ตอนที่ 233-234
ตอนที่ 233 : รับชมไปพลางทานไปพลาง
“พี่เหว่ย สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?” เจียงเฉิงจวินเดินเข้าหาเหว่ยอี้พร้อมกล่าวถาม
ท่ามกลางคนกลุ่มนี้ มีแต่เหว่ยอี้ที่สนทนาด้วยดี
นั่นเป็นข้อสรุปที่เจียงเฉิงจวินได้รับจากการสังเกตท่าทีคนทั้งสามตลอดหลายวันที่ผ่านมา
แม้หลิวลู่อวี่งดงาม ทว่าเจียงเฉิงจวินทราบเบื้องลึกดี
โฉมงามนั้นเปรียบดังกุหลาบมีหนามแหลม
ดังนั้นอย่างยุ่งเกี่ยวด้วยจะดีที่สุด
นอกจากนี้หลิวลู่อวี่ยังมีตัวตนไม่ใช่ธรรมดา บุตรขุนนางเช่นเขาไม่ใช่อะไรที่จะเทียบเปรียบกับนางได้
เจียงเฉิงจวินทราบความจริงข้อนี้เป็นอย่างดี
ส่วนทางด้านตี้อู๋อู่หยิง...
ไม่พบเห็นคำ “คนแปลกหน้าอย่าเข้าใกล้” เขียนบนสีหน้าอีกฝ่ายงั้นหรือ?
“รอบแรกจบไปแล้ว ขณะนี้เป็นรอบที่สอง”
เหว่ยอี้หันมองทางเจียงเฉิงจวิน เป็นเขาหาได้สนใจว่าคุ้นเคยด้วยหรือไม่ แต่เพียงตอบกลับไปตามสมควร
“รอบแรกจบแล้ว? รวดเร็วเพียงนั้น?” เหว่ยอี้เผยดวงตาเบิกกว้าง
นี่เพิ่งผ่านมานานเท่าใดกัน?
ศึกของขอบเขตทดสอบเต๋าจบรวดเร็วเพียงนั้นเลยหรือ?
ข่าวลือว่าขอบเขตทดสอบเต๋าเปิดศึกต่อกันสมควรต้องใช้เวลาหนึ่งหรือสองวัน นั่นเป็นเรื่องโกหกอย่างนั้นหรือ?
ผ่านไปครู่เจียงเฉิงจวินจึงจมดิ่งในความสงสัยต่อประวัติศาสตร์ที่ตนเคยได้อ่านผ่านตามา...
“เจ้าคิดว่าศึกของขอบเขตทดสอบเต๋า จะเป็นเหมือนนิยายลวงโลกเหล่านั้นที่ต่อสู้กันหลายวันงั้นหรือ?” เหว่ยอี้ถามกลับ
เจียงเฉิงจวินเผยยิ้มขื่นยามนึกถึงสิ่งที่ตนกล่าวถามออกไป
“การต่อสู้ระหว่างขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่เก้า ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยสามารถส่งผลได้อย่างมหาศาล มันกระทั่งว่าสามารถนำไปสู่ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ในการศึกได้”
“ส่วนเนื้อหาในนิยายที่พบเห็น มันจะมีก็แต่กรณีที่เป็นไปอย่างเสมอกันโดยไม่เพลี่ยงพล้ำ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องยากเกิดขึ้นในความเป็นจริง” ตี้อู๋อู่หยิงพลันกล่าวคำออก
เจียงเฉิงจวินจึงพยักหน้ารับก่อนจะถามต่อ “อย่างนั้นแล้วขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
“องค์เหนือหัวกับผู้อาวุโสเซี่ย และผู้อาวุโสไห่เถิงนำอยู่ ส่วนผู้อาวุโสหยิงและผู้อาวุโสตี้อู๋เสมอกัน” เหว่ยอี้กล่าวออกพลางจับจ้องที่หน้าจออย่างไม่คิดคลาดสายตา
เจียงเฉิงจวินรับฟังด้วยอาการตระหนกตกใจ
ท่ามกลางผู้อาวุโสมากมาย มีสามคนที่เขาไม่รู้จัก
เขาต้องคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตระหนักได้ถึงนามเหล่านี้
“เหมือนว่าการศึกจะดุเดือดขึ้นแล้ว”
เจียงเฉิงจวินพยักหน้ารับ ขณะนี้ยังไม่คิดเล่นหอคอยแห่งการทดสอบ ที่กระทำคือรับชม
อย่างไรแล้วนี่ก็เป็นโอกาสอันดี ไม่เลวหากจะศึกษา
หอคอยแห่งการทดสอบเล่นเมื่อใดก็ได้ ทว่าโอกาสได้รับชมศึกเช่นนี้หากพลาดแล้วคงยากที่จะได้พบเห็นอีก
นอกจากนี้ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปพลางรับชมก็ถือเป็นการเปิดประสบการณ์อันดี เจียงเฉิงจวินจึงตัดสินใจทำเช่นนี้
เมื่อคนทั้งสามพบเห็นเจียงเฉิงจวินทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แท่งเครื่องเทศ และโคล่าต่างก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย
น้ำพุวิญญาณต้นกำเนิด!
น้ำพุแห่งชีวิต!
ช่างเป็นของกินที่สิ้นเปลืองนัก!
นับเป็นโชคร้าย ที่ร้านต้นตำรับมีกฎว่าห้ามซื้อขายสินค้าที่ซื้อจากร้าน
ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงร้องขอซื้อสิ่งของในมือเจียงเฉิงจวินเป็นแน่...
รอคอยไม่นานสองพี่น้องตระกูลปู้จึงมาถึงร้านเหมือนดังทุกวัน
“หือ? ทำอะไรอยู่กัน? ไฉนไม่เข้าไปเล่นหอคอยแห่งการทดสอบ?” ปู้ฉืออีกล่าวถามขึ้น
“รับชมทางนี้ คณะผู้อาวุโสกำลังต่อสู้กันเองในโหมดอารีน่า รับชมตอนนี้ก่อนจะสายเกินอดรับชม!” เหว่ยอี้กล่าวเร่ง
“ว่าอะไร? ถึงกับมีเรื่องเช่นนี้ด้วย?!” ปู้หลี่เกื๋อรับคำด้วยอาการตื่นตระหนก
ตอนที่ 234 : สิ้นสุดการแข่งขัน
ปู้หลี่เกื๋อและปู้ฉืออีร่วมรับชมการศึกร้อนแรงผ่านทางหน้าจอแสดงผล ขณะนี้เสียงอุทานร้องเบาเผยออกครั้งแล้วครั้งเล่า
ขณะเวลาไหลผ่าน ร้านต้นตำรับก็ยิ่งมีลูกค้ามาต่อเนื่อง
กลุ่มคนเมื่อได้ทราบว่ามีการแข่งขัน พวกเขาจึงเข้าร่วมยืนรับชมกันไม่ไปไหน
……
ที่ด้านหลังของจี้อู๋ฮุย ขณะนี้ปรากฏร่างจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สูงนับร้อยเมตร ร่างนั้นสับฟันดาบลงมา
ประกายแสงดาบเย็นเยือกวาบผ่าน โลกหล้าทั้งใบคล้ายถูกแบ่งออกเป็นสอง!
และคู่ต่อสู้ขณะนี้ก็คือหยิงอู๋จี้ที่สีหน้าเคร่งเครียด
ร่างเงานับไม่ถ้วนปรากฏในฟากฟ้า ภายใต้กำลังอันรุนแรง ห้วงมิติถึงกับต้องแตกสลายออกอย่างต่อเนื่อง
ภาพฉากอันยิ่งใหญ่คงอยู่ได้เพียงไม่กี่ชั่วลมหายใจก่อนจะเลือนหาย
“ยอมรับเสีย” จี้อู๋ฮุยสลายร่างจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะปาดเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก
อีกด้านหนึ่ง หยิงอู๋จี้ที่อยู่กลางอากาศได้ถอนหายใจออกเสียงเบา “ร่างจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิแห่งเทียนชิงสมคำร่ำลือยิ่งนัก”
สิ้นเสียงร่างนั้นจึงแตกออก
จี้อู๋ฮุยรับชมภาพฉากพร้อมเผยท่าทีเคร่งเครียดผ่านสายตา
ในการศึกเมื่อครู่ จี้อู๋ฮุยชนะมาได้เฉียดฉิวเพราะพลังแห่งโชคประทาน
ทว่ามันก็ต้องแลกมาด้วยอาการบาดเจ็บอันสาหัส
หากเป็นโลกจริง อาการบาดเจ็บของเขาอาจส่งผลกระทบต่อรากฐาน มันอาจถึงขั้นชั่วชีวิตนี้ไม่อาจก้าวหน้าได้อีก!
ถัดจากนั้นจี้อู๋ฮุยจึงเผยยิ้มผ่านใบหน้า
ไม่ว่าอย่างไรศึกนี้เขาก็ชนะแล้ว
ถัดจากนั้นร่างของเขาจึงเลือนหายเพราะถอนตัวออกจากหอคอยแห่งการทดสอบ
ศึกระหว่างจี้อู๋ฮุยและหยิงอู๋จี้ถือเป็นคู่สุดท้าย
บุคคลที่เหลืออีกหกต่างจบการต่อสู้กันไปก่อน
จี้อู๋ฮุยต้องสูดลมหายใจเข้าลึก
ศึกต่อเนื่องเช่นนี้ ต่อให้เป็นโลกเสมือนแต่ก็ต้องใช้สมาธิอย่างมหาศาล
ภายในของเขาขณะนี้รู้สึกเหนื่อยล้าอ่อนแรง
แน่นอนว่าผู้อื่นที่เหลืออีกเจ็ดก็ไม่ได้ดีกว่ากันเท่าใดนัก
“การต่อสู้จบลงแล้ว ให้ข้าประกาศผลเอง”
ลั่วฉวนที่ไม่ทราบว่าเข้ามาในร้านตั้งแต่เมื่อใดได้เผยคำกล่าวดังขึ้น
เซี่ยหยวนเผยยิ้มพร้อมกล่าวออก “เถ้าแก่ ไม่ทราบว่าผู้ใดในพวกเรามีแต้มสูงสุดหรือ?”
กลุ่มคนต่างมองมาด้วยสายตาใคร่สงสัย
กระทั่งหยิงอู๋จี้และตี้อู๋ปาเต๋าที่เฉยชามาโดยตลอดยังต้องเผยอาการตื่นเต้น
“บุคคลที่มีแต้มสูงที่สุดก็คือ...” เสียงลั่วฉวนเงียบหายไปครู่ สายตากวาดมองคนทั้งแปดทีละคน
ยามเมื่อลั่วฉวนกวาดสายตามองผ่าน ร่างของพวกเขาต่างอดไม่ได้ที่จะเกิดอาการเกร็งขึ้นมา
นับเป็นโชคดีที่ลั่วฉวนไม่ได้ทำอะไร ท้ายที่สุดเขาจึงหันความสนใจไปยังมู่หรงไห่เถิง “มู่หรงไห่เหิง”
มู่หรงไห่เถิงเผยยิ้มพร้อมสีหน้าไม่คาดคิด
ผู้อื่นก็เป็นเช่นเดียวกัน
เห็นได้ชัดว่าผลลัพธ์นี้คาดการณ์ได้นานแล้ว
เพราะตลอดช่วงการรับศึก ทุกคนต่างได้สู้กันเวียนจนครบ
พวกเขาทราบดีถึงความร้ายกาจของคันธนูและลูกศรของมู่หรงไห่เถิง
ด้วยอาศัยการโจมตีระยะไกล นางสามารถเล่นงานคู่ต่อสู้ให้อ่อนแรงทีละน้อยได้
ขณะเดียวกันนางยังมีบัพที่ราวกับเป็นข้อผิดพลาดของระบบอย่างคำสาปแห่งรัตติกาลทมิฬ!
ทักษะนี้ได้รับในโหมดทั่วไป มันสามารถใช้งานในโลกจริง และรวมถึงโหมดอารีน่า!
เพราะความสามารถคำสาปแห่งรัตติกาลทมิฬ มันส่งผลให้คนทั้งเจ็ดต้องแบกรับความเจ็บปวดหนักหนา
อ่อนแรงลงแม้เพียงนิด มันส่งผลกระทบต่อภาพรวมอย่างมหาศาล
และยิ่งเป็นการเผชิญหน้าที่ไม่อาจเพลี่ยงพล้ำแม้แต่น้อย ความแตกต่างจึงกลายเป็นกว้างใหญ่ไพศาล!
“ขอบคุณเถ้าแก่” มู่หรงไห่เถิงยิ้มรับ
“ขอแสดงความยินดีแก่สหายเต๋ามู่หรงไห่เถิงด้วยแล้ว” ทุกคนต่างเผยยิ้มกล่าวคำแสดงความยินดี
ด้วยเพราะความสามารถหาได้ดีทัดเทียมผู้อื่น เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรให้ต้องไม่พอใจไป
“อาจารย์ไห่เถิงเก่งกาจเกินไปแล้ว!” ดวงตาของกู่หยุนซีแทบจะเผยประกายแสงดาวออก