ตอนที่แล้วย้อนชีวิตพิชิตเซียน - บทที่ 21 : เจียงเหวินเหวิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปย้อนชีวิตพิชิตเซียน - บทที่ 23 : แก๊งพยัคฆ์

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน - บทที่ 22 : จางเฉียงถูกกระทืบ


บทที่ 22 : จางเฉียงถูกกระทืบ

ทุกคนต่างก็เดินตามผู้จัดการเข้าไปในห้องส่วนตัว..

“คืนนี้ฉันจะเลี้ยงไวน์ Lafite ปี 1995 ลูกพี่เว่ยเอง!”

ผู้จัดการร้านยิ้มกริ่มเมื่อได้ยินว่าจะได้ขายไวน์ราคาแพงอีกแล้ว Lafite ปี 1990 นั้นราคาไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นหยวนเช่นกัน

“ผู้จัดการคุณสนใจเป็นเจ้ามือมั๊ยล่ะ?” เกาเว่ยเอ่ยขึ้น

“ไม่ได้นะผู้จัดการ คืนนี้ผมตั้งใจจะมาเลี้ยงลูกพี่เว่ย!” จางเฉียงร้องบอกด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนัก

“ได้ๆ ให้นายเป็นเจ้ามือ ส่วนฉันก็รอรับมิตรภาพ!” กัวเว่ยเป็นฝ่ายพูดขึ้น

“เอาล่ะ.. ผู้จัดการไปเปิดไวน์และจัดค็อกเทลมาได้แล้ว ทุกคนรอดื่มอยู่!”

ผู้จัดการเดินออกไปจากห้องที่กำลังสนุกสนานมีชีวิตชีวา และเวลานี้ภายในห้องก็มีคนอยู่มากถึงสิบกว่าคนเลยทีเดียว

สาวๆในกลุ่มก็ล้วนแล้วแต่หน้าตาสะสวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจียงเหวินเหวินที่สวยสะดุดตาที่สุดในกลุ่ม และพ่อของเธอกับพ่อของจางเฉียงก็ค่อนข้างสนิทสนมกัน ไม่เช่นนั้นเธอคงจะไม่ได้มาด้วยแน่ๆ

ซูอานยังคงนั่งมองสิ่งต่างๆรอบตัวด้วยท่าทางสงบนิ่งเช่นเคย และยังไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

“เร็วเข้าทุกคน.. ดื่มให้กับลูกพี่กัวก่อน!”

แก้วไวน์สิบกว่าแก้วบนโต๊ะต่างก็ถูกยกขึ้นดื่มให้กับกัวเว่ย มีเพียงแก้วของซูอานเท่านั้นที่ยังคงวางนิ่งอยู่ที่เดิม

เจียงเหวินเหวินรีบส่งซิกบอกกับซูอานให้หยิบแก้วขึ้นดื่มทันที แต่ซูอานกลับนิ่งเฉย และนั่นทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองซูอานเป็นตาเดียว

จางเฉียงจ้องมองซูอานด้วยแววตาที่ไม่คุ้นเคยนักพร้อมกับถามขึ้นว่า “หมอนี่เป็นใครกัน? ทำไมไม่ให้หน้าฉันบ้างเลย!”

เจียงเหวินเหวินรีบร้องบอกทันที “เขาเป็นเพื่อนที่โรงเรียนฉันเอง ฉันเป็นคนลากเขาเข้ามาด้วยเองล่ะ!”

จางเฉียงมองจางเหวินเหวินแล้วจึงหันไปมองแก้วไวน์บนโต๊ะ และนั่นบ่งบอกถึงสิ่งที่เขาต้องการสื่อได้เป็นอย่างดี

แต่ซูอานกับยังคงนั่งนิ่งราวกับท่อนไม้!

“นี่.. ต้องให้ฉันป้อนให้ถึงปากหรือยังไง ถึงจะยอมให้หน้าฉันบ้าง?”

จางเฉียงขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับหน้าเปลี่ยนสีทันที ในขณะที่คนอื่นๆต่างก็หันไปมองซูอานด้วยสายตาเย็นชา

กัวเว่ยที่นั่งเงียบมานานในที่สุดจึงพูดขึ้นยิ้มๆ “อาเฉียง อย่าทำแบบนี้เลย น้องชายคนนี้อาจจะไม่ชอบดื่มไวน์ก็ได้!”

ซูอานตอบกลับทันที “เจ้าพูดได้ถูกต้อง! ไวน์แดงนี่รสชาดแย่มาก ค็อกเทลรสชาดดีกว่ามากนัก!”

จางเฉียงถึงกับหน้าตาบึ้งตึงขึ้นมาทันที และตอบกลับไปอย่างไม่พอใจ “น้องชาย นายรู้มั๊ยว่านี่ไวน์อะไร? นี่น่ะ Lafite ปี 1990 เชียวนะ! ราคาขวดละสองหมื่นกว่าหยวนทีเดียว เทียบไม่ได้เลยกับค็อกเทลกระจอกๆที่นายพูดถึง!”

และถึงแม้ว่าราคาค็อกเทลของที่นี่จะสูงถึงแก้วละหลายร้อยหยวน แต่ก็เทียบไม่ได้จริงๆกับราคาไวน์ Lafite

ซูอานหันไปมองจางเฉียงด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเคย ใบหน้าของเขายังคงนิ่งและไม่แม้แต่จะพูดอะไรออกมา

เจียงเหวินเหวินตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก และเริ่มกระวนกระวายใจไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรดี?

“นี่ทุกคนต่างก็ชอบไม่เหมือนกัน! เขาไม่ดื่มก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ให้หน้านายสักหน่อยนะอาเฉียง อย่าโมโหเลยนะฉันขอร้อง..”

“ไวน์แดงนั่นรสชาดไม่ได้เรื่องจริงๆนี่!” ซูอานอดไม่ได้จึงพูดต่ออีกว่า “ข้าเองก็เพิ่งเปิด Lafite ปี 1982 สองขวด รสชาดของมันช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก!”

เจียงเหวินเหวินรีบสะกิดซูอาน และไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรซูอานจึงคิดที่จะมาพูดเรื่องตลกในตอนนี้!

จางเฉียงถึงกับยิ้มหยันพร้อมกับพูดประชดประชัน “หึ! เปิด Lafite ปี 1982 สองขวดงั้นเหรอน้องชาย? นี่นายบ้ารึเปล่า?”

ซูอานแต่งตัวซอมซ่อดูเหมือนคนที่มีเงินไม่ถึงสองร้อยหยวนด้วยซ้ำไป แต่กลับโอ้อวดว่าตัวเองเปิดไวน์ขวดละเป็นแสนถึงสองขวด!

แล้วเด็กวัยรุ่นในกลุ่มคนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “เท่าที่ฉันรู้ ไวน์ Lafite ปี 1982 ที่ร้านนี้ตกขวดละหนึ่งแสนหยวนขึ้นไป แต่นายกลับบอกเปิดทีเดียวสองขวดเชียวเหรอ?”

“นั่นสิ.. ดูจากสารรูปการแต่งตัวของนายแล้ว ยังไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมใส่เลย!”

“ฮ่าๆๆ นั่นสิ! สภาพนี้ดูเหมือนจะใส่เสื้อผ้าลดราคา หรือไม่ก็เสื้อผ้าตามแผงตลาดมากกว่า!”

จางเฉียงนั่งมองซูอานด้วยสีหน้าขุ่นเคืองและไม่พอใจอย่างมาก ส่วนคนอื่นๆก็พากันพูดจาดูถูกซูอานกันใหญ่

เจียงเหวินเหวินได้แต่นึกเสียใจที่ลากซูอานเข้ามาในนี้ด้วย เพราะลืมคิดถึงฐานะของซูอานไปว่าเขาอาจถูกคนอื่นดูถูกแล้วก็หัวเราะเยาะเอาได้

“ซูอาน.. ไปกันเถอะ!”

“เหตุใดข้าจึงต้องไปด้วยเล่า?”

“นี่นาย..”

เจียงเหวินหวินเม้มริมฝีปากแน่น พร้อมกับหันไปมองซูอานที่ยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน..

“ในเมื่อข้าพูดความจริง แต่พวกเขาไม่เชื่อ แล้วจะให้ข้าทำเช่นใดได้!”

“ฮ่าๆๆ พวกเราเชื่อก็ได้พ่อคนร่ำรวย!”

“ถ้าพวกเจ้าไม่เชื่อ ข้าจะให้พนักงานเสริฟนำไวน์ที่ข้าเปิดไว้ออกมากลั้วปากแล้วบ้วนทิ้งให้พวกเจ้าดูดีหรือไม่? ข้ายังมีเหลืออยู่อีกมาก..”

“น้องชาย.. อย่าขี้โม้ให้มันมากนัก!”

จางเฉียงอดรนทนไม่ได้อีกต่อไป เขามองซูอานด้วยสายตาเย็นชา คล้ายเตรียมที่จะไล่ซูอานออกไป ในขณะที่กัวเว่ยเองก็เริ่มโมโหเช่นกัน!

ซูอานเห็นหน้าจางเชียนก็นึกสนุกขึ้นมา จึงได้พูดขึ้นว่า “หากเจ้าไม่เชื่อที่ข้าพูด เจ้ากล้าพนันกับข้าหรือไม่เล่า?”

“พนัน? พนันอะไรกัน?” ชายหนุ่มร่างสูงผอมจ้องมองซูอานพร้อมกับถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ก็พนันว่าข้าจะมีไวน์ Lafite ปี 1982 จริงหรือไม่น่ะสิ?”

จางเฉียงหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างมีความสุข “ได้เลย! พวกเราจะยอมถอนคำพูดที่พูดดูถูกแกไปเมื่อครู่ทั้งหมด แล้วจะยอมก้มหัวขอโทษแกด้วย!”

“แต่ถ้าแกไม่ได้เปิดไวน์ Lafite 1982จริง โน่น.. แกต้องดื่มค็อกเทลถาดนั้นให้หมดทั้งถาด” จางเฉียงตอบพร้อมกับชี้ไปทางถาดค็อกเทลกว่าสามสิบแก้ว

กัวเว่ยทำท่าจะห้ามจางเฉียง แต่จางเฉียงกลับรีบโบกมือห้ามพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ลูกพี่เว่ย.. มันเป็นคนท้าเองนะ!”

กัวเว่ยจึงได้แต่นิ่งเงียบและไม่พูดอะไรอีก จากนั้นจึงเหลือบมองซูอานก่อนจะถอยกลับไปนั่งพิงพนักด้วยใบหน้าเย็นชา

เจียงเหวินเหวินรีบร้องปฏิเสธทันที “ไม่พนัน! พวกเราไม่พนัน!”

“เจียงเหวินเหวิน นี่เป็นเรื่องของพวกผู้ชาย เธออย่ายุ่ง!”

จางเฉียงทั้งโมโหทั้งอับอายที่ซูอานไม่ไว้หน้าตนเองเช่นนี้ มีหรือจะยอมปล่อยซูอานไปง่ายๆ

เจียงเหวินเหวินหวาดกลัวจางเฉียงที่กำลังโมโห จึงไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย และได้แต่มองซูอานด้วยความเป็นห่วง

“เรียกพนักงานเสริฟมาได้เลย!”

ซูอานยังคงมีสีหน้าสงบนิ่งเช่นเคย ไม่มีท่าทีตื่นตระหนกตกใจแม้แต่น้อย ทำให้ทุกคนในกลุ่มได้แต่นึกประหลาดใจ

ทุกคนในกลุ่มต่างก็คิดในใจว่าไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ และได้แต่สะกดความตื่นเต้นภายในใจไว้ และเฝ้ารอคอยกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

….

พนักงานเสริฟเดินเข้ามาภายในห้อง และถามซูอานด้วยท่าทีเคารพนบนอบ “คุณลูกค้าต้องการอะไรครับ?”

“เจ้ายังจำข้าได้หรือไม่?”

“จำได้ครับคุณลูกค้า!”

และคำตอบของพนักงานเสริฟก็ทำให้ทุกคนในห้องถึงกับประหลาดใจ และได้แต่คิดว่าเด็กหนุ่มท่าทางยากจนคนนี้มาใช้บริการที่นี่จริงๆงั้นหรือ?

จางเฉียงถึงกับหน้าเสียขึ้นมาทันที แต่ก็พยายามข่มความรู้สึกที่หวาดหวั่นไว้ในใจ พร้อมกับพูดออกไปว่า

“เคยมาที่นี่แล้วยังไง? อาจจะมาดื่มค็อกเทลก็ได้ ไม่เห็นแปลก..”

คนอื่นๆต่างก็พากันพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของจางเฉียง..

เจียงเหวินเหวินนั้นรู้ดีกว่าใครๆว่า ซูอานเพิ่งจะถูกลุงของเขาไล่ออกจากบ้าน แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาเที่ยวสถานบันเทิงที่มีราคาแพงเช่นนี้ ความจริงเธอยังนึกสงสัยว่าซูอานเอาเงินที่ไหนไปซื้ออาหารแล้วก็หาที่อยู่ให้ตัวเอง

“นี่.. นายมาเที่ยวที่นี่จริงๆน่ะเหรอ?” เจียงเหวินเหวินกระซิบถามเสียงเบา

“นี่เจ้าก็คิดว่าข้าโกหกเหมือนกันรึ?” ซูอานกรอกตาและคร้านที่จะอธิบายให้เจียงเหวินเหวินฟัง แล้วหันไปบอกกับพนักงานเสริฟ

“เจ้าไปนำไวน์สองขวดที่ข้าฝากไว้มา!”

“ครับผม.. คุณลูกค้ากรุณารอสักครู่นะครับ”

คนอื่นๆภายในห้องต่างไม่สามารถสงบนิ่งต่อไปได้อีก สีหน้าของจางเฉียงถึงกับเปลี่ยนไปทันทีเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนใจ

จนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง พนักงานเสริฟชายคนเดิมก็ได้ถือขวดไวน์แดงเข้ามาสองขวด และยืนรอว่าลูกค้าจะสั่งการเช่นใดต่อ

“จางเฉียง.. พนักงานนำไวน์มาแล้ว เชิญเจ้าตรวจสอบดูด้วยตัวเองได้เลย!”

ความจริงแล้วซูอานควรจะเรียกจางเฉียงว่าพี่เฉียงเหมือนเช่นคนอื่นๆ แต่จนถึงตอนนี้คำนั้นก็ยังไม่หลุดออกจากปากของเขา

“หึ.. ไวน์ปลอมรึเปล่าก็ไม่รู้ แกนึกว่าฉันโง่มากหรือยังไง?” จางเฉียงยังคงยืนกรานไม่เชื่อ

แต่พนักงานเสริฟของร้านรีบตอบกลับทันที “ซิงยู๋ KTV ไม่เคยขายไวน์ปลอมนะครับท่าน ไวน์สองขวดนี้เป็นไวน์ Lafite ปี 1982 จริงๆ!”

และครั้งนี้ทุกคนต่างก็พากันตกใจสุดขีด และอ้าปากหวอเป็นวงกลมขนาดเท่าไข่ไก่ พร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ!

จางเฉียงถึงกับเหงื่อออกเต็มหน้าผาก และยังคงยืนกรานไม่เชื่อเช่นเดิม เขาร้องตะโกนออกไปราวกับคนคลุ้มคลั่ง

“ไม่.. ฉันไม่เชื่อ!”

“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองจิบดูสิ จะได้รู้ว่าใช่ไวน์ที่ว่าจริงหรือไม่?” ซูอานตอบกลับด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แต่เจือด้วยรอยยิ้มจางๆ

จางเฉียงถือแก้วไวน์ที่พนักงานเสริฟรินให้ด้วยมือที่สั่นเทิ้ม จากนั้นจึงค่อยๆยกแก้วขึ้นจิบ แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวน่าเกลียดขึ้นมาทันที!

ทุกคนในห้องเห็นสีหน้าของจางเฉียงต่างก็รู้ผลได้ในทันที ทุกคนหันไปมองซูอานด้วยสีหน้าตกตะลึงอย่างพร้อมเพรียงกัน ราวกับว่ากำลังพบเจออสูรร้ายก็ไม่ปาน..

เจียงเหวินเหวินถึงกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ และไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีกเลย..

ไวน์สองขวดนี้รวมกันมีมูลค่ามากกว่าสองแสนหยวน ซูอานเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหนกัน?

“เอาล่ะ.. ได้เวลาที่เจ้าต้องทำตามสัญญาแล้ว!”

ใบหน้าของจางเฉียงเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ เขาทั้งอับอายแล้วก็โกรธมาก และเวลานี้ก็แทบอยากจะระบายอารมณ์ใส่ใครสักคน!

แต่ในเมื่อทุกคนในที่นี้ต่างก็เป็นคนที่เขารู้จักทั้งสิ้น จางเฉียงจึงได้แต่ต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง

“ได้! ฉันขอโทษที่เข้าใจแกผิดไป!”

“ไม่ใช่แบบนี้!”

ซูอานไม่ใช่คนดีอะไรนัก และเวลานี้เขาก็กำลังต้องการที่จะทำให้จางเฉียงได้อับอายขายหน้าเหมือนที่คนอื่นๆได้ทำกับเขาก่อนหน้านี้

“นี่แกยังจะเอายังไงอีก?” จางเฉียงร้องตะโกนถามออกมาด้วยความโมโห

“เจ้าต้องทำตามคำพูดที่ได้พนันไว้กับข้าเมื่อครู่!”

ใบหน้าของเจียงฉางเย็นชามากขึ้น จากนั้นจึงโน้มศรีษะลงและเอ่ยขอโทษซูอานเหมือนที่เคยรับปากไว้!

ในเวลานั้นเอง กัวเว่ยที่เอาแต่นั่งเงียบมานานก็ลุกขึ้นยืนทันที เขาจ้องมองซูอานด้วยความสนอกสนใจพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“น้องชายคนนี้นับว่าเป็นคนจริง ปกปิดฐานะที่แท้จริงจองตัวเองไว้ได้อย่างมิดชิดจนพวกเราไม่มีใครดูออกเลย!”

“ผู้ใดปกปิดฐานะของตัวเองกัน ข้าก็เป็นของข้าเช่นนี้มาตลอด..” ซูอานตอบเสียงเบาพร้อมกับหยิบแก้วค็อกเทลบนโต๊ะขึ้นมาดื่มช้าๆ

“น้องชาย.. นายชื่อว่าอะไรนะ?”

“ซูอาน!”

“ซูอาน.. ฉันขอเป็นเพื่อนกับนายด้วยจะได้มั๊ย?”

“ข้ามีเพื่อนมากมายแล้ว!”

“ก็ไม่เป็นไรนี่! เพิ่มฉันเข้าไปเป็นเพื่อนอีกคนก็แล้วกัน!”

กัวเว่ยตอบกลับไปอย่างมั่นอกมั่นใจว่าซูอานจะต้องรับเขาเป็นเพื่อนอย่างแน่นอน เขาตั้งใจว่าหลังจากนั้นจะค่อยไปสืบประวัติซูอานทีหลัง!

ใบหน้าของจางเฉียงเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวยิ่งกว่าเดิมมาก เขาเดินเข้าไปกัวเว่ยพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ลูกพี่เว่ย.. ผมออกไปหาแฟนก่อนดีกว่า!”

พูดจบจางเฉียงก็รีบเดินออกไปจากห้องคาราโอเกะทันที ทุกคนในห้องต่างพากันเงียบไปหมด และต่างก็เริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่เคยพูดจาดูถูกซูอานไปก่อนหน้านี้

ซูอานได้แต่ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ทุกคนนั่งลงได้แล้ว หากพวกเจ้าชอบดื่มไวน์สองขวดนี้ ก็เชิญพวกเจ้าดื่มได้เลย ข้าไม่ชอบรสชาดของมันนัก!”

ได้ยินเช่นนั้นหลายคนต่างก็อยากลองลิ้มรส Lafite ปี 1982 ที่แสนแพงนี้บ้าง เพราะหลายคนในห้องก็ไม่เคยได้ลองลิ้มรสมาก่อนเช่นกัน

เจียงเหวินเหวินรีบยกขวดไวน์รินใส่แก้วให้กับทุกคนในห้อง และรู้สึกว่าคืนนี้ตัวเองได้หน้าอย่างมาก

กัวเว่ยหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม และบรรยากาศที่กระอักกระอ่วนใจเมื่อครู่ก็ได้ถูกเจียงเหวินเหวินช่วยทำลายให้แล้ว ทุกคนจึงกลับมาสนุกแล้วก็มีชีวิตชีวาเช่นเดิม

“เหวินเหวิน.. นี่แฟนเธอเหรอ?”

เจียงเหวินเหวินหน้าแดง “ไม่ใช่สักหน่อย แค่เพื่อนนักเรียนห้องเดียวกัน!”

“แค่เพื่อนไม่เห็นต้องสนิทสนมกันขนาดนี้เลย!”

ใครบางคนพูดขึ้นเพราะคิดว่าเจียงเหวินเหวินแก้ตัวเพราะเขินอาย แต่หารู้ไม่ว่าเธอพูดความจริง

ในขณะที่ซูอานนั่งมองจอทีวี และฟังคนอื่นร้องเพลงด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

...

“จางเฉียงออกไปหาแฟนแล้วคงกลับบ้านเลยมั๊ง?”

“เดี๋ยวฉันออกไปดูเอง!”

หนึ่งในนั้นอาสาออกไปดูจางเฉียง ในขณะที่คนอื่นๆยังคงดื่มไวน์ ร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน

มีเพียงกัวเว่ยกับซูอานเท่านั้นที่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา สีหน้าของทั้งคู่ยังคงนิ่งเฉยไร้อารมณ์ความรู้สึก ซูอานเห็นเด็กวัยรุ่นเล่มเกมกันสนุกสนาน แต่เขากลับมองว่าเป็นเรื่องของเด็กๆและไม่ต้องการร่วมสนุกด้วย

แต่ในระหว่างนั้นประตูห้องก็เปิดออก เด็กวัยรุ่นคนเดิมวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาพร้อมกับร้องตะโกนออกไปว่า

“แย่แล้ว! จางเฉียงถูกคนกระทืบ!”

กัวเว่ยลุกขึ้นยืนทันที สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นดุดันพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ออกไปดูกันเร็ว! ใครกันที่กล้าทำร้ายจางเฉียง?”

ทุกคนต่างก็พากันวิ่งกรูออกไปจากห้องคาราโอเกะ มีเพียงซูอานคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ในห้องอย่างไม่ใส่ใจ

เพราะการที่จางเฉียงถูกทำร้าย ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด