ตอนที่แล้วบทที่ 134 :วาณิชผู้ชั่วร้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 136 : การสังหารที่โหดเหี้ยม

บทที่ 135 : ภารกิจรนหาที่ตาย


ในฐานะบอสระดับรีเจนดารี วิลเลียมจะไม่ยอมให้ใครมายุยงเขาได้

ตัวอย่างเช่น

เขาจะไม่ใส่อุปกรณ์สั่วๆจากอาณาจักรลาวาดำออกลาดตระเวนเป็นเหยื่อล่อหรอกนะ แบบนั้นมันระดับต่ำเกินไป

พอมาถึงทางเข้าเมือง ผู้เล่นหลายพันที่รอคอยการมาถึงของเขาก็เข้าไปล้อมรอบตัวเขาทันที การได้เห็นบอสระดับรีเจนดารีไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนการหาบอสระดับรีเจนดารีที่ชอบออกภารกิจนั้นยากยิ่งกว่า ไม่ต้องพูดถึงผู้เล่นหญิงที่รู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะปกป้อง NPC ที่หล่อเหลาเช่นนี้

“ว้าว เจ้าชายหล่อมากก ฉันอยากจะ…”

"เธออยากอะไร?"

"ฉันก็ด้วย…"

“ตู้ม…”  ทันใดนั้นลูกไฟก็ถูกยิงขึ้น

เมื่อพวกเขาได้ยินว่าผู้นำของทหารรับจ้างรุ่งอรุณจะมาถึง ผู้เล่นเกือบทั้งหมดในเมืองก็มารวมตัวกันที่สถานที่จัดงาน แต่กลุ่มผู้เล่นนั้นเสียงดังมาก โดยทั่วไปแล้วการโต้เถียงกันอาจเป็นเหตุที่ทำให้เกิดการต่อยตีกันได้

แต่บังเอิญว่า

ผู้เล่นมืออาชีพจากสโมสรความรุ่งเรืองแห่งสหัสวรรษเพิ่งกลับมาจากการกวาดล้างก็อปลิน และวางแผนที่จะร่วมสนุกอีกด้วย

เดียวดายตลอดกาลมองไปที่วิลเลียม ในฐานะแรนเจอร์ พวกเขามีแนวทางที่แตกต่าง แต่มีทักษะที่เท่าเทียมกัน ทั้งคู่ฝึกฝนดาบและธนู แต่ความแตกต่างระหว่างทั้งสองนั้นมีมากมายนัก...

เมื่อมีผู้เล่นมืออาชีพเข้ามาผู้เล่นจะเปิดเส้นทางให้กับพวกเขาอย่างเป็นธรรมชาติ วิลเลียมจำได้ว่าบางคนเคยเป็นคนดังในชาติก่อน

“แต่นี่เป็นเรื่องดี ยังไงพวกเขาทั้งหมดก็จะถูกส่งไปตาย ดูเหมือนว่าจะดีกว่าที่จะส่งผู้เล่นมืออาชีพที่มีทักษะดีๆไปตาย”

วิลเลียมครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ การโจมตีจากกองกำลังประหารจะต้องอันตรายอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถเผชิญหน้ากับกองกำลังประหารได้หรือไม่ แต่เขาก็ไม่สามารถลดการป้องกันลงได้

เขาอนุญาตให้ผู้เล่นติดตามเขาไปได้ เนื่องจากพวกเขานั้นสามารถคืนชีพได้ตลอดเวลาและไม่คิดว่าจะถูกส่งออกไปตายตราบใดที่รางวัลนั้นดีพอ พวกเขาไม่เหมือน NPC ระดับต่ำที่จะถูกโจมตีแล้วจะเสียชีวิตลง

มีหลายวิธีสำหรับผู้เล่นในการฟื้นคืนชีพและมีสองวิธีในนั้นที่ธรรมดามาก ผู้เล่นสามารถฟื้นคืนชีพได้ที่จุดฟื้นฟู อีกวิธีหนึ่งคือหากวิญญาณของพวกเขาฟื้นคืนชีพ ร่างกายของพวกเขาก็จะฟื้นขึ้นมาทันทีในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้พวกเขายังมีพลังชีวิตถึง 70% อีกด้วย

“สิ่งสำคัญคือผู้เล่นที่ยังไม่ถึงเลเวล 30 นั้นยังไม่ถึงขีดจำกัดการฟื้นฟู หากพวกเขาตายพวกเขาจะได้รับแต่บทลงโทษเท่านั้น” วิลเลียมมองไปที่ผู้เล่นที่ยังคงสอบสวนและตั้งคำถามกับเขา

บางคนนั้นทั้งหน้าหนาและไร้ยางอาย พวกเขากล้าบอกเขาว่าพวกเขาต้องการอาชีพลับและอุปกรณ์ระดับสูง

เขาตอบได้แค่ว่า “หากไม่มีเงิน ก็ไม่มีอุปกรณ์ไม่มีอาชีพ”

อาชีพลับนั้นหายาก แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปนัก

NPC ทุกคนฉลาด

พวกเขาชอบสิ่งเดียวกันนั่นคือ เงิน!

ผู้เล่นหลายคนไม่ได้ทำภารกิจจาก NPC แต่ใช้เงินเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ บางคนถึงกับยกระดับความสัมพันธ์ของพวกเขาขึ้นมากจนได้อาชีพลับมา...

คำเตือน นี่เป็นวิธีของพวกมือเติบเท่านั้น เพราะ NPC ที่มีอาชีพลับจะเรียกเก็บเงินสูงมาก...

“เราไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบกับทหารรับจ้างของเราในเมืองนี้ เราต้องเลือกนักรบที่กล้าหาญเพื่อติดตามเราไปทำภารกิจ ใครเต็มใจที่จะไปกับเราบ้าง?” วิลเลียมถาม

ทันใดนั้น

ผู้เล่นทุกคนจากกองกำลังทหารรับจ้างรุ่งอรุณก็จะมีหน้าต่างคำถามขึ้นมาว่าใช่หรือไม่

พวกเขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เนื่องจากรู้ว่าตนเองได้รับภารกิจลับ พวกเขากด“ใช่” ทันที

แต่…

มันกลับไม่มีประโยชน์อะไร

วิลเลียมเลือกผู้เล่นเลเวล 14 จำนวน 30 คนรวมถึงผู้เล่นมืออาชีพห้าคน

“พระเจ้า โชคดีชะมัด ฉันได้รับเลือกด้วย! มันจะเป็นภารกิจแบบไหนกันนะ?”

"ฉันก็ด้วย ฉันแข็งแกร่งมากขนาดนั้นเลย? นั่นคงเป็นเหตุผลที่บอสระดับรีเจนดารีเลือกฉันแน่ๆ?”

“ชิๆ NPC คนนี้กำลังเผชิญหน้ากับเรา เขาเลือกพวกเราทั้งห้าคนเพราะเราสนิทกับเขาหรือเปล่า?” มืออาชีพผู้ถือโล่ถาม

เดียวดายตลอดกาลสับสน เขาส่ายศีรษะไปมาเหมือนกับว่าเขาไม่เข้าใจ

ดิ๊งด่อง

ผู้เล่น 30 คนได้รับภารกิจในเวลาเดียวกัน

[เหยื่อ : คุณจะต้องสวมชุดเกราะของกองกำลังลาดตระเวนลาวาดำ และทำหน้าที่เป็นเหยื่อล่อกองกำลังประหารจากอาณาจักรเหล็ก]

[คำแนะนำภารกิจ: เหยื่อคืออะไร? แค่เดินไปตายยังไงล่ะ!]

[ระดับความยาก: C]

[รางวัล: ค่าประสบการณ์ 3000 ~ ??? ]

[รางวัล: เหรียญเงิน 10 ~ ??? ]

“เอ้ย รางวัลของฉันไม่มีขีดจำกัดสูงสุด ตามที่คาดไว้สมกับเป็นบอสระดับรีเจนดารี…” ผู้เล่นคนหนึ่งยิ้มไปถึงหูเมื่อเห็นรายละเอียดภารกิจ

เดียวดายตลอดกาลอ้าปากค้างด้วยความตกใจ “นี่เป็นภารกิจจำพวกรนหาที่ตายหรือป่าวเนี่ย?”

"ถูกตัอง บอสรู้อยู่แล้วว่าเราเป็นผู้ถูกเลือกที่ไม่กลัวตาย ยิ่งเราตายมากเท่าไหร่รางวัลก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น!”

“ชิๆ ภารกิจหาที่ตายแบบนี้ ฉันอาจทำให้เขาล้มละลายได้เลยนะเนี่ย…” ผู้เล่นมืออาชีพอีกคนหัวเราะ

วิลเลียมโบกมือให้พวกเขาและพาไปที่โกดังทหารซึ่งเป็นที่ที่ให้พวกเขาเปลี่ยนอุปกรณ์

เมื่อพวกเขาไปถึงเขาก็บดขยี้ม้วนกระดาษเวทมนตร์ลงกับตัว

ก่อนที่เวลาต่อมาผู้เล่นที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนชุดเกราะจะกลายเป็นคนโง่เขลา

ทันใดนั้นวิลเลียมผู้หล่อเหลาก็กลายเป็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมวิเศษ ...

“นี่มันอะไรกัน!” ผู้เล่นพยายามที่จะสัมผัสเขา แต่มือของเขาผ่านเสื้อคลุมวิเศษและสัมผัสกับชุดเกราะที่เย็นยะเยือก เขาไม่ได้สัมผัสสิ่งที่เขาคิดว่าจะจับได้ ...

เดียวดายตลอดกาลเบิกตากว้าง “ภาพลวงตา ช่างเป็นภาพลวงตาที่เหมือนจริงมาก!”

“หืม? ฉันตรวจสอบสถานะของเขาไม่ได้ เปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน…”

“น่าทึ่งชะมัด…”

“จำไว้ว่าพวกเจ้าต้องกลมกลืนไปกับกองกำลังลาดตระเวน เมื่อเราออกไปนอกเมืองให้ทำตัวเหมือนพวกเขา อย่าเปิดเผยตัวเอง” วิลเลียมใช้น้ำเสียงของเขาในฐานะหัวหน้าทีมรุ่งอรุณและแนะนำพวกเขา ผู้เล่นคนอื่น ๆ รีบพยักหน้า ไม่มีใครอยากให้ภารกิจล้มเหลว

เวลาผ่านไป

วิลเลียมและคนที่เหลือรออยู่ที่โกดังของทหารครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเดินออกไปทางประตูด้านข้าง พวกเขาเข้าร่วมกองกำลังลาดตระเวน 30 นาย

พวกเขาจัดตั้งกลุ่ม 61 คน ก่อนจะก้าวไปยังป้อมปราการทหารแห่งหนึ่งเพื่อสังเกตการณ์

ถ้ำปีศาจที่พังทลายอยู่ไม่ไกลจากป้อมปราการทหารและตัวเมือง

ถ้ำปีศาจซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีสิ่งมีชีวิตในความมืดได้ปิดลงอย่างช้าๆเนื่องจากประตูมิติไม่เสถียร ตอนนี้มีสิ่งมีชีวิตมืดไม่มากนัก มันกลายเป็นที่หลบซ่อนชั่วคราวของกองกำลังประหาร

ถ้ำมืดสลัวสว่างไสวด้วยแสงจากตะเกียงเวทย์และเผยให้เห็นสมาชิก 20 คนของกองกำลังประหาร พวกเขากำลังพักผ่อนหรือฝึกพลังการต่อสู้กันอยู่

อีก 30 คนกำลังปฏิบัติภารกิจสังหาร

บี๊บ

“มีภารกิจ!” ทหารระดับอีปิคได้ยินเสียงนี้และดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น ส่วนที่เหลือไปดูม้วนกระดาษส่งสารของออกัสติน

ออกัสตินซึ่งกำลังนั่งไขว่ห้างและฝึกฝนพลังต่อสู้ของเขาอยู่ถ่มน้ำลายด้วยความรำคาญ เขาลืมตาขึ้นและมองไปที่ม้วนกระดาษที่เอวของเขา

“กองกำลังที่ 60 และนักเวทย์วัยกลางคน?” ออกัสตินเลิกคิ้ว

"นักเวทย์? พวกเขาเป็นหน่วยลาดตระเวนใช่ไหม? พวกเขายังกล้าที่จะหน่วยลาดตระเวนออกไปในเวลานี้ ดูเหมือนว่าสภาพแวดล้อมภายในอาณาจักรลาวาดำก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเช่นกัน” หน่วยลาดตระเวรหน้ามุ่ย

ออกัสตินจ้องมองเขา เขายืนขึ้นและหยิบดาบฆ่ามังกรขึ้นมา เขาพูดด้วยเสียงต่ำ “เราจะออกไปเดี๋ยวนี้ ผู้วิเศษมีความสำคัญ เมื่อเราฆ่าเขาแล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องสนใจส่วนที่เหลือ”

“เฮ้ แม้ว่าพวกเขาจะมี 600 คน พวกเขาจะสามารถเอาชนะเราได้หรือ?” มือสังหารระดับอีปิคหัวเราะ

ออกัสตินส่ายศีรษะ “ระมัดระวังเอาไว้ ฉันเห็นข้อความแจ้งว่าเจ้าเมืองรุ่งอรุณไปที่เมืองนั้นด้วย เราต้องระวังอย่าทำผิดพลาด”

"ท่านกลัวเขาหรือ? เขาดุร้าย ถึงแม้ว่าเขาจะกลมกลืนไปกับกองกำลัง แต่เราก็สามารถรู้ตัวตนของเขาได้ใช่ไหมล่ะ? "

ออกัสตินเลิกคิ้ว เขาไม่ได้พูดอะไรอีก ข้อความแสดงให้เห็นว่ากองกำลังที่ 61 ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก ดูเหมือนจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับเริ่มต้นหลายคนหรือที่เรียกว่าผู้ถูกเลือกอยู่ในนี้...

เขาเข้าใจความแข็งแกร่งของกองกำลังประหาร แต่หลังจากที่เขาล้มเหลวในการสังหารมังกร เขาก็ให้คำมั่นว่าจะไม่ล้มเหลวอีก!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด