ข้ามเวลาล่าฝัน! 216-1
วันนี้โลกของเธอนั้นมีแต่สีเทา มันเป็นวันที่ทำให้เธอรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองช่างไร้ความหมาย เป็นวันที่หัวใจของเธอเฝ้าตามหาคนที่จะกล่าวโทษ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันไม่ควร และเป้าหมายของเธอในตอนสุดท้าย หลังจากมองดูใบหน้าที่คุ้นเคยนับไม่ถ้วน... ก็คือตัวเธอเอง ทำไมเธอถึงได้น่าสมเพชแบบนี้? ทำไมเธอถึงพูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ? ทำไมเธอถึงได้เอาแต่นิ่งเงียบ? ถ้าเธอแค่เอาความกังวลในหัวตอนนี้ออกไปทิ้งได้ ถ้าแค่เธอเป็นลูกที่ดีของแม่ได้... ทุกความคิดของเธอมันเพิ่มภาระให้กับจิตใจของเธอ จนเธอค่อย ๆ จมลงไปในหลุมที่มืดมิด
ตอนนี้ที่กลางหัวของเธอมันมีหลุมที่แสนว่างเปล่าอยู่ เธอพูดติด ๆ ขัด ๆ แม้แต่กับคำสั้น ๆ เธอนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองหายใจอยู่รึเปล่า และในช่วงนั้น คำพูดของเดมยังก็ทิ่มแทงเข้าไปในสมองของเธอ ที่แม่ว่ามาแบบนั้นก็เพราะว่าแม่รัก ใช่แล้ว เขาพูดไม่ผิดเลย แม่ของเธอรัก รักเธอมากกว่าใคร ๆ เพราะแบบนั้นเธอถึงต้องทำตามที่แม่คาดหวังไว้ให้ได้ เธอต้องไปเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างที่ลูกคนอื่นเขาทำกัน เธอต้องทำตัวให้เป็นลูกสาวที่ดี
แต่เธอนั้นไม่มีพรสวรรค์ เธอไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของแม่ได้ เธอมีแต่จะทำให้แม่ต้องเสียหน้าอีก แถมตอนนี้เธอได้ทำร้ายชมรมแล้วด้วย เธอทำให้พวกรุ่นพี่ต้องผิดหวัง
เธอทำอะไรไม่ถูกเลยสักอย่าง
หัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงขึ้น เหงื่อเริ่มไหลออกมาจากทุกรูขุมขน มันเหมือนช่วงฤดูสอบ เหมือนตอนที่เธอไม่มีปัญญาแม้แต่จะบอกให้พนักงานเติมบัตรรถโดยสารให้ เธอทำเรื่องง่าย ๆ แค่นั้นยังไม่ได้ จียุนรู้สึกว่าตัวเองเริ่มตกลงหลุมลึกขึ้นเรื่อย ๆ แต่เธอก็ไม่มีปัญญาจะขอความช่วยเหลือจากใคร เธอได้แต่นั่งรอ เอาแต่คิดว่าเมื่อไหร่มันจะจบลงเสียที
ตอนนั้นเองที่มีหญิงสาวแปลกหน้าปรากฏตัวขึ้น ไม่ เธอไม่ใช่คนแปลกหน้า จียุนจำใบหน้าของเธอได้ดีจากจอโทรทัศน์ นี่คือดาราชื่อดังที่เธอเคยเห็นในโฆษณา เธอกำลังยิ้มและเดินเข้ามาหาจียุน ก่อนจะกอดเธอ จียุนพยายามจะผลักหญิงสาวออกไป แต่นั่นกลับยิ่งทำให้เธอกอดแน่นขึ้น ความอบอุ่นเข้ามาปลอบประโลมจิตใจของจียุน หัวใจของเธอเริ่มเต้นช้าลงเป็นจังหวะเดียวกันกับนักแสดงสาว
"เรื่องมันจะไม่ดีขึ้นหรอก มันคงจะยังลำบากอยู่ แต่ทำไมไม่ลองพักหายใจสักหน่อยล่ะ? ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องพยายาม แค่ลองปล่อยตัวและหายใจเข้าลึก ๆ ดู"
มือของจียุนพยายามดิ้นรนอยู่สองสามครั้ง แต่ไม่นานมันก็ตกลงอย่างหมดแรง พลังงานที่เก็บไว้ในร่างกายของเธอค่อย ๆ ไหลออกไปราวกับว่าได้นอนลงบนที่นอนนุ่ม ๆ ความกังวลที่เธอมีเองก็ได้สลายหายไปเช่นกัน เธอค่อย ๆ ปรับลมหายใจตามที่นักแสดงสาวบอก อย่างช้า ๆ เธอหายใจเข้าผ่านจมูกและปล่อยมันออกมาทางปาก
"ใช่ แบบนั้นแหละ"
จียุนนึกถึงแม่ขึ้นมาระหว่างที่นักแสดงสาวลูบหลังของเธอ เมื่อก่อนนั้นแม่ของเธอก็มักจะปลอบและใจดีกับเธอแบบนี้เหมือนกัน มันรู้สึกสบายดีจริง ๆ
* * *
จูฮยอนปล่อยจียุนออกหลังจากการกอดอันแสนยาวนาน จียุนนั้นยังดูมีสีหน้าที่ตกใจอยู่ แต่ก็ไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อสักครู่แล้ว
"รู้สึกยังไงบ้าง?" จูฮยอนถาม
จุยีนตอบว่าดีขึ้นแล้วด้วยเสียงเบา ๆ
"ค่อยยังชั่ว"
จูฮยอนลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม
"พี่ ทำไมถึง..."
บังจูพยายามเดินเข้าไปหาจูฮยอนด้วยสีหน้าสุดประหลาดใจ
'นั่นคือพี่สาวคนที่เขาเรียกว่าสัตว์ประหลาดงั้นเหรอ?'
และเอาจริง ๆ เธอนั้นก็ประหลาดมาก จูฮยอนหันมาขยิบตาให้ตอนที่สายตาของทั้งคู่สบกันเข้า
"นี่เหรอบท?"
"พี่"
"เบาเสียงหน่อย เสียมารยาทกับคนที่อยู่ในตึกนี้หมด"
จูฮยอนหยิบบทขึ้นมาและไปนั่งลงที่เก้าอี้ ระหว่างที่เธออ่าน มารุก็ทำท่าเรียกบังจูเข้ามาหา
"นั่นพี่นายเหรอ?"
"...ครับ"
นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มารุได้เห็นบังจูเงียบขนาดนี้ ตอนนี้เด็กหนุ่มกำลังมองไปทางพี่สาวด้วยท่าทางแสนหวาดกลัว
"ไม่ปกติอย่างที่ว่าจริง ๆ ด้วย ได้ยินว่าเป็นดาราดังเหรอ?"
"ผมก็ไม่ได้คิดจะปกปิดอะไรหรอก แค่ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่อะไร"
"ก็นะ ถ้านายเที่ยวไปอวดชาวบ้านว่ามีคนในครอบครัวเป็นคนดังต่างหากล่ะเขาถึงจะเรียกว่าโง่"
มารุเดินเข้าไปหาจูฮยอน ผู้ที่ยกมือขึ้นมาห้ามเขาไว้
"คือ..."
"เดี๋ยว ขออ่านก่อน ได้ไหม? นะ?"
จูฮยอนกำลังอ่านบทด้วยท่าทางสนุกสนานราวกับเด็กเล็ก ๆ ที่เพิ่งได้ของเล่นใหม่ มารุได้แต่ยิ้มให้กับท่าทางนั้น
"เข้าใจแล้วครับ เชิญตามสบาย"
ตอนนี้มารุจึงเลือกที่จะหันไปหาจียุนแทน ตอนนี้เด็กสาวดูดีขึ้นมาก สีแดง ๆ ที่แก้มของเธอมันแสดงให้เห็นว่าตอนนี้เธอกลับมามีแรงอีกครั้งแล้ว
"ดูดีขึ้นเยอะเลยนะ"
"อ่า ครับ"
"คงตกใจล่ะสิ?"
"...ค่ะ"
จียุนยกมือขึ้นมาจับผมตัวเองด้วยความเขิน แต่อย่างน้อยมันก็จบแล้วล่ะนะ จากนี้พวกเขาก็แค่ต้องรอให้จียุนเล่าเรื่องออกมา ส่วนอารัมกลับเดินเข้าไปขอถ่ายรูปด้วย จูฮยอนจึงตอบตกลงด้วยรอยยิ้ม
"พี่ ฉันเป็นแฟนคลับพี่เลย คอยฟังรายการของพี่ทุกเช้า"
"ขอบคุณนะ แต่ขอเวลาอีกนิด อ่านจะจบหมดแล้ว"
"ได้ค่ะ"
อารัมยังคงยิ้มอย่างมีความสุข โดวุคเองก็ดูท่าเหมือนจะรู้จักจูฮยอนด้วย แต่ท่าทางเขาไม่ได้สนใจ เขาแค่นั่งอ่านบทของตัวเองอยู่ที่มุมห้อง แต่ดูจากการที่เขาแอบเหลือบมองเป็นที ๆ แล้ว บางทีเขาก็อาจจะสนใจอยู่บ้าง
จูฮยอนปิดบทลงเสียงดัง บทนี้มันไม่ได้ยาวมาก เพราะฉะนั้นมันคงใช้เวลาไม่นานในการอ่านให้จบ
"สนุก ฉันล่ะชอบของแบบนี้จริง ๆ ดีจังนะ สมัยเรียนฉันได้แต่ไปดูการแสดงของคนอื่น ไม่เคยได้อยู่ชมรมการแสดงกับเขาเลย แต่การแสดงเองมันคงต่างจากการนั่งดูเยอะใช่ไหมล่ะ?"
จูฮยอนมองสำรวจชมรมด้วยรอยยิ้ม ส่วนเหล่าสมาชิกก็พยักหน้าทักทายกลับไป มารุเดินเข้าไปหาจูฮยอนอีกครั้ง
"ขอถามหน่อยได้ไหมครับว่ามีธุระอะไร?"
"อืม ถ้าจะให้พูด ก็คงเพราะอยู่บ้านเบื่อ ๆ และก็ไม่อยากจะนั่งเล่นคนเดียวด้วย ฉันไม่อยากใช้เวลาวันหยุดแบบนี้ เลยนึกไอเดียดี ๆ ได้ว่ามาหาน้องชายดีกว่า เลยมา และพี่ก็ทำได้ดี ใช่ไหมบังจู?"
เธอหันไปขยิบตาให้บังจู ผู้ที่ตอบกลับมาด้วยอาการไออย่างรุนแรงราวกับไปสำลักอะไรเข้า ก่อนจะหันหน้าหนีไป มารุนั้นประหลาดใจมาก ตอนนี้หญิงวัย 30 กำลังพยายามทำตัวน่ารัก แต่มันกลับไม่ได้ดูผิดแปลกเลย ถ้าแฟนสาวของเขาเรียนรู้อะไรแบบนี้ไว้บ้างก็คงดี...