ตอนที่ 8 ชั้น 4
ตอนที่ 8 ชั้น 4
ทั้งสามเดินออกมา เมื่อเข้าระยะของแสงไฟจากตะเกียงไฟของดอน เขาก็จำได้ทันที มันคือยาบานั้นเอง ด้วยเสื้อผ้าที่เก่าและขาดเต็มไปด้วยดินโคน ร่างกายที่ผอมและหนวดเครารุงรัง สภาพของทั้งสามดูไม่ต่างจากขอทานมากนัก
“พวกเจ้าต้องการอะไร?” ดอนเดินถอยหลังออกไปเล็กน้อย เพื่อหาจังหวะหนี
“พวกข้าต้องการอะไรนะเหรอ ฮี่ ๆ” ทันใดนั้นข้างหลังก็มีเสียงดังออกมา กลุ่มคนอีกห้าคนก็เดินออกมา “ข้าเห็นว่าเจ้าหาผลึกพลังงานได้เยอะเลยนิ พาพวกข้าไปหาด้วยเป็นอย่างไร”
ดอนเห็นแบบนั้น ก็รู้ว่าเขาคงทำตัวเด่นไปที่แลกผลึกที 5 ชิ้น หลายคนคงจะคิดว่าเขามีที่ดี ๆ ในการขุด ดอนพยายามมองซ้ายมองขวาเพื่อหาโอกาศหนี แต่ดูท่ายาบาคงวางแผนมาอย่างดี ยาบารีบให้ลูกน้องเข้าไปขวางตามโพรงถ้ำและทางเดินไว้
“พาพวกข้าไป ข้ารับรองว่าจะไม่มีใครทำอะไรเจ้า” ยาบากวาดตามองด้วยสายตาแปลก ๆ
ให้ข้าเชื่อเจ้า สู้ให้ข้าเชื่อว่าหมูบินได้ยังจะดีซะกว่า ดอนไม่ได้พูดออกไป เขามองไปที่ยาบาจากนั้นก็กัดฟันพูด “ได้ แต่ถ้าไปถึงแล้ว พวกเจ้าต้องปล่อยข้าไป”
“แน่นอน!” ยาบาตอบตกลง แต่ในน้ำเสียงและแววตานั้นกลับไม่มีความหน้าเชื่อถืออยู่เลย
“พวกเจ้าหลบไป ข้าจะได้นำทางได้” ดอนกำลังจะเดินนำทางไปแต่ก็ถูกหยุดไว้โดยยาบา “ไม่ต้องแค่บอกทางมา ส่วนเจ้าเดินอยู่ตรงกลางเดี่ยวพวกข้าจะคุ้มกันเจ้าเอง”
“เจ้าเลห์นัก” ดอนบ่นพึมพำพร้อมกับบอกทางไป
หลังจากผ่านมา 40 นาที ทั้งกลุ่มก็เดินมาถึงชั้นสาม ดอนสังเกตตลอดทางเพื่อหาจังหวะหนีแต่ว่า ยาบาจับตาดูเขาตลอดเวลา ที่ชั้นสามนั้นมืดมาก แสงมองมาไม่ถึง จะเห็นได้แค่ระยะของแสงจากไฟเท่านั้น ดอนพาทั้ง 4 คน เดินมาที่ทางโพรงที่เขาซ้อนผลึกไว้ เดินเขาไปตรงกองดินที่เขาเจอผลึก
“ที่นี่ละ! พวกเจ้าขุดกันเองก็แล้วกัน” ดอนบอกพร้อมกับสังเกตรอบข้าง
“พวกเจ้าไปลองดู” ยาบาสั่งทั้งสองคนในกลุ่มไปขุดแต่ดูท่าจะมีพวกที่ไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ยังเดินออกไป
ดอนไม่ได้รีบ เขารู้อยู่แล้วว่าตั้งแต่ที่พาพวกนี้มามันคงไม่ง่ายที่จะหนีไป แต่เขาพอจะมีแผนแล้ว ดูจากท่าทางแล้วคนที่อยู่ในกลุ่มของยาบาก็คงจะไม่พอใจยาบาพอสมควร
หลังจาก 1 ชั่วโมงผ่านไป นักโทษในกลุ่มของยาบาก็ลงมือขุดกันหมดยกเว้นยาบาที่ยืนสั่งอยู่ด้านข้างอย่างดุเดือด และคอยมองดอนอยู่ตลอดเวลา
เขานั่งลงบนก้อนหินมองทั้งกลุ่มตั้งแต่ 10 นาทีแรกแล้ว
ทันใดนั้นโอกาศหนีของเขาก็มาถึงเมื่อมีนักโทษคนหนึ่ง ขุดไปทางที่ดอนซ่อนผลึกไว้
นักโทษคนนี้มีลักษณะ ดูป่าเถือนที่หน้ามีลอยแผลเป็น ยาวลากผ่านใบหน้า ดูเป็นคนอารมณ์ร้อน คือคนที่แสดงท่าทีไม่พอใจยาบามากที่สุด ชายหน้าแผลเป็นใช้แรงทั้งยกอีเตอร์ขุดดิน ฟาดลงไปที่ผนังดินด้วยความโมโห
ทันใดนั้นกองดินก็หลุดและพังลงมาอย่างง่ายดายรายกับว่ามันแค่ถูกวางถมไว้เฉย ๆ ผลึกพลังงานก็หล่นลงมาตกลงที่เท้าชายหน้าแผลเป็น เขากล้มหยิบลง มองดูอย่างสงสัยพัก “ฮ่า ๆ ! ข้าเจอแล้ว ข้าเจอผลึกแล้ว”
ยาบาที่ได้ยินดังนั้นก็มองไปที่ผลึก1 ก้อนในมือของชายแผลเป็น และเดินเข้าไปหาทันที
“เอามาให้ข้า!” ยาบาทำท่าจะหยิบผลึกพลังงาน
“มันเป็นของข้า ข้าเป็นคนเจอ”แต่ชายหน้าแผลเป็นไม่ได้ส่งให้ กับนำผลึกเก็บลงในกระเป่าตรงหน้าอกทันที
“ฮึๆ ข้าจะนับแค่ 3 เท่านั้น ถ้าเจ้าไม่ส่งมา เจ้าตาย...” ยาบามองด้วยสายตาดุดัน
“ดี ๆ ข้าทนเจ้ามานานแล้ว เอาแต่สั่งคิดว่าข้าเป็นลูกน้องเจ้าหรือยังไง” ทันในนั้นชายหน้าแผลเป็นก็หันไปมองรอบข้าง “ใครจะไปกลับกับข้าบ้าง ข้าจะเอาผลึกไปแลกเนื้อมาแบ่งกันกิน!”
มีนักโทษอีก 4 คนที่เดินมาอยู่ฝั่งของชายหน้าแผลเป็น น่าแปลกที่นักโทษที่เหลืออีก 2 คนไม่ได้สนใจคำพูดของชายหน้าแผลเป็นเลยยังคงยืนรอคำสั่งจากยาบาอยู่ นักโทษทั้งสองคนนี้คือคนที่ติดตามยาบามาตั้งแต่ถูกขังอยู่ในคุกแล้ว
“ตาย!!!”ทั้ง 5 คนหยิบฮีเตอร์ขุดดินขึ้นมาและพุ่งเข้าไปหาพวกยาบาทั้ง 3
ดอนมองทั้งสองฝ่ายกำลังทะเลาะกันอยู่อย่างยินดี ในที่สุดการพนันของเขาก็ถูกต้อง
กลุ่มนี้รวมกันเพราะผลประโยชน์และจะต้องขัดแย้งกันเพราะผลประโยชน์ ไม่มีใครต้องการเป็นลูกน้องที่โดนกดหัวใช้ไปตลอด เขาก็แค่เติมเชื้อไฟให้ถูกที่ก็แค่นั้น
ดอนวางตะเกียงไฟไวที่เดิมเพื่อไม่ให้มีใครสังเกตุ และค่อย ๆ ถอยออกมา
หลังจากถอยออกมาจนถึงหน้าโพรงถ้ำ กลับมีเสียงต่อสู้ไม่นานนักแต่มีเสียงร้องโหยหวนดังออกมา ด้วยความเจ็บปวดแทน
“เจ้า...อั๊ก..”
“อ๊ากก ๆ!!! อย่า ๆ กินข้า....”
“ออกไป! ออกไปให้พ้น”
“ได้โปรดพี่ยาบา ข้า ข้ายอมทำตามทุกอย่าง อ๊าก”
2เขาได้ยินแบบนั้นก็ตกใจเล็กน้อย ไอ้โรคจิตยาบามันเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ
ดอนวิ่งไปเอาผลึกอีกก้อนที่ซ้อนไว้และหนีออกทันที แทนที่จะวิ่งไปไปข้างบน เขากลับรีบวิ่งไปที่ชั้น 4 แทน ดอนรู้ว่าอีกไม่นานยาบาก็จะสังเกตุเห็นว่าเขาหนีออกมาแล้ว
ในที่ดอนออกมาตอนนี้เต็มไปด้วยเลือดและศพ บางศพแขนขาถึงกลับแหลกเละจากแรงกระแทก
“รสชาติไม่เลวเลย ข้าก็รออยู่ว่าลูกพี่จะกินพวกมันเมื่อไหร” ชายร่างเตี้ยกำลังกัดไปที่แขนศพและเคี้ยวไปพูดไปอย่างตระกะ
“เจ้าไม่ขะยะแขยงพวกมันเหรอ ตัวพวกมันสกปกจะตาย ข้าว่าเรามากินไอ้หนุ่มหน้าขาวกันดีกว่า” ชายตัวใหญ่อีกคนพูดขั้น ขณะมองดูยาบา ที่กำลังกระทืบไปที่หัวของนักโทษคนสุดท้ายอยู่
สมองที่เละ ๆ กระจายออกไปเต็มพื้นทันที ยาบาหอบหายใจเล็กน้อย เขาปาดเหงือที่หน้า และกล้มลงไปหยิบเศษสมองขึ้นมากินอย่างอร่อย
“ถ้าเป็นสมัยก่อน ข้าคงไม่ต้องเสียเหงื่อแม้แต่เม็ดเดียว คอยดูเถอะบาโร ถึงข้าจะฆ่าเจ้าไม่ได้ แต่สักวันข้าจะกลับไปฆ่าคนของมันให้หมดเลย” ยาบากัดฟันเคี้ยวด้วยความโกรธ และนึกถึงอดีตในตอนที่เขาเป็นนักรบ ขั้น 2 ติดตามนายท่านจอมอาคมฆ่าล้างทุกทิศ กินคนเท่าที่อยากจนมีฉายา ‘จอมเขมือบ’
“ข้าคงต้องกินเด็กนั้นแก้ขัดไปก่อน” เมื่อนึกถึงดอนยาบาก็กลืนน้ำลายทันที เขาอุส่าคอยดูแลมันอย่างดีไม่ให้มันอ้วนเกินไป ตอนแรกที่ถูกหนอนยักษ์โจมตีเขาคิดว่าจะไม่ได้กินมันแล้วแต่ใครจะไปคิดว่ามันจะรอดมาได้
ทันใดนั้นเสียงชายร่างเตี้ยดังขึ้น “ลูกพี่! มันหนีไปแล้ว ไอ้หนุ่มหน้าขาวมัน หนีไปแล้ว!”
ยาบาได้ยินแบบนั้นก็โกรธทันที อาหารของเขาวิ่งหนีหายไป
“บัดซบ!!! ตามมัน ตามหามันให้เจอ” ทั้งสามคนวิ่งออกมาและ วิ่งขึ้นไปข้างบนทันที
……………………………..
ที่ชั้น 4 ที่มีหมอกพิษหนาจนมองทางไม่เห็น หมอกพวกนี้ไม่เป็นอันตรายต่อรางกายเขามากนักดอนเดาว่ามันน่าจะเกี่ยวกับเส้นใยแสงพวกนั้น
ดอนค่อย ๆ ใช้มือคำทางเดินลงมา ทางที่ชั้น 4 ไม่กว้างมากนัก มันถูกสร้างมาในตอนสำรวจครั้งแรกเท่านั้น พวกนักโทษไม่ลงมาที่ชั้นนี้เพราะมันอันตรายอย่างมาก ที่นี่แค่หายใจก็ลำบากแล้ว ดอนรู้สึกหายใจติดขัดเล็กน้อยแล้วเพียงแค่ลงมาไม่กี่นาทีเท่านั้น
“มืดชะมัดเลย จริงสิ แสงจากเส้นใยแสง”ดอนนึกถึงแสงจากเส้นใยแสงทันที เขาไม่รู้ว่ามันจะส่องสว่างไหมแต่มันก็เป็นแสงเหมือนกันน่าจะใช้แทนกันได้ ดอนใช้ความคิดเรียกมันออกมาทันที ตอนนี้เขาเหลือเส้นใยแสงแค่เส้นเดียวเท่านั้น
ตั้งแต่มาที่นี่เขาไม่เคยเรียกมันออกมาเลย เพราะกลัวว่าจะมีคนเห็นแต่ตอนนี้มันเป็นชั้น 4 เขาจึงไม่ต้องระวังตัวมาก
ทันทีที่เส้นใยแสงออกมา รอบ ๆ ดอนก็สว่างขึ้นมาเล็กน้อย พอให้มองแค่เห็นทางเท่านั้น เขาเดินลงมาจนสุดทางเดินก็ถึงด้านล่าง เป็นแค่ลานกว้างเรียบ ๆ มันชื้นและมีเสียงน้ำหยดลงตลอด
ดอนเงยหน้ามองไปที่ข้างบนมันมืดมากแสงคงส่องลงมาไม่ถึง ดอนเดินตามเสียงหยดน้ำไป เขาเจอกับแอ่งน้ำ ขนาด 2 เมตร เกาะไปด้วยตะไคล้น้ำสีม่วง ดำ อยู่เต็มไปหมด ดอนรีบดื่มน้ำด้วยความหิว ทันทีที่น้ำเข้าบปากเข้าก็ต้องบ้วนมันออกมา น้ำในบ่อมันฝาดและเหม็นเป็นอย่างมาก ดอนมองดูสักครู่ก็รู้ว่ามันคงปนเปื้อนไปด้วยพิษจากหมอก
ทันใดนั้นก็มีเงาวิ่งผ่านหน้าเขาไปอย่างรวดเร็ว เขาตกใจคว้าก้อนหินแถวนั้น ทันที แต่พอเขาหยิบก้อนหินขึ้นมา ก็มีแมลงขนาดเล็กที่อยู่ใต้ก้อนหิน วิ่งหลบแสงสว่างเต็มไปหมด บางตัวขึ้นมาที่แขน ดอนรีบทิ้งก้อนหินและปัดแมลงออกทันที
เสียงก้อนหินที่ดังนั้นทำให้แมลงโดยรอบ ๆ แตกตื่นกันหนักกว่าเดิมทันที ดอนรีบปัดแมลงที่ต่ายไปมาอย่างยั้วเยี้ยตามตัวเขา ดอนหลับหูหลับตาวิ่งหนีออกจากตรงนั้นทันที
หลังจากวิ่งออกมาพ้นแล้วเขาก็ปัดแมลงที่ยังเกาะอยู่ออก และใช้เท้าขยี้มันทิ้งด้วยความขยะแขยง ดอนค่อย ๆ เอาเส้นใยแสงส่อง ไปที่ซากแมลง มันคือแมลงสาป ตัวของมันใหญ่ประมานฝ่ามือ ดอนรู้สึกขนลุกทันที เมื่อนึกว่าเมื่อกี้มีแมลงสาปนับร้อยอยู่บนตัวเขา
ตอนแรกดอนคิดว่าที่นี่จะไม่มีสิ่งมีชีวิตแล้วซะอีก แต่ดูท่าธรรมชาติจะดูถูกการปรับตัวของแมลงสาปมากไป ดอนมองไปที่แมลงสาปและเส้นแสงสลับไปมาทันใดนั้น เขาก็ลองสั่งให้เส้นแสงย่อยร่างแมลงสาปดู ร่างของแมลงสาปหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่เหลืออะไรทิ้งไว้ ดอนมองดูเส้นใยแสง มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาคิดว่าซากแมลงสาปคงมีพลังงานน้อยมาก ๆ
ทันใดนั้นดอนก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ เขาหยิบผลึกพลังงานอีกอันขึ้นมา “มันน่าจะมีพลังงานมากนะ”
ดอนลองให้เส้นใยแสงย่อยสลายพลังงานดู มันเข้าไปพันที่ผลึกอย่างรวดเร็ว ดอนมองมันอยู่นาน “ย่อยช้ามาก” ดอนถือลูกแสง และเดินไปหาที่นั่งเพื่อรอมันย่อยสลายเสร็จ
เขาเจอที่แห้ง เขานั่งลงพักทันที ดอนรู้สึกเหนื่อยมาก เขาพยายามไม่หลับ จึงคิดไปว่าตอนนี้พวกยาบาคงพลิกทั้งค่ายหาเขาแล้ว ตอนนี้เขาก็แค่รอสักพักแล้วค่อยหาทางแอบขึ้นไป
ดอนได้แต่ยิ้มเยาะเย้ยยาบาอยู่ในใจ แต่รอยยิ้มเขาก็แข็งค้างดอนไม่พูดอะไร รีบลุกขึ้นมาเดินวนดูรอบ ๆ ดอนเดินกลับมานั่งที่เดิมด้วยสีหน้าซีดขาว
เขาหลงทาง.........
-------------------------------------------------------------------
จากผู้เขียน : อ่านจบแล้วอย่าลืมคอมเม้นติชมกันนะครับ ขอบคุณสำหรับทุก ๆ วิวที่เข้ามาอ่านนะครับ