Guild Master ตอนที่ 63 ตัวใครตัวมัน
ตอนที่ 63
ตัวใครตัวมัน
"แฮ่……"เสียงขู่ของเหล่าทหารผีดิบที่กำลังค่อยๆขยับร่างกายทีละน้อยทำเอาพวกเบสที่กำลังเก็บไอเทมจากพื้นต้องยอมทิ้งไอเทมที่เหลือไป เพราะลากโลภไปกว่านี้กลัวว่าจะต้องเสียชีวิตแทน แต่ก็แอบคิดไม่ได้ว่าเก็บไอเทมทั้งหมดแล้วยอมเสียเลเวลนิดหน่อยจะดีกว่าหรือไม่
ติ๊ง…
[ ผู้เข้ามาแย่งชิงสมบัติทำให้จักรพรรดิแห่งชีวิตอมตะพิโรธเป็นอย่างมาก ผู้เล่นที่ถูกเหล่ากองทัพผีดิบสังหารจะเสียไอเทมทุกชิ้น]
ตุบ….
ไม่ต้องคิดอะไรให้มากความอีกแล้ว ทันทีที่ระบบแจ้งเตือนถึงบทลงโทษในการโดนฆ่า พวกเบสก็ปล่อยสมบัติหลุดมือโดยไม่คิดจะเสียเวลาเปิดกระเป๋าเอาสมบัติพวกนี้เข้าไปเก็บเสียด้วยซ้ำ คนทั้งเรดหันหลังวิ่งออกไปทันทีเพราะไม่ใช่แค่ต้องเสียเลเวล แต่ยังเสียเลเวลทั้งหมดอีกด้วย
"แย่จังเลย มีบทลงโทษแบบนี้ด้วยเหรอ"ไอช่าว่าพลางวิ่งตามพวกกวีไปด้วยท่าทียิ้มๆ เจอกองทัพผีดิบไล่มาแบบนี้เธอยังมีท่าทียิ้มแย้มได้ช่างเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งจริงๆ
"อย่ามัวแต่พูดสิครับ ถ้าหนีไม่ทันของที่ได้มาก็สูญเปล่าเลยนะครับ"หลิวที่วิ่งตามมาข้างหลังพูดด้วยท่าทีลำบากใจ นี่พวกเขาต้องหนีไปถึงไหนเนี่ย
"นั่นสินะ งั้นอันที่ใช้ได้ก็ต้องใช้ก่อนสินะ"กวีว่าพลางนำคำภีร์เวทที่ได้ออกมาเรียนอย่างรวดเร็ว เท่านี้เวทมนตร์ที่ได้มาใหม่ก็ไม่ตกหายไปไหนแล้ว แถมกวียังหยิบมาแค่อย่างเดียวด้วย เท่านี้หากตายก็จะไม่เสียอะไรมาก แต่ถึงอย่างนั้นกวีก็ไม่คิดจะตายหรอก
"ผีดิบพวกนั้นวิ่งเร็วขึ้นหรือเปล่า"เมฆถามพลางมองไปด้านหลังด้วยท่าทีสงสัย ก่อนหน้านี้พวกผีดิบมันไม่เห็นวิ่งเร็วแบบนั้นเลยไม่ใช่หรือไง
"มันมีไอสีแดงรอบๆตัวด้วย คงได้บัพมั้ง"กวีตอบพลางมองไปทางพวกผีดิบด้วยท่าทีสนใจ เดาว่าจักรพรรดิแห่งชีวิตอมตะนั่นคงเป็นโครงกระดูกที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั่นล่ะ ทำให้พวกทหารผีดิบพวกนี้ได้บัพไปด้วย
"พี่เจ เจ้านั่นหน้าคุ้นๆนะคะ"ไอช่าว่าพลางชี้ไปที่มุมหนึ่งของทหารผีดิบที่วิ่งตามมา
"เจ้านั่นมัน…."เจมองตามมือของไอช่าไปก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆออกมา นั่นมันแม่ทัพผีดิบไม่ใช่หรือไง จักรพรรดิแห่งชีวิตอมจะถึงกับเรียกบอสออกมาตามล่าพวกตนด้วยงั้นเหรอ แล้วท่าทีโมโหนั่นอะไร หรือว่ายังไม่หายโมโหที่เจเอาโล่มันมาใช้กันนะ?
"เอาเป็นว่าดูทางให้ดีแล้วกัน ใครเผลอล้มก็ปล่อยตายไปเลยนะ อย่าไปตายพร้อมกันสองคนเด็ดขาด"กวีว่าพลางร่ายเวทกำแพงดินเข้าไปขัดขวางพวกทหารผีดิบเอาไว้ แต่กำแพงก็โดนตีแตกอย่างง่ายดายด้วยกำลังที่เพิ่มขึ้นมาจากบัพของจักรพรรดิชีวิตอมตะ
"ใจร้ายจังเลยนะ"เก๋ยิ้มเจื่อนๆออกมาขณะกำลังวิ่งหนีตายไปด้วยกัน โชคดีที่กวีร่ายเวทกำแพงดินไปเรื่อยๆก็เลยลดความเร็วของทหารผีดิบไปได้บ้าง
"เรื่องปกตินี่คะ ถ้ามีคนหนึ่งล้มแล้วหยุดช่วยจนต้องตายกันหมด คนที่ล้มคงรู้สึกผิดน่าดูเลย"ไอช่าตอบด้วยท่าทีนิ่งเหมือนเป็นเรื่องปกติ แน่นอนว่าการทำแบบนั้นถูกต้องในฐานะแผนการ แต่หากกลายเป็นคนที่ถูกทิ้งจริงๆจะรู้สึกอย่างไรกันนะ
"พวกเราไม่ใช่เด็กกันแล้วนะ ถ้าพลาดก็ต้องรับผิดชอบเอาเอง"กวีตอบด้วยท่าทีเหมือนไอช่าไม่มีผิด สถานการณ์ตอนนี้หากมีใครพลาดล้มลงไปแล้วทุกคนกลับไปช่วย ต่อให้มีเมฆอีกสิบคนก็คงยันกองทัพผีดิบที่ได้รับบัพจนหวดกำแพงดินแตกได้ง่ายๆไม่ไหวหรอก
"เข้าใจแล้ว…"เก๋ตอบพลางเปลี่ยนมาตั้งใจวิ่งดีๆ บนพื้นหินขัดเรียบๆนั้นไม่มีปัญหาหรอก แต่พอพ้นช่วงสุสานไปโซนถ้ำการวิ่งจะลำบากมากขึ้นแน่ๆ ตัวเก๋ไม่เหมือนมีนที่อัพค่าความเร็วผสมไปด้วย แต่เก๋เป็นนักดาบสายโจมตีและทนทานไปด้วย ทำให้ความเร็วของเก๋น้อยกว่าจอมเวทเสียอีกเพราะเก๋สวมเกราะที่ค่อนข้างหนานั่นเอง
"ระวัง"กวีตะโกนเตือนก่อนจะยิงเวทมนตร์ออกไปข้างหน้า ทันทีที่ทุกคนเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นเหล่าสมาชิกเรดก็ไม่ทราบจะหัวเราะออกมาอย่างไรดี
"ตายแน่ๆแบบนี้"ฟ่างว่าพลางเริ่มร่ายเวทมนตร์ยิงออกไปบ้าง ทางข้างหน้าหลังจากพ้นช่วงสุสานไปนั้นมีทหารผีดิบที่กลับมาเกิดใหม่ตามปกติยืนอยู่ ถึงพวกมันจะไม่ได้บัพจากจักรพรรดิแห่งชีวิตอมตะ แต่พวกมันก็เป็นตัวปัญหาอยู่ดี
"ฝ่าไป อย่าปะทะ"เมฆตะโกนก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นไปอีก พริบตานั้นเมฆก็เข้าถึงตัวทหารผีดิบที่ถือโล่พร้อมเหวี่ยงดาบในมือตัวเองเข้าปะทะอย่างจัง ทันทีที่โล่ของมันถูกปัดเมฆก็หันไปโจมตีทหารผีดิบอีกตัวแทนจนร่างของมันถอยออกไปสร้างเส้นทางให้พวกกวีผ่านไปได้
ตูม
เวทมนตร์ของฟ่างและเบสเองก็ยิงออกไปสกัดร่างของพวกผีดิบเอาไว้เพื่อไม่ให้พวกมันตามมาเช่นกัน ตอนนี้ทุกคนต้องเอาชีวิตรอดให้ได้
ผลัก……
หลังจากฝ่าพวกผีดิบปกติมาได้ อยู่ๆเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นที่ด้านหลังของพวกกวี มันเป็นเสียงของคนในเรดที่ล้มลงไปกับพื้นนั่นเอง
"มายด์…."เจที่หันไปมองว่าใครเป็นคนล้มลงไปถึงกับใจหายวาบ คนที่ล้มลงไปคือมายด์นั่นเอง แต่กวีเพิ่งบอกไปว่าจะไม่หันไปช่วยคนที่ล้มเสียด้วย แบบนี้จะทำอย่างไรดี
"วิ่ง…."กวีสั่งก่อนจะมุ่งไปข้างหน้าต่อ ตอนนี้กลับไปช่วยมายด์ไม่ได้หรอก
"......."แต่ถึงกวีจะสั่งแบบนั้น แถมคนอื่นๆยังวิ่งออกไปแล้ว เจกลับไม่ได้ขยับไปจากตรงนั้นเลยแม้แต่ก้าวเดียว ปกติเจจะเชื่อที่กวีบอกเสมอ แต่คนที่ล้มอยู่ตรงนั้นคือคนที่เขาเพิ่งจะคบหาเป็นแฟนด้วยเลยนะ ถ้าทิ้งไปแบบนี้เขาจะมองหน้ามายด์ได้ยังไง
"เจ ตามมา"เมฆตะโกนบอกเจอีกครั้งเพื่อให้วิ่งตามมา เพราะหากทิ้งไปมากกว่านี้เจเองก็จะตามไม่ทันเหมือนกัน
"ขอโทษครับ…"เจพูดด้วยท่าทีเจ็บใจก่อนจะพุ่งเข้าไปหามายด์ที่กำลังพยายามลุกขึ้นยืนทันที ตอนนี้ไม่รู้หรอกว่าจะยังหนีไปด้วยกันทันหรือเปล่า แต่…
เปรี้ยง
เจเหวี่ยงดาบของตนเข้าใส่พวกทหารผีดิบธรรมดาที่กำลังจะเข้ามาโจมตีมายด์ก่อนจะฉุดร่างของมายด์ขึ้นมา
"มายด์วิ่งไปก่อนเลย"เจว่าพลางยกโล่ขึ้นป้องกันการโจมตีจากทหารผีดิบ แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ทหารผีดิบพวกนี้ แต่เป็นกองทัพที่กำลังจะเข้ามาถึงต่างหาก
"เจ…."มายด์มองไปทางเจด้วยท่าทีตกใจ เธอเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าเจจะกลับมาช่วยแบบนี้
"เร็วเข้า เดี๋ยวก็ตายด้วยกันหรอก"เจว่าพลางดันโล่ของตนเองกระแทกร่างของทหารผีดิบออกไป
".........."มายด์เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ยืนขึ้นแล้ววิ่งตามพวกกวีไปเท่านั้น เธอหลับหูหลับตาวิ่งตามพวกกวีไปสุดแรงจนกระทั่งมองหันกลับหลังมาไม่พบเจอีกแล้ว
"บ้าจริง…."เจยิ้มเจื่อนๆออกมาก่อนจะมองกองทัพผีดิบที่วิ่งเข้ามาถึงตัวแล้ว อุตส่าห์ได้ชุดเกราะดีๆมาแท้ แบบนี้ต้องไปขอโทษพี่เมฆที่ทำชุดเกราะที่พี่เมฆซื้อให้หายไปด้วยสินะ…
วูบ…
พอกองทัพผีดิบเข้ามาถึง ฝ่ามือที่สวมเกราะหนักของพวกทหารผีดิบก็พุ่งเข้ามาคว้าตัวเจจนมืดฟ้ามัวดิน พริบตานั้นเจได้แต่ยอมโดนมือพวกนั้นคว้าเอาไว้โดยไร้แรงต่อต้านใดๆ
.
.
"ทุกคนรอดกันหมดแล้วสินะ"กวีถามขึ้นพลางมองไปรอบๆ ตอนนี้พวกกวีหนีกลับขึ้นมาถึงชั้น 3 แล้ว และดูท่าพวกผีดิบจะไม่ตามขึ้นมาแล้วด้วย ทำให้พวกกวีได้พักหายใจแล้วนับจำนวนคนดูอีกครั้ง
"นอกจากเจแล้ว ทุกคนรอดหมด"เมฆตอบพลางมองไปทางมายด์ครู่หนึ่ง ครั้งนี้จะว่ามายด์ก็ไม่ได้เพราะเจตัดสินใจกลับไปช่วยเอง
"กลับไปรอเจที่เมืองการ์กันแล้วกัน"กวีว่าพลางพาคนทั้งเรดเดินเข้าไปในชั้น 3 เพื่อจะขึ้นไปที่ชั้น 2 และ 1 ต่อไป
"นี่พี่จะไม่พูดอะไรเลยงั้นเหรอ เจตายไปเลยนะ"อยู่ๆมายด์ที่อยู่ด้านหลังก็เกิดอาการโมโหขึ้นมาเสียอย่างนั้น อาจจะเพราะท่าทีเฉยชาของกวีที่มีต่อการตายของเจกระมัง
"แล้วคิดว่าเจตายเพราะใครล่ะ"กวีถามด้วยท่าทีดุดันนิดหน่อย ปกติกวีมักจะยิ้มแย้มเสมอแม้อีกฝ่ายจะเป็นศัตรู แต่คราวนี้กวีกลับไม่ยิ้มเสียอย่างนั้น
"นี่พี่จะโทษหนูงั้นเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่อยากได้สมบัติเจคงไม่ตายหรอก"มายด์พูดด้วยท่าทีโมโหเพราะการตายของเจเป็นเพราะตนเองจริงๆ แต่มายด์กลับลากไปเรื่องตอนต้นที่กวีพาพวกตนเข้ามาในสถานที่อันตรายแบบนี้แทนเสียอย่างนั้น เรื่องนี้มายด์สงสัยมานานแล้ว กวีมักจะเลือกเส้นทางที่คนอื่นไม่ไปเสมอ แม้จะได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่มันก็ยากและกดดันจนเธอแทบจะรับไม่ไหวอยู่แล้วนะ คิดว่ามีแต่มีนหรือไงที่กดดันตอนสู้กับผีดิบพวกนั้น
"แล้วทำไมไม่ออกจากปาร์ตี้ไปล่ะ"กวีถามด้วยท่าทีนิ่งเฉยอย่างมาก ตลอดเส้นทางกวีเลือกเส้นทางยากๆไม่เคยบังคับให้ใครตาม แต่มายด์ก็ตามมาเองทั้งๆที่ตัวเองไม่ไหว
"นี่พี่…."มายด์เหมือนจะเถียงอะไรต่อ แต่ก็ไม่ทราบจะเถียงอะไรต่อ หากมายด์ออกไปจากปาร์ตี้แต่แรก ก็ไม่ต้องมาทรมานแบบนี้แล้ว แถมว่ากันตามตรงขาดมายด์ไปคนนึงความเสียหายที่ทำได้ก็ไม่ต่างกันหรอก
"พอแล้ว เจก็แค่ตายครั้งเดียว ไม่ใช่ตายจริงๆสักหน่อยกลับไปที่เมืองแล้วค่อยว่ากัน"เมฆเข้ามาขวางก่อนจะหยุดการโต้เถียงครั้งนี้ลงเสีย เพราะเถียงแบบนี้ต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก
.
.
.
ตุบ…..
อีกด้านหนึ่งทางฝั่งของเจ อยู่ๆเขาก็รู้สึกเหมือนโดนโยนลงมาบนพื้นเสียอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่เขาตายไปแล้วงั้นเหรอ….
"เหี้ย…"ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมา เจก็เผลอสบถออกมาด้วยท่าทีตกใจ เพราะภาพแรกที่ได้เห็นคือโครงกระดูกที่กำลังมองมาทางตนเองอยู่
"จับมาได้แค่คนเดียวสินะ"จักรพรรดิแห่งชีวิตอมตะพูดพลางมองเจที่ถูกมัดเอาไว้กับพื้นด้วยท่าทีดูถูก
"เอาของที่มันขโมยไปออกมา"ทันทีที่จักรพรรดิแห่งชีวิตอมตะสั่ง พวกทหารผีดิบที่ยืนล้อมเจเอาไว้ก็ดึงร่างของเจขึ้นมาก่อนจะปลดอาวุธ ชุดเกราะ รวมถึงของในกระเป๋าของเจออกมาทั้งหมด
"ทีนี้ก็ได้เวลาทรมานแล้ว…"หลังจากไอเทมทั้งหมดของเจโดนถอดออก ใบหน้าของโครงกระดูกตรงหน้าก็เหมือนจะกำลังยิ้มด้วยท่าทีพึงพอใจ นี่มันไม่ยอมปล่อยให้เจตายไปง่ายๆงั้นเหรอ