ตอนที่ 237-238
ตอนที่ 237 : ฝนใกล้ตก
เมื่อไม่มีอะไรให้รับชม ผู้อื่นภายในร้านจึงเข้าสู่โลกเสมือนจริง
โชคดีที่ภายในร้านขณะนี้มียี่สิบที่นั่งให้เล่น ดังนั้นจึงไม่มีการต้องแย่งที่นั่งเล่นกันแต่อย่างใด
……
ส่วนลึกของเทือกเขาจิ่วเหยา ยอดเขาสูงแห่งหนึ่ง
ที่นี่มีสัตว์อสูรมากมายอาศัยอยู่ เสียงคำรามร้องจะดังเป็นครั้งคราวให้ความรู้สึกว่าเป็นสถานที่ซึ่งไม่อาจหย่อนความระวัง
แต่แล้วทันใดนี้เองที่ออร่าอันชวนสะพรึงได้วาดผ่าน
ภายใต้ออร่ารุนแรงนี้ ต้นไม้พลันต้องหักล้มลงระเนระนาดราวกับถูกวัตถุกระทบ
ออร่าแห่งชีวิตที่เคยมีกลับกลายเป็นเลือนหาย!
สัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนต่างเผ่นหนี มันราวกับหวาดกลัวอะไรบางอย่างภายในขุนเขา!
ครืน!
ยอดเขาเริ่มสั่นเทิ้ม หินใหญ่นับไม่ถ้วนกลิ้นร่วงหล่น รอยปริแตกลึกปรากฏขึ้น
ตู้ม!
เสียงดังบังเกิด ภูเขาทั้งลูกกลายเป็นระเบิดออกในพริบตา!
เศษหินนับไม่ถ้วนกระเด็นออกประหนึ่งลูกกระสุน ควันเห็ดขนาดใหญ่ยักษ์เผยให้เห็นบนฟากฟ้า
และขณะนี้เองที่มีร่างหนึ่งปรากฏออกจากกลุ่มฝุ่นควัน
ด้วยเพียงโบกมือสายลมจึงกระโชกแรง กลุ่มควันรูปเห็ดขณะนี้ได้คลายสภาพก่อนจะเลือนหาย
ท้ายที่สุดตัวตนในกลุ่มฝุ่นควันจึงเผยตัว
เป็นตัวตนดูชั่วร้ายอย่างประหลาด มันทำผู้พบเห็นเกิดความไม่สบายใจ
ที่ต้องตาที่สุดคือศีรษะล้านเลี่ยนนั้นมีแผลเป็นปรากฏ
ชุดคลุมเปื้อนคราบเลือดขาดวิ่น มันราวกับผ่านศึกอันรุนแรงมา
บุคคลผู้นี้คือผู้นำทัพเข้าปิดล้อมเหยาซือหยานก่อนหน้านี้ เป็นอสูรนักบวชอู๋เซี่ยง!
เพราะเหยาซือหยานโจมตีออกอย่างรุนแรงจนส่งผลให้แก่นอสูรเสียหาย อู๋เซี่ยงไม่เพียงแต่ชุดระดับสวรรค์เสียหาย แต่ยังบาดเจ็บร้ายแรงยามหลบหนีหายเข้าสู่รอยแยกมิติ
ระหว่างช่วงเวลานั้นเขาต้องพักฟื้นอาการบาดเจ็บอยู่ภายในส่วนลึกของเทือกเขาจิ่วเหยา
แม้เป็นขณะนี้ใบหน้านั้นก็ยังเผยอาการซีดเผือดเล็กน้อย
เพราะอาการบาดเจ็บที่ฟื้นฟูเองได้นั้นมาถึงขีดจำกัดแล้ว ขณะนี้ส่วนที่เสียหายไม่อาจฟื้นฟูเองได้อีก!
ความเสียหายทางรากฐานนั้นไม่ใช่ง่ายรักษา
“คิดหรือว่าจะหนีรอดพ้นไปได้?”
อู๋เซี่ยงเผยยิ้มพร้อมฟันขาว
สายตานั้นมองทะลวงผ่านกาลอวกาศมุ่งตรงสู่ร้านต้นตำรับในนครจิ่วเหยา!
อู๋เซี่ยงไม่เพียงถูกเหยาซือหยานทำแก่นอสูรเสียหาย แต่ยังได้ฝากฝังความเกลียดชังอันไม่อาจลืมเลือน!
รากฐานเสียหาย อาวุธวิญญาณก็ได้รับความเสียหาย มูลค่าความเสียหายครั้งนี้แม้อู๋เซี่ยงคือขอบเขตราชันก็ไม่อาจทนทานรับได้ไหว!
ขณะนี้เขาจึงปรารถนาได้รับแก่นอสูรของเหยาซือหยานมาเพื่อทำให้ตนแข็งแกร่งขึ้น
ตราบเท่าที่แก่นอสูรอีกฝ่ายอยู่ในมือได้ เมื่อนั้นจึงถือว่าเป็นการสะสางความแค้น
“นครจิ่วเหยางั้นหรือ? น่าสนใจ สัตว์อสูรราชวงศ์ถึงกับไปหลบซ่อนภายในเมืองมนุษย์”
รอยยิ้มปรากฏที่ใบหน้าอู๋เซี่ยง
น้ำเสียงนี้ยังไม่ทันเลือนหาย ร่างนั้นก็หายวับอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
ที่หลงเหลือเป็นเพียงเศษซากยอดเขาและความโกลาหลภาคพื้นที่เพียงบ่งบอกว่าก่อนหน้าเกิดอะไรขึ้น
ไม่ช้าหลังอู๋เซี่ยงหายตัวไป หลายร่างจึงบินทะยานมาที่นี่
แม้เหล่านี้ดูคล้ายมนุษย์ ทว่ามีความพิเศษยิ่งกว่า
ดวงตาสีทอง หูขนปุย ทั้งยังมีฟันอันแหลมคมของเสือเผยผ่านริมฝีปาก...
เห็นได้ชัดเจนว่ากายภาพเช่นนี้ไม่ใช่อะไรที่มนุษย์ธรรมดาจะครอบครอง
ด้วยเหตุนี้ตัวตนที่เผยออกจึงสมควรเป็นสัตว์อสูรราชวงศ์!
และออร่าที่เผยออกของแต่ละคนล้วนชวนสะพรึง
ด้อยที่สุดอย่างน้อยก็มีกำลังเทียบขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่หนึ่ง!
ตอนที่ 238 : ผลของความไร้เทียมทาน
สำหรับสัตว์อสูร หากต้องการเปลี่ยนร่าง เช่นนั้นก็ต้องก้าวถึงขอบเขตทดสอบเต๋าเสียก่อน
ท่ามกลางตัวตนเหล่านี้ มีผู้นำคือชายชราที่ไว้หนวดเคราและเส้นผมสีขาว
ออร่าที่อีกฝ่ายเผยออกประหนึ่งห้วงสมุทรอันไร้สิ้นสุด มันเหนือล้ำยิ่งกว่าขอบเขตทดสอบเต๋าอย่างไกลโพ้น!
หรือก็คือ กำลังของชายชราผู้นี้อย่างน้อยก็ต้องขอบเขตราชัน!
ที่ชวนให้น่าตระหนักก็คือหน้าผากของชายชราปรากฏดวงตาที่สาม!
ขณะนี้เองที่คล้ายกับความผันแปรอันลึกลับได้ฉายผ่านดวงตานั้น มันราวกับสอดส่องร่องรอยในโลกหล้า!
“ท่านปู่ฉือพบเห็นอันใด?” สตรีงดงามกล่าวคำถาม
สตรีผู้นี้ครอบครองเส้นผมและดวงตาสีม่วงคล้ายกับเหยาซือหยาน รูปลักษณ์กว่าแปดหรือเก้าส่วนนั้นคล้ายคลึง
“ท่านนักบวชใหญ่เกิดอะไรขึ้นกันขอรับ?”
ทุกคนต่างสงสัย
ชายชรานามท่านปู่ฉือนี้คือนักบวชใหญ่ เขาเผยคิ้วขมวด “ผู้ฝึกตนมนุษย์ขอบเขตราชัน”
“ว่าอะไร?!”
“ผู้ฝึกตนมนุษย์ขอบเขตราชัน?”
“อีกฝ่ายมาทำอะไรที่เทือกเขาจิ่วเหยาแห่งนี้กัน?”
ทันทีที่ถ้อยคำกล่าวออก เสียงอุทานต่างร้องดังระงม
ผู้ฝึกตนขอบเขตราชัน กล่าวได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของลำดับชั้นเท่าที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะมีได้
โดยส่วนใหญ่แล้วมักซ่อนเร้นกายอยู่ภายในกองกำลังใหญ่และเอาแต่เก็บตัวฝึกฝน
อย่างไรแล้วก็มีน้อยสิ่งในโลกหล้าที่จะกระตุ้นความสนใจของตัวตนเหล่านั้นได้
นักบวชใหญ่ส่ายศีรษะ “เหมือนว่าจะมารักษาตัวที่นี่”
“รักษาตัว? อย่างนั้นผู้ใดกันทำร้ายขอบเขตราชันได้?” สตรีที่กล่าวถามก่อนหน้านี้ต้องอุทานอย่างตระหนกตกใจ
นักบวชใหญ่เผยยิ้มรับพลางลูบศีรษะนางอย่างเอ็นดูก่อนจะกล่าว “โลกใบนี้ ขอบเขตราชันไม่ใช่ไร้เทียมทาน สมควรทราบว่ายังมีขอบเขตนักบุญที่เหนือกว่าราชัน และยังมีที่เหนือกว่านักบุญ...”
กล่าวถึงตรงนี้เขากลับเงียบ ราวกับหวาดเกรงอะไรบางอย่าง
หญิงสาวพยักหน้ารับ
นางค่อยคิดพร้อมกล่าวถามอย่างมีความหวัง “ท่านปู่ฉือ ท่านได้ข่าวคราวอะไรของพี่หญิงหรือไม่?”
นักบวชใหญ่ส่ายศีรษะพลางถอนหายใจ “ไม่พบเจอ ข้อมูลของเหยาซือหยานนั้นคล้ายโกลาหลไม่น้อย”
หญิงสาวถอนหายใจอย่างผิดหวัง
อันที่จริงครั้งเหยาซือหยานลงนามสัญญาจ้างงานของร้านต้นตำรับ มันก็ทำให้ตัวนางแยกขาดจากโลกใบนี้ไปแล้ว
หรือเป็นไปได้ว่านางได้เข้าสู่เขตแดนแห่งปราชญ์ที่ตัดขาด?
และตัวตนของหญิงสาวที่ปรากฏนี้ทราบชัดเจนแล้ว ว่าเป็นน้องสาวของเหยาซือหยาน
หลังค้นหาอยู่พักหนึ่ง คนกลุ่มนี้ไม่อาจพบเจอข้อมูลที่เป็นประโยชน์จึงเดินทางกลับ
อย่างไรแล้วภายในราชวงศ์สัตว์อสูร ก็ยังมีปัญหาอีกมากที่รอคอยพวกเขาเข้าไปแก้ไข
ร้านต้นตำรับ
เหยาซือหยานนั่งด้านหลังโต๊ะขณะรับเงินที่ลูกค้าจ่าย ขณะนี้กลายเป็นต้องขมวดคิ้ว
ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ นางรู้สึกได้ถึงลางร้าย
คล้ายว่านางจะตกเป็นเป้าหมายของใครสักคน
“พี่ซือหยานเป็นอะไรไปแล้ว?” ลูกค้ากล่าวถามด้วยความห่วงหาที่พบเห็นสีหน้าเหยาซือหยานแปลกไป
“ไม่เป็นไร” เหยาซือหยานส่ายศีรษะ
พร้อมกันนี้นางจึงหันมองทางลั่วฉวนที่อยู่บริเวณประตูร้าน
เถ้าแก่ก็อยู่ที่นี่ มีอะไรให้ต้องกังวล?
กล่าวได้ว่าลั่วฉวนในสายตาของเหยาซือหยานนั้นคือตัวตนไร้เทียมทาน...
ด้วยไม่คิดนำมาใส่ใจ เหยาซือหยานจึงฮัมเพลงต่อพลางทำงานเสมียนร้านรับผลึกวิญญาณพร้อมตอบรับข้อสงสัยของลูกค้า
เสียงฮัมเพลงของนางค่อนข้างแตกต่างจากบทเพลงที่มนุษย์แต่งขึ้นตามต้นฉบับ
อาจเป็นเพราะนางไม่ค่อยทราบเรื่องราวทำนองนี้จึงเกิดความผิดเพี้ยนทางดนตรีขึ้น