ตอนที่แล้วตอนที่ 217-218
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 221-222

ตอนที่ 219-220


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 219 : ผู้อาวุโสที่สามตัดสินใจ

เหว่ยอี้พยายามปั้นรูปวิญญาณอัคคีเป็นก้อนหยก

เคล็ดการฝึกฝนและวิชาทั้งหลายของทวีปเทียนหลันนั้นมักอยู่ในรูปของป้ายหยกเพื่อที่จะได้แกะสลักเนื้อหาไว้ด้วยพลังวิญญาณ

แต่แล้วเมื่อเหว่ยอี้ก่อรูปป้ายหยกและพยายามจะแกะสลักลงไป มันทำเขาต้องนิ่งงัน

เพราะเขาใช้งานวิญญาณอัคคีได้ ทว่าไม่ทราบหลักการทำงาน

มันราวกับมนุษย์ที่ทราบว่ามือสามารถขยับ

ด้วยไม่ทราบหลักการของวิญญาณอัคคี ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสร้างมันขึ้นเป็นป้ายหยก

พร้อมกันนี้ภาพร้านต้นกำเนิดที่ปรากฏในใจของเหว่ยอี้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

สมแล้วที่เป็นเถ้าแก่ ของที่ได้รับถึงกับไม่อาจเกิดช่องว่างให้สืบทอดได้...

ผู้อาวุโสที่สามถอนหายใจ คำกล่าวนั้นเผยความเสียดาย “วิญญาณอัคคี... ถึงกับมีเคล็ดวิชาวิเศษเช่นนี้ในโลกด้วย...”

รับชมผู้อาวุโสที่สามคล้ายตกอยู่ในห้วงภวังค์ เหว่ยอี้จึงไม่พูดกล่าว ทว่ารอคอยอย่างเงียบงัน

ด้วยฐานะศิษย์ของผู้อาวุโสที่สาม เขาย่อมทราบนิสัยของอาจารย์เป็นอย่างดี

“เหว่ยนี้ นำข้าไปเยือนร้านต้นตำรับที่เจ้ากล่าวถึง!”

เมื่อดึงสติกลับคืนมาได้ ผู้อาวุโสที่สามจึงลุกขึ้นยืนพร้อมเผยประกายในดวงตา

เขาไม่ทราบว่านานเพียงใดกันแล้วที่ตนเกิดความสนใจเรื่องราวในโลกหล้า

ร้านที่นามว่าต้นตำรับแห่งนั้นกลายเป็นกระตุ้นความสนใจของเขาขึ้นมา!

บอกกล่าวตามตรง ครั้งเหยาฮุยเฉินซึ่งเป็นจ้าวหุบเขาโอสถได้บอกกล่าวให้เขามาเยือนนครจิ่วเหยา ผู้อาวุโสที่สามเกิดความรู้สึกไม่ชอบใจที่ภายใน

แต่ขณะนี้ ไม่ใช่คล้ายจะเป็นโอกาสที่ดีงั้นหรือ?

ตัวเขาถูกส่งออกมาก็เพราะเพียงข่าวคราว

แม้ว่าจะเป็นข่าวคราวที่ศิษย์ของเขาส่งมาก็ตาม...

ครั้งนั้นผู้อาวุโสที่สามไม่อาจปฏิเสธ ดังนั้นจึงต้องนำคณะคนมา

แต่แล้วขณะนี้คล้ายว่าร้านต้นตำรับนั้นจะไม่ใช่อะไรอย่างที่เขาคิดแต่แรกเริ่ม!

ปฏิกิริยาของผู้อาวุโสที่สามเกินความคาดหมาย เหว่ยอี้ต้องเผยท่าทีนิ่งงันไปครู่

ผู้อาวุโสที่สามเผยสีหน้างงงัน “เป็นอะไรไปแล้ว?”

เหว่ยอี้เผยยิ้มขื่นขมกล่าวอธิบาย “อาจารย์ ท่านไม่ทราบว่าร้านต้นตำรับนั้นระยะเวลาเปิดและปิดตามกำหนด และขณะนี้ร้านปิดแล้ว”

ผู้อาวุโสที่สามชะงักงันไป จากนั้นจึงขมวดคิ้ว ภายในรู้สึกไม่ยินดี

ทว่าคิดถึงเรื่องที่เหว่ยอี้กล่าวก่อนหน้านี้ ห้ายอดฝีมือของตำหนักจันทราสีเงินได้ถูกกำจัดโดยเถ้าแก่ร้าน ที่เขาทำได้ขณะนี้จึงมีเพียงกล้ำกลืนความไม่พอใจเอาไว้

“ได้! อย่างนั้นค่อยไปพรุ่งนี้”

“ขอรับท่านอาจารย์” เหว่ยอี้พยักหน้ารับ ขณะนี้เขาพลันคิดอะไรขึ้นได้จนเผยดวงตาเป็นประกาย “มีเรื่องหนึ่งขอรับท่านอาจารย์ พรุ่งนี้ไวน์หยกของร้านต้นตำรับจะเข้ามาเติมขายอีกครั้ง!”

“ไวน์หยก?”

ผู้อาวุโสที่สามเผยสีหน้างุนงง แต่ไม่ช้าก็ต้องเผยดวงตาเป็นประกาย!

ไวน์หยก นั่นไม่ใช่สิ่งที่ศิษย์ของเขารายงานกลับมาว่าสามารถเพิ่มพลังชีวิตได้อย่างนั้นหรือ?

แม้ว่าขณะนี้ผู้อาวุโสที่สามจะไม่ได้ห่วงหาเรื่องอายุขัยก็ตาม

กระนั้นของวิเศษที่สามารถเติมพลังชีวิตให้ได้ มีไว้อย่างไรก็ดีกว่า

อย่างไรแล้วก็ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสได้รับมันไม่ใช่หรือ?

“อาจารย์ ไวน์หยกของร้านเถ้าแก่นั้นจะมีมาขายใหม่ทุกเจ็ดวันขอรับ” เหว่ยอี้กล่าวเสริม

ผู้อาวุโสที่สามต้องสูดลมหายใจเข้าลึก “ข้าคิดอยากได้เห็นนักว่าร้านต้นตำรับนั้นวิเศษดังเจ้ากล่าวถึงหรือไม่”

เหว่ยอี้เผยยิ้มเล็กน้อย “ท่านอาจารย์ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนขอรับ”

ขณะนี้เขาแทบคาดเดาได้ ว่าอาจารย์ของตนต้องตื่นตะลึงยามเมื่อได้เข้าไปยังร้านต้นตำรับ

หลังพูดคุยกันถึงช่วงเวลาที่ร้านเปิดทำการ เหว่ยอี้จึงค่อยกลับห้องตนเองไป

ผู้อาวุโสที่สามสงบใจลง ขณะนี้กำลังพักฟื้นพลังที่สูญเสียไประหว่างการเดินทางไกลมายังที่นี่...

ตอนที่ 220 : ผู้แข็งแกร่งมาเยือน

วันถัดมาช่วงเช้าตรู่

เหว่ยอี้และผู้อาวุโสที่สามได้มาเยือนตรอกที่ร้านต้นตำรับตั้งอยู่

คณะศิษย์ของหุบเขาโอสถไม่ได้ติดตามมา

อย่างไรแล้วผู้อาวุโสที่สามมาเยือนร้านวันนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัว ดังนั้นคิดให้กลุ่มคนมาเยือนอีกหลายวันให้หลังก็ไม่ใช่เสียหาย

กระนั้นเมื่อคนทั้งสองพบเห็นภาพฉากภายในตรอก พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งงันไป

ขณะนี้ที่หน้าประตูร้านต้นตำรับมีหลายคนมายืนรออยู่ก่อนแล้ว

หากพิจารณาให้ดี จะพบว่าเป็นบุคคลหน้าตาคุ้นเคยกันทั้งสิ้น

เป็นจี้อู๋ฮุย เหล่าไป่ มู่หรงไห่เถิง หยิงอู๋จี้ เซี่ยหยวน ทั้งห้าคนนี้คือลูกค้ายอดฝีมือประจำร้านต้นตำรับ

เดิมเหว่ยอี้คิดว่าพวกตนมาเข้าแล้ว แต่เป็นเขาไม่คาดคิดว่าจะมีผู้อื่นมาถึงเร็วกว่า!

คล้ายว่าพวกเขามารอกันไม่นานแล้วด้วย

หลิวลู่อวี่และตี้อู๋อู่หยิงเองก็อยู่ในกลุ่มคน

เคียงข้างคนทั้งสองคือกลุ่มคนยอดฝีมือ

ตี้อู๋อู่หยิงยืนอย่างนบนอบอยู่ด้านหลังชายคนหนึ่ง

อีกฝ่ายมีหน้าตาธรรมดา สวมใส่ชุดเครื่องแบบสีดำแซมลวดลายสีทอง ทั้งยังมีกระบี่ยาวประดับแขวนที่แผ่นหลัง

ร่างนั้นเพียงยืนเฉย มันก็ราวกับกระบี่ได้ออกจากฝักเผยซึ่งความคมกริบ!

เลิศล้ำ ออร่าที่ไม่ธรรมดา!

นี่สมควรเป็นยอดฝีมือผู้ใช้กระบี่!

ที่ข้างกายหลิวลู่อวี่ คือสตรีที่มีตาข่ายสีน้ำเงินปิดบังใบหน้า

สตรีผู้นั้นมีคิ้วสวยได้รูป ร่างเพรียวบางและมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างมหาศาล

เพียงรับชม ผู้คนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเลือดลมพลุ่งพล่าน!

เพราะโฉมงามผู้นี้ถึงกับเลิศล้ำกว่าหลิวลู่อวี่หลายต่อหลายเท่า!

เหว่ยอี้ที่มาถึงพร้อมผู้อาวุโสที่สามได้ดึงดูดความสนใจของกลุ่มคน

บอกกล่าวให้ถูกต้อง คือความสนใจมุ่งไปยังผู้อาวุโสที่สาม

แม้ออร่าถูกลดทอนลงไปมาก กระนั้นผู้อาวุโสที่สามคือผู้แตะขอบเขตราชัน ความรู้สึกคุกคามที่เผยออกนั้นไม่ใช่ของปลอม!

เสียงหัวเราะกังวานประหนึ่งระฆังเงินดังออกจากริมฝีปากสตรีผู้ทรงเสน่ห์ ดวงตาของนางหยาดเยิ้มพร้อมเผยยิ้มบาง “โฮ่โฮ่ นั่นไม่ใช่เต๋าหน้าโง่แห่งหุบเขาโอสถหรอกหรือ? ไฉนออกมาจากหุบเขาโอสถได้กัน?”

หน้าโง่นี้สมควรเป็นนามของผู้อาวุโสที่สามในโลกแห่งการฝึกตน

นามแท้จริงเหว่ยหลี่หยานนั้นมีผู้คนน้อยนิดที่ทราบ

ส่วนว่าสาเหตุที่ได้รับชื่อนี้ มันก็เป็นเรื่องราวครั้งเก่าก่อนสมัยเริ่มปรุงยา

“หลิวลู่เหม่ย เจ้าดูแลคนของตนเองให้ดีก่อนเถอะ!” ผู้อาวุโสที่สามแค่นเสียงรับคำ

หลิวลู่เหม่ยย่อมเป็นนามของสตรีทรงเสน่ห์ตรงหน้า

จากนอกจะเป็นผู้อาวุโสของแดนศักดิ์สิทธิ์ห้วงน้ำหยกแล้ว นางยังเป็นพี่สาวของหลิวลู่อวี่

แดนศักดิ์สิทธิ์ห้วงน้ำหยก มันคือสำนักที่มีแต่สตรี

ขณะนี้เองที่เหล่าไป่และคณะต้องมองทางผู้อาวุโสที่สามด้วยความประหลาดใจ

นามเต๋าหน้าโง่นั้นเป็นนามที่โด่งดัง!

“เต๋าหน้าโง่ น้อยครั้งที่จะเผยตัวให้พบเห็น หรือสหายท่านนี้เองก็มาเยือนเพราะร้านต้นตำรับ?”​ เหล่าไป่เผยยิ้มกล่าวถามออก

ผู้อาวุโสที่สามพยักหน้ารับ “เป็นดังที่ว่า”

ผู้อาวุโสที่สามสัมผัสทราบได้ชัดเจนดี ว่าเหล่านี้ล้วนเป็นยอดฝีมือขอบเขตทดสอบเต๋าระดับที่เก้า

เหล่านี้คือตัวตนชั้นแนวหน้า!

จากออร่าของกลุ่มคนและตราสัญลักษณ์บนชุด เขาก็พอคาดเดาได้บ้างแล้ว

ราชวงศ์ สถาบันจันทราลึกล้ำ สถาบันวิญญาณเมฆา ตระกูลตี้อู๋ และแดนศักดิ์สิทธิ์ห้วงน้ำหยก

แม้ผู้อาวุโสที่สามคือผู้แตะถึงขอบเขตราชัน และเป็นผู้มีความมั่นใจในกำลังตนเองอย่างสูงล้ำ

แต่เผชิญหน้ากับยอดฝีมือขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุดเป็นคณะเช่นนี้ ตัวเขาไม่กล้าผลีผลาม

ขณะเดียวกันนี้ภายในใจก็รู้สึกว่าเรื่องราวยากเกินเชื่อ

เพียงแค่ร้านเล็กแห่งหนึ่ง ถึงกับดึงดูดความสนใจของบุคคลทรงอำนาจมาได้มากมายเพียงนี้

เหมือนว่าที่เขาตัดสินใจมาเยือนร้านวันนี้นั้นถูกต้องแล้ว

เมื่อมาถึงแล้วผู้อาวุโสที่สามยังแทบไม่คิดเชื่อตนเองด้วยซ้ำ

อย่างไรเรื่องราวที่ได้ยินมันก็ยากจะเชื่อประหนึ่งเรื่องราวอุปโลกน์ หากไม่ได้พบเห็นกับตาตนเอง ผู้อาวุโสที่สามจะไม่มีทางเชื่อคำของเหว่ยอี้อย่างเต็มปาก

แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นศิษย์ของเขาเองก็ตาม!

แต่แล้วขณะนี้ ผู้อาวุโสที่สามพลันต้องคลายความสงสัยเหล่านั้นไปหมดสิ้น!

“ร้านต้นตำรับ เมื่อใดกันประตูจึงเปิด?”

ตี้อู๋ปาเต๋าซือหลังรอคอยอดทนมานานไม่น้อย ขณะนี้ได้กล่าวถามออกด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด