ย้อนชีวิตพิชิตเซียน - บทที่ 14 : น้ำเต้าปีศาจ
บทที่ 14 : น้ำเต้าปีศาจ
ซูอานถึงกับตกใจไม่น้อย เขาคิดไม่ถึงว่าพลังปราณที่แข็งแกร่งของตนนั้นจะสามารถถูกเจียงชานต้านทานไว้ได้
ซูอานจ้องมองน้ำเต้าในมือเจียงชาน เขาขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น และสัมผัสได้ว่าน้ำเต้าลูกนี้ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก
น้ำเต้าลูกนี้มีขนาดเล็กมากและใสราวกับคริสตัล ดูคล้ายกับว่าน่าจะทำมาจากหยกชนิดหนึ่ง หากพินิจพิจารณาให้ดีจะพบว่าที่พื้นผิวของน้ำเต้านั้น ได้มีการวาดเป็นรูปคล้ายกับภูติผีวิญญาณไว้ซึ่งเป็นภาพที่สะดุดตายิ่งนัก
เวลานี้โจวไห่หวงใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากร่าง และเวลานี้หลังจากที่ได้เห็นความสามารถของซูอาน เขาก็ได้วิ่งขึ้นไปหลบบนชั้นสองแล้วเช่นกัน
โจวไห่หวงได้เห็นพลังปราณที่พุ่งออกมาจากร่างของซูอานกับตา เขาได้แต่คิดว่าหากถึงคราวจำเป็นเขาก็จะใช้ปืนในมือจัดการยิงใส่ร่างของซูอานทันที
โจวไห่หวงเชื่อว่าอย่างไรเสียซูอานก็ไม่น่าจะสามารถหลบลูกกระสุนปืนได้ แต่เขาก็ยังเชื่อมั่นในฝีมือของเจียงชาน แม้จะหวาดกลัวจนเหงื่อตกก็ตาม
และเมื่อเห็นเจียงชานหยิบน้ำเต้าหยกออกมาเช่นนี้ โจวไห่หวงก็ยิ่งรู้สึกโล่งใจมากยิ่งขึ้น
โจวไห่หวงยังจำได้ว่า เมื่อสองสามปีก่อนหน้านี้ เขาได้พบกับเจ้าพ่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คนหนึ่ง และทั้งคู่ต่างก็ต้องการสังหารอีกฝ่าย เมื่อครั้งที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้น ยอดฝีมือของทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้ประมือกัน ครั้งนั้นเจียงชานกับยอดฝีมือของฝ่ายนั้นได้ได้ต่อสู้กันนานกว่าครึ่งวัน จนกระทั่งในที่สุดเจียงชานก็ได้หยิบน้ำเต้าหยกนี้ออกมา อีกฝ่ายจึงได้พ่ายแพ้ไป
โจวไห่หวงยังจำแววตาที่เจ็บปวดและหวาดกลัวของอีกฝ่ายได้ไม่ลืม มันดูราวกับว่าอีกฝ่ายนั้นได้หล่นลงไปในขุมนรกที่น่ากลัวและสยดสยองยิ่งนัก!
เมื่อคิดได้เช่นนี้สายตาของโจวไห่หวงพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที หากเจียงชานนำน้ำเต้าหยกออกมาใช้เช่นนี้ ย่อมหมายความว่าเจ้าเด็กซูอานนั่นจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
โจวไห่หวงรู้สึกมีความสุขอย่างมากที่จะได้เห็นซูอานตายไปด้วยแววตาที่เจ็บปวด เพราะอย่างน้อยเขาจะได้แก้แค้นให้กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนเองได้สำเร็จ ซูอานจะต้องเจ็บปวดเหมือนที่ลูกชายของเขาเจ็บปวด
โจวไห่หวงตั้งใจดูการต่อสู้มากยิ่งกว่าเดิม และไม่ยอมให้พลาดสายตาไปแม้แต่ฉากเดียว!
ขณะนั้น.. เจียงชานถือน้ำเต้าหยกไว้ในมือ แววตาที่จ้องมองซูอานนั้นทั้งเย็นชา และฉาบด้วยรังสีสังหารรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
“น้ำเต้าของเจ้าดูช่างประหลาดนัก!”
ซูอานขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยด้วยความสงสัย น้ำเต้าหยกนี้ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดสำหรับเขา ราวกับว่าภายในนั้นมีบางสิ่งบางอยู่ที่เขาไม่รู้อยู่ด้านใน
“หึ! น้ำเต้าหยกนี่ไม่ใช่น้ำเต้าหยกธรรมดาแน่ แล้วแกก็คงคิดไม่ถึงด้วยเจ้าหนู”
เจียงชานร้องบอกพร้อมกับจ้องมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยประหลาดใจของซูอาน แล้วจึงพูดต่อว่า
“เจ้าหนู กำลังภายในของแกไม่น่าจะเหนือกว่าฉันนี่นา แต่ทำไมถึงสามารถส่งกำลังภายในออกมาแบบนั้นได้?”
และนี่คือสิ่งที่เจียงชานหวาดกลัวที่สุดตั้งแต่ประมือกับซูอานมา และนั่นทำให้เขาเกือบถูกซูอานฆ่าตาย
ซูอานไม่เข้าใจในคำพูดของเจียงชานเท่าไหร่นัก เพราะสิ่งที่เขาปลดปล่อยออกมานั้นไม่ใช่กำลังภายใน แต่มันคือพลังชีวิต!
ความจริงแล้วผู้ที่เพิ่งเข้าสู่ขั้นปรับพื้นฐานลมปราณนั้นยังไม่อาจที่จะทำเช่นนี้ได้ การจะสามารถปลดปล่อยพลังชีวิตหรือพลังปราณออกมาได้เช่นนี้ อย่างน้อยก็น่าจะเข้าสู่ขั้นโฮ่วเทียนเสียก่อน เมื่อถึงขั้นนั้นจุดตันเถียนจะมีพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังปราณออกมาได้
แต่เขาคือจักรพรรดิเสียนอู่ ย่อมต้องมีวิธีที่ผู้อื่นไม่อาจล่วงรู้!
เจียงชานจ้องมองซูอานด้วยแววตาสังหาร และได้แต่คิดว่าเด็กคนนี้เป็นอันตรายและเสมือนหายนะในชีวิต เขาไม่สามารถที่จะปล่อยเด็กหนุ่มผู้นี้ให้มีชีวิตรอดกลับไปได้
“เจ้าหนู นับเป็นโชคร้ายของแกแล้วที่ฉันมีน้ำเต้าปีศาจอยู่ในมือ ชะตากรรมของแกอยู่ในกำมือของฉันแล้ว!”
“น้ำเต้าปีศาจงั้นรึ?”
สีหน้าของซูอานเคร่งเครียดขึ้นมาทันที เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าน้ำเต้าปีศาจใบนี้นั้น ภายในจะต้องเลี้ยงภูติผีวิญญาณเอาไว้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นซูอานก็ได้แต่นึกหยันอยู่ในใจ
‘ภายในน้ำเต้านั่นจะมีวิญญาณประเภทใดกัน? วิญญาณเร่ร่อนโดดเดี่ยวงั้นรึ? คงมีแต่วิญญาณไร้สามารถเท่านั้นจึงจะถูกคนเช่นนี้จับขังเลี้ยงดูได้!’
แต่โจวไห่หวงที่เพิ่งได้รู้ว่ามันคือน้ำเต้าปีศาจก็ถึงกับตกใจ และหวาดกลัวอย่างมาก!
โดยปกติวิสัยของมนุษย์ทั่วไป ย่อมต้องหวาดกลัวภูติผีวิญญาณเป็นธรรมดา แม้จะฟังดูเป็นเรื่องหลอกกลวง แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์ทุกคนหวาดกลัวได้
“อาวุโสเจียง ในน้ำเต้ามีผีจริงๆงั้นรึ?” โจวไห่หวงร้องถามออกมาอย่างหวาดกลัว
“ใช่แล้ว! วิญญาณนี้ถูกเลี้ยงดูมานานมากกว่าสิบปีแล้ว!”
จากนั้นเจียงชานจึงหันไปมองซูอานด้วยสีหน้าดุดันพร้อมกับพูดขึ้นว่า “เจ้าหนู ครั้งนี้แกเหลือเส้นทางเดียวเท่านั้นคือ.. ความตาย!”
เจียงชานจัดการดึงฝาน้ำเต้าหยกออก แล้วขวดน้ำเต้าหยกก็สั่นไปมาอย่างรุนแรง เพียงแค่ประเดี๋ยวเดียว ควันสีดำก็พุ่งออกมาจากปากขวด ก่อนจะค่อยๆรวมตัวกันเป็นรูปร่างคล้ายกับวิญญาณของผู้หญิง
ผีผู้หญิงตนนั้นมีใบหน้าที่น่ากลัวและดูดุร้ายยิ่งนัก เล็บทั้งสิบนิ้วยาวเกือบหนึ่งฟุต ผีสาวตนนี้ถูกเรียกออกมาย่อมต้องรู้หน้าที่ของตนเองดี
ซูอานเดินก้าวเท้าเข้าไปใกล้มากขึ้นพร้อมกับจ้องมองผีผู้หญิงตรงหน้า เพื่อที่จะดูให้แน่ใจว่าเป็นวิญญาณจริงๆ
“เรียกข้าออกมาทำไม?”
น้ำเสียงลากยาวชวนขนลุกเอ่ยถามขึ้น ทั้งโจวไห่หวงและภรรยาเมื่อได้ยินยังถึงกับสั่นไปทั้งร่างด้วยความตกใจกลัว
“จัดการฆ่าเด็กหนุ่มตรงหน้าซะ เจ้าจะได้ดูดเอาพลังหยางของมันเข้าไปได้!”
เจียงชานร้องบอกพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางร่างของซูอาน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดุร้ายและต้องการที่จะสังหารซูอานให้ตายจงได้
ผีผู้หญิงตนนั้นหันไปมองซูอาน ดวงตาของนางลุกวาวด้วยความตื่นเต้น
“เด็กหนุ่มงั้นรึ?! พลังที่บริสุทธิ์ ฮ่า ฮ่า ฮ่า… คิดไม่ถึงว่าจะได้มีโอกาสพบเจอ..”
“มาเร็ว.. มาให้ข้าดูดพลังหยานของเจ้า!”
ผีผู้หญิงตนนั้นแสยะยิ้ม แยกเขี้ยว และยกมือที่มีเล็บยาวทั้งสิบขึ้น ก่อนจะพุ่งเข้าหาร่างซูอานอย่างรวดเร็ว เร็วจนเขาเองก็ไม่สามารถหลบหลีกได้ทัน
แต่ในระหว่างที่ผีสาวเข้ามาใกล้จนกระทั่งประชิดตัวนั้น ซูอานก็ได้หันไปจ้องมองดวงตาของผีตนนั้นแน่วแน่ ประกายตาเย็นยะเยือกของซูอานทำให้ผีสาวถึงกับชะงักไปทันที
“ห๊ะ?!”
ผีสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ และแววตาของมันก็เต็มไปด้วยความหวาดผวาเมื่อจ้องมองเข้าไปในดวงตาของซูอาน นั่นเพราะลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น ดูราวกับโลกที่ลึกลับ อีกทั้งยังมีพลังที่แข็งแกร่งของผู้สูงส่ง เช่นนั้นแล้วผีสาวอย่างนางจะกล้าเผชิญหน้าได้อย่างไรกัน?
กรี๊ด!!
ผีสาวกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ และรีบหายกลับเข้าไปในน้ำเต้าหยกทันที เวลานี้น้ำเต้าปีศาจสั่นด้วยความรุนแรงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นการสั่นที่เกิดจากความหวาดกลัวของผีสาว!
ภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้านั้นเหนือความคาดหมายของเจียงชานยิ่งนัก เขาจึงได้แต่นิ่งอึ้งไปและทำอะไรไม่ถูก!
“นังผีสาว! เจ้าหลบเข้าไปในน้ำเต้าหยกทำไมกัน? ยังไม่รีบออกมาฆ่ามันอีกรึ?”
แต่ผีสาวตนนั้นกลับนิ่งเงียบ และไม่ยอมออกมาจากน้ำเต้าอีกเลย มันไม่ยอมฟังคำสั่งของเจียงชาน ทำให้เขาโมโหอย่างมาก!
“นังผีสาว! หากเจ้าไม่ออกมาฆ่ามัน ข้าจะเอาน้ำเต้าไปตากแดดให้วิญญาณของเจ้าสลาย!”
เจียงชานร้องตะโกนข่มขู่ผีสาวที่เอาแต่หลบอยู่ในน้ำเต้าด้วยความโมโห แต่คำขู่ของเจียงชานก็ไม่เป็นผล ผีสาวตนนั้นยังคงไม่ออกมาและน้ำเต้าหยกก็ยังคงสั่นอยู่เช่นนั้น
เจียงชานได้แต่ตกใจและคิดว่าเด็กหนุ่มร่ายคาถาอาคมอะไรกันแน่ จึงได้ทำให้ผีสาวของตนหวาดกลัวได้มากมายถึงเพียงนี้
และในเมื่อผีสาวไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขาเช่นนี้ ย่อมหมายถึงว่าเจียงชานจะไม่อาจต้านทานซูอานได้อีกต่อไป!
ใบหน้าของเจียงชานเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวขึ้นมาทันที สีหน้าของเขาบ่งบอกว่าจากนี้ไปการรับมือซูอานจะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้ว
ซูอานค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปใกล้เจียงชานพร้อมกับถามขึ้นว่า “เจ้ามีของวิเศษเพียงเท่านี้สินะ?”
“ซู.. ซูอาน เธออย่าเพิ่งเข้าใจฉันผิดไป ฉันแค่รับค่าจ้างมาเท่านั้น ฉันไม่ใช่ศัตรูของเธอ ศัตรูที่แท้จริงของเธอคือโจวไห่หวง!”
ในเมื่อมาถึงช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายเช่นนี้ เจียงชานจำเป็นต้องเลือกชีวิตของตนเองก่อน และไม่ลังเลที่จะโยนความผิดทั้งหมดให้กับโจวไห่หวง
โจวไห่หวงได้ยินเช่นนั้นจึงยกมือขึ้นชี้หน้าเจียงชานพร้อมกับร้องตะโกนออกไปด้วยความโมโห
“เจียงชาน.. แก.. ฉันดีกับแกแค่ไหน แต่แกกลับทรยศหักหลังฉันแบบนี้รึ?”
“ภัยมาถึงตัวแล้ว.. อย่ามากล่าวหาว่าฉันหักหลัง ฉันแค่พูดความจริง!”
เจียงชานจ้องมองโจวไห่หวงด้วยสีหน้าเย็นชา และไม่สนใจคำพูดโกรธแค้นของโจวไห่หวงอีก ขอเพียงแค่ซูอานยอมปล่อยเขาไปก็พอแล้ว!
แต่ทันใดนั้นเอง พลังปราณที่แข็งแกร่งก็พุ่งเข้าทะลุหน้าอกของเจียงชาน แล้วเลือดสีแดงก็พุ่งกระฉูดออกมาราวกับน้ำพุ ร่างของเจียงชานที่ยืนกำหมัดจ้องมองซูอานนั้น สีหน้าของเขายังคงบ่งบอกว่าไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“อาจารย์ของฉันต้องไม่ปล่อยแกไปแน่!”
เสียงร้องคำรามสุดท้ายของเจียงชานดังออกมาจากลำคอ ก่อนที่จะใช้แรงเฮือกสุดท้ายพุ่งทะยานเข้าใส่ร่างของซูอาน แต่กลับถูกซูอานเตะจนร่างลอยกระเด็นไปกระแทกกับผนังขาดใจตายในทันที