ตอนที่ 229-230
ตอนที่ 229 : เถ้าแก่ไม่เพิ่มราคาจริงหรือ
“เถ้าแก่ ไม่ทราบว่าที่ข้ากล่าวไปนี้ถูกต้องหรือไม่?” ผู้อาวุโสที่สามหันมองทางลั่วฉวน
แม้ว่าสีหน้าของลั่วฉวนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าขณะนี้ภายในใจเรียกถามระบบแล้ว
เพราะตัวเขาไม่ทราบว่าคำกล่าวของผู้อาวุโสที่สามนั้นถูกต้องหรือไม่!
“ระบบ ทำงานได้แล้ว!” ลั่วฉวนเรียกดังภายในใจ
“เจ้าของร้านมีเรื่องอะไรหรือ?” เสียงอันเย็นเยือกดังตอบรับโดยทันที
“มันใช้น้ำพุวิญญาณต้นกำเนิดดังที่ชายคนนั้นกล่าวหรือไม่?” ลั่วฉวนกล่าวถาม
ระบบจึงตอบรับ “ถูกต้อง”
ใช่จริงด้วย! ลั่วฉวนถึงกับประหลาดใจ
บอกกล่าวตามตรง ตัวเขาไม่อาจจินตนาการได้ถึงว่าสถานที่ซึ่งผู้อาวุโสที่สามพูดกล่าวนั้นคือที่ไหน
แต่พอคิดให้ดี ลั่วฉวนก็ต้องเอ่ยถามด้วยความจริงจัง “ระบบ มั่นใจหรือว่าขายโคล่านี้ไม่ขาดทุน?”
น้ำพุวิญญาณต้นกำเนิดคือสิ่งหายากและล้ำค่า มูลค่าของโคล่าเทียบกับผลึกวิญญาณที่ได้รับ กล่าวได้ว่าออกจะเป็นส่วนต่างที่มากมายเกินไป
ไม่เกินเลยนักหากจะกล่าวว่าไม่ต่างกับให้เปล่า!
ระบบจึงตอบกลับ “เจ้าของร้านวางใจ ราคาขายของสินค้าที่ระบบตั้งนั้นย่อมได้กำไร”
ลั่วฉวนถึงกับพูดกล่าวไม่ออก
ระบบไม่เคยพลาดเรื่องหาเงิน!
เมื่อจบบทสนทนากับระบบ ลั่วฉวนจึงพยักหน้ารับ “ถูกต้องตามนั้น”
รอยยิ้มจึงเผยชัดผ่านใบหน้าผู้อาวุโสที่สาม
“เจ้าสิ่งนี้ทำขึ้นโดยน้ำพุวิญญาณต้นกำเนิดจริงงั้นหรือนี่?”
ด้วยรับชมโคล่าครึ่งขวดในมือ เหว่ยอี้ต้องรับคำอย่างนึกทึ่ง
มูลค่าแท้จริงของโคล่าเทียบกับผลึกวิญญาณที่จ่ายนั้นชวนสะพรึงเกินไปแล้ว!
ทุกคนต่างมองขวดโคล่าที่อยู่ในมือ
แม้มูลค่าสิบผลึกวิญญาณสำหรับคนกลุ่มนี้ไม่นับเป็นอะไร โคล่าในมือกลายเป็นล้ำค่าเกินกว่าที่เคยกินมาทุกวัน
“เถ้าแก่ เป็นข้ารู้สึกว่าโคล่านี้มูลค่าหนึ่งร้อยผลึกวิญญาณก็ยังต่ำไปกระมัง?” จี้อู๋ฮุยอดไม่ได้ที่จะกล่าวถามขึ้น
“ถูกต้องแล้วเถ้าแก่! พิจารณาเพิ่มราคาไม่ดีกว่าหรือ?” มู่หรงไห่เถิงกล่าวเสริม
ถึงกับมีลูกค้าบอกให้เถ้าแก่ขึ้นราคาสินค้า หากจะมีก็คงเป็นร้านต้นตำรับคือที่แรก
ลั่วฉวนส่ายศีรษะพร้อมเผยท่าทีนิ่งเฉย “ราคาสินค้าจะไม่เปลี่ยน”
ถัดจากนั้นเขาจึงเดินไปยังเก้าอี้ยาวหน้าร้านพร้อมเอนนอนรับแสงแดด
“อืม... เถ้าแก่ก็เป็นเช่นนี้!” หลิวลู่อวี่เผยยิ้มขื่น
ถัดจากนั้นทุกคนจึงค่อยทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันต่อ
ขณะนี้มีสิบเอ็ดคน ดังนั้นจึงยังมีเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงว่างอยู่
“นี่หรือมิติเสมือนจริง? แทบไม่ต่างอะไรกับโลกจริง!”
ผู้อาวุโสที่สามสวมหมวก สายตารับชมห้วงมิติสีขาวโพลนพร้อมเผยท่าที่สงสัย
ทางด้านหลิวลู่เหม่ยและตี้อู๋ปาเต๋าก็เป็นเช่นเดียวกันนี้
“เข้าโหมดอารีน่าได้เลย” เซี่ยหยวนบอกกล่าวกับกลุ่มคน “เป็นหอคอยน้อยก่อน จากนั้นจึงเลือกรูปสังเวียน”
ด้วยเซี่ยหยวนชี้แนะ ผู้มาเยือนใหม่ทั้งสามจึงเร่งรีบเข้าสู่โหมดอารีน่า
คนทั้งแปดขณะนี้เข้าสู่พื้นที่ประลอง จากนั้นจึงปรากฏตัวโดยจับคู่แบ่งออกเป็นสี่พื้นที่
การกระทำเช่นนี้ ขอบเขตพลังของพวกเขาจะทัดเทียมกันตั้งแต่แรกเริ่ม นั่นก็คือขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่เก้า
สถานที่ซึ่งผู้อาวุโสที่สามปรากฏนั้นเป็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ
สายลมเย็นเยือกได้พัดผ่านพร้อมเสียงหวีดหวิว หิมะสีขาวม้วนตัวกับอากาศปกคลุมพื้นที่
รอบด้านที่พบเห็นได้คือภูเขาสีขาวโพลนอันไร้สิ้นสุด
หากเป็นคนธรรมดามาเยือนที่นี่ ก็เกรงว่าจะแข็งตายภายในเวลาไม่กี่นาทีแล้ว!
กระนั้นสำหรับผู้ฝึกตนขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่เก้า แม้ถูกความหนาวเย็นไปบ้าง แต่ก็ยังไกลห่างจากสิ่งที่เรียกว่าเป็นภัยคุกคามต่อชีวิต
ที่ยอดภูเขาหิมะอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไกลห่างหลายร้อยเมตร เซี่ยหยวนในชุดสีดำได้ยืนนิ่งอย่างลึกลับประหนึ่งเทพเซียน
“เหมือนว่าพวกเราจะได้เป็นคู่ต่อสู้กันงั้นสินะ”
เสียงของผู้อาวุโสที่สามไม่โดนผลกระทบจากสภาพแวดล้อม ขณะนี้มันดังราวกับพูดอยู่ข้างกายเซี่ยหยวนอย่างไรอย่างนั้น
ตอนที่ 230 : เบิกฟ้า!
เซี่ยหยวนเผยสีหน้าเย็นเยือกกล่าวคำ “หากพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลย!”
ดาบศักดิ์สิทธิ์พลันปรากฏในมือพริบตานี้!
“เข้ามา!”
ผู้อาวุโสที่สามตะโกนดังรับคำ
ที่เบื้องหน้า ขณะนี้มันได้ปรากฏหม้อสามขาสัมฤทธิ์สูงราวเท่าตัวคน!
หม้อสามขาถูกผลาญไหม้ด้วยอัคคีเพลิง พลังงานวิญญาณผันแปรขณะนี้ไหลหลั่งคลุ้มคลั่ง!
คลื่นความร้อนรุนแรงพัดพาผ่านทั่วทิศ หิมะที่เคยปกคลุมภูเขาซึ่งไม่เคยละลายตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ขณะนี้ถึงกับละลายรวดเร็วกลายเป็นสายน้ำไหลหลั่ง!
สิ่งนี้เองก็เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์!
ร้านค้าในโหมดอารีน่า คิดหาอาวุธที่มีระดับสูงสุดก็คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์
ตู้ม!
ผู้อาวุโสที่สามพลันตบฝ่ามือที่หม้อสามขา เสียงเคาะดังกังวานลากยาว
โฮก!
พร้อมกับเสียงคำราม ฝาหม้อสัมฤทธิ์สามขาพลันเปิดออก มังกรจำแลงอัคคีขนาดใหญ่ยักษ์พลันทะยานออกมา
ดวงตาของมันเผยประกายแห่งปัญญา ร่างนั้นกระจ่างทว่ามองเห็นได้ ท่วงท่าที่มันเคลื่อนไหวชวนผู้คนต้องตื่นตะลึง!
เซี่ยหยวนแค่นเสียงรับ มันราวกับขณะนี้ออร่าทั่วร่างกายของเขาได้ควบแน่น
ถัดจากนั้นดาบจึงฟาดฟันลง
พริบตานี้เองที่ราวกับแสงดาบแห่งห้วงสมุทรได้พาดผ่านลงมาอย่างทะลักล้น
ภายใต้มวลแสงดาบ มันถึงกับมีดวงดาวเผยประกายระยิบระยับ!
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเคล็ดวิชาที่เซี่ยหยวนฝึกฝน!
เพียงพริบตา ทั่วทั้งขุนเขาได้สั่นสะท้านพร้อมเกิดรอยปริแตกมากมายมหาศาล
ภูเขาที่อยู่ไกลห่างสั่นไหวต่อเนื่องพร้อมเกิดหิมะถล่มลงอย่างไม่มีทีท่าหยุดยั้ง
อำนาจของมันมากพอสะท้านฟ้าดิน!
มังกรอัคคีเงยศีรษะขึ้นพร้อมคำรามร้อง
มวลอัคคีนับไม่ถ้วนทะลักออก สภาพแวดล้อมได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลอัคคี!
ภายใต้ห้วงสมุทรแห่งแสงดาบที่เข้าปะทะกับทะเลเพลิง มันราวกับคิดทำให้โลกหล้าต้องหม่นแสง
ที่ตำแหน่งเกือบจะกึ่งกลาง ห้วงมิติถึงกับปริแตกออก เศษซากห้วงมิติพังทลายเกิดขึ้นเป็นคลื่นพลังอันโกลาหล
ที่ภายในรอยแตก มันคือห้วงมิติอันดำมืด กาลอวกาศอันผันแปรนับไม่ถ้วนได้ทะลักล้นออก ออร่าแห่งการทำลายล้างปกคลุมพื้นที่
ภาพฉากเช่นนี้มันราวกับวันโลกาวินาศ!
และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงเพราะคนสองคนเปิดศึกปะทะต่อกัน!
เซี่ยหยวนลั่นการโจมตีอันชวนสะพรึงออก ห้วงมิติแตกกระจายออกประหนึ่งกระจกแตกสลายภายใต้ปลายดาบ
ผู้อาวุโสที่สามไม่คิดยินยอมเผยความยิ่งหย่อนไปกว่า หม้อสัมฤทธิ์สามขาขณะนี้ได้ขยายขนาดขึ้นสูงนับร้อยเมตรปกคลุมฟากฟ้า!
……
ขณะเดียวกัน ศึกของอีกหกคนที่เหลือต่างก็เริ่มขึ้น
หยิงอู๋จี้ปะทะกับตี้อู๋ปาเต๋า
คนทั้งสองไม่ใช่พูดกล่าวเก่งนัก เมื่อใดเลือกอาวุธเสร็จสิ้นจึงไม่พูดพล่ามพร้อมเข้าปะทะโดยตรง
ตี้อู๋ปาเต๋าครอบครองเคล็ดวิชากระบี่ถึงขั้นแปรสภาพ ทุกกระบวนท่าและทุกการเคลื่อนไหวล้วนสะท้านฟ้าสะเทือนดิน!
ในมือของหยิงอู๋จี้ มันปรากฏถุงมือคู่หนึ่งส่องประกายแสงสีทอง
บนตัวถุงมือยังมีหนามแหลมประดับไว้มากมาย
สิ่งนี้คือถุงมือระดับศักดิ์สิทธิ์!
ถูกต้องแล้ว หยิงอู๋จี้คือผู้เชี่ยวชาญวิชามวย!
พลังอำนาจที่เขาฝึกฝนนั้นไม่ใช่ปรามาสได้ เพราะขณะนี้เขาหาได้ขาดแคลนพลังชีวิตแต่อย่างใดอีกไม่
วิชามวยที่หยิงอู๋จี้ฝึกฝน ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับทัดเทียมกันก็ไม่กล้ารับไว้โดยตรง!
เพียงหนึ่งหมัดมันก็พอเบิกฟากฟ้าออกได้!
ศึกระหว่างคนทั้งสองไม่ใช่วิเศษเลิศล้ำเช่นของเซี่ยหยวนและผู้อาวุโสที่ส่าม
กระนั้นหากพิจารณาให้ดี ก็จะได้ทราบว่าระดับพลังอำนาจนั้นไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน!
ในสถานที่ซึ่งหมัดพาดผ่านจะเปรียบดังโดนมีดผ่าเปิด ร่องรอยสีดำหลงเหลือในอากาศอย่างแปลกประหลาด
นี่คือสภาพที่ห้วงมิติฉีกขาดทว่าไม่อาจแตกออก!
หากเป็นผู้ฝึกตนที่ด้อยกว่าขอบเขตทดสอบเต๋าสัมผัสมันเข้า เช่นนั้นมันจะฉีกกระชากออกในพริบตา!
ขณะนี้คนทั้งสองประหนึ่งละเล่นต่อกัน
สองร่างเงาได้เลือนหายและปรากฏวูบวาบผ่านอากาศ ห้วงมิติแทบทุกตารางนิ้วพร้อมถล่มทลายลงทุกเมื่อ ความผันแปรทางพลังวิญญาณอันรุนแรงพาดผ่านไปมาไม่หยุดหย่อน
นับเป็นโชคดีที่ที่นี่คือหอคอยแห่งการทดสอบ จึงไม่มีเรื่องต้องห่วงหาผลกระทบที่อาจเกิดต่อโลกแต่อย่างใด...
ทางด้านเหล่าไป่ขณะนี้รับศึกกับจี้อู๋ฮุย
แม้คนทั้งสองเคยประมือต่อกันมาก่อน ทว่าขณะนี้ได้ต่อสู้กันอีกครั้งก็ไม่ใช่มีใครยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
จักรพรรดิแห่งเทียนชิงและหอกแห่งเทพสีขาว ร่างจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และมังกรสงคราม ผู้ใดจะแข็งแกร่งกว่ากัน?
มู่หรงไห่เถิงและหลิวลู่เหม่ยก็กำลังปะทะต่อกัน
การประมือระหว่างสองโฉมงามนับเป็นภาพฉากที่ชวนรื่นรมย์
ศึกทางฝั่งนี้หาได้มีภาพฉากสะท้านฟ้าสะเทือนดินแต่อย่างใดไม่ ทว่าก็ไม่ใช่การศึกที่จะปรามาสได้