Guild Master ตอนที่ 65 ซื้อของ
ตอนที่ 65
ซื้อของ
“ขอโทษนะครับ ไอเทมที่พี่เมฆให้มามันหายไปหมดเลย”เจเดินออกมาจากถ้ำผีดิบอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน เพียงแต่เนื้อตัวของเจตอนนี้นอกจากไร้รอยขีดข่วนแล้วยังไม่มีไอเทมติดตัวด้วยเหมือนกัน
“ไม่เป็นไร ผลลัพธ์ถือว่าใช้ได้”เมฆส่ายหน้าช้า ๆด้วยท่าทีไม่ถือสา สำหรับเมฆแล้วของแค่นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย แม้หินเสริมพลังจะแพงแต่ชุดเลเวลต่ำนั้นราคาถูกมาก แถมตอนนี้เจก็เลเวล 40 แล้วก็ควรเปลี่ยนของสวมใส่อยู่ดี
“แต่คงปล่อยให้ตัวแทงค์ของเราเดินตัวเปล่าไม่ได้หรอก”กวีว่าพลางเปิดแผนที่ขึ้นมา ตอนนี้เมืองการ์กันนับว่าใกล้ที่สุด แต่เมืองการ์กันเพิ่งผ่านพ้นเรื่องร้ายมา ตอนนี้พ่อค้าปกติยังไม่รู้ข่าวเรื่องแก๊งหมีใหญ่กับแก๊งดาวแดงโดนขับไล่ออกไปแล้วเสียด้วยซ้ำหากกลับไปยังเมืองการ์กันคงหาไอเทมดี ๆใส่ไม่ได้ งั้นก็ต้องไปเมืองอื่นที่ใกล้กว่านี้ซึ่งเมืองที่อยู่ใกล้ถ้ำผีดิบรองจากเมืองการ์กันก็คือเมืองบาลันที่อยู่ทางตะวันออกของถ้ำผีดิบ
“พวกเราเองก็ได้เวลาเปลี่ยนไอเทมแล้วถือโอกาสนี้ไปเดินตลาดด้วยเลยแล้วกัน”ไอช่าเสนอออกมาด้วยท่าทีร่าเริง พวกเธอเพิ่งเก็บเลเวลกันมาได้พักก็น่าสนใจไม่เลวเลย
“แล้วพวกเบสล่ะจะเอายังไง”กวีถามพลางมองไปทางพวกเบสที่ยังอยู่รอเจด้วยกัน
“เรื่องนั้น....พวกเราจะลองไปหาแทงค์ที่เมืองบาลันดู แต่ถึงจะได้แล้วก็คงไม่ต้องแยกเรดกันหรอกมั้ง”เบสว่าพลางมองไปทางกวีด้วยท่าทีขัดเขินอย่างประหลาด ตอนนี้เบสได้แต่ยอมรับแล้วว่ากวีเก่งมากจริง ๆ พอนึกย้อนไปเรื่องที่ตนเองเอาแต่แขวะกวีตลอดทางแล้วรู้สึกอายจริง ๆ แม้พวกกวีจะเลเวลน้อยกว่าแต่ถ้าได้อยู่เรดเดียวกับพวกกวีแบบนี้หนทางข้างหน้าอาจจะง่ายขึ้นก็ได้
“ได้สิ พวกเรายินดีอยู่แล้ว”กวียิ้มด้วยท่าทียินดีก่อนจะมองไปทางเก๋ ฟ่าง หลิว และ ฟลุค ในกลุ่มของเบสมีคนมีฝีมืออยู่ด้วย คนแรกคือหลิว แม้จะไม่ค่อยพูดแต่หลิวก็มองคนรอบข้างตลอด เป็นซัพพอร์ตที่ดีมากคนหนึ่งเลย แม้จะไม่ต้องสั่งก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี เรียกว่าเป็นซัพพอร์ตที่ใช้งานง่ายและเข้าได้กับทุกปาร์ตี้ ส่วนรองลงมาก็คือเก๋ เธอทำได้ทั้งโจมตีและป้องกัน แม้จะไม่สามารถหลบหลีกได้เหมือนมีนกับเมฆ แต่ความแข็งแกร่งของเธอก็น่าสนใจไม่เลวเลย แถมเธอยังอ่านบรรยากาศได้ดีรู้ว่าเวลาเพื่อนพลาดต้องทำอะไรดีด้วย ส่วนคนอื่น ๆอย่าง เบส ฟ่าง กับ ฟลุค ยังไม่โดดเด่นอะไรนัก แต่ก็มีฝีมือเกินกว่ามาตรฐานมานิดหน่อย สามารถฝากความหวังได้อยู่
.
.
.
“งั้น พวกเราแยกย้ายกันไปดูของสวมใส่แล้วกัน เลือกอันที่คิดว่าเหมาะที่สุดแล้วค่อยเอามาเสริมพลังอีกที”หลังจากเดินทางมาถึงเมืองบาลัน กวีก็ประกาศให้ทุกคนแยกย้ายกันไปซื้อไอเทมได้ตามอัธยาศัย ตอนนี้พวกกวีอยู่เรดเดียวกัน หากเจอไอเทมที่คิดว่าดีก็สามารถส่งรูปมาปรึกษากันได้เลยไม่ต้องไปเดินด้วยกันให้เสียเวลา
“พี่ฟ่าง พี่เก๋ ไปกับพวกไอช่าเถอะค่ะ”ทันทีที่บอกให้แยกย้ายได้ ไอช่าก็ลากมีนออกไปหาพวกเก๋กับฟ่างเพื่อจะชวนไปเดินตลาดด้วยกัน แม้จะเป็นการเลือกซื้อไอเทมสวมใส่แต่สำหรับผู้หญิงแล้วการเลือกซื้อไอเทมสวมใส่มันต่างจากผู้ชายนิดหน่อย เพราะต่อให้อุปกรณ์สวมใส่นั้นดีแค่ไหนแต่หากสวมแล้วทำให้ตัวเองดูน่าเกลียดละก็พวกเธอก็คงไม่ยอมกันหรอก
“จะไปกันแค่พวกเรางั้นเหรอ”ฟ่างมองไปทางเบสนิดหน่อยเพราะก่อนเข้าเมืองเบสพูดเหมือนประมาณว่าจะชวนฟ่างไปเลือกซื้อของด้วยกันเพราะต่างเป็นนักเวทเหมือนกัน แน่นอนว่าฟ่างไม่ได้เป็นเด็กน้อยไร้เดียงสา พอรู้หรอกว่าเบสพยายามจีบตัวเองอยู่ แต่ก่อนหน้านี้เบสทำนิสัยแย่ไปหน่อยถึงจะแค่แขวะไปเรื่อยก็เถอะ
“งั้นไปกันเถอะ แค่พวกเราก็ดีเหมือนกัน”ฟ่างหัวเราะออกมาเบา ๆก่อนจะตอบตกลงคำชวนของไอช่าอย่างง่ายดาย ถือว่าคราวนี้สั่งสอนเบสนิดหน่อยก็แล้วกัน
“จริงสิเบส พวกเราเป็นจอมเวทเหมือนกันทำไมไม่ไปเดินดูไอเทมด้วยกันล่ะ”กวีเดินเข้าไปหาเบสก่อนจะถามคำถามเหมือนที่เบสพูดกับฟ่างก่อนมาถึงเมืองเสียอย่างนั้นเล่นเอาเบสหน้าชาไปเล็กน้อย
“อย่าเล่นอย่างนี้สิ”เบสถอนหายใจออกมาก่อนจะมองตามพวกสาว ๆที่แยกตัวออกไปกันแล้ว งั้นเบสก็คงต้องไปเดินกับกวีจริง ๆสินะ
“แล้วคนอื่น ๆล่ะจะเอายังไง”เจถามพลางมองไปทางกลุ่มชายล้วนที่เหลือ ตอนนี้เจก็คงไปเดินกับมายด์ตามประสาแฟน ถึงมายด์จะเพิ่งมีปากเสียงกับกวีไป แต่เจก็ยังต้องอยู่กับเจเลยตามพวกกวีมาโดยไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
“พวกเรา....”
“พี่คะ พี่มาเที่ยวที่นี่ด้วยเหรอ”ระหว่างพวกฟลุคกำลังจะตอบ อยู่ ๆก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาหากวีด้วยท่าทีดีใจ แถมยังสวมกอดแขนของกวีอย่างแนบแน่นอีกต่างหาก
“เธอ.....”กวีมองไปทางหญิงสาวคนนั้นด้วยท่าทีตกใจเล็กน้อย จะว่าไปกวีไม่ได้ถามชื่อเธอเลยนี่นา แต่ถึงจะไม่ถามกวีก็จำเธอได้แน่ ๆเพราะเธอคือหนึ่งในหญิงสาวที่หัวหน้าแก๊งดาวแดงเรียกมาบริการกวีก่อนหน้านี้นั่นเอง ท่าทางพอแก๊งดาวแดงโดนไล่ออกจากเมืองการ์กันก็คงย้ายมาที่นี่กระมัง
“ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอพี่แบบนี้ ไหน ๆแล้วก็ไปเดินเที่ยวกับพวกเราก็ได้นะคะ”หญิงสาวคนนั้นว่าพลางส่งเสียงอ้อนด้วยท่าทีน่ารักน่าเอ็นดู โชคดีนะที่ไอช่าพาพวกมีนออกไปแล้วไม่อย่างนั้นกวีได้โดนไอช่ามองด้วยสายตาเย็นชาแน่ ๆ
“ไม่ได้หรอก ผมต้องพาเพื่อนไปดูของในตลาด เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน”กวีตอบพลางยิ้มเจื่อน ๆออกมา
“คิก ๆคราวหน้าสินะคะ งั้นพวกเราเพิ่มเพื่อนกันไว้เถอะค่ะ”หญิงสาวคนนั้นว่าพลางส่งข้อความขอเป็นเพื่อนมาให้ ตอนนี้นี่เองที่กวีได้ทราบว่าเธอชื่อ น้ำหวาน
“เจ พวกเราไปกันเถอะ”ระหว่างกวีกำลังเพิ่มเพื่อนกับน้ำหวานอยู่นั้น อยู่ ๆมายด์ที่อยู่ด้านหลังก็เดินเข้าไปหาเจด้วยท่าทีไม่สบายใจนัก เธอสะกิดเจถี่ ๆก่อนจะขอให้เจออกไปกับเธอได้แล้ว
“เอางั้นเหรอ..”เจมองไปทางกวีด้วยท่าทีลังเล ตอนนี้กวีกำลังคุยกับคนรู้จัก?อยู่ จะเข้าไปบอกดีหรือเปล่าว่าตัวเองจะไปเดินดูของกับมายด์แล้ว
“ไปเถอะ มายด์อยากไปเดินเล่นกับเจนี่นา”มายด์ว่าพลางดึงแขนเจออกไปทำให้เจได้แต่ตามไปอย่างช่วยไม่ได้ เพียงแต่ระหว่างจะเดินออกไปนั้น
“........มายด์นี่นา”อยู่ ๆน้ำหวานก็เอ่ยปากเรียกชื่อมายด์ขึ้นมาเสียเฉย ๆ แต่น่าเสียดายที่มายด์ลากเจออกไปไกลแล้วเลยไม่ได้ยินที่น้ำหวานพูด
“รู้จักงั้นเหรอ”กวีถามด้วยท่าทีประหลาดใจ ไม่นึกว่าน้ำหวานจะรู้จักกับมายด์ด้วย
“ค่ะ....เคยทำงานด้วยกันในเกมก่อน”น้ำหวานพยักหน้าก่อนจะเอียงคอสงสัย ตอนนี้มายด์อยู่กับกวีงั้นเหรอ
“เบส พวกคุณไปเลือกซื้อของกันก่อนก็แล้วกัน ผมขอไปเดินเที่ยวกับน้องคนนี้สักครู่”กวีว่าพลางบอกกับเบสด้วยท่าทีจริงจัง
“อะ.....โอเค”เบสพยักหน้าช้า ๆก่อนจะเดินถอยออกไป ส่วนพวกหลิวกับฟลุคต่างก็มองมาทางกวีด้วยท่าทีอิจฉานิดหน่อย อยู่ ๆก็มีสาวสวยมาเดินเล่นด้วยกันแบบนี้ไม่อิจฉาได้ไง
“งั้นฉันไปก่อนแล้วกัน เจอกันหลังเสร็จธุระ”เมฆเห็นกวีจะไปกับน้ำหวานก็ไม่คิดจะขัดขวางอะไร ตอนนี้เมฆเองก็ต้องเปลี่ยนไอเทมเช่นกันก็เลยขอตัวออกไปก่อน
“งั้นเราไปกันเถอะ ผมมีเรื่องอยากจะถามน้ำหวานนิดหน่อย”กวียิ้มบาง ๆออกมาก่อนจะพาน้ำหวานออกไปเดินเล่นด้วยกัน
.
.
“มายด์ เป็นอะไรไปงั้นเหรอ”เจถามพลางเดินตามมายด์ไปด้วยท่าทีสงสัย อยู่ ๆมายด์ก็เหมือนจะอ้อนเขามากขึ้น แถมก่อนหน้านี้ก็เหมือนมายด์จะไม่ค่อยพูดเลย
“เจ.....ก่อนหน้านี้เจช่วยมายด์เอาไว้สินะ”มายด์ว่าพลางหยุดเดินเอาไปชั่วขณะ เพราะก่อนหน้านี้มายด์ล้มจนทำให้เจต้องกลับเข้าไปช่วย สุดท้ายเจเลยโดนพวกทหารผีดิบจับตัวไป
“ก็ใช่....”เจตอบพลางเลิกคิ้วสงสัย หรือว่าที่มายด์ไม่พูดไม่จาเพราะรู้สึกผิดที่ทำให้เจเกือบตายงั้นเหรอ
“เจมาช่วยมายด์เอาไว้ก็เลยต้องโดนพวกนั้นจับไปแทน เจจะโกรธมายด์ก็ได้นะ”มายด์ว่าพลางส่งสายตาน่าสงสารมาทางเจ แบบนี้ยิ่งทำให้เจเข้าใจผิดไปใหญ่
“ไม่หรอก ผมตัดสินใจไปช่วยเอง แถมผมก็ไม่ตายด้วย จริงสิแบบนี้ต้องขอบคุณมายด์ด้วยซ้ำที่ทำให้ผมได้อาชีพดี ๆมา”เจว่าพลางยิ้มด้วยท่าทีไม่ถือสา แน่นอนต่อให้ตายเจก็ไม่คิดจะโกรธมายด์หรอก
“จริงนะ เจไม่โกรธมายด์จริงนะ”มายด์ถามพลางเดินเข้าไปจับมือเจเอาไว้
“จริงสิ”ทางฝ่ายเจโดนจับมือก็ยิ้มออกมาด้วยท่าทีเขิน ๆ
“ขอบใจนะ”มายด์ว่าพลางเดินเข้าไปกอดเจเอาไว้แน่นเล่นเอาใจไม่ทราบจะทำตัวอย่างไรเลย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเจเลยด้วยซ้ำที่ได้กอดผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว
.
.
“แล้ว...อยากถามอะไรเหรอคะ”เสียงของน้ำหวานดังขึ้นหลังจากกวีพาเธอมานั่งที่ร้านอาหารใจกลางเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แถมกวียังจงใจเลือกที่นั่งที่ค่อนข้างส่วนตัวอีกต่างหาก แทบไม่ต้องบอกเลยว่ากวีต้องการจะคุยอะไรเป็นการส่วนตัวกับน้ำหวานแน่ ๆ
“ก็...เรื่องของมายด์คนนั้นในมุมมองของเธอ”กวีตอบพลางยิ้มบาง ๆออกมา ดูเหมือนก่อนหน้านี้น้ำหวานจะบอกว่ามายด์เคยทำงานด้วยกันในเกมอื่น แต่น้ำหวานเนี่ย....
“จริง ๆก็ไม่ค่อยสนิทกันหรอกนะคะ แต่เธอมาทำงานกับพวกเราในเกมก่อนหน้านี้”น้ำหวานตอบออกมาเหมือนเดิม ดูท่ามายด์จะเคยเป็นเพื่อนร่วมงานของน้ำหวานมาก่อนจริง ๆ
“งานที่ว่าเนี่ย....”กวีถามออกไปเพื่อความมั่นใจถึงจะพอเดาได้อยู่แล้วก็เถอะ
“ก็....งานที่ว่านั่นล่ะ”น้ำหวานหัวเราะก่อนจะยิ้มออกมาด้วยท่าทีมีเลศนัย แบบนี้ก็ไม่ต้องถามซ้ำแล้วว่างานแบบอะไร
“แต่เธอโชคดีนิดหน่อย ดูเหมือนทำงานได้ไม่นานก็มีลูกค้าคนหนึ่งถูกใจมากจนเอาเธอไปเป็นแฟน แล้วคอยเลี้ยงดูอย่างดี เธอก็เลยออกจากร้านไป แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้ถึงไปอยู่กับผู้ชายคนนั้นได้นะ”น้ำหวานว่าพลางถอนหายใจออกมา เจอผู้ชายดี ๆก็ดีแล้วแท้ ๆ
“เรื่องนั้น...ช่วยเล่าให้ละเอียดหน่อยได้หรือเปล่า”กวีถามพลางขมวดคิ้วด้วยท่าทีสงสัย หากที่น้ำหวานพูดเป็นเรื่องจริง งั้นเจก็อาจจะเป็นชู้เขาอยู่งั้นเหรอ?