ตอนที่ 21 Crown Game
“นายมีเวลาสักครู่ไหม”
“แน่นอนกัปตัน”
คิมโดคยอนตอบทันที ดวงตาของเขาเหลือบมองขวานในมืออูฮยอค
“การเคลื่อนไหวของนายดีขึ้นนะ”
“ใช่ พวกนี้เก่งเอาเรื่องเลยทีเดียว ...”
อูฮยอค คือคนเดียวในค่ายที่ใส่เดี่ยวกับมิโนทอร์ได้ ในขณะที่ ลี แจซอง ถึงแม้เขาจะค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่สิ่งที่เขาทำได้มีแค่การพยายามตั้งรับเท่านั้น
“ทุกคนล้วนมีขีดจำกัด แต่มีเฉพาะคนที่ทะลวงขีดจำกัดของตัวเองได้เท่านั้น ถึงจะเอาชีวิตรอดในที่แห่งนี้ได้ ”
40 ปีที่ผ่านมา การเดินทางของอูฮยอคนั้นช่างห่างไกลจากความปลอดภัย เมื่อใดที่เขารู้สึกพึงพอใจกับระดับความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว เมื่อนั้นความท้าทายใหม่จะปรากฏขึ้นและฉุดเขาลงสู้ห้วงแห่งความสิ้นหวัง ทุกวันเป็นดั่งฝันร้าย ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ยอมแพ้ จิตใจที่เชื่อมั่น ไม่ย้อท้อ ทำให้เขาก้าวข้ามได้ทุกอุปสรรคได้เสมอ
“ยกอาวุธขึ้นมาซะ ฉันจะทดสอบนาย”
“ได้เลย”
คิมโดคยอนตอบรับอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขายืนขึ้นและกระชับขวานในมือ
การจะรู้จักทักษะของอีกฝ่ายมากขึ้น มีแต่ต้องสู้เท่านั้น
อูฮยอคใช้เวลาหลายปีในสนามรบ เขาสามารถมองทะลุตัวตนของคนได้อย่างรวดเร็ว
วูฮยอคนึกย้อนไปถึงคำพูดของลอร์ดที่เขาเคยดวลด้วยในอดีต
“ฉันจะตอบคำถามของนายด้วยดาบ”
เมื่อนึกถึงคำพูดเหล่านั้นเขาทำได้เพียงแค่ถอนหายใจอย่างเห็นด้วย ไม่มีใครใส่ใจกับคำพูดที่ไร้ความหมาย ความฉลาดไม่ช่วยอะไรหากปราศจากพลัง
' การกระทำทรงพลังกว่าคำพูด '
ไม่ว่าคุณจะระมัดระวังในการพูดอย่างไรในที่สุดธรรมชาติที่แท้จริงของคน ๆ หนึ่งก็จะถูกเปิดเผยโดยการกระทำ ยิ่งอันตรายมากเท่าไหร่ ตัวตนของคนๆนั้นก็จะยิ่งชัดเจน
Swooosh!
ขณะที่อูฮยอคเหวี่ยงขวาน เขาก็ได้เปิดใช้ทักษะภาพหลอนทันที ดวงตาของคิม เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ จากขวานมายาเหล่านั้น
เปรี้ยงงง!
คิม พยายามอย่างเต็มที่ในการรับขวานนี้ ในขณะเดียวกันเขารู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่าที่แผ่ออกมาอย่างรุนแรงจากปลายขวาน
'... กลัว'
ร่างกายของเขาแข็งทื่อ ไม่สามารถขยับได้ และน้ำตาก็ใหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าคนอื่นกำลังจ้องมองอยู่
' นี่คือพลังที่แท้จริง '
มันเป็นสิ่งที่เขาโหยหามานาน อูฮยอคกำลังทำสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าอูฮยอคเคยอยู่ที่นี่มาก่อน แต่เขาก็ยังอยู่คนละระดับกับพวกเรา
'ฉันต้องการให้เขายอมรับฉัน'
เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น เขาคิดเพียงแค่ว่าต้องการพิสูจน์คุณค่าของเขากับผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าเขาในตอนนี้เท่านั้น คิมกลอกตา และรวบรวมทุกสิ่งทุกอย่าง เขาสามารถป้องกันการโจมตีจากอูฮยอคได้หลายครั้ง
ทันทีที่เห็นช่องว่าง เขาพยายามโต้กลับอย่างรวดเร็ว
'เขามีจิตวิญญาณการต่อสู้ที่ดี'
อูฮยอคคิดกับตัวเองขณะที่เขาตรวจสอบนักสู้ตรงหน้า แม้ว่าจะมีอารมณ์ร้อนแรง แต่เขาก็ไม่ได้อ่อนแอ
การต่อสู้แบบป่าเถื่อน บางทีสิ่งที่เขาทำอาจเป็นการตอบโต้จากจิตใต้สำนึก
'ดูเหมือนเขาไม่เหมือนคนที่จะหักหลังฉันได้ง่ายๆ'
แม้ว่าจะยังต้องจับตาดูอีกซักระยะ แต่เขาก็ค่อนข้างมั่นใจกับการประเมินของตัวเอง
[สัญชาตญาณของราชา]
เป็นเรื่องยากที่เขาจะมองข้ามภัยคุกคามต่างๆ
"พอแล้ว."
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น คิม โดคยอนก็ทิ้งขวานลง เหงื่อไหลลงจากหน้าผากและเหนื่อยล้าอย่างที่สุด
“ในอนาคต นายเปลี่ยนมาใช้ขวานนี่ซะ อาวุธเก่าของนายมันแย่เกินไป”
"ขอบคุณมาก."
คิมโดคยอนรับขวานที่มอบให้เขาด้วยสีหน้าตกใจ นักผจญภัยบริเวณใกล้เคียงที่เฝ้าดูฉากนี้ ไม่สามารถระงับความอิฉฉาริษยาได้
“อะแฮ่ม…ทุกคน สนใจทางนี้หน่อย”
ในขณะที่ทุกคนเงียบ มา กวางพิล ก็ก้าวออกมาจากฝูงชน เขาถือการ์ดโทรโข่งสีแดงในมือ
“ฉันคิดว่าตอนนี้เราค่ายของเรากำลังขาดคน เนื่องจากเราเสียสมาชิกไปแล้วครึ่งหนึ่งของจำนวนเดิม ทำไมเราไม่ใช้โทรโข่งนี้เพื่อดึงดูดนักผจญภัยคนอื่นๆ”
ด้วยการใช้การ์ดโทรโข่งเราสามารถส่งข้อความไปยังนักผจญภัยทุกคนที่อยู่ในรัศมี 100 เมตร แต่นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด การ์ดเหล่านี้สามารถซ้อนทับได้ไม่สิ้นสุด เมื่อรวม 10 คนรัศมีจะกลายเป็น 1 กม.
นอกจากนี้ยังไม่มีข้อจำกัด เกี่ยวกับจำนวนเมกาโฟนที่สามารถซื้อได้ ตราบใดที่มีเหรียญโบราณเพียงพอ
เป็นความคิดที่ดี แต่คุณจะให้คนอื่นหาเราเจอได้ยังไง ในเมื่อไม่มีจุดสังเกตหรือเส้นทางที่ชัดเจน”
“ ทำไมเราไม่ตั้งจุดนัดพบละ? อาจเป็นทางเข้าหมู่บ้านก็อบลินหรือก้อนหินยักษ์ใกล้กับที่อยู่อาศัยของพวกหมาป่า ทั้งสองที่หาเจอได้ง่ายและระดับความอันตรายต่ำ
นักผจญภัยบางคนรู้สึกกังวล แม้ว่าจะดีกว่าที่จะมีผู้คนมากขึ้น แต่ถ้ามีบางอย่างผิดพลาดพวกเขาอาจต้องทนทุกข์ทรมานจากการบุกรุกเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในคืนอื่น ๆ
“นายคิดว่ายังไงอูฮยอค? นายอยู่ที่นี่มานานที่สุด ดังนั้นฉันอยากฟังความคิดเห็นของนาย”
“ฉันไม่สนใจ”
อูฮยอคหันกลับมาโดยไม่สนใจอย่างเห็นได้ชัด
มา กวางพิล ไม่สามารถฝืนยิ้มต่อไปได้ มันไม่เหมือนกับที่เขาคาดหวัง
“งั้นเรามาโหวตกันดีกว่า ในเมื่ออูฮยอค งดออกเสียง ก็ให้ผู้นำคนอื่นๆตัดสินใจแทน?”
“ได้เลย”
“มาทำแบบนั้นกันเถอะ”
แม้ว่าพวกเขาจะถูกบังคับให้ตั้งกลุ่มและแบ่งแยกกัน แต่นักผจญภัยส่วนใหญ่ยังคงติดตาม มา กวางพิล โดยเฉพาะเวลาที่อูฮยอคไม่อยู่ในค่าย เขามักแสดงตัวว่าเป็นผู้นำเสมอ
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผลโหวตเป็นเอกฉันท์
“มารวมเหรียญ 10 เหรียญเข้าด้วยกัน ไม่เช่นนั้นเราจะไม่สามารถติดต่อกับผู้ที่อยู่ไกลเกินไปได้”
“ฉันมี 3 พวกมันดรอปจากมอนเตอร์ที่ฉันฆ่าเมื่อเร็ว ๆ นี้”
“เรามี 2 เหรียญ…”
ผู้นำทั้งสองพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้มาซึ่งความสนใจจาก มา กวางพิล พวกเขาทั้ง 2 หวาดกลัวคนๆนี้มาก เพราะ มา กวาง พิล สามารถขับไล่พวกเขาออกจากกลุ่มได้ทุกเมื่อ
'ไม่เปลี่ยนไปเลย.'
หลังจากย้อยเวลากลับมา ตอนแรกเขาคิดว่าแผนการของเขาจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ดูเหมือนมันจะยังคงเหมือนเดิม เขาเป็นคนริเรื่มดำเนินการ แต่ท้ายที่สุดคนส่วนใหญ่ก็ต่อต้านเขา พวกนั้นคิดว่าเขาคือหมาป่าเดียวดายที่หยิ่งผยองและเห็นแก่ตัว
'ให้เวลาฉันอีกหน่อย แล้วฉันจะไล่ตามนายจนทัน'
Megaphones จะถูกใช้เพื่อดึงดูดผู้รอดชีวิตให้ได้มากที่สุด จากนั้นเขาจะสามารถเริ่มแผนการขยับขยายของเขาได้ ยิ่งมีลูกน้องอยู่ใต้เขามากเท่าไหร่การล่ามอนสเตอร์ก็จะง่ายขึ้นเท่านั้นและตำแหน่งของเขาก็จะยิ่งปลอดภัย
ตอนนี้ฉันจำเป็นต้องแหงนหน้ามองนาย แต่ในไม่ช้าเราจะยืนหยัดอย่างเท่าเทียมกัน
ระหว่างการพบปะกับผู้นำอีกสองคน มา กวางพิล ได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ในใจ
ขณะเดียวกันอูฮยอคกำลังอ่านบันทึกของนักผจญภัยในเต็นท์ของเขา
ลีแจซอง เดินเข้ามาถาม
“นายจะยอมให้เขาทำอำเภอใจ? มันจะต้องวุ่นวายมากแน่ ถ้ามีคนนอกเข้ามา”
“เขาเป็นแค่เหยื่อล่อ”
เมื่อได้ยินคำตอบของอูฮยอก ลีแจซองก็อดยิ้มไม่ได้”
“นายหมายถึง….”
“อีกไม่นาน นายจะรู้เอง”
อูฮยอก เป็นคนที่มีไพ่ลับซ่อนไว้เสมอ ไม่มีประโยชน์ที่จะเปิดเผยแผนการของตนก่อนเวลาอันควร
'ฉันต้องการ มงกุฎเงิน'
แม้ว่าจะไม่ได้วางแผนที่จะสร้างกองกำลังของตนเองในตอนแรก แต่เขาก็สามารถใช้ประโยชน์จากความพยายามของผู้อื่นได้
สิ่งที่เขาต้องทำคือฆ่าคน 10 คน
และเขามีคนเหล่านั้นอยุ่ในใจแล้ว