ตอนที่ 33 - ทาสที่มีจิตอาฆาต
*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เหล่าทาสนักรบสปาตันนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง, โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้, เย่เทียนได้ตะโกนคำว่า สปาต้า ออกมาต่อหน้าพวกเขา!
ถือเป็นเกียรติยศและคำขวัญจริงๆ!
ด้วยเหตุนี้พวกเขาเลยดูฮึกเหิมเป็นพิเศษในวันนี้. หลังจากที่พวกเขากินมื้อค่ำอิ่มแล้ว, พวกเขาก็ไปง่วนอยู่กับการสร้างสนามฝึกซ้อมต่อแม้ว่าจะไม่มีใครมาเร่ง.
กินอิ่มท้อง !
ใช่แล้ว, ไม่เพียงแต่พวกเขาจะได้กินอิ่มเท่านั้นแต่คุณภาพอาหารที่เย่เทียนให้พวกเขานั้นก็ค่อนข้างดีเช่นกัน. อาหารทุกเมนูมีเนื้อและซุปเนื้อ. แม้ว่าจะไม่มากแต่ก็เป็นสิ่งที่ทาสทุกคนใฝ่ฝันถึง.
ไม่มีใครรู้ได้ว่ามีทาสกี่คนที่ต้องกินขยะในทุกวันและไม่สามารถกินอิ่มท้องได้. ยิ่งไปกว่านั้นก่อนจะกลายมาเป็นทาสพวกเขาก็ไม่เคยได้กินเนื้อดีๆทุกวันเลย.
พวกเขาถึงขนาดสงสัยว่านี่ใช่ชีวิตทาสจริงๆหรอ? นี่มันสวรรค์ชัดๆ.
พวกเขาไม่รู้หรอกว่าเย่เทียนกำลังคิดอะไรอยู่. เย่เทียนแค่อยากจะฝึกพวกเขาให้กลายเป็นกองทัพทาสที่แข็งแกร่งที่สุด . ถ้าพวกเขาไม่ได้กินดีอยู่ดีแล้วล่ะก็ พวกเขาจะสามารถฆ่าศัตรูในสนามรบให้เขาได้ยังไง. และพวกเขาจะปกป้องโปรเจคระดับใหญ่ที่กำลังจะสร้างไม่ในนานนี้ได้ยังไง, แล้วไหนจะเรื่องผลประโยชน์อีก? ไหนจะในอนาคตที่ พวกเขาต้องช่วยก่อตั้งจักรวรรดิไร้พ่ายให้เขาอีก?
ดึกในคืนนั้น เย่เทียนและแองเจล่ากำลังกอดกันอยู่และพวกเขาก็ใช้เวลานานกว่าจะหลับไป.
วันต่อมา, เย่เทียนตื่นแต่เช้าเพื่อเริ่มการฝึกซ้อมของเขา, ฝึกวิชาดาบและฝีเท้า.
“เจ้านายคะ, มีกลุ่มคนอยู่ข้างนอกค่ะ. พวกเขาพูดว่ามาจากตระกูลปอมปีย์และพาทาสจำนวนหนึ่งมาให้ด้วย…”
ไดอาน่าเดินมาข้างๆเย่เทียนแล้วพูดกับเขาอย่างสุภาพ.
ขณะที่เธอมองผิวสีบรอนซ์ของเย่เทียน, ตาของนางก็เต็มไปด้วยความหลงใหล. นางรู้ว่ามีพลังมากแค่ไหนอยู่ในร่างนี้.
เนื่องจากเธอได้บำรุงกำลังจากเขาเมื่อวานนี้ ตอนนี้เธอจึงสวยขึ้นและมีเสน่ห์กว่าเดิม.
สำหรับเดย์ซี่และดินน่านั้น พวกเธอยังนอนอยู่ อย่างน้อยก็วันสองวันก่อนจะมีแรงกลับมาเดินได้ตามปกติ.
“เตรียมโถน้ำให้ข้าที, ข้าจะไปหาพวกนั้นก่อนล่ะ!”
เย่เทียนหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดเหงื่อออกจากร่างกาย. เขาโยนผ้าไปให้เธอ แล้วออกไป.
หลังจากมองร่างของเย่เทียนจากไป, ไดอาน่าหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาแตะปลายจมูกของเธอ. แล้วนางก็สีหน้าเคลิ้ม.
พอมาถึงประตูก็มีทหารอารักษ์ขาของตระกูลปอมปีย์ 10 คนและทาสสปาตันแข็งแรงทั้ง 20 คนกำลังยืนอยู่.
“จิตอาฆาต!!”
เมื่อเย่เทียนเดินไปหาพวกเขา, เขารู้สึกได้ถึงจิตอาฆาตที่รุนแรง. ยิ่งไปกว่านั้นคือมันเล็งมาที่เขา.
“จิตอาฆาตพวกนี้มาจากทาสสปาตันพวกนี้จริงๆ! ทาสพวกนี้อยากฆ่าเราเหรอ?”
พอเช็คค่าความภักดีของทุกคนตรงหน้าเขา, เย่เทียนรู้ได้ทันทีว่าจิตอาฆาตมาจากไหน.
“ไม่สิ, ฉันไม่มีเรื่องบาดหมางกับทาสนักรบพวกนี้เลยนะ. ต่อให้ฉันกำลังจะเป็นเจ้านายของพวกมัน มันก็คงไม่มีจิตอาฆาตที่รุนแรงขนาดนี้ต่อฉันแน่ๆ.งั้นก็แสดงว่าคนที่อยากจะฆ่าฉันคงเป็นปอมปีย์แน่ๆ!”
ต่อให้ไม่คิดเรื่องนั้น, เย่เทียนก็รู้ว่าใครอยากจะฆ่าเขา!
มันคือปอมปีย์แน่ๆ แต่เขาแค่ไม่รู้ว่าปอมปีย์จะให้อะไรกับพวกเขา ถึงขนาดทำให้พวกเขามีจิตอาฆาตต่อเย่เทียนขนาดนี้.
“ลอร์ดซาตาน, พวกเรารับคำสั่งมาจากนายน้อยปอมปีย์ ให้มอบทาสสปาตั้นเหล่านี้แก่ท่าน. ตอนนี้พวกเราก็ได้ส่งมอบให้ท่านแล้ว. นี่คือกุญแจปลดโซ่คล้องมือของพวกมัน.พวกเรากำลังจะกลับและไปแจ้งให้นายเราทราบ”
ทหารหนุ่มเดินมาหาเย่เทียนและพูดอย่างไม่แยแส. จากนั้นเขาก็ส่งกุญแจให้เย่เทียน.ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสังเวชต่อเย่เทียน.
“เดี๋ยว..”
พ่อเห็นทหารหันกลับไป, เย่เทียนหยุดเขาไว้. แต่ทหารคนนั้นไม่แยแสเย่เทียนเลยแม้แต่น้อย.ราวกับว่าเขาไม่เห็นเย่เทียน, คนที่กำลังจะตาย, อยู่ในสายตาเลย.
“นี่นายน้อยปอมปีย์ของเจ้าไม่ได้บอกเหรอ ว่าข้าเป็นชนชั้นสูงแล้ว?”
เย่เทียนแสยะยิ้ม มันทำให้ร่างของทหารผู้นั้นสั่นเล็กน้อย. ตาของสปาตั้นทุกคนกระตุกเบาๆ และความเยือกเย็นก็แผดขึ้นมาในตาของพวกมัน.
“ข้าอยากทราบว่า ท่านมีอะไรจะแนะหรือป่าวครับ?”
หลังจากเย่เทียนเปิดเผยตัวตนของเขา ทหารคนนั้นก้มลงด้วยความกลัวทันที น้ำเสียงของเขาเริ่มมีความเคารพขึ้นมา.
“มานี่!”
เย่เทียนยิ้มและใจเย็นมาก.
“เจ้าไม่รู้เหรอ? สถานะของชนชั้นสูงนั้นมีประโยชน์มากไปจริงๆ!”
พอทหารเดินมาด้านหน้าของเย่เทียน, เย่เทียนพูดอย่างไม่ใยดี. จากนั้นเย่เทียนก็บีบคอทหารคนนั้น. เขายกเข่าขึ้นมาแล้วตีเข้าหน้าทหารคนนั้นยังโหดร้าย.
“อุ้บบบ!”
ใครจะไปรู้ความแข็งแกร่งของเย่เทียนล่ะ. จู่ๆเขาก็ตีเข่าไป, ทหารคนนั้นเลือดออกจมูกทันทีแม้แต่จมูกเองก็หัก และฟันก็หลุดออก.
“อ๊า…”
ทหารยกมือขึ้นมาบังหน้าและกรีดร้องอย่างโหยหวน.
“ปั้ก!”
“ปั้ก!”
“ปั้ก!”
…
แต่เย่เทียนก็ไม่คิดจะปล่อยเขาไป. เขาตบหน้าทหารคนนั้น ทำให้ตัวเขาแข็งทื่ออยู่กับที่ ดาวบินอยู่บนหัวและหูก็อื้อไป.
“ตุ้บ!”
ในครั้งสุดท้าย เย่เทียนเตะเขากระเด็นไป แล้วเขาก็หมดสติทันที.
“ถึงเจ้าจะไม่เคารพข้า แต่เจ้าต้องเคารพสถานะของข้า! กลับไปบอกนายปอมปีย์ของเจ้าด้วย, ถ้าเขาไม่รู้วิธีเลี้ยงหมาให้ดี ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสอนให้!”
เย่เทียนเอาผ้าออกมาแล้วเช็ดคราบเลือดที่มือของเขาออกไป ขณะที่พูดกับพวกทหารที่กำลังสั่นกลัวอยู่.
ยั่วยุและฉีกหน้าปอมปีย์!
ความหมายของเย่เทียนนั้นชัดเจนแจ่มแจ้ง.
“กรึ่บ…”
ทหารคนอื่นนั้นกลัวกันไปหมด. พวกเขาได้แต่กลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไง.
“อีกเรื่องนึง, แล้วเหรียญทองที่นายน้อยของพวกเจ้าติดข้าไว้ล่ะ?”
เย่เทียนถามอย่างสุขุม.
“ท่านลอร์ดผู้สูงส่ง….นายของเรา….กำลัง..เตรียมอยู่ครับ…”
ทหารคนนึงรวมความกล้าและตอบเย่เทียนไปอย่างสุภาพ. แต่เหงื่อก็แตกพลั่กและเสียงก็สั่นเทาไปหมด.
ก็สมควรแหละ, เพราะเมื่อตะกี้เย่เทียนโหดร้ายมาก. เย่เทียนอัดเพื่อนเขาซะน่วม และทำให้เขาพิการไป. ทุกคนได้ยินเสียงกระดูกหัก จากลูกเตะของเย่เทียนเมื่อกี้.
ถ้าเย่เทียนไม่พอใจกับคำตอบและอยากจะสั่งสอนเขา เขาก็ไม่กล้าที่จะตอบโต้เพราะว่าเย่เทียนเป็นชนชั้นสูง.
เนื่องจากเย่เทียนกล้าอัดพวกเขาเละ, นั่นแปลว่าเย่เทียนไม่เกรงกลัวนายน้อยของพวกเขาเลย.
“เอาไอ้ขยะนี่กลับไป! แล้วก็บอกนายน้อยพวกเจ้าด้วย, ทาสพวกนี้ดูดีมาก ข้าชอบพวกมัน!”
เย่เทียนพูดอย่างเยือกเย็น แล้วทหารอีก 9 คนก็ลากเพื่อนของมันกลับไปและไม่กล้าเสนอหน้าอยู่ต่อ.
แล้วสายตาของเย่เทียนก็จับจ้องไปที่พวกทาสนักรบสปาต้าเหล่านั้น.
จากผู้แปล: เริ่มเดือดขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ ตัวเอกอะนะ.....