเป็นรัชทายาท?
องค์ชายผู้นี้ได้ขังตนเองอยู่แต่ในที่ประทับของรัชทายาทตลอดเวลาโดยมิยอมออกมาด้านนอก
หัวหน้าขันทีในตำหนักของพระองค์ได้ชักชวนให้ออกไปด้านนอกหลายต่อหลายครั้ง
แต่ในขณะที่ออกไปก็ได้พบกับบุตรชายของขุนนางบางคน นายน้อยผู้นั้นได้เยาะเย้ย จึงทำให้รัชทายาทรู้สึกอับอาย
แต่พระองค์มิกล้าที่จะโกรธเคืองเขา และทำได้เพียงแค่กลับไปยังตำหนักของตนเองพร้อมกับคราบน้ำตา
สาวใช้คนสนิทของรัชทายาทได้กล่าวว่า มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่หุบเขาหลังพระราชวังหลวง
หากไปที่นั่นเพื่อขอพร มันอาจจะทำให้ความฝันขององค์ชายเป็นจริงได้
รัชทายาทผู้ไร้เดียงสาเชื่ออย่างสนิทใจ และแอบย่องออกไปที่หุบเขาเพียงลำพังอย่างเงียบ ๆ
แต่สัตว์ป่าและงูพิษหลายชนิดทำให้ตกใจกลัง จึงวิ่งหนีจนตกลงไปในถ้ำ
รัชทายาทโดนพิษงูและเสียชีวิตในทันที วิญญาณของชางอู๋ซินจึงมาเข้าร่างพระองค์
ชางอู๋ซินลูบแก้มของนางในขณะที่คิดว่า รัชทายาทผู้นี้ช่างเป็นผู้ที่โง่เขลา! สาวใช้ผู้นั้นถูกบงการโดยผู้ใดบางคนในวังหลวงเป็นแน่
ช่างเป็นกลอุบายที่โง่เขลา แต่รัชทายาทกลับหลงกลและถึงแก่ความตายในที่สุด
ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์คือการมีสุขภาพที่แข็งแรง มีสามีและมีบุตรเฉกเช่นคนทั่วไป
เมื่อพักผ่อนเป็นเวลานาน ขณะที่ความคิดของชางอู๋ซินเกิดความสับสน และวุ่นวายจนปวดหัวแทบจะเป็นบ้า
แม้ว่าสมองของนางจะยังคงสับสน ระหว่างความทรงจำเก่าและความทรงจำใหม่ แต่ก็มิได้ส่งผลต่อความมุ่งมั่นของชางอู๋ซิน
นางอาจจะต้องใช้เวลาในการ นึกทบทวนถึงทุกสิ่งในภายหลัง แต่ในตอนนี้การรักษาชีวิตของนางนั้นสำคัญกว่าสิ่งใดทั้งหมด
“ไอ้บ้า!”
ชางอู๋ซินสาปแช่งอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่นางคิดว่าเมื่อข้ามชาติมาแล้วศิลปะการต่อสู้จะหายไป และมันคงจะยากมากที่จะฟื้นคืนมา
แต่เมื่อยืนขึ้นชางอู๋ซินได้ใช้กำลังภายใน และพบว่ารัชทายาทผู้นี้มีศิลปะการต่อสู้
แม้ว่าจะมีศิลปะการต่อสู้คุณภาพสูงถึงเพียงนี้ แต่นางก็ยังคงถูกรังแก และยังมิสามารถหลบหนีจากสัตว์ร้ายได้อีก
ชางอู๋ซินคิดว่า รัชทายาทผู้นี้ช่างโง่เง่าสิ้นดี หากเกิดมาในครอบครัวธรรมดาก็นับว่าแย่ แต่นี่เขาเป็นถึงรัชทายาท
ชางอู๋ซินสงสัยเหลือเกินว่า ด้วยนิสัยแบบนี้รัชทายาทสามารถรอดชีวิตมาได้จนถึงตอนนี้ได้อย่างไร?