ตอนที่ 46 สงครามโบเมาท์ (คนเก็บศพ)
ตอนที่ 46 สงครามโบเมาท์ (คนเก็บศพ)
ดอนคิดอยู่สักพักก็กล่าวตอบไป “แค่วิญญาณ”
หลังจากนั้นเขาก็แบกร่างของเกสเพนสท์ตาแดงและวิ่งหายไปในความมืดทันที
เคนก็ลอยตามดอนไป
ตอนแรกยังไม่มีใครสังเกตุเห็นเคนอย่างชัดเจน พวกเขาคิดว่านั้นคือผู้ใช้พลังงานฝึกหัอีกคน
แต่เมื่อดูดี ๆ ร่างของเคนนั้นดูเหมือนจะลอยอยู่ และโปร่งแสงมองทุลุอกฝั่งนึงได้พวกเขาก็ขุนลุกทันที
“ผี...ผี” คนธรรมดาที่อยู่ด้านหลังนั้นดูจะกลัวเป็นอย่างมาก วิ่งแหกปากหนีออกไปด้วยความกลัวทันที คนอื่น ๆ ก็มองอย่างกลัว ๆ เช่นกัน แต่กลับผู้ใช้พลังงานฝึกหัดที่เป็นหัวหน้าหน่วยแล้วเขาแค่ตกใจเท่านั้น
วิญญาณหรือผีสำหรับจอมอาคมนั้นไม่ได้น่ากลัว ถึงแม้มันจะหายากและมีให้เห็นได้น้อยแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มี
จอมอาคมมีหลายวิธีในการจับวิญญาณ
และกาเรนก็เชื่อว่าดอนไม่ใช่วิญญาณ เพราะเขาใช้คาถาหอกดิน และกำแพงผู้พิทักษ์ ตัวเขาเองก็ใช้ได้แต่พลังทำลายของมันไม่ไไกล้เครียงกับของดอนเลยเเม้แต่น้อ
จะมีก็แค่วิญญาณที่ตามหลังเขาเท่านั้น ดูเหมือนมันตั้งใจจะปรากฏตัวให้เขาเห็น
ไม่แปลกที่กาเรนคิดแบบนั้นเพราะวิญญาณส่วนใหญ่
หลังจากมองทางที่ดอนหายไปอยู่สักพัก เขาก็หันไปกล่าวกับกลุ่มคนที่อยู่ด้านหลัง
“รีบไป! ที่ยอดเขาก่อน”
……………………………………………………………
หลังจากที่แบกศพเกสเพนสท์พ้นระยะสายตาไม่มีใครเห็นแล้วดอนก็ให้ลูกบาศก์วิญญาณย่อยสลายทันที
“ตรวจสอบโลกลูกบาสวิญญาณ”
[เริ่มการวิเคราะห์โลกลูกบาศก์วิญญาณ…..
พื้นที่ : 1 ตารางกิโลเมตร
พืช : 51
สัตว์ : 1
“หมูป่าเขี้ยวเหล็ก เพศผู้”
มนุษย์ : 0
พลังงานวิญญาณทั้งหมด : 20,541
พลังงานวิญญาณที่สร้างต่อวัน : 0
พลังงานวิญญาณที่ใช้ต่อวัน : 400/253
เจตจำนง
โกรธ : เคน
“วิญญาณ : ขั้น 2 (ผู้ใช้พลัง)”
“พลังจิต : 50 หน่วย”
“ความสามารถติดตัว : ความโกรธของจิตใจ 1(0%), วิญญาณคุ้มคลั่ง 5 (2%)”
]
ตอนนี้พลังงานในลูกบาศก์วิญญาณมีอยู่ 20,541 หน่วยซึ่งได้มาจากตอนที่เขาในผลึกพลังงานไป 3000 ก่อนตอนปรับปรุงรูนศิลาทมิฬ หักจากที่ใช้พลังงานในแต่ละวันที่ผ่านมาอีก จนถึงตอนนี้ และ ที่เหลืออีก 10,000 หน่วยจากผลึกพลังงาน 10,000 ที่ใช้ข้ามผ่านระดับ
จึงมีพลังงาน 18,500 หน่วย และรวมกับ พลังงานที่ได้จากศพของเกสเพนสท์วันนี้อีก 2,041 เฉลี่ยนเกสเพนสท์ตาขาว 1 ตัวให้พลังงานราว ๆ 18 หน่วย เขาย่อยเกสเพนสท์ตาขาวไป 100 กว่าตัวและศพเกสเพนสท์ตาแดงที่ได้มาเมื่อกี้ก็ให้พลังงานไป 100 กว่าหน่วย
นั้นหมายความว่าเกสเพนสท์ตาแดงมีพลังที่มากกว่าพวกตาสีขาวเกือบ 5 เท่าเลยที่เดียว
ในระหว่างทางดอนก็ตามเก็บร่างของเกสเพนสท์ไปจนหมดไม่ให้หลงเหลือแม้แต่ตัวเดียว
จนตัวเขาห่างจากสนามรบแค่ 15 กิโลเมตรเท่านั้น ก็มีพลังงานรวมในโลกลูกบาศก์วิญญาณถึง 25,560 ท้องฟ้าเริ่มที่จะสว่างแล้ว ก็กลับไปที่ค่ายยอดเบาโบเมาท์ ก่อนที่พวกแนวหน้าจะกลับ
เนื่องจากพวกเกสเพนสท์จะต้องจำศีลหลับและหลบอยู่ในที่มืดในช่วงกลางวัน คุณคือจุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของพวกมัน ณ ตอนนี้ที่ทางสหพันธ์ค้นพบ
นั้นทำให้ตอนนี้พวกเขามีเวลาได้พัก ดอนกลับมาถึงก็เห็นนักรบแล ะ อัศวินจำนวนมาก ที่บาดเจ็บและร่างของคนตายจำนวนมากถูกลำเลียงขึ้นมาของมีค่าบางส่วนหายไปจากศพ ซึ่งก็คงไม่ต้องบอกที่ว่าคนตายไม่จำเป็นต้องใช้เงิน แต่มันก็เป็นแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้นเพราะคนส่วนใหญ่ก็ยังเครพต่อคนตาย
นักรบที่บาดเจ็บร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด จากบาดแผลซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแผลจากกรงเล็บและการสูญเสียอวัยวะ
“จะต้านพวกมันได้สักกี่วันกัน นี่เป็นแค่กองทัพที่ลอบมาโจมตี แค่ ไม่กี่หมื่นตัวเท่านั้น กองทัพหลักเกสเพนสท์จะมาถึงในคืนนี้ คงมีคนล้มตายมากกว่านี้เป็นแน่” ดอนมองไปรอบข้างที่มีแต่คนเจ็บและศพคนตาย
ดอนเปลี่ยนชุดกลับมาเป็นชุดของผู้ใช้พลังงานฝึกหัด และมีเหรียญรูปหอคอยจอมอาคมเอราธาเมียจำนวน 2 เหรียญติดอยู่ที่เสื้อคุมสีเทา
เนื่องจากเขาพึ่งเลื่อนเป็นผู้ควบคุมได้แค่ 1 วันเท่านั้น จึงยังไม่ไปรายงานตัวเพื่อขอรับเหรียญเงินอีก 1 เหรียญเพื่อแสดงว่าเขาเลื่อนเป็นผู้ควบคุมแล้ว แต่ดอนก็คิดที่จะไม่ไปรายงานอยู่แล้วเพราะว่าการเลือนระดับของเขาเร็วไปนั้นเอง
ใช้เวลาแค่ 3 เดือนก็เลื่อนเป็นผู้ใช้พลัง นี่แค่ผ่านมาอีก 3 เดือนกว่า ๆ ก็เลื่อนเป็นผู้ควบคุม อีกทั้งยังเป็นนักปรุงยาที่ปรุงผงห้ามเลือดได้อีกถึงแม้ยาผงห้ามเลือดจะไม่ใช่ยาระดับสูงแต่มันก็ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนแล้วเขาไปเอาเวลาที่ไหนมาฝึกกัน ถ้าคนอื่นรู้ว่าเขาคือเจ้าของยาโลกวิญญาณจะต้องตกใจมากแค่ไหน
สรุปแล้วตอนนี้ดอนเริ่มที่จะทำตัวเด่นเกินไป เขาต้องระวังให้มากกว่านี้
ขณะที่ดอนกำลังเดินกลับไปที่พักก็มีอัศวินเขามาเรียกเขา “ท่านคือ ท่านดอน ใช่หรือไม่ ?”
“ใช่! มีอะไร?” ดอนหันไปมองอัศวินขั้น 2 ที่มีพลังเทียบเท่ากันผู้ควบคุม
“ท่านไนเรลต้องการพบท่านขอรับ”
“อาจารย์ไนเรลต้องการพบข้า”
“ใช่ ขอรับ”
“นำทางด้วย” ดอนกล่าวพร้อมกับเดินตามอัศวินคนนั้นไป ในระหว่างทางเขาก็คิดว่าทำไมอาจารย์ไนเรลถึงต้องการพบเขากัน
เดินเข้ามาภายในวิหารเก่าและจากนั้นก็เดินเข้าไปภายในห้อง ไนเรลกำลังรอเขาอยู่แล้ว
“สวัสดี ท่านอาจารไนเรล ท่านต้องการพบ?” ดอนทักทายด้วยความสุภาพ
ไนเรลมองไปดอนอย่างแปลกใจ ‘เขาเลื่อนไปเป็นผู้ควบคุมแล้ว’
แต่เมื่อคิดว่าอีวาน ริสโตเป็นอาจารย์ของดอนก็คงจะมียาหรือของบางสิ่งที่ช่วยให้ดอนเลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็ว
ไนเรลตัดความคิดที่ว่าดอนเลือนระดับได้ด้วยตนเองทิ้งไปทันที เพราะแม้แต่ศิษประจำตัวของเขา ริลิธยังไม่เลื่อนระดับเป็นผู้คุมเลย
“เจ้าเป็นคนปรุงยาผงห้ามเลือด ที่ส่งมาให้กับกองคลังของกองกำลังใช่เหรอไม่” ไนเรลกล่าวพร้อมกลับยืนใบรายงานภารกิจให้ดอนดู
“ใช่ ข้าปรุงทั้งหมดเอง” ดอนพยักหน้าตอบ และคิดในใจด้วยความสงสัย ‘ถ้าเรื่องแค่นี้ทำไมต้องเรียกข้ามาพบหรือว่าข้าส่งยาผงห้ามเลือดไม่พอกัน’
“เจ้าสามารถส่งมันเพิ่มมากกว่านี้อีกเท่าตัวได้หรือไม่”
‘นั้นไง ข้าส่งให้ไม่พอจริง ๆ ด้วย’ ดอนได้แต่คิด ก็จริงที่ผ่านมาเขาก็ส่งแค่พอในภารกิจเท่านั้นเพราะเขาเอาเวลาส่วนใหญ่ไปปรุงยาสูตรปรับปรุงทั้ง ผงห้ามเลือดและ ยาผสานกระดูก จากนั้นก็ขายในนามโลกวิญญาณของเขา
“ได้” เขาตอบตกลงอย่างมั่นใจ
“อืมเจ้าไปได้เเล้ว” ไนเรลกล่าว
หลังจากที่ดอนกลับไปแล้วไนเรลก็ได้แต่คิด ดอนมีความเร็วในการปรุงยามากแค่ไหน อันที่จริงแล้วตัวของไนเรลสามารถปรุงยาผงห้ามเลือดถ้าใช้เวลาทั้งวันก็ประมาน 150 ขวดได้ แต่นี่หมายถึงทั้งวันและเขาเป็นถึงนักปรุงยา ขั้นกลางแล้ว
ถ้าเป็นผู้ช่วยนักปรุงยาปกติจะปรุงยาผงห้ามเลือดได้วันละประมาน 30 ขวด ถ้าอ้างอิงข้อมูลจากสมาคมเล่นแร่แปรธาตุ
แต่ที่ดอนส่งมาในภารกิจทุกวันนั้น ไม่ต่ำกว่า 50 ขวด นั้นหมายความว่าเขามีความแม่นยำและอัตราความสำเร็จในการปรุงยามากกว่าผู้ช่วยนักปรุงยาเกือบเท่าตัว
ตอนแรกไนเรลแค่ต้องการจะลองดูว่าอัตราในความสำเร็จในการปรุงยาผงห้ามเลือดของดอนจะมากนี้หรือไม่
เขาเลยลองถามดู ตอนแรกเขาคิดว่าดอนจะขอส่งเพิ่มแค่ 5-10 แต่ดูเหมือนเขาคิดผิดดอนรับปากเขาว่าจะส่งเพิ่มอีกเท่าตัวซะอย่างนั้น
‘ตาเฒ่าอีวาน ไปเจอเด็กประหลาดแบบนี้ได้อย่างไร?’ ไนเรลได้แต่คิดแล้วก็อิจฉา ถึงริลิธจะมีมีพรสวรรค์ในการปรุงยาที่สูงแต่เมื่อเทียบกับดอนแล้วมันต่างกันคนระเรื่องเลย “ตัวประหลาดมักอยู่กับตัวประหลาด”
……………………………………………………………………………
หลักจากแยกตัวออกมาเขาก็รับวัตถุดิบปรุงยาผงห้ามเลือดและขวดยามา
จากนั้นก็ใช้แต้มสงครามบางส่วนแลกวัตถุดิบปรุงยาผงห้ามเลือดและยาผสานกระดูกมาเป็จำนวนมาก
จนแถบจะใส่วัตถุดิบทั้งหมดลงกระเป๋าจอมอาคมของเขาไม่ได้
หลังจากนั้นเขาก็แลกหนังสือคาถาสนามโน้มถ่วงและเสียงของพื้นดิน มาอีกสองคาถาเนื่องจากเขาเห็นกาเรนใช้ จึงเกิดความสนใจ
และซื้อความรู้เรื่องแรงโน้มถ่วงและความรู้เกี่ยวกับจิตวิญญาณแห่งผืนดิน
“น่าจะพอให้ข้าฝึกฝนไปอีกสักพัก”
ตอนนี้เขามีแต้มสงครามเหลืออยู่อีก 1500 หน่วยเท่านั้นจาก 2000 แต้มสงคราม
“เฮ้อ” ดอนได้แต่ถอนหายใจออกมา “การที่จะเก็บเงินเพื่อซ้อบางอย่างมันอยากจริง ๆ” เขามองไปที่เทคนิคการฝึกฝนพลังจิต ระดับ ปฐพี ที่ต้องใช้แต้มแรกถึง 5000 แต้มสงคราม
ทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นออร์คัสที่เดินมารายงานภารกิจที่ต่อสู้ ผู้ใช้พลังงานฝึกหัดที่อยู่รอบด้านหลีกทางให้ทันที แต้มของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากมันเกิน 5000 แต้มไปแล้ว
‘เหลือเชื่อชายคนนี้ต้องฆ่าเกสเพนสท์ไปเท่าไหร่?’
หลังจากมองอย่างอิจฉาไปที่แต้มของออร์คัสอยู่สักพักเขาก็เดินออกมา
ที่ด้านหน้าของวิหารมีกลุ่มคนที่พูดกันอย่างดุเดือดอยู่
“เจ้าเห็นไหมข้าบอกแล้วว่าศพพวกมันในรัศมี 15 กิโลเมตรรอบวิหารเก่าหายไปทั้งหมด”
“ไม่ใช่ว่ามีใครมาเก็บพวกมันไปหรืออาจจะเป้พวกมันเอก็ได้ที่เก็บศพกับไป”
“เป็นไปไม่ได้ เพราะแนวรบถูกพักออกไปไกลถึง 30 กิโลเมตรแล้วไม่มีทางที่พวกมันจะแอบเข้ามาเก็บศพทั้งหมดไปได้แน่นอน”
“ข้าว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรแปลก ๆ แล้ว”
“ใช่ ๆ”
“หรือว่าพวกพ่อครัวจะเอามันมาปรุงอาหารให้พวกเรากิน”
ทันทีที่ชายคนนั้นพูดก็โดนรุมยำทันที จนเขาร้องขอยาผงห้ามเลือดของท่านโลกวิญญาณทันที เพื่อรักษาแผล ทำให้โดนรุมไปอีกรอบ เนื่องจากเขาขอยาที่แม้แต่พวกมันก็ยังไม่มีปัญญาซื้อ
ดอนฟังอยู่ด้านข้างก็คิดว่าเขาคงจะเก็บศพพวกมันมากเกินไป น่าจะเหลือไว้ให้พวกนี้เก็บไปบ้าง ไม่งั้นอาจจะโดนรุมยำแบบชายคนนั้น
หลังจากนั้นก็มีข่าวลือว่ามีหนึ่งคนหนึ่งวิญญาณ เป็นคนเอาศพของเกสเพนสท์ไป และได้ตั้งฉายาให้ว่า “คนเก็บศพ”
………………………………………………………..
หลังจากที่ดอนกลับมาถึงเขาก็เริ่มปรุงยาผงห้ามเลือดทันที 100 ขวดใช้เวลาไปถึง 5 ชั่วโมง มันก็เป็นเวลาเกือบบ่าย 2 แล้ว
ซิเรียที่ออกไปหาอะไรมาให้ดอนกิน จากนั้นเขาก็ฝากให้ซิเรียเอายาไปส่งที่กองคลังและเขาก็เตรียมเข้านอนทันที
ดอนตื่นขึ้นมาอีกที่ก็ตอนเย็น เขารู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก อันที่จริงเมื่อมาถึงขั้นควบคุมแล้ว เขาไม่ต้องนอนมาก ถึง 6 ชั่วโมงก็ได้แต่ดอนอยากจะพักผ่อนให้ได้มากที่สุด เพราะเขาไม่รู้ว่าจะมีเหตุการอะไรเกิดขึ้นบ้างบางที่เขาอาจจะไม่ได้นอนอีกหลายวัน
ดอนเข้ามาในโลกลูกบาศก์วิญญาณก็ต้องตกใจเพราะในนี้มันเละเทะเป็นอย่างมาก ต้นไม้ผลไม้ของเขาดูกระจัดกระจายไปทั่ว
“เคน เกิดอะไรขึ้น ใครมากินเเอปเปิ้ลของข้า...” ดอนถึงกลับตระโกนเรีกทันที
“นายท่าน” เคนลอยมาด้วยความเคารพจากนั้นก็ชี้ไปที่หลุมฝึกซ้อมของเขา “ท่านลืมหมูที่เอาเข้ามาแล้วหรือมันกินผลแอปเปิ้ลของท่านไปทั้งหมดตอนนี้มันนอนอยู่ตรงนั้น”
“แล้วทำไมเจ้าไม่หยุดมัน?” ดอนกล่าวด้วยความโมโห
เคน ทำท่ากระตุกกระตักแต่เขาก็บอกดอนไป “ข้าเป็นแค่วิญญาณ ขั้น 2 เท่ากับมัน ถึงข้าจะสู้กลับมันได้แต่มันวิ่งเร็วเป็นอย่างมากข้าเลยจับมันไม่ทัน อีกอย่างมันเป็นวิญญาณที่ท่านนำเข้ามาขอเลยไม่ได้ทำอะไรรุนเเรง”
ดอนเดินไปที่ปากหลุมก็เห็นหมูป่าเขี้ยวเหล็กนอนหลับอย่างสบายใจอยู่แบบนั้นเขาเพียงแค่ไม่ได้เข้ามาเก็บผลแอปเปิ้ลแค่วันเดียว ก็โดนมันขโมยไปทั้งหมดแล้ว
“หน่อยแน่ไอ้หมูตอน!!!”
หมูเขี้ยวเหล็กที่ตอนนี้กำลังหลับอย่างสบายใจก็ถึงกลับสดุ่งทันที เมื่อมันเห็นดอน ก็จำได้ว่ามันคือมนุษย์ที่ทำลายมันจนสลบและมาโผล่อยู่ที่นี่ เปิดดูเหมือนว่ามันจะยังไม่รู้ว่าตัวเองตายไป
หมูป่าเขี้ยวเหล็กพุ่งชนดอนด้วยความโกรธและคิดว่า ‘เทพพระเจ้าหมูคงให้โอกาศมันในการแก้แค้นมนุษย์คนนี้อีกครั้งเป็นแน่แท้’