ตอนที่แล้วย้อนชีวิตพิชิตเซียน - บทที่ 14 : น้ำเต้าปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปย้อนชีวิตพิชิตเซียน - บทที่ 16 : กลับไปเรียน

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน - บทที่ 15 : ทำโทษ!


บทที่ 15 : ทำโทษ!

ทันทีที่เจียงชานสิ้นใจตายนั้น โจวไห่หวงก็ทั้งรู้สึกดีใจและหวาดกลัวในคราวเดียวกัน เขาดีใจที่คนทรยศเจียงชานถูกฆ่าตาย แต่ก็หวาดกลัวว่าซูอานจะจัดการกับตนเองเช่นใด?

เวลานี้ทั้งโจวไห่หวงและเจียงกุ้ยเฟิงที่ยืนอยู่ชั้นสองของบ้านนั้น ต่างก็กำลังขาสั่นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งคู่จ้องมองซูอานด้วยแววตาหวาดผวา

“พวกเจ้าลงมาข้างล่างเดี๋ยวนี้!”

ซูอานเดินเข้าไปนั่งบนโซฟาหนังพร้อมกับจ้องมองร่างของชายหญิงที่กำลังสั่นเทิ้มแน่นิ่ง ก่อนจะร้องตะโกนสั่งออกไป

ทั้งสองคนต่างก็ตกใจสุดขีดเมื่อได้ยินซูอานตะโกนเรียกเช่นนั้น สองสามีภรรยาหวาดกลัวจนตัวสั่นและไม่กล้าเดินลงไปด้านล่าง

ซูอานเหลือบมองขึ้นไปด้วยสายตาเย็นชาอีกครั้ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “หรือพวกเจ้าสองคนอยากจะตายมากงั้นรึ?”

ทันทีที่ได้ยินคำพูดเช่นนั้นของซูอาน สองสามีภรรยาก็รีบวิ่งลงมาคุกเข่าต่อหน้าซูอานทันที

“ผมผิดไปแล้ว! ผมไม่ควรจ้างนักฆ่าไปฆ่าคุณ แล้วก็ไม่สมควรให้สุนัขเฒ่าเจียงชานลงมือกับคุณด้วย ผมยอมรับผิดแล้ว ได้โปรดให้อภัยพวกเราด้วยเถิด!”

เพื่อต้องการรักษาชีวิตของตนเองไว้ โจวไห่หวงจำต้องยอมก้มหัวร้องขอชีวิตกับซูอานเท่านั้น แต่เรื่องเช่นนี้ก็ไม่ได้ยากเย็นสำหรับเขานัก เพราะในโลกธุรกิจที่ผ่านมา เขาก็ต้องคุกเข่าขอร้องคนอื่นมานับครั้งไม่ถ้วนเช่นกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตนเองต้องการ

แต่กลับไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา ทุกอย่างยังคงเงียบสงัด ต่อหน้าซูอานเวลานี้ โจวไห่หวงทำได้เพียงแค่ก้มหน้าเท่านั้น เขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองซูอานด้วยซ้ำไป และได้แต่หวังว่านี่จะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เขากับภรรยารอดชีวิตออกไปได้

ซูอานก้มลงมองโจวไห่หวงด้วยแววตาขุ่นเคือง จากนั้นจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังนัก “ลูกชายของเจ้าทำให้ข้าเกือบตาย เขาทำให้ข้าเกือบถูกฝังทั้งเป็นในห้องดับจิต หากครั้งนั้นข้าต้องตายไปจริงๆ ข้าก็คงกลายเป็นแค่เหยื่อที่ไร้ผู้คนสนใจ..”

“ไอ้ลูกชั่ว! ผมไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลยจริงๆ ผมไม่รู้ว่าไอ้ลูกสารเลวมันจะทำอะไรแบบนี้กับคุณมาก่อน ไม่อย่างนั้นผมก็คงจะไม่โกรธแค้นคุณแบบนี้..”

“หึ! เจ้านี่มันเจ้าเล่ห์นัก ข้าว่าคนอย่างเจ้ายังร้ายกาจกว่าลูกชายหลายเท่านัก!”

ซูอานได้ฟังแล้วก็อดโมโหไม่ได้ และยิ่งนึกถึงเรื่องที่ตนต้องประสบพบเจอมา ก็ยิ่งโมโหเดือดดาลมากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาเขาถูกคุกคามไล่ล่าเอาชีวิตมาโดยตลอด

แต่เพราะความทรงจำบางส่วนของซูอาน ทำให้เขาละล้าละลัง และยังไม่ตัดสินใจฆ่าโจวไห่หวงในทันที

ซูอานจ้องมองสภาพที่ไม่ต่างจากสุนัขจนตรอกของโจวไห่หวงในเวลานี้ ก็ได้แต่นึกเหยียดหยัน ภายในใจของเขานั้นรู้สึกว่าหากตนเองตัดสินใจสังหารโจวไห่หวงในตอนนี้ เขาจะต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่มากมายเลยทีเดียว และเวลานี้เขาก็ไม่ต้องการที่จะมีปัญหามากไปกว่านี้ อีกทั้งเรื่องการบ่มเพาะของเขานั้นย่อมสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซูอานจึงพูดกับโจวไห่หวงด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกเข้าไปถึงรูขุมขน “ตอบข้ามา เจ้าจะจัดการกับเรื่องนี้เช่นใด? ในเมื่อลูกชายของเจ้าเป็นฝ่ายที่คิดสังหารข้าก่อน ต่อมาก็เป็นเจ้าที่คิดจะฆ่าข้า!”

ตอนนี้โจวไห่หวงรักตัวกลัวตายอย่างที่สุด และคำพูดของซูอานนั้นมีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจว่า หากเขาจัดการได้ไม่ดีหรือไม่ถูกใจซูอาน ย่อมหมายถึงการฆ่าล้างตระกูลจะต้องเกิดขึ้นเป็นแน่!

โจวไห่หวงครุ่นคิดอย่างระมัดระวัง เขารู้ว่าความแค้นครั้งนี้ของซูอานนั้นใหญ่หลวงเกินกว่าที่จะแก้ไขได้ แต่นี่เป็นเสมือนฟางเส้นสุดท้ายของเขาแล้ว เขาจึงจำเป็นต้องคว้าเอาไว้ก่อน..

“ซู.. ซูอาน หากคุณไว้ชีวิตพวกเราพ่อแม่ลูก ผมจะขอยอมเป็นทาสรับใช้คุณ ผมจะยอมเป็นม้าเป็นวัวให้คุณใช้..”

“เจ้าคิดว่าตัวเจ้ามีคุณสมบัติ และมีค่าพอที่จะเป็นม้าเป็นวัวให้ข้าขี่งั้นรึ?!”

ซูอานไม่ได้กล่าวเกินจริงนัก ในชีวิตที่ผ่านมาของเขานั้น เขามีสัตว์พาหนะเป็นมังกรเก้าหัวที่แข็งแกร่งกว่าราชันย์มังกรแห่งท้องทะเลเสียอีก เช่นนี้แล้วมดปลวกอย่างโจวไห่หวงยังถือดีมาเป็นม้าเป็นวัวให้เขาขี่อีกงั้นรึ?

ช่างไม่เจียมตัวโดยแท้!

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็บอกพวกเรามาว่าต้องการอะไร พวกเรายอมทำทุกอย่าง ขออย่างเดียวได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถิด!”

เจียงกุ้ยเฟิงที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆโจวไห่หวงรีบร้องบอกซูอานทันที พร้อมกับหันไปทำตาขวางใส่โจวไห่หวงที่เกือบทำให้ซูอานไม่พอใจ เพราะทุกคนจะพากันตายหมด

ซูอานจ้องมองสองสามีภรรยาที่กัดกันไม่ต่างจากสุนัข เขาเข้าใจดีว่านี่คือธรรมชาติการเอาตัวรอดของมนุษย์

หลังจากที่ซูอานใคร่ครวญจากความทรงจำที่มีอยู่แล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ฆ่าโจวไห่หวง เพราะโจวไห่หวงนับเป็นนักธุรกิจใหญ่และเป็นคนมีชื่อเสียงในเขตตงเฉิงนี้ หากโจวไห่หวงตายด้วยน้ำมือของเขา ก็เท่ากับว่าเขาสร้างปัญหาใหญ่ให้กับตนเองไม่จบไม่สิ้น ในเวลาเช่นนี้เขาควรต้องอยู่เงียบๆให้มากที่สุด

“ได้! ข้าจะไม่สังหารพวกเจ้า จะเว้นโทษตายให้กับพวกเจ้าก็ได้ แต่โทษเป็นย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงได้!”

เมื่อได้ฟังคำตอบของซูอาน สองสามีภรรยาถึงกับทำสีหน้าประหลาดใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยถาม เสียงของซูอานก็ดังขึ้น

“พวกเจ้าสองคนจัดการตัดมือของตัวเองทิ้งคนละข้าง!”

น้ำเสียงของซูอานราบเรียบ ไม่ดังแต่ก็ไม่เบา และการตัดมือทิ้งก็นับว่าเป็นคำต่อรองสุดท้ายของซูอานที่มอบให้กับสองสามีภรรยาแล้ว

โจวไห่หวงได้ฟังถึงกับตกใจสุดขีด แต่เพื่อรักษาชีวิตของตนเองไว้ เขาจึงสั่งให้เจียงกุ้ยเฟิงไปนำมีดในครัวออกมา

โจวไห่หวงยื่นมือซ้ายออกไปให้เจียงกุ้ยเฟิงตัด แต่แล้วเสียงของซูอานก็ดังขึน “มือขวา แล้วเจ้าก็ต้องเป็นคนตัดมือขวาด้วยตัวเอง!”

แม้โจวไห่หวงจะเดือดดาลใจอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าแสดงอาการขัดขืนออกมาแม้แต่น้อย เขาใช้มือซ้ายหยิบมีดขึ้นมาแล้วฟันลงไปที่มือข้างขวาของตนเองอย่างแรง มีดฟันเข้าไปถึงกระดูกมือของโจวไห่หวง เขากรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดจนแทบจะเป็นลมหมดสติ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปเห็นแววตาเย็นชาของซูอาน เขาก็ไม่กล้าขัดขืน และกัดฟันสับมีดในมือลงไปที่แขนขวาอย่างแรงอีกครั้ง

ซูอานกระแทบหมัดของตนลงไปกับด้านบนของมีด และมือขวาของโจวไห่หวงก็ขาดกระเด็นออกจากกัน และไม่มีทางที่จะสมานต่อกันได้อีกอย่างแน่นอน!

เจียงกุ้ยเฟิงเองก็ต้องทำเช่นเดียวกัน และทันทีที่เธอฟันมือตัวเองนั้น ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้เธอถึงกับกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวนราวกับหมูที่กำลังถูกเชือด

ซูอานทำเช่นนี้เพราะต้องการให้สองสามีภรรยาได้ลิ้มรสความเจ็บ และความหวาดกลัวที่เคยทำไว้กับผู้อื่นบ้าง อีกทั้งนี่ยังเป็นการทำโทษชนิดหนึ่งในแบบของเขา!

และแน่นอนว่าหากทั้งสองคนยังไม่กลับใจ และคิดที่จะเอาชีวิตของเขาอีกล่ะก็ ครั้งหน้าเขาจะไม่ไว้ชีวิตแน่!

“ส่วนลูกชายของเจ้า ข้าจะยอมไว้ชีวิตเช่นกัน แต่พวกเจ้าคงรู้ดีว่าจะต้องจัดการกับเขาเช่นใด!”

โจวไห่หวงกัดฟันกดข่มความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น และหยุดสนใจกับเลือดสีแดงที่กำลังไหลไม่หยุ แล้วหันไปตอบซูอานปากสั่น

“ผม.. ผมรู้ ผมจะส่งมันไปอยู่ต่างประเทศ และจะไม่ให้มันกลับมาสร้างความรำคาญใจให้กับคุณอย่างเด็ดขาด!”

ซูอานพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงหันไปสำรวจภายในบ้านหรูหราหลังใหญ่พร้อมกับคิดในใจว่า บัตรเครดิตสีดำที่เหล่าฮั๋วให้เขามานั้น ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องอาหารกับเสื้อผ้าอีกก็จริง แต่เวลานี้เขายังหาที่อยู่ไม่ได้ และเขาต้องการที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้พอดี

“เอาล่ะ.. ต่อให้ปัญหาระหว่างเราถูกสะสางไปแล้ว แต่เจ้าก็ควรจะจ่ายค่าทำขวัญให้กับข้าด้วย!”

โจวไห่หวงรีบพยักหน้าเห็นด้วยทันที “ถูกต้อง.. ถูกต้อง!”

“ข้าเองก็ไม่ได้ต้องการค่าทำขวัญอะไรมากมายนัก..”

ซูอานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พร้อมกับยกมือขึ้นกางนิ้วทั้งห้าออกต่อหน้าโจวไห่หวง

โจวไห่หวงเห็นแล้วก็เข้าใจได้ทันที เขารีบพยักหน้าและตอบกลับไปว่า “ได้ครับ ห้าล้านหยวน ผมจะไปนำเงินสดมาให้คุณเดี๋ยวนี้!”

ซูอานถึงกับนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย ความจริงเขาต้องการเพียงแค่ห้าหมื่นหยวนเพื่อนำไปเป็นค่าเช่าบ้านเท่านั้น เพราะเขาเองไม่ได้ต้องการเงินทองอะไรมากมาย แต่โจวไห่หวงกลับเข้าใจว่าเขาต้องการห้าล้าน ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี ซูอานจึงได้นิ่งเงียบไม่ปฏิเสธ

โจวไห่หวนกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด และเดินขึ้นไปที่ชั้นสองจัดการหยิบเงินสดจำนวนห้าล้านหยวนจากตู้เซฟ แล้วนำมาส่งให้ซูอานด้วยท่าทีนอบน้อม

ซูอานยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วจึงลุกขึ้นยืนพร้อมกับพูดออกไปว่า “เอาล่ะ นับจากนี้พวกเราต่างก็ไม่รู้จักกัน!”

โจวไห่หวงดีใจจนเนื้อเต้น แต่แล้วก็คล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงรีบร้องบอกซูอานเสียงอ่อน

“คุณซู.. คุณได้โปรดช่วยนำน้ำเต้านั่นกลับไปด้วยจะได้มั๊ยครับ?”

โจวไห่หวงนึกถึงวิญญาณผีผู้หญิงที่อยู่ในน้ำเต้าหยกแล้วก็ได้แต่ขนหัวลุก และหวาดผวาอย่างมาก เขาไม่ต้องการให้น้ำเต้าปีศาจนี้ต้องมาอยู่ในบ้านของตัวเอง

ซูอานก้มลงมองน้ำเต้าปีศาจที่ตกอยู่อย่างนึกหยัน แม้สิ่งนี้จะไม่ใช่อาวุธวิเศษอะไรสำหรับเขานัก แต่เก็บไว้ก็น่าจะใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง เมื่อคิดได้เช่นนี้ซูอานจึงก้มลงหยิบน้ำเต้าหยกแล้วเดินจากไปทันที

เมื่อเห็นซูอานจากไปแล้ว โจวไห่หวงถึงกับทิ้งตัวนอนลงบนพื้นพร้อมกับหายใจรุนแรง ส่วนเจียงกุ้ยเฟิงนั้นก็แทบจะเป็นลมหมดสติไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว เธอร้องคำรามออกมาด้วยความเคียดแค้น

“แกปล่อยฉันไปครั้งนี้ คอยดูแล้วกันฉันจะต้องตอบแทนแกกลับคืนเป็นสองเท่าแน่!”

โจวไห่หวงได้ฟังถึงกับโกรธจนใช้มือข้างที่เหลือตบหน้าภรรยา พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างมาก

“เธอยังจะกล้าพูดจาไร้สาระแบบนี้ออกมาอีกเรอะ? เธอมีปัญญาอะไรจะไปต่อกรกับเขา? รอดมาได้ก็บุญเท่าไหร่แล้ว?”

โจวไห่หวงรู้ดีว่าเจียงชานนั้นเก่งกาจมากเพียงใด แต่ซูอานกลับสามารถสังหารตายได้ อีกทั้งยังไม่มีท่าทีหวาดกลัวภูติผีวิญญาณเลยแม้แต่น้อย ทั้งหมดนี้ทำให้โจวไห่หวงล้มเลิกความคิดที่จะเป็นปฏิปักษ์กับซูอานอีกทันที

หลังจากนั้น ทั้งสองสามีภรรยาก็รีบไปโรงพยาบาลส่วนตัวของตนเอง เพราะหากได้รับการรักษาไม่ทันเวลาพวกเขาทั้งคู่ก็อาจเสียเลือดจนถึงแก่ชีวิตได้

ที่สำคัญ.. เรื่องราวและอาการบาดเจ็บของพวกเขาทั้งคู่ในคืนนี้ จะปล่อยให้คนนอกรู้ไม่ได้ เพราะจะกระทบต่อธุรกิจของไห่เทียนกรุ๊ปอย่างมาก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด