ตอนที่ 6 หนีตาย
ตอนที่ 6 หนีตาย
แสงสว่างที่มาจากค่ายส่องสว่าง ประกายสีส้มในยามเย็น มีกำแพงเหล็ก 30 เมตรล้อมรอบค่ายพัก ถัดไปด้านหลังค่ายเป็นหลุมขนาด มหึมากว้างกว่า 1000 เมตร ลึกลงไปจนแทบมองไม่เห็นก้นหลุม
ขณะที่ดอนกำลังยืนมองไปที่เหมืองอยู่นั้นพื้นดินด้านหลังของพวกเขาก็สั่นสะเทือน
หนอนหลายตัวโผล่ขึ้นมาโจมตีทันที
นักโทษที่อยู่ท้ายสุดโชคร้ายถูกราชาหนอนยักษ์ กลืนลงไปทั้งตัวทำให้นักโทษที่ถูกผูกติดกับโซ่ที่เหลือถูกลากไปทางราชาหนอนยักษ์
ทุกอย่างเกิดขึ้นร็วมากแต่คนที่ ตอบสนองได้เร็วก็ยังยกเป็นหัวหน้าเรทมอน
เรทมอนรีบใช้ ดาบตัดโซ่ออกทันที ทำให้คนที่เหลือไม่ถูกลากลงไปในดินด้วย และเข้าต่อสู้กับราชาหนอนยักษ์อย่างดุเดือด
ถึงระดับพลังจะเท่ากันแต่ด้วยความที่ราชาหนอนยักษ์มีร่างกายที่ใหญ่ ทำให้แรงที่ปะทะแต่ละครั้งนั้น น่ากลัวอย่างมาก ถ้าโดนเข้าไปสักครั้งคงจะบาดเจ็บสาหัสแน่นอน
ดอนรีบลุกขึ้นมาแล้วลากตัวเองตามนักโทษที่ติดกับโซ่วิ่งไปที่ค่ายให้เร็วที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าทุกคนจะวิ่งได้เร็วนั้นทำให้มีนักโทษหลายคนที่วิ่งตามไม่ทัน สะดุดล้มและถูกลากไปกับโซ่ทั้งอย่างนั้น และดอนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย
เขาเคยได้ยินมาว่าคนที่กลัวตายมักจะมีแรงฮึดสุดท้ายเพื่อที่จะคว้าความหวังไว้ และในสถานการณ์แบบนี้ การไปถึงที่ค่ายนั้นก็คือความหวัง
ทำให้นักโทษที่อยู่ด้านหน้า 8 คน วิ่งกันสุดชีวิตราวกับวัวไบซันหนุ่มวิ่งหนีตาย ลากนักโทษที่เหลือไปจนฝุ่นท่วมไปหมด
ดอนรีบเก็บคองอเข่ามือกุมหัวทันที เพราะจากแรงที่โดนลากไปกับพื้น เขาอาจจะถูกกระแทกจากดินและหินจนตายได้เลย
“อ๊ากๆ!!!” ระหว่างที่ถูกลากอยู่นั้นก็มีเสียงร้องดังขึ้นมาจากข้างหลัง และมีบางอย่างกระเด็นลอยข้ามหัวพวกเขาไปตามด้วยเลือด
มันเป็นเรทมอนที่ตอนนี้ทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือด ผู้คุมหลายคนรีบวิ่งเขาไปช่วยกันหยุดราชาหนอนยักษ์ และ บางคนรีบไปพยุงเรทมอนทันที
“หัวหน้า.....หัวหน้าเป็นอะไรไหม?”
“ไม่เป็นไร ข้ายังพอไหว...อั๊กๆ!...รีบเรียกพวกเราให้ถอยไปที่ค่ายทันที ทิ้งนักโทษไว้เป็นเหยื่อล่อ” เรทมอนใช้ดาบทำท่าจะลุกตัวขึ้นแต่ด้วยแรงกระแทกมันทำให้เขากระอักเลือดออกมาผู้คุม 2 คนรีบเข้าไปช่วยพยุงเขาวิ่งไปที่ค่ายทันที
ดอนเห็นผู้คุมสองคนพยุงเรทมอนวิ่งหนีไปทางค่าย พร้อมกับผู้คุมที่เหลือ เขาก็เข้าใจได้ทันที่พวกนั้นทิ้งนักโทษเป็นเหยื่อล่อเพื่อซื้อเวลาหนี
ตอนนี้ห่างจากกำแพงแค่ไม่ถึง 500 เมตรแล้ว
เมื่อไม่มีผู้คุมค่อยสู้ด้านหลังคอยขวางราชาหนอนยักษ์ มันก็ไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว นักโทษที่ถูกลากกับโซ่หลังสุดก็โดนหนอนกัดจนตัวขาดครึ่ง เหลือแต่ร่างกายท่อนบนร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับรอยเลือดลากเป็นทางยาว นั้นยิ่งทำให้หนอนที่เหลือคุ้มคลั่ง จากกลิ่นของเลือดเข้าไปอีก
พวกมันตามมากินส่วนบนที่เหลือที่ถูกลากมากับโซ่ทำให้ความเร็วของทั้ง 8 คนที่ลากโซ่เริ่มช้าลง มีหนอนตัวหนึ่ง กัดเข้าไปที่โซ่ ด้วยน้ำหนักตัวทำให้โซ่ตึงจนกระชากทุกคนล้มทันที
ตอนนี้ระยะห่าง 200 เมตรจากกำแพงนั้นดูเหมือนไกลหลาย 10 กิโลเมตรเลยทีเดียว
ดอนพยายามลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของยาบาดังขึ้นมา
“พวกเรา! โยนเจ้าพวกตัวถ่วงพวกนี้ไปให้หนอนมันกินก่อนเลย บางทีเราอาจจะหาจังหวะหนีได้บ้าง!” พวกมันบางคนเริ่มโยนนักโทษที่บาดเจ็บหนักไปให้หนอนยักษ์
เพื่อถ่วงเวลาตายของตนออกไปเล็กน้อยก็ยังดี
“ไม่!!! ปล่อยข้า ข้ายังไม่อยาก....”นักโทษ 2 คนถูกพวกนักโทษที่ดูแข็งแรง กระชากแขนจนหลุดออกมาจากโซ่และถูกโยนไปที่ด้านหลัง กลุ่มหนอนรีบกูกันเข้าไปกัดกินเขาทันที
ส่วนพวกที่เหลือพยายาม กระชากโซ่ให้ขาดออกจากกัน ถึงโซ่จะดูแข็งแรงแต่มันก็ไม่อาจทนแรงของนักโทษหลายคนได้นานนักก็ขาดออก
ดอนอยู่ในส่วนของนักโทษที่ถูกล่ามอยู่ข้างหลัง เขาพยายามที่จะดึงมือออกจากกุญแจมือที่ล่ามติดกับโซ่ไว้อย่างสุดชีวิต
ดอนพยายามใช้เท้าเหยียบโซ่และใช้แรงจากตัวกระชากจุญแจมือจนหลังมือของเขาเป็นแผลขนาดใหญ่ เลือดไหลเต็มมือทั้งสองข้างทำให้มันลื่นบวกกับมือที่ผอมแห้งของเขาทำให้หลุดออกมาได้
ขณะที่ดอนกำลังจะหนี ก็มีนักโทษคนหนึ่งจับขาดอนไว้ ทำให้เขาล้มลง นักโทษคนนั้นตระโกนให้ช่วยออกมาทั้งน้ำตาราวกับคนบ้า “ช่วย...ข้าด้วย! ข้ายอมทำทุกอย่างไม่ว่าอะไรก็ตาม ช่วยข้าด้วย!”
“ปล่อยข้า! ปล่อยสิโว้ยไอ้บ้านี่!” ดอนพยายามดิ้นให้หลุดจากนักโทษคนนั้นอย่างสุดกำลัง
“กรีดดดดดดด”
ทันใดนั้น ก็มีหนอนยักษ์ขนาดเท่ารถยนต์ร้องคำราม พุ่งเข้ามาหาทั้งคู่ นักโทษคนนั้นเห็นแบบนั้นก็รีบร้องกอดขาดอนไว้แน่นทันด้วยความบ้าคลั่งทันที “เจ้าไม่ช่วยข้า เราก็ตายด้วยกันทั้งคู่นี่ละ”
“อ๊ากกๆ” ดอนรีบใช้เท้าอีกข้างทีบไปที่หน้าของอีกฝ่ายอย่างแรงทำให้นักโทษคนนั้นร้องด้วยความเจ็บปวด
ดอนรีบถอยหนีและลุกขึ้นวิ่งไปทันที เขาได้ยินเสียงกรีดร้องจากทางด้านหลังสักพักก็เงียบไป เขารู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ เขาคือคนที่รอดอยู่ด้านหลังสุดคนสุดท้ายแล้ว
นั้นหมายความว่าเขาคือ เป้าหมายต่อไปของพวกมัน
หลังจากหลุดออกมาได้ดอนรีบวิ่งไปอย่างสุดชีวิต ตามนักโทษทั้ง 8 ไป แต่ด้วยสภาพแบบเอาก็วิ่งหนีไปได้ไม่ไกลก็มีหนอนที่มุดดินตามมาอย่างรวดเร็ว
มันพุ่งออกมาจากโพรงดินด้านหน้าเขา ห่างไป 10 เมตร ขวางทางของเขาอยู่
มันอ้าปากขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยวรอบปากและคำรามใส่ดอน มีเมือก เศษเนื้อและกลิ่นเหม็นเน่า กระเด็นออก ดอนได้แต่ยืนขาแข็งอยู่กับที่ทำอะไรไม่ถูก
เวลานี้เขาคิดว่าต้องตายแน่นอน
มันคือครั้งที่สองแล้วตั้งที่เขามายังโลกใบนี้ ดอนพยายามรวบรวมสติ จ้องไปที่มันอย่างน้อยท่าจะตายทั้งที่ก็ขอตายแบบกล้าหาญ เขาสูดลมเข้าปากพร้อมกับคำรามกับไปแต่ว่าทันใดนั้น
“บูม.....”
กลับมีเสียงดังพร้อมกับแรงอัดอากาศกระแทกใส่ร่างของหนอนข้างหน้าดอนจนแหลก
ดอนกระเด็นถอยออก นอนหมดสภาพเลยทีเดียว
เขาพยายามลืมตาดูสิ่งที่เกิดขึ้นแบบงง หลุมลึกครึ่งเมตร เศษเนื้อและเลือดกระจายทั่วพื้น จากนั้นก็มีเสียงตามมาอีกหลายครั้งดังมาจากกำแพง
บนกำแพงมีสิ่งที่คลายกับปืนใหญ่ แต่มันไม่ได้ยิงลูกเหล็ก มันกลับยิงลูกไฟออกมา เขาพอจะนึกออกในความทรงจำที่ได้มา มันคือปืนใหญ่เพลิงโลกันต์ที่มีชื่อเสียงของสหพันธ์ที่ติดตั้งตามกำแพงเมืองไว้ใช้สู้กับสัตว์อสูร
แต่เขาไม่รู้ว่ามันทำงานได้อย่างไร ‘ในอนาคตข้าคงต้องหามาติดตัวไว้สักกระบอก’ แต่ดอนไม่ได้คิดเลยว่า เขาจะแบกมันไปไหนมาไหนยังไง
“อั๊กๆ...”
เขาได้แต่กระอักเลือด นอนหมดสภาพอยู่แบบนั้น หลังจากสักพักก็มีคนมาเก็บกวาดสนามลบ และค้นหาตามซากหนอนยักษ์ที่ตาย
มีชายแต่งกายชุดสีดำสองคนเดินมาหยุด และก้มมองมาที่ดอน เขามองกับที่ชายสองคนนั้น
“เฮ้! มีคนยังไม่ตายด้วยวะ”
“นักโทษนี่อึดดีจริง ๆ เอามันกลับไปด้วยก็แล้วกัน”
ดอนมองทั้งสองคนแบกเขาเข้าไปด้านในกำแพงค่าย พวกผู้คุมพาเขามาที่ด้านหลังค่าย และโยนดอนให้กับกลุ่มนักโทษทันที
“เอามันไปให้เจ้าแก่มาเซออส ช่วยรักษา” หลังจากที่ทิ้งดอนไว้พวกนั้นก็เดินออกไปทันที
เขาถูกนักโทษ 2 คน หามไปที่บ้านดินเก่า ๆ หลังหนึ่ง ด้านในมีคนนอนอยู่สองฝั่งของบ้านหันเท้าเข้าหากัน
คนส่วนใหญ่มีผ้าพันแผล บ้างก็แขนหักขาหัก ไม่ก็นอนป่วย ทั้งหมดใส่ชุดนักโทษสีเทาที่ด้านหน้าตรงอกขวามีหมายเลขอยู่
ดอนถูกหามมานอนริมหน้าต่าง หลังจากรอยู่สักพักก็มีชายแก่หนวดเครายาวใส่ชุดขาวดูสะอาด เดินเข้ามาและหยุดมองเขาอยู่อย่างนั้น
“อั๊กๆ” ดอนกระอักเลือดออกกองใหญ่และมองไปที่ตาเฒ่ามาเซออส
“โอ้ยังไม่ตายนี่ ข้านึกว่าตายไปแล้วเห็นนอนนิ่ง ๆ”ตาเฒ่ามาเซออสพูดยิ้ม ๆ และก้มลงไปนั่งด้านข้างแล้วจากนั้นก็เริ่มตรวจดูร่างกายดอนทันที
เขาเห็นตาเฒ่ามาเซออสหยิบเข็มและก็เหล้าออกมา ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรก็เทเหล้าลงไปที่แผล ที่หลังมือดอนทันที
“อ๊ากๆ” ดอนถึงกับร้องออกมาทันที อันที่จริงถ้าเขามีแรงก็คงเดินไปทั่วบ้านทั้งหลังแล้ว แต่ยังไม่ทันที่จะได้ร้องสุดเสียง เขาก็ถูกอุดปากด้วยผ้า
“จะร้องหาอะไร มันก็แค่แผลเล็ก ๆ” ตาเฒ่ามาเซออสบ่นพร้อมกับหยิบเข็มและด้ายขึ้นมาเย็บแผลทันทีโดยที่ดอนไม่เห็น
เขาไม่ได้ร้องเพราะแผลแต่ร้องเพราะเหล้าที่เทลงมา อย่างน้อยก็น่าจะบอกกันก่อนจะได้เตรียมใจถูก ดอนได้แต่ร้องให้ในใจพร้อมกับกัดผ้าไปอย่างขมขื่น
หลังจากนั้น 20 นาที ดอนมองไปที่แผลบนมือทั้งสองข้างที่ถูกเย็บและมองไปที่ ตาเฒ่ามาเซออส สลับไปมา เพราะว่าตาแก่นี่ดันเอาด้ายเย็บผ้ามาเย็บแผลเขาแทนที่จะเป็นไหมเย็บแผล
“เจ้าอย่าได้มองข้าแบบนั้น ที่นี่ไม่ได้มีอุปกรณ์ทางการแพทย์มากนัก อีกอย่างข้าก็ไม่ได้เป็นหมอจริง ๆ สักหน่อย” ตาเฒ่ามาเซออสหยิบห่อยาออกมาพร้อมกับเทผงในห่อกรอกใส่ปากดอนจากนั้น ก็เอาน้ำเทตามลงไปทันที
ดอนที่กำลังจะสำลักน้ำออกมานั้น ก็ถูกมือของตาเฒ่ามาเซออสปิดปากไปทันทีพร้อมกับพูดออกมาว่า “กลืนลงไปห้ามหก! นั้นคือยารักษาเหลือแค่ห่อสุดท้ายแล้ว ถ้าเจ้าไม่กลืนได้ตายภายในคืนนี้แน่”
“แค่ก ๆ ๆ !!!” ดอนได้ยินแบบนั้นก็พยายามกลืนลงไป หลังจากฝืนกลืนไปจนหมด เขาก็ไอออกมาทันทีจนน้ำตาไหล
“เฮ้ เจ้าหนูไม่ต้องกลัวจนร้องไห้ก็ได้ เจ้าไม่ตายหรอกหนะ ถ้ากินยาเข้าไปแล้ว”
ดอนที่ได้ยินแบบนั้น ก็รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลมามากกว่าเดิม และสลบไปทั้งอย่างนั้น
-------------------------------------------------------------------
จากผู้เขียน : อ่านจบแล้วอย่าลืมคอมเม้นติชมกันนะครับ ขอบคุณสำหรับทุก ๆ วิวที่เข้ามาอ่านนะครับ